แชร์ประสบการณ์ร้านผ้าม่านร้านหนึ่ง (ชื่อขั้นต้นด้วยภาษาอังกฤษดับเบิล 2 ตัว) ที่ชอบเปิดบูธตามงานแฟร์ต่างๆ ช่วงนี้ใครคิดจะติดม่านลองมาแชร์กันดูนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 15 กพ 58 ด้วยความที่กำลังจะย้ายมาอยู่คอนโดเลยไปเดินหาเฟอร์ตามงานแฟร์ต่างๆ พอดีเจอร้านผ้าม่านติดป้ายลดราคา เพื่อนก็เชียร์ว่าม่านถูก ผ้าดี ลองเข้าไปดู ร้านนี้มีผ้าพอสมควร เนื้อผ้ากลางๆ คนเข้าเยอะเหมือนกัน ผมเลยเข้าไปคุย พี่เซลก็เข้ามาแนะนำแบบนั้นแบบนี้ เราก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องผ้าม่านนี่เท่าไร ก็คุยไปเรื่อย เค้าก็แนะนำว่าเอาสีเข้มๆสวย คุยไปคุยมาผมตกลงสีน้ำตาลเข้ม วางมันจำไปครึ่งนึง ด้วยที่ตอนนั้นคิดอะไรไม่ทันก็นัดติดม่านภายในสัปดาห์นั้นเลย
อีกวันช่างก็มาวัดขนาด จะบอกว่าพี่แกวัดเร็วมาก มาถึงผมคุยกับช่างอาคารอยู่หน้าห้อง พี่แกก็เข้าไปวัดคนเดียว ผมว่าจะเข้าไปดู ไม่ทันไรพี่แกออกมาบอกว่า วัดเสร็จแล้ว จะกลับเลย เราก็งง ไม่มีถามว่าม่านจะเอาแบบไหนยังไงเลยหรือ ?? เคยเห็นของเพื่อนช่างเค้ามาถามว่าจะเอากองพื้น หรือลอยจากพื้นเท่าไร นี่มาเร็วไปไว
ต่อมา ผมคุยกับช่างบิ้วอิน ช่างบิ้วอินก็บอกว่าถ้าติดม่าน 2 ชั้น มันจะติดตู้บิ้วอินไม่ได้ต้องขยับตู้หนี แถมพอออกแบบบิ้วอินเสร็จแล้ว ดันได้โทนสีเทาดำ ซึ่งม่านที่เลือกไปเป็นน้ำตาลเข้ม ประกายทอง คิดว่าจะเปลี่ยนม่านที่ระเบียงเป็นม่านม้วนจะกินพื้นที่น้อยกว่า เลยโทรหาร้านม่าน
ผม : พี่ครับ ผมจะขอเปลี่ยนสีม่านหน่อยครับ เพราะว่าสีมันไม่เข้าเฟอร์ผมเลย
ร้าน : อ้าว เราคุยเลือกผ้ากันแล้วไม่ใช่เหรอ บรา บราๆๆๆๆๆ
ผม : คือมันไม่เข้ากับเฟอร์ผมหน่ะครับ
ร้าน : งั้นน้องต้องมาเลือกผ้าใหม่ !!! (เสียงเริ่มเหวี่ยง)
ผม : พี่ไม่มีสมุดแบบเนื้อผ้ามาให้เลือกหรือครับ ผมจะได้เทียบกับสีห้อง
ร้าน : ไม่มีคะ!! มาเลือกที่ร้านมีผ้าเยอะกว่า แต่เดี๋ยวพี่จะไปเปิดบูธที่ร้านก็ไม่มีผ้า น้องตามมาดูที่บูธ ไบเทค!!! บราๆๆๆๆ
ผม : โห! พี่ ผมอยู่ปากเกร็ดจะให้ผมไปใบเทคนี่นะ
ร้าน : ค่ะ
ผม : (อึ้ง) อืมม.. พี่ไปบูธวันไหน
ร้าน : บราๆๆๆ
ผม : เออ จะขอเปลี่ยนม่านระเบียงเป็นม่านม้วนได้ไหมครับ
ร้าน : (เงียบไปแป๊บ) เปลี่ยนทำไมคะ ม่านม้วนแพงกว่านะคะ พี่ต้องทำราคาใหม่ สีผ้ากับแบบก็ตกลงกันไปแล้ว
ผม : (พยายามอธิบาย) คือมันติดบิวอิน บราๆๆๆๆ
ร้าน : งั้นน้องมาคุยกันที่งานดีกว่า รีบๆหน่อยนะคะ!!! (วางสาย)
