[CR] Backpack ไป "เยี่ยม" 5 วัน 5 คืน ในถิ่นทุรกันดาร ไทย-ลาว (แก่นท้าว-บ่อแตน-ท่าลี่-ด่านซ้าย-ลมโล)

เพิ่งเคยรีวิวครั้งแรก ผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยนะคะ เอาไอดีพี่สาวมาตั้งกระทู้อีกตะหาก -*-

ก่อนอื่นต้องออกตัวไว้ก่อนนะคะ ว่าทริปนี้ จุดประสงค์หลักจริงๆคือไป "เยี่ยม"
สถานที่ท่องเที่ยวก็เล็กๆ ไม่ได้เด่นดัง
กระทู้นี้ไม่เน้นที่สวย ภาพสวย ประหยัดงบ ฯลฯ หรือหวังให้คนอื่นไปตาม
แค่อยากนำเสนอมุมมองใหม่ๆ สิ่งที่พบเจอระหว่างเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง
เพราะจุดหมายปลายทางคือ........ความผูกพัน

ขอท้าวความนิดนึง เพราะทริปนี้เกิดจากคำสัญญาทั้งหมด

1. เมื่อปีที่แล้ว ได้เริ่มทำงานที่แรกหลังจากเรียนจบ ที่บ.รับเหมาก่อสร้างคอนโดแห่งหนึ่ง
ได้รับหน้าที่เป็นโฟร์แมนดูแลลูกน้องที่เป็นช่างสีชาวลาวกลุ่มหนึ่ง รวมๆแล้วก็ 19 คน
ผูกพันมาก ทำงานด้วยกัน โดนหัวหน้าด่าด้วยกัน มีอะไรพูดคุยดีๆ ไม่เคยดุไม่เคยว่า
ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายไปไซต์ใหม่บ้าง ลาออกกลับไปทำไร่ที่บ้านบ้าง
จนสุดท้ายที่ จขกท.ลาออกมาเมื่อสิ้นเดือน ก.พ. และได้ให้สัญญากับช่างกลุ่มนี้ไว้ว่า
"เดี๋ยวจะไปเยี่ยมที่บ้านนะ"

2. สมัย จขกท.เรียนอยู่ปี 3 มีโอกาสได้ทำค่ายอาสา สร้างอาคารเอนกประสงค์ที่รร.บ้านน้ำหมัน อ.ด่านซ้าย จ.เลย
ค่ายนี้เป็นค่ายใหญ่ มีนิสิตปี1-ปี3 ไปประมาณ 100 กว่าคน ระยะเวลาที่ค่ายรวม 17 วัน (ไม่รวมกลุ่มที่มาเคลียร์พื้นที่+ทำฐานรากอาคารก่อน 5 วัน)
จึงต้องให้ชาวบ้านละแวกนั้นมารับหน้าที่เป็น "พ่อ-แม่บุญธรรม" ของสมาชิกในค่าย ดูแลส่วนที่ขาดเหลือของนิสิต (ไม้แขวนเสื้อ, ที่นอน, ผ้าห่ม, หมอนข้าง ฯลฯ)
อัตราส่วนก็ 1 บ้าน ต่อนิสิต 1-3คน บางวันพ่อแม่บุญธรรมเหล่านี้ก็จะนำอาหารพื้นบ้านมาสมทบให้ในมือเที่ยง (ค้างคาวทอด, นกกระจาบทอด, ตำถาด ฯลฯ)
พอดี จขกท. เป็นลูกคนเดียว เลยค่อนข้างจะสนิทกับพ่อแม่บุญธรรมมาก อยู่ในค่ายท่านก็เอาขนม,ผลไม้มาให้ วันสุดท้ายของค่ายท่านก็พาไปเที่ยว
ก่อนจากกันก็ได้สัญญาเอาไว่เช่นกันว่า "เดี๋ยวจะกลับมาเยี่ยมแน่นอนค่ะ"


เมื่อฤกษ์งามยามดี วันหยุดยาวมาถึง เลยถือโอกาสช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา กลับไปทำตามสัญญาซะเลย


เริ่มแรก ว่าจะไปเยี่ยมพ่อแม่บุญธรรมก่อน (ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย) การเดินทางต้องขึ้นรถ กรุงเทพ-หล่มสัก ไปลงที่บ้านน้ำพุง แล้วให้พ่อเอาปิคอัพลงมารับ ขึ้นเขาไปบ้านน้ำหมัน แต่เนื่องด้วยเป็นวันหยุดยาว ตั๋วรถไปหล่มสักเต็มหมดทุกบริษัท จึงเบนเข็มไปประเทศลาวก่อน เส้นทางที่ใกล้ที่สุดคือนั่งรถสายกรุงเทพ-ท่าลี่ แต่!!! เต็มหมดอีกเช่นกันครับพี่น้อง เลยต้องทำใจนั่งไปลงตัวเมืองเลย แล้วค่อยต่อรถไปด่านท่าลี่เอา

คืนวันที่ 10 เลิกงาน 17.30 รีบบึ่งรถกลับบ้าน จัดกระเป๋าด้วยความเร็วเสียง อาบน้ำอาบท่า แล้วให้ขุ่นพ่อไปส่งรถไฟฟ้าเพื่อไปลงหมอชิตให้ทันรถออก 23.09 น. เมื่อไปถึงก็พบกับภาพนี้...



