[CR] Once OMKOI a time :) เพื่อเขาไม่ใช่เพื่อเรา

สวัสดีค่ะ เพิ่งผ่านสงกรานต์ไปได้ไม่นานเนอะ
เราก็จะมาขอเล่าเรื่องราวของสงกรานต์ปีนี้ของเราที่ไม่เหมือนกับปีไหนๆ
เป็นสงกรานต์ที่มีความทรงจำที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว ยิ้ม

สืบเนื่องจากเราได้เห็น event ใน facebook ของเพจ 4dekdoi มีกิจกรรมการเป็นครูอาสาจัดขึ้นในช่วงสงกรานต์พอดีช่วงวันที่10-14 เมษายน ซึ่งลองคำนวณวันลางานแล้ว ก็สามารถลางานได้ และก็เป็นความฝันของเราในตอนเด็กๆที่อยากจะเป็นครูดอยบนดอย ยิ่งดูหนังเรื่องคิดถึงวิทยาก็ยิ่งอิน บวกกับจิตใจตัวเองตอนนั้นที่อ่อนไหวเหลือเกิน ก็ยิ่งอยากไปมาก
จึงไปชวนเพื่อน เพื่อนก็ตกลง เย้ ! ความฝันเป็นจริงแล้ว
(ได้เพื่อนไปด้วยกันมา1คน)
และแล้วการเดินทางก็ได้เกิดขึ้น ยิ้ม



09/04/15
วันเดินทาง เราเดินทางโดยเครื่องบิน ไปลงเชียงใหม่ โดยตั้งใจจะไปเดินเที่ยวเชียงใหม่ก่อนแล้วค่อยขึ้นไปนอนที่อมก๋อย เมื่อมาถึงเชียงใหม่เราก็เที่ยวสถานที่แลนด์มาร์คของเชียงใหม่ทั่วๆไป แอบหลงรักร้านกาแฟในเชียงใหม่อยู่เหมือนกันนะ



แต่ไฮไลท์ของงานวันนี้คือรถจากเชียงใหม่ไปอมก๋อยค่า นั่งนานมาก 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งรถเราออกจากเชียงใหม่ตอนบ่าย2 กว่าจะถึงอมก๋อยก็ทุ่มนึง มืดเลย และรถก็เป็นฟีลรถหวานเย็นมากกก คนขับรถอยากแวะบ้านก็แวะ อยากแวะซื้อทิชชู่โลตัสก็แวะ 555 ตอนนั่งนี่คิดในใจอยากให้วิญญาณคนขับรถเมล์สาย8 มาเข้าสิงมาก ระหว่างทางก็มีตำรวจขึ้นมาตรวจบัตรประชาชนด้วย ตอนแรกเราก็ทำอึนๆ คิดว่าหน้าไทยอย่างเราเขาคงไม่ตรวจหรอก แต่เปล่าเลยตรวจทุกคนบนรถและละเอียดมาก ดีนะเค้าไม่ให้เราร้องเพลงชาติ


เมื่อมาถึงอมก๋อย เราก็เข้าพักที่ห้องพักศวรรยา โดยพี่เค้ามารับเข้าที่พัก และก็ใจดีให้จักรยานไว้ขี่เล่น เสียดายที่มันมืดแล้วเลยขี่ไปไม่ได้ไกล แค่หาของกินและก็เข้านอนกันกับเพื่อน
ปล. วันแรกก็นั่งรถจนปวดก้นต้องนอนตะแคงกันเลยทีเดียว



10/04/15
วันนี้เราต้องเดินทางจากอมก๋อยขึ้นหมู่บ้านทีผะแหล่  ขึ้นโดยรถโฟลวีล และวันนี้เราจะได้เจอเพื่อนๆสมาชิกค่ายที่จะไปด้วยกันแล้ว ตื่นเต้นเสมอเวลาจะได้เจอมิตรภาพใหม่ๆโดยคุณครูยุทธนัดเราที่ ศูนย์ ICT ซึ่งเมื่อสมาชิกมากันครบพวกเราก็ขึ้นรถซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ตอนแรกเราก็อาสานั่งหลังจะได้ดูวิว สัมผัสธรรมชาติให้เต็มที่ แต่ขึ้นไปประมาณ 1 ชั่วโมงได้ ปรากฎว่าเมารถจ้า อ้วกหมดเลย เลยต้องย้ายมานั่งหน้า เลยดีขึ้นหน่อย เมื่อเดินทางมาระหว่างทางก็เหมือนในละครเลย ปรากฎว่ามีกิ่งไม้ที่เพิ่งล้มมาขวาง ทำให้เดินทางไปไม่ได้ ครูยุทธต้องขับมอเตอรไซส์ไปเอามีดจากอีกหมู่บ้านมาช่วยกันฟันเพื่อให้รถผ่านไปได้
ระหว่างทางการเดินทางก็สุดๆเลย ทั้งฝุ่นทั้งแดด ต้องใส่เสื้อกันฝนเพื่อกันฝุ่นกันเลยทีเดียว เรานับถือหัวใจคนที่นั่งข้างหลังมากๆ ยิ้ม