เฮ่ย ไรฟะ ม่านเป็นหมื่นทำไมคุยไม่เห็นเหมือนตอนแรกเลย แล้วการเปลี่ยนสีผ้านี่มันยุ่งยากขนาดนั้นเลยเหรอ แถมพี่แกไม่คิดเซอร์วิสอะไรซักอย่าง
ผมเลยต้องแก้ปัญหาโดยการออกแบบบิวอินใหม่ เนื่องจากผมออกแบบเอง และเพื่อนผมเป็นโรงงานบิวอินคุยง่ายกว่า
หลังจากนั้น ผมก็ต้องตามไปที่ไบเทค พอผมไปถึงโทรไปให้ผมไปเลือกผ้าเลย แล้วพี่เซลก็มานั่งทำหน้าเซ็ง ปล่อยผมเลือกม่านไป ไม่มีมาคุยมาแนะนำ หรือทำหน้าอยากคุยกับผม หลังจากใช้เวลาเลือกม่านอยู่เดียวประมาณครึ่ง ชม ผมก็เดินไปบอก
ร้าน : น้องไม่เอาม่านม้วนแล้วนะ
ผม : ผมแก้ปัญหาได้แล้ว เอาเป็นตาไก่ละกัน
ร้าน : เอาผ้าลายนี้เหรอ ไม่มีของนะน้อง ต้องสั่งผ้าจากนอก เอาลายนี้แทนไหม ไม่งั้นหลังสงกรานต์เลยนะ
ผม : อืมม .... ลายนี้เข้ากับผนังมากกว่า ผมเอาลายนี้แหล่ะ
ทีนี้ปัญหามาอยู่ที่ผมละ เพราะอย่างที่รู้ว่า เมษาปีนี้ ร้อนนรก!!! แดดแรงได้อีก ในห้องร้อนมาก จนผมไม่สามารถจะนอนได้ เนื่องจากว่าผนังห้องเป็นกระจกรอบด้าน ผมแก้ปัญหาโดย ต้องเอากระดาษหนังสือพิมพ์แปะกันแดด

--- ฝ่างงงงงง ----
แอบเศร้าลงทุนแต่งห้องอย่างดี แต่ต้องมาติดกระดาษหนังสือพิมพ์แบบนี้ ถึงกับจิตตกไปหลายวัน แถมกระดาษแค่นี้ยังไม่พอครับ เทปกาวที่ติดกระจกไป มันติดเป็นคราบเหนียวมาก และไม่กี่วันกระดาษกาวก็กรอบ เพราะอากาศร้อนจัด ผมต้องมานั่งทำความสะอาดคราบพวกนี้อีก (ผมใช้ยาหม่องหนะแหล่ะ ป้ายเข้าไปแล้วเอานิ้วถูๆๆๆ มันออกแฮะ)
ทำไปทำมาห้องนอนผมก็นอนไม่ได้ เพราะมันร้อนมาก แถมไม่มีม่านก็ไม่มีความเป็นส่วนตัวอีก เลยต้องออกมานอนด้านนอกแทนซะงั้น แอบร้องไห้หนักมาก หลังจากนั้นผมพยายามติดต่ออยู่หลายวัน โทรไปไม่รับสาย แต่พอรับสาย
ผม : จะนัดวันติดม่านหน่ะครับ ตกลงว่า 22 ที่ตกลงกันไว้ทันไหม
ร้าน : พี่จัดบูธอยู่ ไม่มีเอกสารเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่โทรบอกนะคะ
วันต่อมา ... พยายามโทรไปหลายรอบ ทั้ง 2 - 3 เบอร์ ในที่สุดก็รับ
ผม : ตกลงว่าติดม่านได้วันไหนครับ
ร้าน : ขอเป็นวันที่ 24 ละกันค่ะ อาจจะทัน ของน้องนี่ม่าน บราๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวถ้ายังไงพี่โทรคอนเฟริมอีกที
ผม : ขอเป็นวันเสาร์ได้ไหม ผมต้องลางาน
ร้าน : โอ๊ยไม่ได้คะ คิวเต็มเลย ไม่งั้นต้องเสาร์ถัดไปเลย
ผม : OK ครับ วันที่ 24 !!##$$
ผมรอจนวันที่ 23 ไม่มีการติดต่อใดๆ กลับมา โทรไปไม่รับสาย จนในที่สุดก็มีคนรับสาย
ผม : ตกลงว่า 24 ม่านติดได้ไหม จะมาช่วงเช้าหรือบ่าย
ร้าน : ออ พี่อยู่ต่างจังหวัด น้องติดต่อช่างติดม่านเลยนะ เบอร์ .....