หมอชิตคนเยอะไปอี๊กกกกกก
เพื่อนร่วมทางที่วางแผนไว้ตอนแรกมีประมาณ3-4คน พอใกล้วันเดินทางก็พร้อมใจกันชิ่ง เหลือแค่ จขกท.กับแฟน ไปกันเปลี่ยวๆ 2 คน TT

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์งามยามดีรถออก เกือบ 5 ทุ่มครึ่ง เลทไปครึ่งชม. รถที่ใช้เดินทางเป็นรถปอ.4 ของบริษัทแอร์เมืองเลย (ขออภัยที่ไม่มีรูป ตอนแรกไม่ได้กะว่าจะรีวิว =/\=) ตอนแรกก็หวั่นๆเพราะแฟนไปดูรีวิวของบริษัทนี้มา ค่อนข้างจะเป็นไปในทางลบ รถเก่าบ้าง รถเสียบ้าง น้ำแอร์หยดบ้าง บริการแย่บ้าง ฯลฯ แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้แย่นะ นั่งสบายแอร์เย็น แต่ผ้าห่มผืนเล็กไปหน่อย ค่าตั๋ว เกือบๆ 500

รถจอดระหว่างทางประมาณ 3-4 สถานี กว่าจะถึงที่หมายสุดท้าย คืออออออ



ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณ 11 โมงได้ นานกว่าที่คิดนะเนี่ย
หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ไปหาสองแถว เพื่อต่อรถไปยังอ.ท่าลี่ วินรถก็อยู่ในสถานีขนส่งนั่นแหละจ้ะ
มีป้ายบอกว่ารถออกเที่ยงครึ่ง...เยี่ยมเลยจ้ะ ไปนั่งกินข้าวกะเพรารอจนอิ่มได้จานนึง หลังจากหิวมาทั้งคืน



หน้าตาก็เป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ทั่วไป



ลืมบอกไปว่าทริปนี้ ไม่มี DSLR หรือกล้องระดับมืออาชีพใดๆทั้งสิ้นค่ะ มีแค่ Samsung Galaxy S5 ของ จขกท. และ iphone5 ของคุณแฟน

จากตัวเมืองเลยถึงอ.ท่าลี่ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ รถสองแถวมาส่งที่ท่ารถสำหรับขึ้นรถไปด่านอีกทีนึง



ท่ารถเล็กๆ เปลี่ยวๆ เหงาๆ กับสองแถวคันเก่าๆ
รอบที่จขกท.ไป ผู้โดยสารว่าเยอะแล้ว สัมภาระผู้โดยสารเยอะกว่าหลายเท่า!!
ขอลงรูปทำร้ายคุณแฟนหน่อย แต่เที่ยวนี้ จขกท.กับคุณแฟนยืนโหนท้ายสองแถวไปคนละข้างจริงๆ
ยืนด้านในไม่ได้ เพราะเต็มไปด้วยกระเป๋าเสื้อผ้า+กระสอบอาหาร+ลังน้ำดื่ม+ผลไม้ + ฯลฯ



ยืนไปเสียวไป เพราะเป็นทางขึ้นเขาชัน โค้งเยอะ มีรถสวนเป็นช่วงๆ

แต่เอาน่ะ ในที่สุดก็มาถึง!!



วิวด้านหลัง



ถึงขั้นตอนนี้ จขกท.ผู้ไม่มีพาสปอร์ต และคุณแฟนซึ่งมีพาสปอร์ตแต่ไม่ได้เอามา จึงได้เดินไปทำเรื่องขอเอกสารผ่านแดนชั่วคราวที่สำนักงานข้างๆด่าน หลักฐานใช้แค่บัตรประชาชน + ค่าธรรมเนียม 20 บาท อยู่ได้ 3 วัน
เสร็จแล้วก็ไปประทับตราที่ซุ้มตรงกลาง



ออกมาเป็นแบบนี้


อันนี้ต้องเซนเซอร์ละ เขิน ><
ปล. เจ้าหน้าที่จะถามละเอียดมากเลย ว่าไปทำอะไร ไปบ้านไหน ไปหาใคร ฯลฯ
เสร็จแล้วก็ขึ้นรถสกายแล็ปข้ามด่านไป หน้าตาเหมือนรถตุ๊กๆ ใส่โช้คล้อหน้ายาวๆยกสูง
ที่นี่เดินข้ามสะพานไปไม่ได้ค่ะ ต้องนั่งรถข้ามไปอย่างเดียว ไปลงด่านฝั่งนู้นเลย ค่ารถ 20 บาทมั้งถ้าจำไม่ผิด







