"เมื่อฉันบอกเลิกแฟน" เพราะเค้าไม่มาขอตามสัญญา ...จนเขาตัดสินใจออกทะเล

เพื่อนๆคะ เราขอพื้นที่ต้องนี้พูดคุยกับเพื่อนๆนะคะ เพราะไม่รู้จะปรึกษาใคร

          เรื่องมันมีอยู่ว่าเราคบกับแฟนมาประมาณนึงแล้ว ได้เจอพ่อ-แม่ทั้ง 2 ฝ่าย คือเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนค่ะ แต่เพิ่งจะมาคบกันตอนโต
สมัยเด็กๆคือไม่มีความสนิทกันเอาซะเลย เป็นคู่กัดกันซะมากกว่า เค้าเป็นผช.กวนๆ หน้าตาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หญิงนี่ติดตรึมเลยค่ะ แต่ยกเว้นเรานะ เพราะไม่เคยมองเห็นความหล่อของผู้ชายคนนี้เลย แล้วเค้าก็ชอบล้อเลียนเรา เพราะตอนเด็กๆเราตัวดำมากๆเลย (ปัจจุบันก็ดำแต่สีจางลงมานิดดดนึง) และก็คิ้วบางคือถ้ามองเผินๆนี้หาคิ้วแทบไม่เจอ เค้าก็จะล้อเราประมาณว่าแม่ชี แม่นาง เฉาก๋วย อะไรประมาณนี้ คือทำให้เราเคืองมากไล่เตะมาทีนึง
           แฮ่แต่เค้าจะมาดีกับเราก็ตอนที่จะลอกการบ้านเราคือต่อให้เราลายมือเป็นลายแทงสมบัติขนาดไหนเค้าก็แกะออก 555+ (ปัจจุบันยิ่งกว่าลายมือหมอ)
ประมาณว่าเธอๆเราขอลอกการบ้านเธอหน่อยดิ แล้วก็ทำตาปริ่มๆ ประมาณว่าน่าสงสารมากกกก เราก็ตอบว่า "ไม่" เค้าก็งั้นไม้เด็ดออกมา ไม่เด็ดที่ว่านี้คือ "ถ้าเค้าโตขึ้น ทำงาน มีเงินเดือน เค้าจะพาเธอไปทำคิ้วนะ" เท่านั้นแหละเรานี้ยิ้มออกเลย แต่ก็ยังไม่ใจอ่อนนะ เค้าก็พูดต่อมาอีกว่า "ไม่งั้นผมไม่จบแน่" เท่านั้นแหละฉันก็ให้เค้าลอกเพราะกลับเพื่อนเรียนไม่จบ เพราะฉันให้ความสำคัญกับการเรียนเอามากๆ
            ชีวิตวัยมัธยมต้นของเราก็คงเหมือนวัยเรียนทั่วๆไป มีเฮฮาบ้าง ดราม่าบ้าง โดนแกล้งบ้าง ก็เป็นความทรงจำที่มานึกถึงตอนโตก็ขำโคตรๆ จนเรากับเค้าก็เรียนจบมัธยมปีที่3 จากนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย เราได้เข้าเรียนที่อาชีวะแห่งหนึ่งก็ใช้ชีวิตตามปรกติ เหมือนวัยรุ่นทั่วไป สมัยอยู่อาชีวะเราก็มีแฟนคนแรกตอนปวส.1 คบกัน 6เดือนก็เลิกกัน เพราะผู้ชายเจ้าชู้มากกกก และเราก็ไม่เคยมีแฟนเลยยังไม่รู้จะทำยังไง อยากเลิกก็เลิก แต่ไม่นานเราก็มาคบกับเพื่อนของแฟนคนแรกเรา เค้าเป็นผู้ชายที่ไม่ดีเท่าไหร่อยู่ในวงการไม่ดี จนเราทุ่มเงินเยอะพอสมควรจนฉุดเค้าขึ้นมาได้ก็คบกันมาเกือบ2ปี เค้าก็ไม่ทำงานที่ต่างจังหวัด เราก็ยังติดต่อกันเหมือนเดิมนะ แต่จู่ๆเค้าก็หายไป โทรไปก็ไม่รับ ที่ทำงานก็ไม่รับ สไกด์ไปก็ให้นั่งมองว่าทำงานอยู่ สุดท้ายเค้าไม่รับสายเราอีกเลย จนวันนึงเรานั่งทำงานในที่ทำงานก็เลยใช้คอมบริษัทเข้า Facebookเค้า ลองใส่รหัสไปเรื่อยจนเข้าได้ก็พร้อมว่า facebook ถูกเปิดอีกเครื่องอยู่ ก็เหมือนเรานั่งดูเค้าคุยกันในแชท คือเค้าคุยกับผู้หญิงอื่นบอกรัก บอกว่าจะไปหา ชวนผู้หญิงมาอยู่ด้วย คือเราได้คำตอบแล้วว่าทำไมเค้าถึงหายไป คือหายไปไม่บอกเลิกเราสักคำ ให้เราคิดไปเองว่าเค้าเป็นอะไรหรือเปล่า... จนวินาทีสุดท้ายเค้าก็ไม่รับสายเรา จนเราได้แต่ส่งข้อความไปว่า ทีหลังถ้าจะเลิกกันก็บอกด้วย ให้กล้าๆเหมือนตอนบอกรักหน่อย นี่เป็นข้อความสุดท้ายที่เราได้คุยกัน
