ซาชิมิ ครั้งที่ 1 เมืองฮิโรชิมา
ซาชิมิ ครั้งที่ 2 เมือง โอกายามา โอโทโร (มั้ง) ชูโทโร (มั้ง)
ซาชิมิ ครั้งที่ 3 เมือง โอซากา โอโทโร (มั้ง) ชูโทโร (มั้ง) มากูโระ
ไปญี่ปุ่นช่วงสงกรานต์ เจอนักท่องเที่ยวชาวจีนเยอะมากๆ ส่วนพี่ไทยก็เยอะแต่เทียบกับพี่จีนแล้วถือว่านิดเดียว ไปญี่ปุ่นครั้งนี้ไปแถบกันไซ
ช่วงที่พักอยู่ที่ฮิโรชิมา ข้างโรงแรมเป็นห้างอิเซตัน ก็ได้แวะไปชมซูเปอร์เพื่อดูอาหารต่างๆ ตามประสาคนชอบทำอาหาร ไปติดใจเนื้อปลาดิบต่างๆ ที่เตรียมไว้อย่างดีในแพ้ก สำหรับไปหั่นทานที่บ้าน มีปลา ทูนา ปลาเนื้อขาว น่าจะเป็นพวก ฮามาจิ กระพงแดง (Tai) และปลาเนื้อขาวอื่นๆ ที่ไม่รู้จักเพราะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก และปลาแซลมอน ก็ได้ความคิดว่า ทำไมไม่ลองซื้อ ปลาดิบพวกนี้ ไปหั่นทานในห้องที่พักดู เพราะจัดเป็นอาหารที่ทำง่ายๆ หั่นแล้วทานได้ทันที
จัดการไปซื้อเขียง มีด ตะเกียบ และ ถ้วยน้ำจิ้ม มาจากร้าน Daiso เดิมเรียกกันว่าร้าน 100 เยน แต่ตอนนี้เป็นร้าน 108 เยนไปแล้ว เพราะต้องจ่ายแวต 8% ด้วย จ่ายไป 432 เยน ประมาณ 140 บาท
ตอนเย็นประมาณ 1 ทุ่ม แวะไปที่ซูเปอร์จัดการซื้อเนื้อปลามา 3 ชนิด ปลาทูนา (เนื้อสีแดง) และ ปลาเนื้อสีขาว อีก 2 ชนิด พร้อมกับซื้อโชยุสำหรับปลาดิบ วาซาบิ และ ต้นไควาเระ (ถั่วงอกหัวไชเท้า) มาทานแทนหัวไชเท้า (ไม่มีปัญญาหั่นหัวไชเท้า)
ไควาเระ ถั่วงอกหัวไชเท้า รสแบบหัวไชเท้า
กลับมาที่ห้อง แกะเนื้อปลามา เอาทิชชูชับที่เนื้อปลาให้แห้ง หั่นเนื้อปลาวางบนเขียง
มากูโระ หรือ ทูนา
ปลาเนื้อขาว (ไม่รู้ชื่อ)
ปลาเนื้อขาว (ไม่รู้ชื่อ)
หั่นเนื้อปลา วางบนเขียง พร้อมกับ ผักไอคาเระ วาซาบิ (แบบหลอด)
เนื้อปลาสด รสหวาน อร่อยมาก ถือได้ว่า ประสพความสำเร็จ ซื้อปลาดิบจากห้างมาหั่นทานเอง ส่วนราคาเดาว่า น่าจะถูกกว่า แต่ ตามร้านอาหาร จะหั่นปลาได้สวยงามกว่ามาก
เพิ่มรสชาติปลาดิบด้วยการจิบเหล้าสาเกของฮิโรชิมาไปด้วย
พอย้ายไปเมืองโอกะยามา โรงแรมอยู่ใกล้กับห้างเหมือนกัน โฉบไปดูซูเปอร์อีก คราวนี้ไปเจอปลาทูนาเกรดดี เดาว่า น่าจะเป็นพวก โอโทโร ชูโทโร เพราะว่า มีราคาสูงมาก ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าทำซาชิมิทานเองได้ ขอชิมปลาแพงหน่อย
จัดการซื้อปลาทั้ง 2 แบบ มา เพราะอยากชิมดู พร้อมกับซื้อปลาเนื้อขาวมาอีก 1 แพ้ก
ปลามากูโระ ราคาสูง 2300 เยน/100 กรัม เนื้อปลานิ่ม มัน ไม่มีกล้ามเนื้อ
ถัดมาน่าจะเป็นปลาเกรดรองมานิดนึง ราคา 1500 เยน/100 กรัม
ปลาเนื้อขาว เดาว่าเป็นพวกปลา สีกุน
ปลามากูโระทั้ง 2 ชนิด อร่อยมาก แบบแรกราคาแพงสุด เนื้อนิ่มมัน แบบที่ 2 เนื้อนิ่มแต่ความมันสู้แบบแรกไม่ได้ ปลาดิบทั้ง 2 แบบ แบบละประมาณ 100 กรัม ไปทานตามร้านน่าจะราคาสูง