ต้องขออนุญาตพี่คนขับรถว่าจอดแป๊ปนึง ขอถ่ายรูปก่อน อิอิ



น้ำป่าเริ่มมาแล้ว สีเริ่มเปลี่ยน

พอข้ามมาถึงศุลกากรฝั่งลาวนี่ตรวจเข้มกว่าฝั่งไทยอีก ห้ามถ่ายรูป ตรวจเอกสาร ถามละเอียดมากว่าไปไหน ไปยังไง ขอชื่อบุคคลอ้างอิงที่จะไปหาด้วย ฯลฯ เสร็จแล้วก็ขึ้นสามล้อใกล้ๆด่าน บอกว่าไปลงตลาดแก่นท้าว

วิวข้างทางคลาสสิคดีอ่ะ ชอบมาก รู้สึกแปลกๆเหมือนกันเพราะที่นี่วิ่งชิดขวา จขกท.เองก็บ้านนอกมาก ไม่เคยออกนอกประเทศ



ข้างทางยังโล่งๆ นานๆจะเจอบ้าน โกดังเก็บอาหารสัตว์ มีฝูงวัวผ่านบ้างบางช่วง

ถึงตลาดแก่นท้าวก็บ่ายแก่ๆ ประมาณ 15.30 น. วิวตลาดเล็กๆมีภูเขาอยู่ข้างหลัง....สวยดีนะ



คุณแฟนจัดก่อนเลยจ้ะ



รถที่จะวิ่งเข้าไปยังที่ต่างๆมีน้อยมาก ไม่มีรถสาธารณะวิ่งไปยังจุดต่างๆตายตัว ไม่มีรอบออกรถที่แน่นอน ไม่มีป้ายบอก ต้องไปถามรถที่จอดแถวๆนั้นเองว่าไปไหน ถ้ารถที่จะวิ่งเข้าบ้านไหนมีคนเกือบเด็มแล้วถึงค่อยไป ซึ่งกำหนดเวลาไม่ได้เลย เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอีกวัน....รอรถเกือบครึ่งวัน TT

จุดหมายปลายทางของ จขกท. คือ บ้านวังปูน ซึ่งห่างจากตลาดประมาณ 80 กิโลเมตร....ณ เวลา 16.00 น. รถหมดแล้วจ้ะ TT

สุดท้ายเลยต้องพึ่งเกสเฮาส์หลังตลาด



60000 กีบ = 250 บาทไทย จ้ะ

แต่เรื่องเงินไม่มีปัญหา ที่นี่ใช้เงินบาทหมด

ห้อง 250 บาทเต็มหมดเลย เหลือแต่ห้อง 400 บาท เลยได้อยู่ห้องนี้



มีรหัสไวไฟแปะไว้หน้าห้อง แต่หลุดบ่อยมาก ดีนะที่ตรงนี้ยังมี 3G อยู่ สัญญาณโทรศัพท์เบอร์ไทยยังใช้ได้ดี

ภายในก็กว้างขวางดี มีทีวี แอร์ น้ำอุ่น ตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง เก้าอี้ไม้ ฯลฯ



เก็บข้าวเก็บของเสร็จก็ไปหาของกินกันจ้า าาาาาา

เดินไปใกล้ๆเกสเฮาส์มีร้านอาหารอยู่ 2-3 ร้าน ตัดสินใจเข้าไปร้านนึง
โชคดีที่จขกท.มีพื้นฐานภาษาลาวอยู่ อ่านออกเขียนได้ สำเนียงก็ฟังพอออกอยู่ ใช้บ่อยตอนทำงานกับลูกน้องเก่า
เมนูอาหารก็คล้ายๆบ้านเรา มีเฝอด้วย เป็นก๋วยเตี๋ยวของลาว
แต่ๆๆๆๆ เฝอที่นี่ใช้ซุปเนื้อควาย คุณแฟนเป็นคนไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่พวกวัว, ควาย สุดท้ายเลยได้ไอ้นี่มากิน.....



กะเพราไก่ไข่ดาว กับน้ำเปล่าอีกขวด

เอาไว้แค่นี้ก่อน แค่การเดินทางก็ปาไป 1 วัน 1 คืนเต็มๆละ ถ้าหวังว่าจะเจอการเดินทางเรียบง่าย อาหารอร่อยๆ ที่ท่องเที่ยวสวยๆ แนะนำว่าข้ามไปกระทู้อื่นได้เลยค่ะ ทริปนี้ทรหดจริงๆ

จบคืนนี้ไว้แค่นี้ก่อน หาอะไรเย็นๆกินก่อนนอนเอาแรง โทรบอกลูกน้องให้พรุ่งนี้มารับละ ค่อยว่ากันต่อพรุ่งนี้

ชื่อสินค้า:   เมืองแก่นท้าว, เมืองบ่อแตน-แขวงไซยะบูลี สปป.ลาว + อ.ท่าลี่, อ.ด่านซ้าย จ.เลย + อุทยานแห่งชาติภูลมโล จ.พิษณุโลก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่