โดนน้องสาวแฟนพูดหักหน้า!! อยากแต่งงานก็เก็บเงินแต่งเองสิ!!!

เครียดค่ะเครียดดดด!!!!!!!

เริ่มเลยนะคะ จขกท.คบกับแฟนเกือบๆปีแล้วค่ะ อายุก็ไม่น้อยกันแล้ว เลยคุยกันเรื่องแต่งงาน

คือก่อนหน้าที่จะไปคุยกับที่บ้านแฟน เราสองคนคุยรายละเอียดกันไว้แล้ว ค่าสินสอดพองามไม่มากไม่น้อย

แล้วแต่ทางแฟนเลย ทางบ้านจขกท.ไม่ซีเรียสค่ะ

วันที่เกิดเรื่องนี่คือ ไปกินข้าวบ้านแฟนเหมือนทุกๆครั้งค่ะ เหตุการณ์ปกติ หลังจากกินข้าวเสด

แฟนเลยคุยกับแม่ค่ะ มีแฟน,จขกท,แม่แฟน,น้องสาวแฟนค่ะ

แฟนจขกท : แม่ ผมว่าจะขอแต่งงานกับ...แม่จะว่าไงครับ

แม่แฟน : (เงียบไปสักพัก) ได้สิ แต่เป็นปีหน้าได้มั้ย ปีนี้แม่ยังไม่พร้อมเลย  (บ้านแฟนทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ)

แล้วแฟนก็คุยกับแม่ไปเรื่อยๆค่ะ ประมาณว่า ถ้ายังไม่แต่งนี่ไปหมั้นหมายให้ผมก่อนได้มั้ยครับ?

"ผมอยากทำให้มันถูกต้องตามประเพณีอ่ะครับแม่" เพราะทุกวันนี้แฟนกับจขกท.ก็แทบจะอยู่บ้านเดียวกันแล้วค่ะ ไปๆมาๆบ้านเค้าบ้านเรา

ในช่วงเวลาที่แฟนจขกท.กับแม่แฟนคุยกัน เราก็แอบฟินแอบมโนไปเรื่อยแล้วค่ะถึงเรื่องงานแต่งงาน...ฟินสุดๆเบยยย

แต่แล้วเสียงอันดังกึกก้องพสุธาก็ดังขึ้นค่ะ!!!!

น้องสาวแฟน : ใครอยากแต่งก็เก็บเงินแต่งเองเซ่!!!!! มาขอเงินแม่ทำไม????? จะแต่งไม่แต่งก็เรื่องของ!!!!!!

เรานั่งอยู่ข้างๆน้องค่ะ วินาทีนั้นทั้งจุก ทั้งเจ็บ มึน อึน งง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เราเลือกที่จะเงียบค่ะ แฟนก็เงียบ แม่แฟนเลยบอกปีหน้านะลูกนะ อย่าคิดมาก ดูเหมือนแม่จะเข้าใจความรู้สึกเรา

เราเลยเดินออกมาจากวงสนทนา ไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำค่ะ เกิดคำถามมากมาย ทำไมน้องพูดแบบนั้น? ทำไมน้องถึงไม่อยากให้เราแต่งงาน???

เราและน้องสาวแฟนสนิทกันนะคะ น้องน่ารักมาตลอด คุยกันแชทกันบ่อยๆ มีอะไรน้องก็ปรึกษาเราทั้งเรื่องเรียนเรื่องความรัก (น้องอายุ18ปีค่ะ)

ตั้งแต่เกิดเรื่อง เราก็ไม่อยากไปบ้านแฟน ไม่อยากคุยกับน้องสาวแฟน มันอึดอัดค่ะ น้องเป็นผญ.ด้วยกัน นึกว่าจะเข้าใจเรา

เราเสียใจค่ะที่ได้ยินคำพูดแบบนั้น จริงๆน้องสาสแฟนพูดเยอะกว่านี้ค่ะ เราไม่ฟัง เลือกที่จะเดินหนีดีกว่า ไม่อยากให้แม่แฟนลำบากใจค่ะ

ป.ล.จขกท.กับแฟนเราสองคนเงินเดือนน้อยค่ะ มีกินแต่ยังไม่มีเก็บ แฟนเลยลองไปคุยค่าสินสอดกับแม่

ป.ล.2 แฟนเป็นลูกชายคนโตค่ะ อายุห่างจากน้องสาวเกือบ10ค่ะ

ป.ล.3 ฐานะทางบ้านแฟนก็กลางๆค่ะ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ครอบครัวเราก็เช่นกัน

ใครพอจะให้คำปรึกษาเราได้บ้างคะ

เราไม่รู้จะทำไงดี เจอเหตุการณ์แบบนี้เราก็ไม่อยากแต่งงานเเล้ว เพราะเราต้องมาอยู่บ้านเค้า ไม่รู้จะทำตัวยังไงเลยค่ะ

ขอบคุณที่อ่านค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 27
เราก็เห็นด้วยนะคะ ที่ว่าจะให้ถูกประเพณี
แต่เราว่า มันน่าจะไปพร้อมกันทั้ง ประเพณีและความพร้อมคะ
เราเป็นพวกมองว่า สินสอดและงานแต่ง เป็นเรื่องฟุ่มเฟือยอะคะ 555+
เงินเก็บไว้ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างแหนะ
อืม.....วิธีให้ถูกประเพณีก็มีหลายทางนะคะ
เป็นงานแต่งงานเล็กๆ ครีเอจเอง ใช้งบเบาๆ มุ้งค์มิ้งค์ในครอบครัวดีมั้ยคะ
ส่วนค่าสินสอด เราไม่มีความเห็นคะ
แบบว่า ตอนงานเรา บ้านเราไม่เรียกสินสอดคะ แม่บอกว่า เท่าไหร่เท่านั้น ดูแลกันรักกันก็พอ
ส่วนงานก็งานเล็กๆที่บ้านคะ เลี้ยงพระ ผูกข้อมือ งานเล็กๆ น่ารักๆคะ