ส่วนปลาเนื้อขาว ปลาสด รสหวาน ไช้ได้ อร่อย
ปลาดิบครั้งที่ 3 ที่เมืองโอซากา
ครั้งนี้ ไปที่เมืองนารา ไปเจอร้านทำมีดขาย เลยไปซื้อมีดหั่นปลาดิบด้านเล็กมา 1 ด้าม เพราะว่ามีดราคาถูก หั่นแล้วเนื้อช้ำ
แวะไปที่ซูเปอร์ที่ห้าง ไดมารู จัดการซื้อปลาดิบ มากูโระ มาอีก 3 แบบ น่าจะเป็น โอโทโร ชูโทโร และ มากูโระ
ปลาราคา 1980 เยน/100 กรัม เป็นส่วนท้อง ไขมันเยอะมาก
ปลาราคา 1580 เยน/100 กรัม
มากูโระ ราคา 598 เยน/100 กรัม
ปลาทั้ง 3 แบบ น้ำหนักรวมประมาณ 300 กรัม ใช้มีดสำหรับหั่นปลาดิบหั่น ได้เนื้อปลาสวยงาม เนื้อปลาไม่ช้ำ
สรุปว่า เนื้อปลาดิบตามห้างทั้งหลายนี้ คุณภาพดีมาก ปลาสด ทางห้างเตรียมปลามาอย่างเลิศ
ซื้อเนื้อปลามาหั่นทานเอง ด้วยความอยากรู้ ได้ทานพวกปลาทูนา-มากูโระ ส่วนที่มีไขมันเยอะ
ส่วนปลาแซลมอนนั้น ไม่ได้ซื้อมาทาน ทั้งๆ ที่ราคาถูกกว่าที่ประเทศไทยมาก เนื่องจากหาทานที่เมืองไทยได้ง่ายๆ คุณภาพก็ไม่ได้แตกต่างกัน
ส่วนเรื่องราคานั้น คงตอบไม่ได้ แต่เดาว่า น่าจะมีราคาถูกกว่าไปทานตามร้านอาหาร แต่ตามร้านเขาจะเตรียมปลา ซาชิมิได้สวยงามมาก
ถ้าไปโตเกียว จะไปซื้อปลาที่ตลาดปลา Tsukiji มาทำซาชิมิทานเอง น่าจะได้ปลาที่มีคุณภาพสูงกว่าที่ย่านกันไซเยอะ
สวัสดี
ไปหั่น ปลาดิบ - ซาชิมิ ทานที่ญี่ปุ่น
ซาชิมิ ครั้งที่ 2 เมือง โอกายามา โอโทโร (มั้ง) ชูโทโร (มั้ง)
ซาชิมิ ครั้งที่ 3 เมือง โอซากา โอโทโร (มั้ง) ชูโทโร (มั้ง) มากูโระ
ไปญี่ปุ่นช่วงสงกรานต์ เจอนักท่องเที่ยวชาวจีนเยอะมากๆ ส่วนพี่ไทยก็เยอะแต่เทียบกับพี่จีนแล้วถือว่านิดเดียว ไปญี่ปุ่นครั้งนี้ไปแถบกันไซ
ช่วงที่พักอยู่ที่ฮิโรชิมา ข้างโรงแรมเป็นห้างอิเซตัน ก็ได้แวะไปชมซูเปอร์เพื่อดูอาหารต่างๆ ตามประสาคนชอบทำอาหาร ไปติดใจเนื้อปลาดิบต่างๆ ที่เตรียมไว้อย่างดีในแพ้ก สำหรับไปหั่นทานที่บ้าน มีปลา ทูนา ปลาเนื้อขาว น่าจะเป็นพวก ฮามาจิ กระพงแดง (Tai) และปลาเนื้อขาวอื่นๆ ที่ไม่รู้จักเพราะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก และปลาแซลมอน ก็ได้ความคิดว่า ทำไมไม่ลองซื้อ ปลาดิบพวกนี้ ไปหั่นทานในห้องที่พักดู เพราะจัดเป็นอาหารที่ทำง่ายๆ หั่นแล้วทานได้ทันที
จัดการไปซื้อเขียง มีด ตะเกียบ และ ถ้วยน้ำจิ้ม มาจากร้าน Daiso เดิมเรียกกันว่าร้าน 100 เยน แต่ตอนนี้เป็นร้าน 108 เยนไปแล้ว เพราะต้องจ่ายแวต 8% ด้วย จ่ายไป 432 เยน ประมาณ 140 บาท
ตอนเย็นประมาณ 1 ทุ่ม แวะไปที่ซูเปอร์จัดการซื้อเนื้อปลามา 3 ชนิด ปลาทูนา (เนื้อสีแดง) และ ปลาเนื้อสีขาว อีก 2 ชนิด พร้อมกับซื้อโชยุสำหรับปลาดิบ วาซาบิ และ ต้นไควาเระ (ถั่วงอกหัวไชเท้า) มาทานแทนหัวไชเท้า (ไม่มีปัญญาหั่นหัวไชเท้า)
