ในเมื่อศาสนาพราหมณ์เขาสามารถทำฌานสมาธิได้ถึง ฌาน8
นั่นแสดงว่าเขามีความรู้เรื่อง นรก-สวรรค์ ที่ดีในระดับหนึ่งเหมือนกันเพราะเขามีฌานสมาธิสูง
แต่เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ บรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ความรู้เรื่อง นรก-สวรรค์ นั้น ท่านรู้ได้ละเอียดและตรงทางกว่าพวกพราหมณ์
เพราะพระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู จึงรู้เรื่องทั้งหมดในวัฏสงสารได้ดีและละเอียดกว่าศาสนาอื่นๆทั้งหมด (และ่ท่านรู้ถึงนิพพาน)
เพราะฉนั้น เรื่องนรก-สวรรค์ จึงมีอยู่ทั้งในคำสอนของศาสนาพราหมณ์ และมีอยู่ทั้งในคำสอนของศาสนาพุทธ
อุปมาเสมือนกับว่า ความรู้เรื่องนรกสวรรค์ของศาสนาพราหมณ์นั้น อาจจะรู้ได้เท่ากับ 1 % ตามความเป็นจริงของวัฏสงสาร (
สมมตินะ)
แต่ความรู้เรื่องนรกสวรรค์ของศาสนาพุทธนั้น รู้ได้เท่ากับ 100 % ของวัฏสงสาร (เรารู้ได้ครบถ้วนและตรงทางกว่า เพราะเป็นความรู้จากผู้เป็นสัพพัญญู)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพราะฉนั้น เรื่องนรกสวรรค์ ที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกของศาสนาพุทธนั้น
ไม่ใช่เป็นการโดนสอดแทรกคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์เข้ามาปลอมปนในคำสอนของศาสนาพุทธ
แต่เป็นเพราะ นรกสวรรค์ นั้น เป็นสภาพที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ แล้วแต่ว่าศาสนาใดจะมีความรู้จักมันได้ลึกซึ้งครบถ้วนมากกว่ากัน เท่านั้นเอง
เพราะฉนั้นเรื่องนรกสวรรค์นั้น พิสูจน์ได้ด้วยทางจิต เพราะนรกสวรรค์ เป็นอีกภพภูมิหนึ่งที่ซ้อนอยู่กับภพภูมิของมนุษย์โลก
เพราะฉนั้น จึงไม่มีนรกใต้ดิน หรือสวรรค์บนฟ้า
เป็นเพียงแค่คำอุปมาดั่งเมื่อคนเราได้กระทำความชั่ว แสดงว่ามีจิตใจที่ต่ำ จึงต้องตกลงไปสู่ภพภูมิที่ต่ำที่อยู่เบื้องล่าง นั่นก็คือนรก
และเป็นเพียงการอุปมาดั่งเมื่อคนเราเมื่อกระทำความดี แสดงว่ามีจิตใจที่สูง จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้น นั่นก็คือสวรรค์
นรกสวรรค์นั้นพิสูจน์ได้ทางจิต ไม่ใช่ด้วยตาเนื้อ ผู้ที่ไม่ใช้จิตตัวเองพิสูจน์ ย่อมไม่อาจที่จะรู้ตามได้
คุณจะใช้ตาเนื้อนั่งมองฟ้า มองทะเลทั้งชีวิต ก็ย่อมไม่อาจที่จะรู้ได้ว่านรกสวรรค์มีจริงหรือไม่
เพราะฉนั้นให้ท่านวางคติความเชื่อเดิมๆของท่านลงเสีย แล้วรีบขอขมาพระรัตนตรัยโดยเร็ว แล้วเริ่มศึกษาพระไตรปิฎกใหม่ ยังพอมีโอกาส
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีคิดง่ายๆที่จะพิสูจน์ว่า พวกพราหมณ์ไม่ได้สอดแทรกคติความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ เข้ามาในพระไตรปิฎก นั่นก็คือ......
- ถ้าพวกพราหมณ์มีโอกาสมาแก้ไขหรือสอดแทรกคติของพราหมณ์ลงในพระไตรปิฎกได้
พวกพราหมณ์เขาจะต้องเขียนให้พราหมณ์เป็นพระเอก ไม่ใช่พระรองแบบนี้
แต่คุณก็เห็นอยู่ ในพระไตรปิฎกเขียนให้พระพุทธเจ้า เป็นพระเอก มีบารมีเหนือกว่าพวกพราหมณ์มากมายนัก
เพราะฉนั้น ......
- ถ้าคุณเป็นพราหมณ์ และมีโอกาสแก้ไขพระไตรปิฎกได้ คุณจะปล่อยให้คนอื่นเป็นพระเอกแทนคุณหรือ?
- ถ้าพวกพราหมณ์มีโอกาสแก้ไขพระไตรปิฎกได้ เขาจะทำเพียงแค่สอดแทรกคติความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์มีจริงเข้าไปเท่านั้นหรือ?
ทั้งๆที่มีโอกาสทำได้มากกว่านั้น?
- และเขาจะมีปัญญาเขียนเรื่องนรกสวรรค์ให้สอดแทรกกลมกลืนไปกับคำสอนของศาสนาพุทธอย่างหาข้อตำหนิไม่ได้ เช่นนี้หรือ?
จงใช้วิจารณญาณพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีๆ
http://pantip.com/topic/33487677 <== คุณจะอาศัยภูมิความรู้ใด มาเปลี่ยนแปลง หรือ แก้ไข พระไตรปิฏก?