เราออกเดินทางจากอมก๋อยประมาณเที่ยง มาถึงทีผะแหล่ก็ประมาณ 6โมงเย็น เมื่อมาถึงก็ค่ำแล้วเราก็แบ่งอาหารที่ขนขึ้นมาไปตามบ้าน (นอนพักตามกลุ่มที่บ้านของชาวบ้าน) และพวกเราเหล่าครูอาสาก็ประชุมงานที่จะสอนเด็กๆพรุ่งนี้
ตลอดการเดินทางเราได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจำเป็นต้องมาหาตัวตน มาไกล มาลำบากขนาดนี้เพื่ออะไรกัน ทำไมเราไม่นั่งอยู่ในห้องแอร์สบาย ไปเที่ยวสงกรานต์ให้สนุกเหมือนคนอื่น
แต่เราตั้งใจไว้ว่าเวลาที่อยู่ที่นี่เราจะหาคำตอบของการตัดสินใจครั้งนี้ให้ได้ ยิ้ม



11/04/15
เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเลย เพราะไม่ชินด้วยแหล่ะ เป็นกลางคืนที่เงียบและปราศจากแสงอะไรเลยจริงๆ อ้อ ลืมบอกไปที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ไม่มีไฟฟ้านะ ตอนแรกก็ไม่ชินเลย เพราะเราเป็นคนติดมือถือพอสมควรเลย ตื่นเช้ามากทำกับข้าวกินกันเอง ทำให้น้องที่บ้านและแม่กินด้วย แต่เราทำไม่ค่อยอร่อยเลย เกรงใจที่บ้านมาก ฮ่าๆ
วันนี้พวกเราจะจัดการเรียนการสอนกันโดยการแบ่งครูอาสาเป็นกลุ่มๆ และแบ่งนักเรียนเป็น อนุบาล ประถมต้น และประถมปลายค่ะ
กลุ่มครูอาสาเราได้สอนประถมต้น เราก็สอนปั๊มสี ค่ะ
และต่อไปก็เป็นอนุบาลก็ได้สอนร้อยยาง น่ารักๆ
และก็ประถมปลายก็จะเป็นวาดรูปตามคำบอก
เพื่อนๆครูกลุ่มอื่นๆก็จะมีการสอนอีกหลายแบบคละๆกันไป เช่นการสอนพับกระดาษ เป็นต้นค่ะ
เด็กๆที่นี่น่ารักมากๆเลยค่ะ จะตั้งใจเรียนมากเวลาเราสอนอะไร แล้วก็จะมีมารยาทดีมาก ให้ความร่วมมือทุกๆอย่างเลย
ประทับใจมากค่ะ ยิ้ม



ตอนบ่ายเราได้เดินทางไปน้ำตกแม่น้ำเงากันค่ะ เดินจากหมู่บ้านไปค่อนข้างไกลมาก และทางก็ลำบากสำหรับคนแบบเราที่ไม่เคยขึ้นเขามาก่อน ต้องจูงมือกับเพื่อนและอาศัยเด็กๆไปตลอดทางเลยค่ะ
จากเหตุการณ์นี้เราเริ่มเกิดความประทับใจกับเด็กๆมากขึ้นมากๆเลย เราจะล้มหรือหล่นเขาหลายรอบมากๆ เพราะว่าทางค่อยข้างแคบมาก แต่ก็ยังมีมือของเด็กๆมาจับเราไว้ไม่ให้เราตก ยิ้ม ครั้งนึงเราฉุดน้องล้มไปด้วย เพราะเราลื่นเกือบตกเขา แต่น้องไม่เคยแสดงอาการบ่นเราเลย มีแต่รอยยิ้มที่มอบให้ตลอดระหว่างทาง เด็กๆมองพวกเราเหมือนเป็นผู้ที่จะมาให้เค้าเลยต้อนรับและดูแลเราเป็นอย่างดีมากๆ ยิ้ม



เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้านก็เล่นน้ำกันกับเด็กๆ ยิ้ม
เราว่าเราเริ่มค้นพบความสุขที่แท้จริงโดยไม่ต้องพึ่งวัถตุแล้วแหล่ะ

