จากการรวบรวมข้อมูลของพ่อบ้านยุคใหม่ ผมพบกว่าแม่บ้านส่วนใหญ่จะชอบกดดันพ่อบ้าน ละเลยงานแม่บ้าน ทำให้พ่อบ้านยุคใหม่
ต้องรับบทบาทของแม่บ้านเพิ่มมากขึ้น จากสถิติการวิจัยกลุ่มพ่อบ้านเกียร์มัว พบว่าแม่บ้านยุคใหม่มีอำนาจล้นเหลือจนเกินไป ใช้อำนาจ
ฟุ่มเฟือยอย่างไม่เห็นใจพ่อบ้านเลย คสช ที่ว่าแน่ๆ เจอแม่บ้านยุคนี้เข้าไปรับรองได้ว่าเด็กๆ กฏหมาย ม.44 ที่กลัวกันนักกันหนา ว่าเป็น
เผด็จการ เป็นรัฐบาลเผด็จการ ผมว่าเอาแค่เจอคำสั่งเมียเข้าไปไม่เห็นจะมีใครปริปาก เรื่องรัฐบาลเผด็จการนี่เลิกกลัวกันเหอะ เอาว่า
เลิกกลัวเมียกันให้ได้ก่อนแล้วค่อยบ่นเรื่องเผด็จการ
จากการวิจัยผมได้รวบรวมประเด็นหลักๆ ที่แม่บ้านชอบกดดันพ่อบ้านมาให้พิจารณา โดยมีประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. ซักเสื้อผ้าลูก
พ่อลูกอ่อนส่วนใหญ่มักจะถูกแม่ลูกอ่อนกดดันให้ซักเสื้อผ้าลูกทั้ง ๆ ที่ทักษะด้านนี้เราไม่ชำนาญ พอเราจะใช้เครื่องก็บอกว่ากลัว
ลูกแพ้ซักมือดีกว่า พอเราจะให้เมียซัก เมียก็บอกว่าเดี๋ยวตบเลยถ้าเค้าซักแล้วใครจะดูลูก ดูลูกเป็นเหรอ พอพ่อบ้านเถียงแม่บ้านก็มักจะ
บีบน้ำตา สิ่งเดียวที่เราทำได้ คือ ถามว่ากาละมังและน้ำยาซักผ้าเด็กอยู่ที่ไหน
2. ป่อนข้าวลูก
แม่บ้านยุคใหม่มักจะไม่ได้เป็นแม่บ้านแบบ full time job แม่บ้านเหล่านี้มักจะมีอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน โดยเฉพาะวันเสาร์-
อาทิตย์ จะเป็นเวลาทองของเธอ เธอจะใช้โอกาสนี้ในการนอนให้เต็มอิ่ม ประเภทนอนก่อนตื่นทีหลัง พอลูกตื่นปั๊บเมียก็สกิดเราปั๊บ บอก
ให้เราหาข้าวให้ลูกกิน เอ๊ย ไม่ใช่มั้ง พอเราบอกว่าให้เมียหาข้าวให้ลูกดิ เมียก็บอกว่าเดี๋ยวตบเลย ช่วยๆ กันบ้างทำงานมาเหนื่อย
ขอพักผ่อนหน่อย พอเราทำไปหนึ่งครั้ง ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไปก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว
3. ทำกับข้าว
แม่บ้านยุคใหม่มักจะทำกับข้าวไม่เป็น อย่าว่าแต่หุงข้าว หรือ ทอดไข่ พวกเธอทำไม่เป็นจริงๆ เอาแต่ต้มมาม่ายังไม่อร่อย โว้ว
ไม่น่าเชื่อ ถ้าพ่อบ้าน พอจะทำเป็นนะไม่ต้องหวังว่าเมียจะไปหัดทำ ไม่ต้องหวังซะให้ยากเพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของเรา และถือว่าได้รับ
มอบหมายไปแล้ว พอบอกว่าให้ไปหัดทำกับข้าวดู เมียเหล่านี้มักจะดูซีรี่ย์เกาหลีมากไป เธอจะต้องไปหาคอร์สเรียนหรูหราแบบ
หลักสูตรแม่บ้าน เลอกะดองเบลอ พอเอาคอร์สมาให้ดูพร้อมค่าใช้จ่ายพ่อบ้านจะเป็นลม พอบอกให้ไปเรียนกับแม่ยาย เมียก็บอกว่า
เดี๋ยวตบเลย รบกวนแม่ยาย สรุปถ้าเราทำไปหนึ่งครั้ง ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไป ก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว
4. ซักผ้ารีดผ้า
เรื่องซักผ้าและรีดผ้านี่เป็นพื้นที่เดียวที่แม่บ้านยุคใหม่ไม่ปล่อยปละให้พ่อบ้านทำ ไม่ใช่เพราะเธอขยันนะครับ แต่เป็นเพราะเธอหวง
เสื้อผ้าของเธอมากกว่าครับ เสื้อผ้าผู้หญิงมีเนื้อผ้าหลากหลายบางอย่างต้องใส่ถุงผ้า บางอย่างต้องใช้โหมดถนอมผ้า โอ๊ย เยอะแยะไป
หมด ทำให้เธอไม่ไว้ใจพ่อบ้านแต่ก็อยู่ดีครับ พอแม่บ้านทำงานแล้วเหนื่อย อาการเหวี่ยงจะเกิดขึ้นทันที เห็นอะไรรกหูรกตา เธอก็จะ
เหวี่ยงแบบ โอ๊ย ช่วยกันบ้างสิ นี่ ซักผ้าพับผ้ามันเหนื่อยนะรู้ไหม ไม่เหมือนในซีรี่ย์เกาหลีนะครับ ที่แม่บ้านเก็บผ้าดมผ้าอย่างมีความสุข
ที่ผมเห็นนี่เหมือนสงครามจิตวิทยาเลย ถ้าเธอทำงานแล้วเราอยู่เฉยๆ เธอมักจะมีอาการ แบบทำไมแกไม่ลุกมาทำอะไรบ้าง ฉันเหนื่อย
ซักผ้าพับผ้านะ สุดท้าย จ้าง ครับ แล้วอาการเหวี่ยงก็สงบไป แต่พ่อบ้านควักตังค์ เสียตังค์สะบายใจจัง
5. อาบน้ำลูก
อันนี้เป็นกิจกรรมครอบครัวที่เหนื่อยเอาการ เหมือนจับลิงอาบน้ำเลยแหละ ไม่มีหรอกที่เรียกลูกแล้วจะคร๊าบบวิ่งมาให้อาบน้ำ ต้อง
อิดออดดิ้นไม่ยอมท่าเดียว แรกๆ ก็มักจะเป็นแม่บ้านนี่แหละที่พาอาบน้ำ แต่บางจังหวะพอเราเผลออาบให้เท่านั้นแหละ ไม่ต้องถามนะ
ครับว่าครั้งต่อไป ก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว พอเราอิดออกไม่ทำก็กดดัน โอ๊ย ทำงานข้างนอกมามันก็เหนื่อย
แล้วนะ ทำไมไม่ช่วยๆ กันบ้าง เจอประโยคนี้ไปเสร็จเลยเรา ไอ้ครั้นจะไม่ทำก็จะมีอาการเหวี่ยงและน้ำตา ไม่ต้องถามนะครับว่ายังไงต่อ
สิ่งเดียวที่เราทำได้ คือ ไหนชุดที่จะให้ลูกใส่
6. ล้างจาน
อันนี้เป็นบางครอบครัวประเภทที่รู้กันก่อนแต่งแล้วว่าสามีทำกับข้าวเป็น ภรรยามักจะอาสาล้างจานให้ แต่ผมขอบอกว่าอะไรมัน
ก็ไม่จีรังและยั่งยืนกฏเกณฑ์ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงได้ฉันใด กฏแม่บ้านก็เปลี่ยนแปลงได้ฉันนั้น พอเริ่มมีลูกแล้วหน้าที่จะเปลี่ยนไปใน
บัดดล นอกจากทำกับข้าวแล้ว เรามักจะถูกพ่วงล้างจานเสมอ พอเราบอกให้เมียล้างคำตอบที่ได้ก็ไม่พ้น เดี๋ยวตบเลย ช่วยๆ กันบ้าง
ทำงานมาเหนื่อย ขอพักผ่อนหน่อย แล้วพอเราทำไปหนึ่งครั้ง ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไปก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบ
หมายไปแล้ว
7. ล้างขวดนม
หลายครอบครัวที่พ่อบ้านซักผ้าให้ลูก มักจะถูกล้างขวดนมไปด้วย ประดุจโปรโมชั่นเหล้าพ่วงเบียร์ ยิ่งถ้าพ่อบ้าน บ้านไหน
อนามัยจัดๆ นะครับ อย่าหวังว่าจะได้โงหัวจากอ่าง พอเราบอกว่าทำไมเธอไม่ล้าง ไม่ต้องบอกนะครับว่าจะโดนอะไรบ้าง ถ้าไม่
น้ำตาของความเหนื่อย เธอก็จะบอกว่า ช่วยๆ กันบ้าง แล้วนี่ก็ช่วยนึ่งขวดนมประกอบขวดนมมันเหนื่อยนะ แล้วพอเราทำไปหนึ่งครั้ง
ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไปก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว
8. กวาดบ้านถูบ้าน
อันนี้บอกได้เลยว่าถ้าบ้านไหนถ้าไม่ได้เป็น full time job พ่อบ้านกับแม่บ้าน รับรองได้ job นี้มีตีกัน ถ้าแม่บ้านทำงานนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พ่อบ้านจะหาของไม่เจอ เพราะแม่บ้านเอาไปซ่อน พอพ่อบ้านถามหาของขึ้นมาละแม่เอ๊ย ดราม่าเกิดขึ้นทันที
นี่นะทำงานมาก็เหนื่อยแล้วนะ ทำไมไม่ช่วยๆ กันบ้าง เก็บของอะไรก็ไม่เป็นที่ไม่เป็นทาง พอเราเก็บก็หาว่าซ่อน มันเหนื่อยนะ
รู้ไหม ถ้าทะเลาะกันหนักเข้าน้ำตาก็มักจะพรั่งพรูออกมา คำถามเดียวที่พ่อบ้านทำได้ คือ ไม้กวาด ไม้ถูพื้นอยู่ที่ไหน แล้วพอเรา
ทำไปหนึ่งครั้ง ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไปก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว
9. แจ้งล่วงหน้า
พ่อบ้านจะทำอะไรจำเป็นต้องแจ้งแม่บ้านล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ หรือ จะไปไหน อันนี้เป็นคำที่แม่บ้านเขาว่ามา
แต่พ่อบ้านเรียกว่า ขออนุญาต หรือ ขออนุมัติ เช่น ถ้าไปซื้อของ เมียจะกลายเป็น google ในบัดดล รู้ทุกเรื่อง ทำไมไม่ซื้อยี่ห้อ
โน้น ทำไมไม่ซื้อที่นี่ ทำไมไม่บอกก่อนมีบัตรลดรู้ไหม ทำไมไม่ช่วยกันประหยัด หรือถ้าเราบอกว่าจะออกไปข้างนอก เมียจะกลาย
เป็นองค์หญิงอาไรในบัดดล เช่น ไปไหน ไปทำอะไร ไปกับใคร ไปนานไหม กลับดึกไหม และที่สุดคือไปด้วยได้ไหม สรุปคือ
ไม่ต้องไปกันและ
จากข้อมูลที่สรุปมาจะเป็นประสพการณ์จากพ่อบ้านยุคใหม่ที่มักจะสรุปในวงเหล้า ที่ปกติก่อนหน้านี้เรามักจะใช้เวลานานมากๆ
กว่าเราจะเมา แต่พอมีแม่บ้านทำไมร่างกายมันอ่อนแอก็ไม่รู้ แค่ไม่กี่ชั่วโมงเราก็เมากันได้ แถม เหล้าหมดเร็วขึ้นด้วย ส่วนใหญ่จะ
พอสรุปกันได้ว่า รีบ ๆ หน่อย เดี๋ยวเมียตาม ในวงเหล้าเราสามารถสังเกตุได้ง่ายว่าคนไหนพ่อบ้านยุคใหม่ ถ้าคนไหนวางโทรศัพท์
ไว้ข้างด้านหน้าบนโต๊ะเหล้า ร้อยทั้งร้อยพ่อบ้านยุคใหม่ ที่วางแบบนั้นไม่ใช่อะไรถ้าไม่รับสายกลับบ้านตายแน่ๆ และจากที่สรุปให้
ฟังถ้ามีแม่บ้านยุคใหม่ได้อ่าน กรุณาเพลามือจากพวกเราบ้างนะครับ พวกเราก็เหนื่อยเหมือนกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า
และสุดท้ายอยากให้พ่อบ้านแชร์เคล็ดลับการขอแม่บ้านออกไปตกปลา หรือ ยิงปืน พวกท่านขอภรรยาท่านอย่างไร ผมเคย
ขอแล้วแม่บ่นยับ ทำบาป ใครจะช่วยเลี้ยงลูก ว่างนักเหรอ สุดท้ายกลับไปทำตั้งแต่ข้อ 1 ยันข้อ 8 ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ทำไมแม่บ้านยุคใหม่ชอบกดดันพ่อบ้าน???
