ไม่อยากให้น้องชายมาพักด้วย ช่วยทีค่ะ

เราเป็นเด็กตจว. นะคะ ทำงาน 2 ปีแล้ว ตอนนี้อายุ 24 และเพิ่งซื้อคอนโด โดยผ่อนเองค่ะ ขนาดห้อง 22.5 ตรม. ค่ะ เราเป็นคนชอบอยู่คนเดียวค่ะ ตอนเรียนปี 1-4 เราอยู่กับรูมเมทตลอด แต่พอเรียนจบมีงานทำ เลยรู้สึกดีใจมาก ที่จะมีห้องเป็นของตัวเองแล้ว

คืองี้ค่ะ เรามีน้องชาย 1 คน ตอนนี้จบม.6 แล้ว กำลังขึ้นมาเรียนต่อที่ กทม. แล้วเหมือนแม่มีทีท่าว่าจะให้น้องมาอยู่คอนโดเรา เราเครียดมากค่ะ เรากับน้องห่างกัน 6 ปี น้องอายุ 18 กำลังเป็นหนุ่มเลยค่ะ เราเป็นผู้หญิง น้องเป็นผู้ชาย คือเข้าใจใช่มั้ยคะ แต่น้องเราเป็นคนไม่ติดเพื่อนค่ะ พูดง่ายๆคือไม่เที่ยวเลย นิสัยน้องเราคือ อยู่แต่บ้าน ติดแม่กับเรา T-T เหมือนยังไม่โต แม่เลี้ยงมาแบบตามใจมาก ไม่เคยช่วยแม่ทำงานบ้าง ตอนขึ้นมาเที่ยวแล้วมาพักกับเรา เราทำงานเหนื่อยแล้ว ต้องมาเก็บห้องอีก เสื้อผ้าวางกองไว้บนพื้น หนังสือเรียนวางกระจายทั่วห้อง หยิบอะไรมา ไม่เคยเก็บเข้าที่ ไม่เคยช่วยทำความสะอาดห้อง เพื่อนชวนไปเที่ยว ก็ไม่ไป เรากำลังจะเลิกงาน โทรมาละ ว่าวันนี้อยากกินส้มตำ พาไปกินหน่อย นี่ยังน้อยนะคะ - -"

ประเด็นคือเราก็เข้าใจแม่ แม่คงอยากให้พี่น้องมาอยู่ด้วยกัน และเราก็สงสารน้อง ถ้าไม่ให้มันอยู่ ก็จะดูใจดำไปมั้ยคะ ตอนนี้เราเครียดมาก เราควรทำยังไงดี ห้องที่คอนโดเราก็เล็กมาก เราคิดไว้แล้ว ถ้าน้องมาอยู่ด้วย เราต้องเหมือนคนมีลูกแน่ ชีวิตส่วนตัวเราคงหายหมด ทำงานเหนื่อยแล้ว ต้องมาเหนื่อยใจอีก T-T
อีกประเด็นนะคะ แม่เราไม่ค่อยมีตังค่ะ ท่านเลยอยากเซฟค่าที่พักของน้อง เราก็ต้องมีค่าผ่อนคอนโด ไหนจะค่ากิน ค่าเดินทางอีก เงินเดือนเราก็น้อยนิด ตั้งแต่เราเรียนจบมา เราไม่เคยขอพ่อแม่สักบาทเลยค่ะ ถ้าน้องมาอยู่ด้วย ภาระค่าใช้จ่ายของน้องส่วนนึง เราต้องรับผิดชอบโดยเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ เครียดมากค่ะ นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว แล้วที่เราคิดแบบนี้ เราเห็นแก่ตัวรึป่าวคะ ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ เศร้า

*** ขอเพิ่มเติมสำหรับคนที่คิดว่าเราจะพาแฟนมาอยู่ด้วย ทำให้หวงความเป็นส่วนตัว ***
ตอนนีเราไม่มีแฟนค่า ในอดีตเคยมี และไม่เคยพามานอนค้างอ้างแรม ไม่ได้เวอร์ค่ะ มันคือเรื่องจริง
และปัจจุบันมีคนคุยค่ะ ถ้าอนาคตพัฒนาเป็นแฟน เราก็ไม่ให้มาค้างค่า คงให้มาได้ตามความเหมาะสม
หลายคนอาจจะหาว่าเรานางเอก หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เราตั้งใจไว้แล้ว เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความคิดแต่ละคนค่ะ
เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้ เรารู้แค่ว่าเราทำอะไรอยู่ก็พอค่ะ เราไม่บังคับให้ใครมาเชื่อเราได้ค่ะ