โทรหาช่าง
ผม : ตกลงม่าน พรุ่งนี้ติดได้ไหม
ช่าง : ผมอยู่หน้างาน น้องโทรหาเซลเลย พี่ผู้หญิงหน่ะ
ผม : ผมโทรแล้ว เค้าให้โทรหาช่างหน่ะครับ
ช่าง : อ้าว ออ งั้นได้ๆ เดี๋ยวผมดูให้คิวตอนเช้า
เช้าวันที่ 24 ช่างก็เข้ามาติดม่าน แต่เป็นเด็กๆมากัน 2 คน มาถึงตั้งหน้าตาติดอย่างเดียว พูดไทยได้ไม่ชัดเท่าไร
ช่างทำท่าจะเจาะผนั่ง หลังจากวัดเสร็จ
ผม : น้องจะเอาม่านทาบก่อนไหม ว่ามันยาวพอดีพื้นหรือเปล่า
ช่างน้อย : เค้าวัดไปแล้ว เท่านี้แหล่ะคับ
แล้วช่างน้อยก็หันไปเจาะกำแพงต่อ หลังจากนั้นก็ติดกันอย่างเร็วมาก
ผม : น้อง ตรงหักมุมนี่มันติดเอียงๆแปลกๆอย่างนี้เหรอ
ช่างน้อย : มันหักมุมเป็นแบบนี้ ทำแบบนี้หมด
ผม : ???
งานที่ได้
1. คุณภาพการตัดเย็บ การตัดเย็บไม่ปราณีตเท่าไร ดูเป็นงานรีบ แต่ช่างที่ตัดเย็บน่าจะมีฝีมือพอสมควร คือดูไกลๆโอเค แต่งานมีทั้งด้ายที่เนาติดเต็มไปหมด ไม่เก็บด้าย ชายผ้ามีโผล่ ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับมีตัดผิด หรือเบี้ยว พอดีผมรีบออกมาทำงานไม่ได้ถ่ายรูปไว้
2. คุณภาพผ้า ผ้าก็ตามที่เลือกไว้ เนื้อผ้าใช้ได้ สีผ้าตรงอยู่
3. งานติดตั้ง วัสดุที่เป็นขารับราว ดูก๊องแก๊งมาก ดูไม่แข็งแรงเท่าไร แต่ว่าตัวราวดูดีกว่าแบบ การเข้าตาไก่ดูคร่าวๆก็โอเค
4. ชายผ้าด้านล่าง ลอยเหนือพื้นขึ้นมาเป็นนิ้ว ซึ่งจริงๆ ผมไม่โอเคเท่าไร แต่... ถ้าให้กลับไปแก้นี่ผมคงแย่ เพราะจำเป็นต้องใช้ม่านมาก เลยต้องทำใจ (ช่าง

)
5. หลังจากติดตั้งเสร็จ รับตัง ช่างน้อย รีบเก็บของไปเลย โดยไม่มีการลองม่าน รูดสิได้ไหม พี่ครับโอเคไหม และตอนทำเลื่อนเตียงออกมา ไม่มีเลื่อนกลับให้ พอมันไปผมอยู่คนเดียว ต้องเลื่อนเตียงกลับเอง ตอนเจาะมีผงปูนลงมาด้านล่าง ถึงตอนเจาะช่างน้อยจะใช้ขวดรองไว้ก็ตาม แต่มันก็ฟุ้งไปทั่ว ไม่มีการเช็ดทำความสะอาดใดๆ ขยะหน้าห้องไม่เก็บกวาด ผมออกมาเก็บกวาดเอง

ปล. เตียงนี่ผมก็เซ็งเหมือนกัน สีมาคนละเรื่องตัวตัวโชว ผมสั่งสีน้ำตาลดำ ออกมาน้ำตาลแดงซะงั้น กำลังประกาศขายครับ
สรุป งานนี้เป็นบทเรียนว่า เลือกร้านม่านผิด จิตตกไปหลายเดือน
