อาจจะตั้งหัวกระทู้ดูแปร่งๆแต่ไม่รู้จะใช้คำเรียกว่าอะไร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมาครับและได้ไปซื้อรองเท้าวิ่ง asics ที่นี่มาเพื่อใช้แทนคู่เก่าที่ใส่วิ่งมากว่า 2500 กิโลแล้ว (ซึ่งคิดว่ามันคงเสื่อมสภาพไปนานแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อคู่ใหม่เพราะวางแผนไว้ว่าจะมีโครงการมาเที่ยวที่นี่จึงยื้อมาตลอด) คู่เก่าที่ผมใส่ก็คือ asics kayano 20 เป็นรองเท้าวิ่งคู่แรกและคู่เดียวที่มีและถูกใจกับการใส่รองเท้ายี่ห้อนี้ครับดังนั้นเมื่อมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นจึงคิดว่าจะซื้อคู่ใหม่มาใส่วิ่งแทนเพราะคู่เก่ามันก็หมดสภาพแล้วและที่สำคัญคือซื้อที่นี่ถูกกว่าซื้อที่เมืองไทยเยอะครับ
เดิมทีผมตั้งใจว่าจะซื้อที่สาขาฮาราจูกุแต่ระหว่างที่เดินอยู่ในฮิโรชิม่าเจอร้านของ asics ก็เลยเข้าไปดู พนักงานในร้านพอเห็นว่าใส่รองเท้า asics เขาก็จะบอกว่า "ขอบคุณค่ะที่ใส่ asics" (ที่ฮาราจูกุก็บอกแบบนี้เหมือนเขาเทรนด์กันมาแบบนี้เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกดี) เหลือบไปเห็นเครื่องวิ่งสายพานในร้านก็พอรู้ว่ามันคือเครื่องวิ่งสำหรับทดสอบฝ่าเท้าเพราะเคยได้ยินมาว่า asics ที่ญี่ปุ่นมีเครื่องทดสอบประเภทนี้อยู่ (อย่างที่ CTW ที่ผมซื้อตอนนั้นไม่มีเครื่องที่ว่านี้ครับ พนักงานในร้านเพียงเอานิ้วสอดใต้ฝ่าเท้าเพียงครั้งเดียวเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการ : หมายเหตุเมื่อ มิ.ย.ปีที่แล้วนะครับปัจจุบันเป็นอย่างไรไม่ทราบนะครับ) ใจผมก็อยากทดสอบแหล่ะครับเพราะมันน่าสนุกดีแล้วก็อยากรู้ด้วยว่าการวิ่งของเรามันเป็นยังไงจะได้ผลว่าเหมาะกับรองเท้าคู่ไหนเลยถามพนักงานว่าถ้าทดสอบจะคิดค่าบริการยังไง
พนักงานตอบกลับมาว่าค่าทดสอบฝ่าเท้า 2000 เยนแต่หากว่าซื้อรองเท้าด้วยก็จะไม่คิดค่าบริการอันนี้ ซึ่งผมตั้งใจอยู่แล้วว่ามาคราวนี้ยังไงก็ซื้อรองเท้าวิ่งกลับไปแน่ (รุ่นที่คิดว่าจะซื้อก่อนมาก็คือ kayano 21 ตระกูลเดิมแต่เป็นรุ่นใหม่กว่า) ดังนั้นจึงบอกพนักงานเลยว่าเอาครับเพราะยังไงก็ซื้อแน่ๆแถมยังได้ลองของแปลกอีก ที่ผ่านมาไม่เคยลองอะไรแบบนี้มาก่อน บอกเสร็จพนักงานก็ให้ถอดถุงเท้าและพับขากางเกงขึ้น ทำเสร็จเขาก็เอาสติ๊กเกอร์เล็กๆมาแปะตามจุดรอบๆเท้าราวๆ 6 จุดครับทั้งข้างซ้ายและข้างขวา เสร็จแล้วก็ให้ผมเอาเท้าเข้าไปในกล่องคล้ายๆเครื่องเอ็กซเรย์ครับทั้งข้างซ้ายและข้างขวา ผลการสแกนรูปร่างฝ่าเท้าออกมาทางหน้าจอมอนิเตอร์ซึ่งเป็นรูปทางกายภาพของเท้าของผมนั่นแหล่ะครับ