ขอบคุณทุกท่านมากๆเลยนะคะ ไม่คิดว่าจะมาตอบเยอะขนาดนี้ ทั้งคนที่มาตำหนิ หรือมาให้กำลังใจ
เราได้แง่มุมอะไรเยอะเลย ตอนนี้ก็กำลังคิดอยู่ค่ะ พยายามหาทางออกที่ดีที่สุด เราไม่ทิ้งน้องแน่ค่ะ
ยังไงเราก็พี่น้องกัน เรารู้ในข้อนี้ดีค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 32
จากที่อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้มาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว  เข้าใจว่าเจ้าของกระทู้ไม่ได้อยากปฏิเสธน้อง แต่เจ้าของกระทู้รู้ดีว่าถ้าน้องมาอยู่ด้วยจริงๆตัวเองต้องเจอกับอะไร ยิ่งเป็นน้องผู้ชายด้วย จะบอกว่าเข้าใจนะคะเพราะเคยประสบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ซึ่งเจ้าของกระทู้คงทราบดีกว่าใครๆว่าน้องขอตัวเองอุปนิสัยใจคอ การใช้ชีวิตเป็นอย่างไร  แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกันนะคะ บอกตรงๆนะคะถ้าอะไรที่เขาเคยชินและกระทำมาตั้งแต่อยู่ที่บ้าน โดยที่ไม่มีใครว่ากล่าวตักเตือน โอกาสเปลี่ยนแปลงยากค่ะ  น้องสาวเคยมาอยู่ด้วยสมัยเรียนเราเป็นพี่คิดว่าจะคอยสอนเขาได้ในเรื่องต่างๆ แต่เปล่าเลยค่ะทำเราเครียดทุกวัน นอกจากไม่ช่วยหยิบจับทำงานบ้านใดๆแล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนและไม่เกรงใจกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ เครียดมากช่วงนั้น ส่วนแฟนหลานเคยมาขออาศัยอยู่ด้วย แรกๆก็ดีค่ะสอนอะไรก็เหมือนจะรับฟัง แต่เป็นได้ไม่นานค่ะเด็กไม่ช่วยเหลือแฟนเก็บกวาดใดๆทั้งสิ้น โกนขนหน้าแข้งก็ร่วงเต็มบ้าน เท้าดำๆเหยียบย่ำจนมีแต่รอยสกปรกเต็มไปหมด ใช้ไฟเปิดแอร์ก็ไม่มีความเกรงใจ จากเด็กที่ดูเงียบๆนะคะหนักสุดที่แฟนเราไล่ออกไปเลย พาผู้หญิงมานอนที่บ้านของแฟนเราค่ะ และไม่ได้แค่แอบมาเป็นครั้งๆนะคะ แอบมาอยู่เลยค่ะ ช่วงนั้นเครียดมากๆ
    อยากบอกเจ้าของกระทู้นะคะ ไม่มีใครรู้ดีว่าครอบครัวเป็นยังไงนอกจากเจ้าของกระทู้เองค่ะ ชีวิตไม่ได้สวยงามทั้งหมดค่ะ ขอให้หาทางแก้ปัญหาให้ได้เร็วๆนะคะ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่สมควรที่จะมาอาศัยด้วยกัน เพราะนอกจากสภาพห้องที่คับแคบแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย ถ้าเป็นไปได้ลองหาห้องเช่าให้น้องอยู่ที่ใกล้ๆกันดีไหมคะ แบบไปมาหาสู่ได้ ส่วนค่าเช่าห้องของน้องในช่วงแรกๆคุณอาจต้องคุยกับคุณแม่ว่าช่วยๆกันออก  และน้องคุณเองช่วงเรียนถ้ามีเวลาควรให้หางานพาร์ทไทม์ทำนะคะ เพื่อเอาเงินมารับผิดชอบตัวเองช่วยครอบครัวอีกทาง ถ้าเขาไม่ยอมทำตามก็จะต้องลำบากเจ้าของกระทู้อีกนานเลยค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 27
แต่ว่าถึงจะเป็นพี่น้อง แต่อายุก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ มันควรมีที่ว่างหรือเปล่าน่ะ
ถ้าเป็นบ้านมีห้องส่วนตัวคงไม่แปลก แต่ห้องขนาด 22 ตร.ม. มันเล็กมากๆ เคยเช่าห้องขนาด 24 อยู่คนเดียวยังอึดอัดเลย