[CR] ร้านม่านแห่งหนึ่ง ณ งานเฟอร์นิเจอร์เมืองทอง
อีกวันช่างก็มาวัดขนาด จะบอกว่าพี่แกวัดเร็วมาก มาถึงผมคุยกับช่างอาคารอยู่หน้าห้อง พี่แกก็เข้าไปวัดคนเดียว ผมว่าจะเข้าไปดู ไม่ทันไรพี่แกออกมาบอกว่า วัดเสร็จแล้ว จะกลับเลย เราก็งง ไม่มีถามว่าม่านจะเอาแบบไหนยังไงเลยหรือ ?? เคยเห็นของเพื่อนช่างเค้ามาถามว่าจะเอากองพื้น หรือลอยจากพื้นเท่าไร นี่มาเร็วไปไว
ต่อมา ผมคุยกับช่างบิ้วอิน ช่างบิ้วอินก็บอกว่าถ้าติดม่าน 2 ชั้น มันจะติดตู้บิ้วอินไม่ได้ต้องขยับตู้หนี แถมพอออกแบบบิ้วอินเสร็จแล้ว ดันได้โทนสีเทาดำ ซึ่งม่านที่เลือกไปเป็นน้ำตาลเข้ม ประกายทอง คิดว่าจะเปลี่ยนม่านที่ระเบียงเป็นม่านม้วนจะกินพื้นที่น้อยกว่า เลยโทรหาร้านม่าน
ผม : พี่ครับ ผมจะขอเปลี่ยนสีม่านหน่อยครับ เพราะว่าสีมันไม่เข้าเฟอร์ผมเลย
ร้าน : อ้าว เราคุยเลือกผ้ากันแล้วไม่ใช่เหรอ บรา บราๆๆๆๆๆ
ผม : คือมันไม่เข้ากับเฟอร์ผมหน่ะครับ
ร้าน : งั้นน้องต้องมาเลือกผ้าใหม่ !!! (เสียงเริ่มเหวี่ยง)
ผม : พี่ไม่มีสมุดแบบเนื้อผ้ามาให้เลือกหรือครับ ผมจะได้เทียบกับสีห้อง
ร้าน : ไม่มีคะ!! มาเลือกที่ร้านมีผ้าเยอะกว่า แต่เดี๋ยวพี่จะไปเปิดบูธที่ร้านก็ไม่มีผ้า น้องตามมาดูที่บูธ ไบเทค!!! บราๆๆๆๆ
ผม : โห! พี่ ผมอยู่ปากเกร็ดจะให้ผมไปใบเทคนี่นะ
ร้าน : ค่ะ
ผม : (อึ้ง) อืมม.. พี่ไปบูธวันไหน
ร้าน : บราๆๆๆ
ผม : เออ จะขอเปลี่ยนม่านระเบียงเป็นม่านม้วนได้ไหมครับ
ร้าน : (เงียบไปแป๊บ) เปลี่ยนทำไมคะ ม่านม้วนแพงกว่านะคะ พี่ต้องทำราคาใหม่ สีผ้ากับแบบก็ตกลงกันไปแล้ว
ผม : (พยายามอธิบาย) คือมันติดบิวอิน บราๆๆๆๆ
ร้าน : งั้นน้องมาคุยกันที่งานดีกว่า รีบๆหน่อยนะคะ!!! (วางสาย)
เฮ่ย ไรฟะ ม่านเป็นหมื่นทำไมคุยไม่เห็นเหมือนตอนแรกเลย แล้วการเปลี่ยนสีผ้านี่มันยุ่งยากขนาดนั้นเลยเหรอ แถมพี่แกไม่คิดเซอร์วิสอะไรซักอย่าง
ผมเลยต้องแก้ปัญหาโดยการออกแบบบิวอินใหม่ เนื่องจากผมออกแบบเอง และเพื่อนผมเป็นโรงงานบิวอินคุยง่ายกว่า
หลังจากนั้น ผมก็ต้องตามไปที่ไบเทค พอผมไปถึงโทรไปให้ผมไปเลือกผ้าเลย แล้วพี่เซลก็มานั่งทำหน้าเซ็ง ปล่อยผมเลือกม่านไป ไม่มีมาคุยมาแนะนำ หรือทำหน้าอยากคุยกับผม หลังจากใช้เวลาเลือกม่านอยู่เดียวประมาณครึ่ง ชม ผมก็เดินไปบอก