วิธีคิดง่ายๆที่จะพิสูจน์ว่า พราหมณ์ไม่ได้สอดแทรกคติความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ เข้ามาในพระไตรปิฎก
ในเมื่อศาสนาพราหมณ์เขาสามารถทำฌานสมาธิได้ถึง ฌาน8
นั่นแสดงว่าเขามีความรู้เรื่อง นรก-สวรรค์ ที่ดีในระดับหนึ่งเหมือนกันเพราะเขามีฌานสมาธิสูง
แต่เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ บรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ความรู้เรื่อง นรก-สวรรค์ นั้น ท่านรู้ได้ละเอียดและตรงทางกว่าพวกพราหมณ์
เพราะพระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู จึงรู้เรื่องทั้งหมดในวัฏสงสารได้ดีและละเอียดกว่าศาสนาอื่นๆทั้งหมด (และ่ท่านรู้ถึงนิพพาน)
เพราะฉนั้น เรื่องนรก-สวรรค์ จึงมีอยู่ทั้งในคำสอนของศาสนาพราหมณ์ และมีอยู่ทั้งในคำสอนของศาสนาพุทธ
อุปมาเสมือนกับว่า ความรู้เรื่องนรกสวรรค์ของศาสนาพราหมณ์นั้น อาจจะรู้ได้เท่ากับ 1 % ตามความเป็นจริงของวัฏสงสาร (สมมตินะ)
แต่ความรู้เรื่องนรกสวรรค์ของศาสนาพุทธนั้น รู้ได้เท่ากับ 100 % ของวัฏสงสาร (เรารู้ได้ครบถ้วนและตรงทางกว่า เพราะเป็นความรู้จากผู้เป็นสัพพัญญู)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพราะฉนั้น เรื่องนรกสวรรค์ ที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกของศาสนาพุทธนั้น
ไม่ใช่เป็นการโดนสอดแทรกคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์เข้ามาปลอมปนในคำสอนของศาสนาพุทธ
แต่เป็นเพราะ นรกสวรรค์ นั้น เป็นสภาพที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ แล้วแต่ว่าศาสนาใดจะมีความรู้จักมันได้ลึกซึ้งครบถ้วนมากกว่ากัน เท่านั้นเอง
เพราะฉนั้นเรื่องนรกสวรรค์นั้น พิสูจน์ได้ด้วยทางจิต เพราะนรกสวรรค์ เป็นอีกภพภูมิหนึ่งที่ซ้อนอยู่กับภพภูมิของมนุษย์โลก
เพราะฉนั้น จึงไม่มีนรกใต้ดิน หรือสวรรค์บนฟ้า
เป็นเพียงแค่คำอุปมาดั่งเมื่อคนเราได้กระทำความชั่ว แสดงว่ามีจิตใจที่ต่ำ จึงต้องตกลงไปสู่ภพภูมิที่ต่ำที่อยู่เบื้องล่าง นั่นก็คือนรก
และเป็นเพียงการอุปมาดั่งเมื่อคนเราเมื่อกระทำความดี แสดงว่ามีจิตใจที่สูง จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้น นั่นก็คือสวรรค์
นรกสวรรค์นั้นพิสูจน์ได้ทางจิต ไม่ใช่ด้วยตาเนื้อ ผู้ที่ไม่ใช้จิตตัวเองพิสูจน์ ย่อมไม่อาจที่จะรู้ตามได้
คุณจะใช้ตาเนื้อนั่งมองฟ้า มองทะเลทั้งชีวิต ก็ย่อมไม่อาจที่จะรู้ได้ว่านรกสวรรค์มีจริงหรือไม่
เพราะฉนั้นให้ท่านวางคติความเชื่อเดิมๆของท่านลงเสีย แล้วรีบขอขมาพระรัตนตรัยโดยเร็ว แล้วเริ่มศึกษาพระไตรปิฎกใหม่ ยังพอมีโอกาส
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีคิดง่ายๆที่จะพิสูจน์ว่า พวกพราหมณ์ไม่ได้สอดแทรกคติความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ เข้ามาในพระไตรปิฎก นั่นก็คือ......
- ถ้าพวกพราหมณ์มีโอกาสมาแก้ไขหรือสอดแทรกคติของพราหมณ์ลงในพระไตรปิฎกได้
พวกพราหมณ์เขาจะต้องเขียนให้พราหมณ์เป็นพระเอก ไม่ใช่พระรองแบบนี้
แต่คุณก็เห็นอยู่ ในพระไตรปิฎกเขียนให้พระพุทธเจ้า เป็นพระเอก มีบารมีเหนือกว่าพวกพราหมณ์มากมายนัก
เพราะฉนั้น ......
- ถ้าคุณเป็นพราหมณ์ และมีโอกาสแก้ไขพระไตรปิฎกได้ คุณจะปล่อยให้คนอื่นเป็นพระเอกแทนคุณหรือ?
- ถ้าพวกพราหมณ์มีโอกาสแก้ไขพระไตรปิฎกได้ เขาจะทำเพียงแค่สอดแทรกคติความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์มีจริงเข้าไปเท่านั้นหรือ?
ทั้งๆที่มีโอกาสทำได้มากกว่านั้น?
- และเขาจะมีปัญญาเขียนเรื่องนรกสวรรค์ให้สอดแทรกกลมกลืนไปกับคำสอนของศาสนาพุทธอย่างหาข้อตำหนิไม่ได้ เช่นนี้หรือ?
จงใช้วิจารณญาณพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีๆ
http://pantip.com/topic/33487677 <== คุณจะอาศัยภูมิความรู้ใด มาเปลี่ยนแปลง หรือ แก้ไข พระไตรปิฏก?