ทุกอย่างมีทางแก้คะ ค่อยๆคิด คะ สู้ๆเนาะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
น้องแฟนอาจจะเป็นพวกที่คิดว่า การแต่งงาน เงินสินสอดบลาๆๆ ควรเกิดจากน้ำพักน้ำแรงบ่าวสาว
ช่วยกันเก็บออมไป จนได้แต่งงาน มากกว่าแบมือขอเงินพ่อแม่ไปขอสาวแต่งงาน
ขนาดเราเองยังคิดแบบนั้นเลยค่ะ ถ้าเราจะแต่งงาน เราคงช่วยกันทำงานหาเงินมาแต่งกัน
มากกว่าที่จะขอผู้ใหญ่
ความคิดเห็นที่ 7
ผมว่าน้องสาวบอกพี่ชายมากกว่าครับ เขาคงไม่ได้ว่าจขกท.
แล้วก็ไม่ได้ไม่อยากให้แต่งงานด้วย เพียงแต่ว่าไม่อยากให้พี่ชายขอเงินที่บ้านไปแต่งครับ

จริงๆโตแล้วทำงานแล้วก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบการสร้างครอบครัวให้ได้นะครับ
ถ้าเก็บไม่พอ ก็ต้องหาวิธีเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย ช่วยกันวางแผนเก็บหรืออะไรก็ว่าไป
ถ้ายังรับผิดชอบส่วนนี้ไม่ได้ จะเลี้ยงครอบครัวไหวรึเปล่า มันจะมีคำถาม มีปัญหาตามมามากมาย
ผู้ชายควรจะทำด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองให้เต็มที่ก่อน ส่วนผู้ใหญ่จะช่วยเท่าไรหรือจะไม่ช่วยก็สุดแล้วแต่ท่านครับ

คหสต.นะฮะ ผมจะสร้างครอบครัวตัวเอง ผมก็ต้องพยายามด้วยตัวเอง (ไม่ได้พูดเอาเท่นะฮะ ทำจริงๆครับ)
ความคิดเห็นที่ 5
เราเห็นด้วยกับคุณที่ว่าน้องสาวแฟนพูดแรงไป แต่การที่คุณบอกว่าคุณเอง "มีกินไม่มีเก็บ" แลัวก็แพลนว่าจะแต่งงาน แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจัดงานคะ ต่อให้แม่ของฝ่ายชายช่วยค่าสินสอดก็เถอะ

ของเราเองพ่อแม่ฝ่ายชายเสนอว่าจะจัดการเรื่องสินสอดให้เรื่องสินสอด แต่เรากับแฟนต้องจัดการเรื่องงานแต่งงานเอง คือถ้าคุณไม่มีเก็บเลยคุณพร้อมที่จะเริ่มต้นครอบครัวแล้วเหรอคะ จริงอยู่แหละว่าอยู่กันไปช่วยกันหาเดี๋ยวก็มีมาเองแต่เราว่าอย่างน้อยก็ต้องมีทุนมาบ้างนิดหน่อยอย่าให้ชีวิตคู่มันเริ่มจากติดลบเลยนะคะ
ความคิดเห็นที่ 6
เราเห็นด้วยกับน้องสาวแฟนอะค่ะ อย่าว่ากันนะ แต่ด้วยคำพูดเด็กอาจเหมือนพูดเล่นๆกับเพื่อนรึเปล่าคะ คือจขกทก็ไม่ใช่ลูกเค้า ก้อาจไม่รุ้ว่าธุรกิจที่บ้านแฟนอาจกำลังมีปัญหาอยู่ อะไรประมานนี้ คือเราอาจนิสัยคล้ายน้องสาวแฟนจขกทที่แบบจะทำอะไรก้ทำไปแต่ก้ทำด้วยความสามารถตัวเอง เเละบ้านเราก็มีธุรกิจ แม่เล่าปัญหาทุกอย่างให้ฟังตั้งแต่เด็ก พอมีปัญหาน้องสาวแฟนอาจเครียดด้วยก้ได้ค่ะ

อีกอย่างนะเรามองว่าการแต่งงานมันเเสดงถึงความพร้อมเริ่มต้นของการสร้างครอบครัว จริงๆก้ควรมีเงินเองแล้วอะค่ะ เราเป็นผู้หญิงเราไม่เคยคิดว่านี่ต้องเป็นเงินของฝ่ายชายเลยนะ มันน่าจะช่วยกันออก งานแต่งเราเราก็ออกเองงี้อะ ถ้ายังไม่พร้อมก้จัดเล็กๆก้พอ
ความคิดเห็นที่ 48
ผ่อนรถมันงวดละไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง แต่ก็ยังไม่มีเก็บ คุณก็ไม่มีเก็บ อันนี้คือไม่พร้อมหรือเปล่า  คิดดูดีๆ
แม่เค้าดูท่าทางก็ลำบากเรื่องเงิน พยายามบ่ายเบี่ยงแล้ว ยังดูไม่ออกกันอีกนะ ประหลาดคนทั่งคู่เลย
พ่อแม่เลี้ยงมาจนโต จะสามสิบอยู่ล่ะ แต่งงานยังมาแบมือขออีก ไม่อายหรือคะ
ไม่พร้อมก็ไม่ต้องแต่งค่ะ อย่ามาอ้างเลย ทำงานมากี่ปีไม่มีเก็บเลย ยังจะมาโยนบาปให้รถ 1 คันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่