บางทีผู้หญิงก็อยากมีวันสบายแต่งเบาๆ แต่ถ้ามีผู้ชายอยู่ในห้องตลอดจะเป็นพี่น้องพ่อก็ไม่สบายใจจะแต่งเหมือนกัน ยิ่งอยู่กันสองต่อสองด้วย
จะหลับก็นอนข้างกันหรอคะ นี่อายุ 20 กว่า ไม่ใช่เด็ก 5 6 ขวบนะ จะได้นอนติดกันสนิทใจแบบเมื่อก่อนน่ะ
อีกอย่างอายุขนาดนี้ เช้าๆผู้ชายเคารพธงชาติ แล้วคิดว่า 4 ปี จะไม่มีขัดลำกล้องเลยหรอ บอกตรงสนิทใจยากค่ะ
รู้ว่าเรื่องธรรมชาติ แต่มันใช่สิ่งที่จะทำในห้องที่อยู่ร่วมกันหรือเปล่าน่ะ เกิดเปิดห้องไปเจอเข้า ทีนี้ล่ะพี่น้องมองหน้ากันลำบากเลย

เราว่า คนเป็นแม่น่าจะคิดอะไรไกลๆมากกว่าแค่จะประหยัดนะคะ ส่วนพี่ก็ช่วยสนับสนุนไปเท่าที่ทำได้
ให้น้องหารูมเมทแชร์ห้อง แล้วช่วยค่าหอ ค่ากินอยู่ดูแล ไปเยี่ยมเป็นครั้งคราวดีกว่าไหม หรือไม่ก็ให้อยู่หอในแล้วเราก็ช่วยจ่ายเป็นเทอมๆ
คือ ดูแลเท่าที่ทำได้ แต่ไม่ใช่ว่าเป็นพี่จะต้องเสียสละมันทุกอย่างในชีวิต เพียงเพราะแค่เกิดมาก่อนซักหน่อย

ถ้าเป็นพี่สาวน้องสาว พี่ชายน้องชาย ยังสนิทใจกว่า ให้ พี่สาว น้องชาย มานอนห้องเดียวกันนะคะ
ไปเที่ยวกับพ่อแม่ แยกห้องกันนอน 2 ห้อง บ้านเรายังแยกเป็น แม่กับเรา น้องชายกับพ่อ มันเป็นเรื่องความเหมาะสมน่ะ
ความคิดเห็นที่ 19
อ่านแล้วถ้าเป็นแม่คงน้ำตาตกใน  
เคยเห็นบางคน  อะไรที่จะเอื้อให้ครอบครัวคิดเยอะจุกจิกมาก
แต่ลองเพื่อนฝูงเอ่ยปากนิดหน่อย กระโดดใส่เต็มที่
แต่ถ้าเป็นญาติพี่น้อง คิดเล็กคิดน้อย กลัวจะโน่นนี่ทั้งที่ยังไม่เกิดเหตุเลยด้วยซ้ำ

ถ้าน้องไม่รู้จักโต ไม่มีระเบียบ  ก็บอกก็สอนเขา  เขาเป็นน้องของคุณจะผลักภาระนี้ให้สังคมสอนเหรอ
แต่เท่าที่อ่าน  น้องไม่ใช่เด็กเลวร้าย ชอบเที่ยว หรือคบเพื่อนไม่ดี  เรียกว่าโอเคในระดับหนึ่งเลยนะ

แม่คุณไม่ค่อยมีตังค์  คุณเรียนจบไม่เคยรบกวนพ่อแม่เลย  อันนั้นเรียกว่าสำนึกที่ควรทำอยู่แล้วค่ะ
แต่ช่วงตอนเรียน  ส่งตัวเองเรียนหรือเปล่าคะ  หรือก็ใช้เงินพ่อแม่เหมือนกัน