หลังจากเข้าเครื่องสแกนรูปร่างเท้าเสร็จพนักงานก็ให้ผมใส่ถุงเท้าและรองเท้า (ของที่ร้าน) จากนั้นก็ให้ผมลองขึ้นไปวิ่งบนเครื่องวิ่งสายพานดูโดยตอนแรกเขาให้เดินเรื่อยๆก่อนครับจากนั้นค่อยปรับความเร็วให้เร็วขึ้น ให้ผมวิ่งอยู่ประมาณ 2 นาทีก็เสร็จสิ้นกระบวนการทดสอบครับ จากนั้นก็รอผลซึ่งเขาออกมาเป็นชาร์ตเลยครับแยกเป็นเท้าซ้ายเท้าขวา จังหวะการก้าว,น้ำหนักที่ลง,ส่วนที่ลง,จุดหมุน (คงจะดูพวก underpronator,neutral,overpronator อะไรพวกนี้น่ะครับ) พนักงานเขาก็มานั่งอธิบายให้ผมฟังว่าจังหวะของเท้าซ้ายเป็นอย่างนี้เท้าขวาเป็นอย่างนี้ การลงน้ำหนักเท้าซ้ายเป็นอย่างนี้เท้าขวาเป็นอย่างนี้ หมายเหตุ : อันนี้ฟังแบบงูๆปลาๆนะครับเพราะพนักงานพูดญี่ปุ่นสลับอังกฤษ ข้อมูลพวกนี้พนักงานจะปริ้นท์ให้เรากลับมาดูด้วย (ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก
)
แล้วเขาก็ให้รุ่นรองเท้าผมเลือกมาสองรุ่นก็คือรุ่น GT 2000 กับ kayano 21 ให้ผมลองใส่วิ่งดู แสดงว่าการรูปร่างเท้ากับวิธีการวิ่งของผมเหมาะกับรองเท้าสองรุ่นนี้ซึ่งผมก็ลองใส่วิ่งดูทั้งสองรุ่น ใจผมก็รู้สึกว่าใส่ kayano 21 มันรู้สึกดีกว่าคือมันวิ่งนิ่มกว่าตัว GT 2000 ตัวพนักงานเองบอกว่าเท้าผมเหมาะกับรองเท้าสองรุ่นนี้แต่ตัว kayano 21 จะดีกว่าซึ่งก็ถือว่าเหมาะเจาะอยู่เพราะอย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเดิมทีก่ะว่าจะมาซื้อ kayano 21 อยู่แล้ว เช็คราคาและเตรียมเงินมาซื้อรุ่นนี้อยู่แล้วจึงบอกพนักงานว่าเอารุ่น kayano 21
ปล.1 : พนักงานมีพูดถึง kayano 20 ที่ผมใส่นิดหน่อยโดยเปรียบเทียบกับตัว kayano 21 ว่าตัว 20 ส่วนหน้าของรองเท้าจะกว้างแต่ตัว 20 จะออกแบบให้ slim กระชับกว่า แต่เขาไม่ได้บอกว่าตัวไหนดีกว่าหรือแย่กว่านะครับเขาบอกแค่นี้ เหมือนเทรนด์รองเท้าวิ่งยี่หเอนี้อาจจะเปลี่ยนมาเป็นแนวกระชับแทนล่ะมั้งครับตัว 21 เลยปรับโฉมใหม่นิดหน่อย
ปล.2 : ซื้อรองเท้าที่นี่สามารถใช้พาสปอร์ตลด vat ได้ (ถ้าตัวสินค้าราคาเกิน 10000 เยน)
สนุกดีครับใครที่ตั้งใจว่าจะซื้ออยู่แล้วก็ลองไปวิ่งทดสอบดูได้ครับเพราะยังไงเขาก็ไม่คิดค่าบริการนี้ถ้าเราซื้อจริงๆ คิดซะว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ครับ ซื้อรองเท้าวิ่งคู่เดียวยังต้องวิจัยกันเป็นเรื่องเป็นราวประเทศนี้สุดยอดจริงๆครับ