             จากแฟนคนที่2 เราก็ก้าวเข้ามาในชีวิตการทำงานกับเรียนรามไปด้วย คือทำงานๆๆๆๆๆ แล้วก็นั่งเพ้อในเฟส คือชีวิตนี้มาโคตรดร่าม่าอะไรอย่างนี้ จนรู้สึกอยากเปลี่ยนตัวเองใหม่ และก็กับมาให้เวลาตัวเองมากขึ้น มาแต่งตัว มารักษาสุขภาพ มาตั้งใจหาเงิน ตั้งใจดูแลครอบครัวแม่กับน้อง แล้ววันนึงเราก็ขอหัวหน้าหยุดวันเสาร์เพื่อมันจะได้ต่อวันอาทิตย์เลย เลยชวนเพื่อนไปเที่ยวฉะเทริงเทรา ไปวัดหลวงพ่อโสธร คือเดินทางโดยรถไฟ คือก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แล้วก็ลง Facebook IG ตามประสา
              กลับจากเที่ยวมาพักผ่อนจู่ๆก็มีการเตือนจากเฟส มีผู้ชายคนนึงเม้นใต้รูปถามเพื่อนเราว่า "เธอถ่ายรูปกับใครหน้าตาคุ้นๆ" ซึ้งผู้ชายคนนั้นก็คือเพื่อนสมัยม.3ที่ชอบล้อเลียนเรา เราก็รู้สึกแปลกใจปนสงสัยนะว่าจำเราไม่ได้จริงเหรอ ก็เลยไปเม้นต่อว่า "นายจำเราไม่ได้จริงๆเหรอ เรา....ไง"  จากนั้นเราก็คุยกันผ่านทางแชทซักพักนึงจนถึงวันเกิดฉัน คือเค้าตัดต่อรูปเค้ากับเค้กวันเกิดส่งมา HBD ทางFB เรายอมรับเลยว่าเราประทับใจเค้ามาก ถึงขนาดขอเค้าเป็นแฟน (เราเป็นผู้หญิงที่ขอผู้ชายคบ) เค้าก็งงๆ ไม่ได้ตกลงอะไร เราก็คุยกันบ่อยขึ้นจนเรามีความรู้สึกขี้เกียจพิมพ์ เลยขอเบอร์โทรเค้าซะเลย (เราเป็นผู้หญิงที่ขอเบอร์ผู้ชายก่อน) เค้าก็ไม่ยอมให้ เค้ากลับถามเราว่า "เธอคิดดีแล้วเหรอที่จะเป็นแฟนกับเรา เราเป็นคนไม่ดีนะ เธอไม่ได้เจอเรามาตั้งหลายปีเธอไม่รู้หรอกว่าผู้ชายอย่างเรา ยิ้มแค่ไหน" เราก็ตอบเค้ากลับไปว่า "เราจะคบคนปัจจุบันไม่ใช่คนในอดีต" แล้วเราก็ตัดสินใจส่งเบอร์เราให้เค้าไป (เราให้เบอร์ผู้ชายก่อนค่ะ) เค้าก็ยังไม่โทรหาเราเลย เค้าก็ยังคนใน FB ในไลน์ตามเดิม แต่เราก็ได้รู้ความเป็นมากันมากขึ้นในเวลาช่องว่างที่หายไปที่เราไม่เจอกัน ซึ้งฉันอึ้งกับสิ่งที่ตัวเองรับรู้มามาก แต่ฉันก็ขอยินดีที่จะนับ 1 ใหม่กับเค้า ขอให้เราสองคนลืมอดีตที่เลวร้ายแล้วก้าวใหม่ไปพร้อมๆกัน ไม่นานก็ถึงวันเกิดเค้าเพราะมันห่างกันแค่เดือนเดียว เราก็ส่งภาพเรากับเค้าพร้อมเค้กวันเกิดไปอวยพร จนเพื่อนๆสมัยเรียนแซว สุดท้ายเราก็คบกันเป็นแฟนในที่สุด แรกๆของการเป็นแฟนของเรามีความสุขมาก คือทุกคนต้องอิจฉาในความน่ารักที่เราทำให้กัน แต่นานๆวันเข้าก็เริ่มมีงานเข้ามาก้าวก่ายเพราะเราทำงานในองค์กรใหญ่ที่ต้องพบคนมากหน้าหลายตา ส่วนเค้าก็ทำงานอีกทีนึงเป็นช่างธรรมดาที่สมุทรสาคร นานวันๆงานก็ดึงเราห่างออกจากกัน เราว่าง เค้าไม่ว่าง สุดท้ายเดือนถึง2เดือนเราจะได้เจอกันครั้งนึง แล้วเค้าก็เริ่มหึงเราเวลาเราอัฟรูปไปกินงานเลี้ยง ไปเที่ยวกับเพื่อนๆบ้าง จนเข้าตั้งคำถามกับเราว่า " รู้สึกว่าคุณจะมีความสุขมากเลยนะ กับอาหารดีๆ ชุดแพงๆ รถเก๋งคันใหญ่ ผมไม่มีปัญญามีให้คุณได้" จนมันจะจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ทำให้เรามีปากเสียงกัน แต่เราก็เคลียร์กันลงที่เราเป็นฝ่ายง้อเค้าตลอด และก็เป็นฝ่ายไปหาเค้าที่ๆเค้าทำงาน (ต่างจังหวัด) อาทิตย์ละครั้ง เวลาออกงาน ไปไหนมาไหนก็จะไม่อัฟเฟส หรือไม่ถ่ายรูปเลย คือเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย อะไรๆหลายๆอย่างก็เหมือนจะดีขึ้น พอปีใหม่เค้าก็ชวนเรากลับบ้านที่ต่างจังหวัด คือตอนแรกเราก็ลางานไม่ได้ เลยบอกเค้าว่าไปก่อนเลยเด๋วนั่งเครื่องตามไป  เค้าก็โมโหบอกว่าถ้าไม่ไปพร้อมกันก็ไม่ต้องไป เราก็เลยตัดสินใจขาดงานเพื่อกลับต่างหวัดกับเค้า ซึ่งเส้นทางเกือบ 800 กิโลในช่วงเทศกาลมันเป็นอะไรที่โหดมากสำหรับฉันเพราะต้องนั่งอัดไปรถตู้ คือขยับตัวไม่ได้ ฉันก็บ่นทุก10นาที คือขนงานไปทำด้วยโน๊ตบุ๊คเอกสารเต็มไปหมด เค้าเป็นคนถือหมดเรานั่งสบายมากถ้าเทียบกับเค้า บ่นว่าเมื่อยขาเขาก็นวดให้ คือน้ำตาซึมอ่ะ เพิ่งรู้สึกว่าความรักมันเป็นแบบนี้ อากาศที่ต่างจังหวัดหนาวมากคือเรายิ้มไม่เอาเสื้อแขนยาวไปเพราะกรุงเทพร้อนเวอร์ เค้าก็ถอดแจ็คเก็ตให้ คือเค้าใส่แค่เสื้อกล้ามตัวเดียว คือซึ้งX2 เป็นอย่างนี้จนถึต่างจังหวัด แล้วที่ต่างจังหวัดบ้านเค้าที่ยังสร้างไม่เสร็จ เสร็จทางเข้าบ้านขอบอกไว้เลยว่ามันกันดานมาก แต่ฉันกับใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอาทิตย์มีความสุขมากครอบครัวเค้าน่ารัก พ่อ แม่ พี่ชาย เค้าใจดีมาก  คือเข้าใจคำว่าครอบครัวเป็นยังไง ชาวบ้านแถวนั้นก็วนเวียนมาทักทาย คืออยากเห็นหน้าว่าที่สะใภ้บ้านนี้ว่างั้น คือความรู้สึกฉันตอนนั้นคิดว่าผู้ชายคนนี้ที่ฉันจะรักจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต พอกลับมาจากบ้านต่างจังหวัด ฉันก็พาเค้ามาเจอแม่ แล้วก็พี่สาวฉัน แต่ทุกคนไม่ค่อยต้อนรับเค้าเท่าไหร่ เพียงเพราะไม่จน และฉันก็ไม่ได้ปรึกษาใครเลยก่อนที่จะคบเค้า แม่นี่ร้องไห้ใหญ่เลย คือน้อยใจที่ฉันไม่เคยบอกแม่ จนแฟนเค้ารับปากแม่เราว่าวันเกิดเราปีนี้เค้าจะมาหมั้น สินสอดอาจไม่เยอะแต่มันคือทั้งหมดที่เค้ามี แม่เราก็เลยลดทิฐิลง ต่างจากบรรดาพี่สาวฉันที่ยังไงก็ไม่ยินดีด้วย เราก็คบกันไปตามที่เคยเป็นแต่ก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้นเพราะเค้าไม่มีเวลาให้เราเลย โทรไปก็ไม่รับ ไม่มีโทรกลับ นานๆเข้าเราก็ทนไม่ไหว ทั้งที่ก็รู้อยู่ที่เค้าหายไปเค้าไปทำงานแต่เราเหงาอ่ะ ผู้หญิงเหงาเข้าใจฟิวป่ะ คือฉันมีแฟนแต่เหมือนไม่มีไรงี้ แต่ฉันก็ยังไม่ถึงขึ้นบอกเลิกนะ เพราะรอพิสูจน์ครั้งสุดท้ายคือวันเกิดฉัน ว่าเค้าจะทำตามที่พูดไว้กับแม่หรือเปล่า เพราะผู้ใหญ่เค้าเตรียมเชิญแขกเตรียมงานแล้ว คือเราก็หวังให้เค้ามาตามที่พูด..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่