คืนนี้เรานอนหลับโดยสนิทเลย ดาวที่นี่สวยนะ เสียดายที่เก็บภาพมาฝากไม่ได้ ยิ้ม
เราว่านะจริงๆแล้วความสุขคงไม่ใช่การได้ไปอยู่บนสถานที่หรูหรา ได้ไปไหนไกลๆหรอก เราเคยออกไปตามหาความสุขมาหลายสถานที่นะ ไปด้วยตอนที่จิตใจเคว้งคว้าง เมื่อกลับมาเราก็พบว่าเราก็ยังโหยหาความสุขเพิ่มไปอีก
มีแล้วเราก็อยากมีอีก
แต่พอเรามาได้มาเห็นวิถีคนที่นี่ ทุกคนที่นี่มีความสุขได้โดยไม่ต้องพึ่งวัตถุ ไม่มีละครหลังข่าวให้ดู ไม่มีเฟสบุ้คให้อัพสเตตัสตอนที่เศร้า ไม่ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าเรากำลังรู้สึกอย่างไร แต่คนที่นี่เค้าหันหน้าคุยกัน ยิ้ม
แรกๆเราก็คิดนะ ทำไมเราต้องมาไกลขนาดนี้
จำเป็นหรอที่จะต้องมาหาตัวตนที่นี่ แต่เมื่อมาแล้วเราก็ได้คำตอบนะ ไม่มาแหล่ะ เราจะเสียใจ ที่ไม่ได้เห็นว่าบนโลกนี้ยังมีหมู่บ้านแห่งความสุขแบบนี่ซ่อนอยู่

ไม่ได้โลกสวยนะ จริงๆทุกคนก็ต้องมีความทุกข์แหล่ะเนอะ
แต่คนเราอ่ะอิจฉาคนที่นี่นะ เค้ามีความสุข โดยที่เค้าไม่ต้องไปหาเงินมาเพื่อซื้อความสุขให้ตัวเองเลย แต่เราเป็นคนในเมืองเรากลับไปหาเงินมาเพื่อซื้อความสุข เราว่าจริงๆแล้วมัน " ซับซ้อนโดยไม่จำเป็นเลย " : )

ผ้าเค้าก็ทอกันเอง ข้าวก็ปลูกเอง หมูก็เลี้ยงเอง
เหล้ายังกลั่นกันเองเลย (มีโอกาสได้ชิมด้วยแหล่ะ เค้าล้อเล่น )


12/04/15

วันนี้ตามโปรแกรมเราจะต้องเดินไปหมู่บ้านทีตะอึคี แต่เนื่องจากสภาพเหตุการณ์พวกเราตอนเดินขึ้นน้ำตกเมื่อวานแล้ว ครูยุทธเลยเสนอให้อยู่ที่หมู่บ้านดีกว่า 555
วันนี้เราจึงได้ดูการทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ของชาวบ้านกัน
เสียดายที่เราตื่นสายเลยอดดูเค้าฆ่าหมูเลย ฮ่าๆ
ไปดูก็เป็นแบบนี้แล้ว


การทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ของหมู่บ้านทีผะแหล่ ก็จะมีการเชิญหมอผีมา มาสวดอะไรสักอย่าง ซึ่งเราฟังไม่ออกเลย 555
และก็จะมีการนำหมูที่ฆ่า พร้อมกับข้าว เหล้า เครื่องในหมู มาทำพิธี โดยหมอผีจะสวดก่อน เมื่อสวดเสร็จก็จะให้เด็กผู้ชายเดินเข้ามาหามาประมาณให้พรอ่ะ โดยกำข้าวมาในมือ เมื่อให้พรเสร็จแล้วก็ต้องกินข้าวในมือให้หมด 555
น่ารักดีนะ : )

วันนี้เราจะสอนน้องๆแยกและก็เก็บขยะไปทิ้งให้เป็นที่แหล่ะ เพราะในหมู่บ้านก็มีขยะเยอะเหมือนกัน ชาวบ้านที่นี่ทำลายขยะด้วยวิธีการเผา
(ไกลขนาดนี้ ก็คงไม่มีเทศบาลขึ้นมาเก็บอะเนอะ)

การเก็บขยะวันนี้ก็มีเหตุการณ์ประทับใจเกิดขึ้นอีกแล้ว
ลองนึกถึงตอนเด็กๆกันดิ เวลาไปโรงเรียนโดนคุณครูใช้เก็บขยะ พวกเราทำหน้าไงอะ ? อยากเก็บไหมอะ ?