ต้องรับบทบาทของแม่บ้านเพิ่มมากขึ้น จากสถิติการวิจัยกลุ่มพ่อบ้านเกียร์มัว พบว่าแม่บ้านยุคใหม่มีอำนาจล้นเหลือจนเกินไป ใช้อำนาจ
ฟุ่มเฟือยอย่างไม่เห็นใจพ่อบ้านเลย คสช ที่ว่าแน่ๆ เจอแม่บ้านยุคนี้เข้าไปรับรองได้ว่าเด็กๆ กฏหมาย ม.44 ที่กลัวกันนักกันหนา ว่าเป็น
เผด็จการ เป็นรัฐบาลเผด็จการ ผมว่าเอาแค่เจอคำสั่งเมียเข้าไปไม่เห็นจะมีใครปริปาก เรื่องรัฐบาลเผด็จการนี่เลิกกลัวกันเหอะ เอาว่า
เลิกกลัวเมียกันให้ได้ก่อนแล้วค่อยบ่นเรื่องเผด็จการ
จากการวิจัยผมได้รวบรวมประเด็นหลักๆ ที่แม่บ้านชอบกดดันพ่อบ้านมาให้พิจารณา โดยมีประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. ซักเสื้อผ้าลูก
พ่อลูกอ่อนส่วนใหญ่มักจะถูกแม่ลูกอ่อนกดดันให้ซักเสื้อผ้าลูกทั้ง ๆ ที่ทักษะด้านนี้เราไม่ชำนาญ พอเราจะใช้เครื่องก็บอกว่ากลัว
ลูกแพ้ซักมือดีกว่า พอเราจะให้เมียซัก เมียก็บอกว่าเดี๋ยวตบเลยถ้าเค้าซักแล้วใครจะดูลูก ดูลูกเป็นเหรอ พอพ่อบ้านเถียงแม่บ้านก็มักจะ
บีบน้ำตา สิ่งเดียวที่เราทำได้ คือ ถามว่ากาละมังและน้ำยาซักผ้าเด็กอยู่ที่ไหน
2. ป่อนข้าวลูก
แม่บ้านยุคใหม่มักจะไม่ได้เป็นแม่บ้านแบบ full time job แม่บ้านเหล่านี้มักจะมีอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน โดยเฉพาะวันเสาร์-
อาทิตย์ จะเป็นเวลาทองของเธอ เธอจะใช้โอกาสนี้ในการนอนให้เต็มอิ่ม ประเภทนอนก่อนตื่นทีหลัง พอลูกตื่นปั๊บเมียก็สกิดเราปั๊บ บอก
ให้เราหาข้าวให้ลูกกิน เอ๊ย ไม่ใช่มั้ง พอเราบอกว่าให้เมียหาข้าวให้ลูกดิ เมียก็บอกว่าเดี๋ยวตบเลย ช่วยๆ กันบ้างทำงานมาเหนื่อย
ขอพักผ่อนหน่อย พอเราทำไปหนึ่งครั้ง ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไปก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว
3. ทำกับข้าว
แม่บ้านยุคใหม่มักจะทำกับข้าวไม่เป็น อย่าว่าแต่หุงข้าว หรือ ทอดไข่ พวกเธอทำไม่เป็นจริงๆ เอาแต่ต้มมาม่ายังไม่อร่อย โว้ว
ไม่น่าเชื่อ ถ้าพ่อบ้าน พอจะทำเป็นนะไม่ต้องหวังว่าเมียจะไปหัดทำ ไม่ต้องหวังซะให้ยากเพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของเรา และถือว่าได้รับ
มอบหมายไปแล้ว พอบอกว่าให้ไปหัดทำกับข้าวดู เมียเหล่านี้มักจะดูซีรี่ย์เกาหลีมากไป เธอจะต้องไปหาคอร์สเรียนหรูหราแบบ