น้องมาอยู่แค่สี่ปี  อย่า ใจ ดำ เลยค่ะ  
ถ้าอยู่ไป แล้วลำบาก  มีแต่ปัญหา ก็ค่อยบอกพ่อแม่ให้หาทางอื่น
แต่นี่น้องยังไม่ทันมาอยู่ด้วย  ก็ตั้งแง่แล้ว  คุณ ใจแคบไปค่ะ
ความคิดเห็นที่ 59
บางคห.ก็มาถล่มจขกท.ซะจนคิดว่าจขกท. อกตัญญูต่อแม่ เรื่องแค่นี้ช่วยไม่ได้  เราคิดว่าจขกท.พร้อมที่จะช่วย คือช่วยจ่ายค่าหอให้น้อง หรือช่วยค่าเล่าเรียนก็ว่าไป แต่ไม่ใช่มาอยู่ด้วยกัน
  เราว่าจขกทไม่ได้รังเกียจน้องหรอก แต่อยากให้คิดดูว่า ห้องแคบๆอยู่ด้วยกันกับน้องชาย จะอาบน้ำ แต่งตัวจะทำอะไรก็ต้องระมัดระวัง  จะนุ่งห้องบ้าง โนบราบ้างก็ไม่ได้ ( ถ้าจขกท.เคยทำ) ห้องแค่นี้มองปราดเดียวก็ทั่วห้องแล้ว จะหามุมส่วนตัวก็ยาก จะแต่งตัวก็ต้องทำให้มิดชิดอีก ถึงจะเป็นน้องชายก็ต้องมีตะขิดตะขวงใจบ้างแหละ  ถ้าน้องสาวก็ว่าไปอย่าง
แล้วไม่ได้มาอยู่แค่วันสองวันนะ อยู่จนกว่าจะเรียนจบ เผลอๆอยู่จนทำงานอีก เออ ถ้าจขกท.มีบ้าน มีห้องหลายห้องแล้วไม่ให้น้องมาอยู่ ก็น่าว่าหรอก
  เราเข้าใจจขกท.นะคะ เพราะเราก็คล้ายๆคุณ  ถ้าจะปฏิเสธก็ปฏิเสธตั้งแต่แรกค่ะ อย่าให้มาอยู่แล้วออกปากทีหลังจะออกปากอยาก อธิบายแม่ไปตามตรงว่าคุณไม่สะดวก เพราะน้องเป็นผู้ชายและห้องก็ไม่เป็นสัดส่วน แต่คุณจะช่วยค่าหอน้องและจะไปดูแลบ่อยๆ ตอนน้องมาเรียนใหม่ๆ ที่สำคัญถ้าคอนโดคุณอยู่ไกลจากมหาลัยที่น้องเรียนก็อ้างเลยว่า เดินทางลำบาก แล้วปีหนึ่งก็มีกิจกรรมเยอะแยะ ให้อยู่หอใกล้ๆดีกว่า และพอน้องคุณเรียนไปสักพักนึง มีเพีอน รู้จักที่ทางก็อยู่ได้เอง
  แม่คุณควรเห็นถึงความเหมาะสมด้วย ไม่ใช่คิดประหยัดอย่างเดียว และเราก็คิดเหมือนคห.นึงที่บอกว่าคนเป็นพี่ไม่ใช่ต้องเสียสละทุกอย่างในชีวิต เราเป็นพี่และเป็นคนหวงพื้นที่ส่วนตัว เราจึงเข้าใจคุณ

  ปล.ถ้าจะอกตัญญู หรือทำให้แม่น้ำตาตกเพียงเพราะไม่ให้น้องมาอยู่ก็ทำใจเถอะค่ะ คุณมีทางช่วยแบ่งเบาภาระแม่อีกหลายทาง ไม่ใช่แค่เรื่องประหยัดค่าหออย่างเดียวซะเมื่อไร
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่เห็นแก่ตัวหรอก น้องโตแล้ว ควรจะหาที่อยู่เองได้แล้ว หรือถ้าอยากประหยัดตัง ก็ให้ไปอยู่หอในสิ (ถ้ามหาลัยมีนะ) ค่าหอมันจะถูกมากๆ

แนะนำให้พูดตรงๆกับแม่ก่อน แล้วก็ค่อยบอกน้อง
ความคิดเห็นที่ 39
พี่ต้องเสียสละครับ
ความเสียสละหมายถึงเราอาจต้องเสียเปรียบ ไม่ได้ทำบางอย่างที่อยากทำ มีคนมาคอยกวนใจ ไม่มีอิสระเต็มที่ครับ ผมอ่านจากที่คุณบอก
ผมว่าคุณคิดว่าคุณปีกกล้าขาแข็ง หาเงินได้เอง ผ่อนได้เอง ก็เลยอยากออกมามีพื้นที่ส่วนตัว

แต่อย่าลืมว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านก็เคยต้องเสียสละเลี้ยงดูคุณมาตั้งกี่ปีครับ

ผมไม่ได้โลกสวยนะครับ แต่คนไทยเราถือเรื่องพวกนี้มาก ถ้าคุณปฏิเสธ ผมว่ามันจะทำให้คุณดูไม่ดี โดนว่าแน่ครับ ว่า พอปีกกล้าขาแข็ง ก็ไม่เอาใครเลย ในสายตาพ่อแม่และน้อง รวมถึงญาติๆ

เอาแบบนี้สิครับ ลองดูก่อน ทำตามท่านไปนั่นแหละ ถ้าลองแล้ว 3-4 เดือน มีปัญหา เช่น คุณจะมีแฟน หรือน้องเค้ากวนคุณจริงๆ
เราจะได้มีข้อมูลในการไปปฏิเสธท่านไงครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่