ไควาเระ ถั่วงอกหัวไชเท้า รสแบบหัวไชเท้า
กลับมาที่ห้อง แกะเนื้อปลามา เอาทิชชูชับที่เนื้อปลาให้แห้ง หั่นเนื้อปลาวางบนเขียง
มากูโระ หรือ ทูนา
ปลาเนื้อขาว (ไม่รู้ชื่อ)
ปลาเนื้อขาว (ไม่รู้ชื่อ)
หั่นเนื้อปลา วางบนเขียง พร้อมกับ ผักไอคาเระ วาซาบิ (แบบหลอด)
เนื้อปลาสด รสหวาน อร่อยมาก ถือได้ว่า ประสพความสำเร็จ ซื้อปลาดิบจากห้างมาหั่นทานเอง ส่วนราคาเดาว่า น่าจะถูกกว่า แต่ ตามร้านอาหาร จะหั่นปลาได้สวยงามกว่ามาก
เพิ่มรสชาติปลาดิบด้วยการจิบเหล้าสาเกของฮิโรชิมาไปด้วย
พอย้ายไปเมืองโอกะยามา โรงแรมอยู่ใกล้กับห้างเหมือนกัน โฉบไปดูซูเปอร์อีก คราวนี้ไปเจอปลาทูนาเกรดดี เดาว่า น่าจะเป็นพวก โอโทโร ชูโทโร เพราะว่า มีราคาสูงมาก ตอนนี้มั่นใจแล้วว่าทำซาชิมิทานเองได้ ขอชิมปลาแพงหน่อย
จัดการซื้อปลาทั้ง 2 แบบ มา เพราะอยากชิมดู พร้อมกับซื้อปลาเนื้อขาวมาอีก 1 แพ้ก
ปลามากูโระ ราคาสูง 2300 เยน/100 กรัม เนื้อปลานิ่ม มัน ไม่มีกล้ามเนื้อ
ถัดมาน่าจะเป็นปลาเกรดรองมานิดนึง ราคา 1500 เยน/100 กรัม
ปลาเนื้อขาว เดาว่าเป็นพวกปลา สีกุน
ปลามากูโระทั้ง 2 ชนิด อร่อยมาก แบบแรกราคาแพงสุด เนื้อนิ่มมัน แบบที่ 2 เนื้อนิ่มแต่ความมันสู้แบบแรกไม่ได้ ปลาดิบทั้ง 2 แบบ แบบละประมาณ 100 กรัม ไปทานตามร้านน่าจะราคาสูง
ส่วนปลาเนื้อขาว ปลาสด รสหวาน ไช้ได้ อร่อย
ปลาดิบครั้งที่ 3 ที่เมืองโอซากา
ครั้งนี้ ไปที่เมืองนารา ไปเจอร้านทำมีดขาย เลยไปซื้อมีดหั่นปลาดิบด้านเล็กมา 1 ด้าม เพราะว่ามีดราคาถูก หั่นแล้วเนื้อช้ำ
แวะไปที่ซูเปอร์ที่ห้าง ไดมารู จัดการซื้อปลาดิบ มากูโระ มาอีก 3 แบบ น่าจะเป็น โอโทโร ชูโทโร และ มากูโระ
ปลาราคา 1980 เยน/100 กรัม เป็นส่วนท้อง ไขมันเยอะมาก
ปลาราคา 1580 เยน/100 กรัม
มากูโระ ราคา 598 เยน/100 กรัม
ปลาทั้ง 3 แบบ น้ำหนักรวมประมาณ 300 กรัม ใช้มีดสำหรับหั่นปลาดิบหั่น ได้เนื้อปลาสวยงาม เนื้อปลาไม่ช้ำ
สรุปว่า เนื้อปลาดิบตามห้างทั้งหลายนี้ คุณภาพดีมาก ปลาสด ทางห้างเตรียมปลามาอย่างเลิศ
ซื้อเนื้อปลามาหั่นทานเอง ด้วยความอยากรู้ ได้ทานพวกปลาทูนา-มากูโระ ส่วนที่มีไขมันเยอะ
ส่วนปลาแซลมอนนั้น ไม่ได้ซื้อมาทาน ทั้งๆ ที่ราคาถูกกว่าที่ประเทศไทยมาก เนื่องจากหาทานที่เมืองไทยได้ง่ายๆ คุณภาพก็ไม่ได้แตกต่างกัน
ส่วนเรื่องราคานั้น คงตอบไม่ได้ แต่เดาว่า น่าจะมีราคาถูกกว่าไปทานตามร้านอาหาร แต่ตามร้านเขาจะเตรียมปลา ซาชิมิได้สวยงามมาก
ถ้าไปโตเกียว จะไปซื้อปลาที่ตลาดปลา Tsukiji มาทำซาชิมิทานเอง น่าจะได้ปลาที่มีคุณภาพสูงกว่าที่ย่านกันไซเยอะ
สวัสดี