ร้าน : น้องไม่เอาม่านม้วนแล้วนะ
ผม : ผมแก้ปัญหาได้แล้ว เอาเป็นตาไก่ละกัน
ร้าน : เอาผ้าลายนี้เหรอ ไม่มีของนะน้อง ต้องสั่งผ้าจากนอก เอาลายนี้แทนไหม ไม่งั้นหลังสงกรานต์เลยนะ
ผม : อืมม .... ลายนี้เข้ากับผนังมากกว่า ผมเอาลายนี้แหล่ะ
ทีนี้ปัญหามาอยู่ที่ผมละ เพราะอย่างที่รู้ว่า เมษาปีนี้ ร้อนนรก!!! แดดแรงได้อีก ในห้องร้อนมาก จนผมไม่สามารถจะนอนได้ เนื่องจากว่าผนังห้องเป็นกระจกรอบด้าน ผมแก้ปัญหาโดย ต้องเอากระดาษหนังสือพิมพ์แปะกันแดด
--- ฝ่างงงงงง ----
แอบเศร้าลงทุนแต่งห้องอย่างดี แต่ต้องมาติดกระดาษหนังสือพิมพ์แบบนี้ ถึงกับจิตตกไปหลายวัน แถมกระดาษแค่นี้ยังไม่พอครับ เทปกาวที่ติดกระจกไป มันติดเป็นคราบเหนียวมาก และไม่กี่วันกระดาษกาวก็กรอบ เพราะอากาศร้อนจัด ผมต้องมานั่งทำความสะอาดคราบพวกนี้อีก (ผมใช้ยาหม่องหนะแหล่ะ ป้ายเข้าไปแล้วเอานิ้วถูๆๆๆ มันออกแฮะ)
ทำไปทำมาห้องนอนผมก็นอนไม่ได้ เพราะมันร้อนมาก แถมไม่มีม่านก็ไม่มีความเป็นส่วนตัวอีก เลยต้องออกมานอนด้านนอกแทนซะงั้น แอบร้องไห้หนักมาก หลังจากนั้นผมพยายามติดต่ออยู่หลายวัน โทรไปไม่รับสาย แต่พอรับสาย
ผม : จะนัดวันติดม่านหน่ะครับ ตกลงว่า 22 ที่ตกลงกันไว้ทันไหม
ร้าน : พี่จัดบูธอยู่ ไม่มีเอกสารเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่โทรบอกนะคะ
วันต่อมา ... พยายามโทรไปหลายรอบ ทั้ง 2 - 3 เบอร์ ในที่สุดก็รับ
ผม : ตกลงว่าติดม่านได้วันไหนครับ
ร้าน : ขอเป็นวันที่ 24 ละกันค่ะ อาจจะทัน ของน้องนี่ม่าน บราๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวถ้ายังไงพี่โทรคอนเฟริมอีกที
ผม : ขอเป็นวันเสาร์ได้ไหม ผมต้องลางาน
ร้าน : โอ๊ยไม่ได้คะ คิวเต็มเลย ไม่งั้นต้องเสาร์ถัดไปเลย
ผม : OK ครับ วันที่ 24 !!##$$
ผมรอจนวันที่ 23 ไม่มีการติดต่อใดๆ กลับมา โทรไปไม่รับสาย จนในที่สุดก็มีคนรับสาย
ผม : ตกลงว่า 24 ม่านติดได้ไหม จะมาช่วงเช้าหรือบ่าย
ร้าน : ออ พี่อยู่ต่างจังหวัด น้องติดต่อช่างติดม่านเลยนะ เบอร์ .....