ตอนแรกเราก็กลัวนะ กลัวเด็กๆจะไม่อยากเก็บ กลัวจะเบื่อกิจกรรมนี้ แต่ไม่เลยเด็กๆช่วยเราเก็บขยะกันสุดพลังมาก
เก็บจนเรายกถุงดำไม่ไหวเลย พอเรายกไม่ไหวก็มาช่วยเรายก น่ารักกันมากๆเลย
และฝนก็ตกลงมา ...
ขนาดฝนตกน้องๆยังไม่หยุดเลย ไปเด็ดใบไม้มากางเป็นร่มไปเก็บต่ออ่ะแก คือเราประทับใจมาก
ต้องบอกให้หยุด ถึงจะหยุดเก็บ ยิ้ม


นี่แหล่ะเนอะ ชีวิตที่น้องๆเค้าไม่เคยรับรู้โลกภายนอกเลย
บางคนก็ยังไม่เคยลงไปจากดอยเลยนะ ละครไม่เคยดู ไม่รู้จักเพศที่สาม ไม่มีความเห็นแก่ตัวอยู่ในหัวใจ
เรายังไม่เห็นเด็กทะเลาะกันเลยนะ ตลอดเวลาที่มา ซึ่งแปลกมาก
มีเหตุการณ์นึงคือน้องๆเพิ่งได้จักรยานกันมาประมาณ 3-4คัน (ฝรั่งเข้ามาบริจาค)ต่อเด็ก 50 คน มีคุณครูสอนว่าขี่ยังไง เพื่อนคนที่ขับเป็นแล้วก็มาสอนคนที่ยังไม่เป็น และเด็กๆไม่เคยทะเลาะกันแย่งจักยานเลย แปลกไหมอ่ะ ?


ลืมบอกเลยคุณครูที่นี่มี2คน แต่วันที่เรามาเป็นครูยุทธที่มาจัดค่ายกับเรา
เราว่านะครูสอนเด็กๆด้วยความรักจริงๆ ไม่ใช่เป็นการบังคับว่าต้องทำ เพราะฉะนั้นเวลาครูบอกให้เด็กๆทำอะไร เด็กๆจะทำโดยไม่ลังเล เด็กๆที่นี่พูดครับ/ค่ะ ทุกคน (เรายังไม่ได้ยินคำหยาบเลย) เด็กๆที่นี่เวลาให้ของจะต่อแถวตลอด ไม่เคยแย่งกันเลย เรายืนกินขนมอยู่แต่ไม่ได้ให้น้องๆ เค้าก็จะไม่ขอเรานะ แต่เวลาให้ก็จะเรียงแถวกันมาเลย น่ารักมากๆ
เวลาจะกินข้าวที่โรงเรียนก็จะเอาชามจากบ้านมา และก็เอากลับไปล้างที่บ้าน โดยไม่ต้องเป็นภาระของโรงเรียนเลย ยิ้ม
การสอนด้วยความรัก มันทำให้ซื้อใจเด็กๆได้จริงๆนะเราว่า

13/04/15

วันนี้วันสงกรานต์แหล่ะ ตื่นมาเราก็ได้ยินเสียงเพลงลั่นหมู่บ้านแต่เช้าเลย เสียงเพลงมาจากโรงเรียน ยิ้ม
ช่วงเช้าจะเป็นการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน ซึ่งเราก็จะเดินไปแต่ละบ้านๆ ไปกันครบทุกบ้านเลย




ตอนกลางวันมีเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวฟรีที่โรงเรียน
สำหรับคนในเมือง ก๋วยเตี๋ยวมันอาจเป็นอาหารธรรมดา
แต่พวกคุณลองดูภาพนี้สิ

สิ่งนี้มันอาจไม่ได้ธรรมดาสำหรับทุกคนนะ ยิ้ม
(กินกันไม่เหลือเลย ซึ่งบางคนตักเยอะมาก เราคิดว่าจะกินไม่หมดซะอีก)
ช่วงบ่ายก็เล่นน้ำกัน มีปืนฉีดน้ำมาแจกเด็กๆด้วย
พวกเราฉีดเล่นกันกับเด็กๆและก็ไปเล่นกันทีน้ำตกในหมู่บ้าน

เด็กๆสนุกมากกับการฉีดน้ำหรือสาดน้ำใส่พวกเราเนี่ย
อาจิงนะ สงกรานต์ปีนี้มีความสุขมากๆเลยแหล่ะ ยิ้มกว้างกว่าทุกปีเลย
ตอนแรกเราคิดว่าจะมาเป็นผู้ให้นะ แต่เราว่าเรากลับเป็นผู้รับมากกว่าซะอีก ความสุขจากพวกเด็กๆและมิตรภาพดีๆของเหล่าครูอาสาทำให้เรารู้สึกมีความสุขโดยไม่ต้องไปพึ่งของนอกกายอะไรเลย
ลืมเล่าตอนเล่นน้ำ เด็กๆทีนี่ฉลาดนะ เวลาลงน้ำก็จะถอดเสื้อหมดเลย
ชื่อสินค้า:   อมก๋อย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่