หมายเหตุแถม : แต่ถ้าใครสนใจที่จะซื้อโดยเลือกรุ่นไว้แล้วและไม่คิดจะลองเครื่องอะไรพวกนี้ มีอยู่ร้านนึงชื่อว่า sport expo (น่าจะมีหลายสาขา อย่างที่โอซาก้าอยู่ที่ห้างใหญ่ๆหน้าสถานีรถไฟ osaka เลยครับคล้ายๆตึกขายเครื่องใช้ไฟฟ้าผมจำชื่อตึกไม่ได้ ร้านนี้ราคาถูกกว่าซื้อใน shop หลังลดภาษีอีกครับ ถูกกว่าราวๆ 300 กว่าเยน ผมเจออีกที่ที่นิงาตะก็ราคาเท่ากับที่โอซาก้า) ABC mart บางสาขาก็ถูกกว่าครับถ้าไม่ซีเรียสเรื่องต้องซื้อในร้านของเจ้าของแบรนด์ก็ลองไปเดินเทียบราคาดูก่อนได้ครับ
จบการรีวิวแล้วครับ ขอบคุณครับ
รีวิวเครื่องทดสอบฝ่าเท้าที่ asics ญี่ปุ่นครับ
เดิมทีผมตั้งใจว่าจะซื้อที่สาขาฮาราจูกุแต่ระหว่างที่เดินอยู่ในฮิโรชิม่าเจอร้านของ asics ก็เลยเข้าไปดู พนักงานในร้านพอเห็นว่าใส่รองเท้า asics เขาก็จะบอกว่า "ขอบคุณค่ะที่ใส่ asics" (ที่ฮาราจูกุก็บอกแบบนี้เหมือนเขาเทรนด์กันมาแบบนี้เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกดี) เหลือบไปเห็นเครื่องวิ่งสายพานในร้านก็พอรู้ว่ามันคือเครื่องวิ่งสำหรับทดสอบฝ่าเท้าเพราะเคยได้ยินมาว่า asics ที่ญี่ปุ่นมีเครื่องทดสอบประเภทนี้อยู่ (อย่างที่ CTW ที่ผมซื้อตอนนั้นไม่มีเครื่องที่ว่านี้ครับ พนักงานในร้านเพียงเอานิ้วสอดใต้ฝ่าเท้าเพียงครั้งเดียวเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการ : หมายเหตุเมื่อ มิ.ย.ปีที่แล้วนะครับปัจจุบันเป็นอย่างไรไม่ทราบนะครับ) ใจผมก็อยากทดสอบแหล่ะครับเพราะมันน่าสนุกดีแล้วก็อยากรู้ด้วยว่าการวิ่งของเรามันเป็นยังไงจะได้ผลว่าเหมาะกับรองเท้าคู่ไหนเลยถามพนักงานว่าถ้าทดสอบจะคิดค่าบริการยังไง
พนักงานตอบกลับมาว่าค่าทดสอบฝ่าเท้า 2000 เยนแต่หากว่าซื้อรองเท้าด้วยก็จะไม่คิดค่าบริการอันนี้ ซึ่งผมตั้งใจอยู่แล้วว่ามาคราวนี้ยังไงก็ซื้อรองเท้าวิ่งกลับไปแน่ (รุ่นที่คิดว่าจะซื้อก่อนมาก็คือ kayano 21 ตระกูลเดิมแต่เป็นรุ่นใหม่กว่า) ดังนั้นจึงบอกพนักงานเลยว่าเอาครับเพราะยังไงก็ซื้อแน่ๆแถมยังได้ลองของแปลกอีก ที่ผ่านมาไม่เคยลองอะไรแบบนี้มาก่อน บอกเสร็จพนักงานก็ให้ถอดถุงเท้าและพับขากางเกงขึ้น ทำเสร็จเขาก็เอาสติ๊กเกอร์เล็กๆมาแปะตามจุดรอบๆเท้าราวๆ 6 จุดครับทั้งข้างซ้ายและข้างขวา เสร็จแล้วก็ให้ผมเอาเท้าเข้าไปในกล่องคล้ายๆเครื่องเอ็กซเรย์ครับทั้งข้างซ้ายและข้างขวา ผลการสแกนรูปร่างฝ่าเท้าออกมาทางหน้าจอมอนิเตอร์ซึ่งเป็นรูปทางกายภาพของเท้าของผมนั่นแหล่ะครับ