โทรหาช่าง
ผม : ตกลงม่าน พรุ่งนี้ติดได้ไหม
ช่าง : ผมอยู่หน้างาน น้องโทรหาเซลเลย พี่ผู้หญิงหน่ะ
ผม : ผมโทรแล้ว เค้าให้โทรหาช่างหน่ะครับ
ช่าง : อ้าว ออ งั้นได้ๆ เดี๋ยวผมดูให้คิวตอนเช้า
เช้าวันที่ 24 ช่างก็เข้ามาติดม่าน แต่เป็นเด็กๆมากัน 2 คน มาถึงตั้งหน้าตาติดอย่างเดียว พูดไทยได้ไม่ชัดเท่าไร
ช่างทำท่าจะเจาะผนั่ง หลังจากวัดเสร็จ
ผม : น้องจะเอาม่านทาบก่อนไหม ว่ามันยาวพอดีพื้นหรือเปล่า
ช่างน้อย : เค้าวัดไปแล้ว เท่านี้แหล่ะคับ
แล้วช่างน้อยก็หันไปเจาะกำแพงต่อ หลังจากนั้นก็ติดกันอย่างเร็วมาก
ผม : น้อง ตรงหักมุมนี่มันติดเอียงๆแปลกๆอย่างนี้เหรอ
ช่างน้อย : มันหักมุมเป็นแบบนี้ ทำแบบนี้หมด
ผม : ???
งานที่ได้
1. คุณภาพการตัดเย็บ การตัดเย็บไม่ปราณีตเท่าไร ดูเป็นงานรีบ แต่ช่างที่ตัดเย็บน่าจะมีฝีมือพอสมควร คือดูไกลๆโอเค แต่งานมีทั้งด้ายที่เนาติดเต็มไปหมด ไม่เก็บด้าย ชายผ้ามีโผล่ ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับมีตัดผิด หรือเบี้ยว พอดีผมรีบออกมาทำงานไม่ได้ถ่ายรูปไว้
2. คุณภาพผ้า ผ้าก็ตามที่เลือกไว้ เนื้อผ้าใช้ได้ สีผ้าตรงอยู่
3. งานติดตั้ง วัสดุที่เป็นขารับราว ดูก๊องแก๊งมาก ดูไม่แข็งแรงเท่าไร แต่ว่าตัวราวดูดีกว่าแบบ การเข้าตาไก่ดูคร่าวๆก็โอเค
4. ชายผ้าด้านล่าง ลอยเหนือพื้นขึ้นมาเป็นนิ้ว ซึ่งจริงๆ ผมไม่โอเคเท่าไร แต่... ถ้าให้กลับไปแก้นี่ผมคงแย่ เพราะจำเป็นต้องใช้ม่านมาก เลยต้องทำใจ (ช่าง
5. หลังจากติดตั้งเสร็จ รับตัง ช่างน้อย รีบเก็บของไปเลย โดยไม่มีการลองม่าน รูดสิได้ไหม พี่ครับโอเคไหม และตอนทำเลื่อนเตียงออกมา ไม่มีเลื่อนกลับให้ พอมันไปผมอยู่คนเดียว ต้องเลื่อนเตียงกลับเอง ตอนเจาะมีผงปูนลงมาด้านล่าง ถึงตอนเจาะช่างน้อยจะใช้ขวดรองไว้ก็ตาม แต่มันก็ฟุ้งไปทั่ว ไม่มีการเช็ดทำความสะอาดใดๆ ขยะหน้าห้องไม่เก็บกวาด ผมออกมาเก็บกวาดเอง
ปล. เตียงนี่ผมก็เซ็งเหมือนกัน สีมาคนละเรื่องตัวตัวโชว ผมสั่งสีน้ำตาลดำ ออกมาน้ำตาลแดงซะงั้น กำลังประกาศขายครับ
สรุป งานนี้เป็นบทเรียนว่า เลือกร้านม่านผิด จิตตกไปหลายเดือน