หลักสูตรแม่บ้าน เลอกะดองเบลอ พอเอาคอร์สมาให้ดูพร้อมค่าใช้จ่ายพ่อบ้านจะเป็นลม พอบอกให้ไปเรียนกับแม่ยาย เมียก็บอกว่า
เดี๋ยวตบเลย รบกวนแม่ยาย สรุปถ้าเราทำไปหนึ่งครั้ง ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไป ก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว
4. ซักผ้ารีดผ้า
เรื่องซักผ้าและรีดผ้านี่เป็นพื้นที่เดียวที่แม่บ้านยุคใหม่ไม่ปล่อยปละให้พ่อบ้านทำ ไม่ใช่เพราะเธอขยันนะครับ แต่เป็นเพราะเธอหวง
เสื้อผ้าของเธอมากกว่าครับ เสื้อผ้าผู้หญิงมีเนื้อผ้าหลากหลายบางอย่างต้องใส่ถุงผ้า บางอย่างต้องใช้โหมดถนอมผ้า โอ๊ย เยอะแยะไป
หมด ทำให้เธอไม่ไว้ใจพ่อบ้านแต่ก็อยู่ดีครับ พอแม่บ้านทำงานแล้วเหนื่อย อาการเหวี่ยงจะเกิดขึ้นทันที เห็นอะไรรกหูรกตา เธอก็จะ
เหวี่ยงแบบ โอ๊ย ช่วยกันบ้างสิ นี่ ซักผ้าพับผ้ามันเหนื่อยนะรู้ไหม ไม่เหมือนในซีรี่ย์เกาหลีนะครับ ที่แม่บ้านเก็บผ้าดมผ้าอย่างมีความสุข
ที่ผมเห็นนี่เหมือนสงครามจิตวิทยาเลย ถ้าเธอทำงานแล้วเราอยู่เฉยๆ เธอมักจะมีอาการ แบบทำไมแกไม่ลุกมาทำอะไรบ้าง ฉันเหนื่อย
ซักผ้าพับผ้านะ สุดท้าย จ้าง ครับ แล้วอาการเหวี่ยงก็สงบไป แต่พ่อบ้านควักตังค์ เสียตังค์สะบายใจจัง
5. อาบน้ำลูก
อันนี้เป็นกิจกรรมครอบครัวที่เหนื่อยเอาการ เหมือนจับลิงอาบน้ำเลยแหละ ไม่มีหรอกที่เรียกลูกแล้วจะคร๊าบบวิ่งมาให้อาบน้ำ ต้อง
อิดออดดิ้นไม่ยอมท่าเดียว แรกๆ ก็มักจะเป็นแม่บ้านนี่แหละที่พาอาบน้ำ แต่บางจังหวะพอเราเผลออาบให้เท่านั้นแหละ ไม่ต้องถามนะ
ครับว่าครั้งต่อไป ก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว พอเราอิดออกไม่ทำก็กดดัน โอ๊ย ทำงานข้างนอกมามันก็เหนื่อย
แล้วนะ ทำไมไม่ช่วยๆ กันบ้าง เจอประโยคนี้ไปเสร็จเลยเรา ไอ้ครั้นจะไม่ทำก็จะมีอาการเหวี่ยงและน้ำตา ไม่ต้องถามนะครับว่ายังไงต่อ
สิ่งเดียวที่เราทำได้ คือ ไหนชุดที่จะให้ลูกใส่
6. ล้างจาน
อันนี้เป็นบางครอบครัวประเภทที่รู้กันก่อนแต่งแล้วว่าสามีทำกับข้าวเป็น ภรรยามักจะอาสาล้างจานให้ แต่ผมขอบอกว่าอะไรมัน
ก็ไม่จีรังและยั่งยืนกฏเกณฑ์ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงได้ฉันใด กฏแม่บ้านก็เปลี่ยนแปลงได้ฉันนั้น พอเริ่มมีลูกแล้วหน้าที่จะเปลี่ยนไปใน