หลังจากเข้าเครื่องสแกนรูปร่างเท้าเสร็จพนักงานก็ให้ผมใส่ถุงเท้าและรองเท้า (ของที่ร้าน) จากนั้นก็ให้ผมลองขึ้นไปวิ่งบนเครื่องวิ่งสายพานดูโดยตอนแรกเขาให้เดินเรื่อยๆก่อนครับจากนั้นค่อยปรับความเร็วให้เร็วขึ้น ให้ผมวิ่งอยู่ประมาณ 2 นาทีก็เสร็จสิ้นกระบวนการทดสอบครับ จากนั้นก็รอผลซึ่งเขาออกมาเป็นชาร์ตเลยครับแยกเป็นเท้าซ้ายเท้าขวา จังหวะการก้าว,น้ำหนักที่ลง,ส่วนที่ลง,จุดหมุน (คงจะดูพวก underpronator,neutral,overpronator อะไรพวกนี้น่ะครับ) พนักงานเขาก็มานั่งอธิบายให้ผมฟังว่าจังหวะของเท้าซ้ายเป็นอย่างนี้เท้าขวาเป็นอย่างนี้ การลงน้ำหนักเท้าซ้ายเป็นอย่างนี้เท้าขวาเป็นอย่างนี้ หมายเหตุ : อันนี้ฟังแบบงูๆปลาๆนะครับเพราะพนักงานพูดญี่ปุ่นสลับอังกฤษ ข้อมูลพวกนี้พนักงานจะปริ้นท์ให้เรากลับมาดูด้วย (ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก
แล้วเขาก็ให้รุ่นรองเท้าผมเลือกมาสองรุ่นก็คือรุ่น GT 2000 กับ kayano 21 ให้ผมลองใส่วิ่งดู แสดงว่าการรูปร่างเท้ากับวิธีการวิ่งของผมเหมาะกับรองเท้าสองรุ่นนี้ซึ่งผมก็ลองใส่วิ่งดูทั้งสองรุ่น ใจผมก็รู้สึกว่าใส่ kayano 21 มันรู้สึกดีกว่าคือมันวิ่งนิ่มกว่าตัว GT 2000 ตัวพนักงานเองบอกว่าเท้าผมเหมาะกับรองเท้าสองรุ่นนี้แต่ตัว kayano 21 จะดีกว่าซึ่งก็ถือว่าเหมาะเจาะอยู่เพราะอย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเดิมทีก่ะว่าจะมาซื้อ kayano 21 อยู่แล้ว เช็คราคาและเตรียมเงินมาซื้อรุ่นนี้อยู่แล้วจึงบอกพนักงานว่าเอารุ่น kayano 21
ปล.1 : พนักงานมีพูดถึง kayano 20 ที่ผมใส่นิดหน่อยโดยเปรียบเทียบกับตัว kayano 21 ว่าตัว 20 ส่วนหน้าของรองเท้าจะกว้างแต่ตัว 20 จะออกแบบให้ slim กระชับกว่า แต่เขาไม่ได้บอกว่าตัวไหนดีกว่าหรือแย่กว่านะครับเขาบอกแค่นี้ เหมือนเทรนด์รองเท้าวิ่งยี่หเอนี้อาจจะเปลี่ยนมาเป็นแนวกระชับแทนล่ะมั้งครับตัว 21 เลยปรับโฉมใหม่นิดหน่อย
ปล.2 : ซื้อรองเท้าที่นี่สามารถใช้พาสปอร์ตลด vat ได้ (ถ้าตัวสินค้าราคาเกิน 10000 เยน)
สนุกดีครับใครที่ตั้งใจว่าจะซื้ออยู่แล้วก็ลองไปวิ่งทดสอบดูได้ครับเพราะยังไงเขาก็ไม่คิดค่าบริการนี้ถ้าเราซื้อจริงๆ คิดซะว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ครับ ซื้อรองเท้าวิ่งคู่เดียวยังต้องวิจัยกันเป็นเรื่องเป็นราวประเทศนี้สุดยอดจริงๆครับ
หมายเหตุแถม : แต่ถ้าใครสนใจที่จะซื้อโดยเลือกรุ่นไว้แล้วและไม่คิดจะลองเครื่องอะไรพวกนี้ มีอยู่ร้านนึงชื่อว่า sport expo (น่าจะมีหลายสาขา อย่างที่โอซาก้าอยู่ที่ห้างใหญ่ๆหน้าสถานีรถไฟ osaka เลยครับคล้ายๆตึกขายเครื่องใช้ไฟฟ้าผมจำชื่อตึกไม่ได้ ร้านนี้ราคาถูกกว่าซื้อใน shop หลังลดภาษีอีกครับ ถูกกว่าราวๆ 300 กว่าเยน ผมเจออีกที่ที่นิงาตะก็ราคาเท่ากับที่โอซาก้า) ABC mart บางสาขาก็ถูกกว่าครับถ้าไม่ซีเรียสเรื่องต้องซื้อในร้านของเจ้าของแบรนด์ก็ลองไปเดินเทียบราคาดูก่อนได้ครับ
จบการรีวิวแล้วครับ ขอบคุณครับ