บัดดล นอกจากทำกับข้าวแล้ว เรามักจะถูกพ่วงล้างจานเสมอ พอเราบอกให้เมียล้างคำตอบที่ได้ก็ไม่พ้น เดี๋ยวตบเลย ช่วยๆ กันบ้าง
ทำงานมาเหนื่อย ขอพักผ่อนหน่อย แล้วพอเราทำไปหนึ่งครั้ง ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไปก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบ
หมายไปแล้ว
7. ล้างขวดนม
หลายครอบครัวที่พ่อบ้านซักผ้าให้ลูก มักจะถูกล้างขวดนมไปด้วย ประดุจโปรโมชั่นเหล้าพ่วงเบียร์ ยิ่งถ้าพ่อบ้าน บ้านไหน
อนามัยจัดๆ นะครับ อย่าหวังว่าจะได้โงหัวจากอ่าง พอเราบอกว่าทำไมเธอไม่ล้าง ไม่ต้องบอกนะครับว่าจะโดนอะไรบ้าง ถ้าไม่
น้ำตาของความเหนื่อย เธอก็จะบอกว่า ช่วยๆ กันบ้าง แล้วนี่ก็ช่วยนึ่งขวดนมประกอบขวดนมมันเหนื่อยนะ แล้วพอเราทำไปหนึ่งครั้ง
ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไปก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว
8. กวาดบ้านถูบ้าน
อันนี้บอกได้เลยว่าถ้าบ้านไหนถ้าไม่ได้เป็น full time job พ่อบ้านกับแม่บ้าน รับรองได้ job นี้มีตีกัน ถ้าแม่บ้านทำงานนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พ่อบ้านจะหาของไม่เจอ เพราะแม่บ้านเอาไปซ่อน พอพ่อบ้านถามหาของขึ้นมาละแม่เอ๊ย ดราม่าเกิดขึ้นทันที
นี่นะทำงานมาก็เหนื่อยแล้วนะ ทำไมไม่ช่วยๆ กันบ้าง เก็บของอะไรก็ไม่เป็นที่ไม่เป็นทาง พอเราเก็บก็หาว่าซ่อน มันเหนื่อยนะ
รู้ไหม ถ้าทะเลาะกันหนักเข้าน้ำตาก็มักจะพรั่งพรูออกมา คำถามเดียวที่พ่อบ้านทำได้ คือ ไม้กวาด ไม้ถูพื้นอยู่ที่ไหน แล้วพอเรา
ทำไปหนึ่งครั้ง ไม่ต้องถามนะครับว่าครั้งต่อไปก็เป็นหน้าที่เรา เพราะถือว่าได้รับมอบหมายไปแล้ว
9. แจ้งล่วงหน้า
พ่อบ้านจะทำอะไรจำเป็นต้องแจ้งแม่บ้านล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ หรือ จะไปไหน อันนี้เป็นคำที่แม่บ้านเขาว่ามา
แต่พ่อบ้านเรียกว่า ขออนุญาต หรือ ขออนุมัติ เช่น ถ้าไปซื้อของ เมียจะกลายเป็น google ในบัดดล รู้ทุกเรื่อง ทำไมไม่ซื้อยี่ห้อ
โน้น ทำไมไม่ซื้อที่นี่ ทำไมไม่บอกก่อนมีบัตรลดรู้ไหม ทำไมไม่ช่วยกันประหยัด หรือถ้าเราบอกว่าจะออกไปข้างนอก เมียจะกลาย
เป็นองค์หญิงอาไรในบัดดล เช่น ไปไหน ไปทำอะไร ไปกับใคร ไปนานไหม กลับดึกไหม และที่สุดคือไปด้วยได้ไหม สรุปคือ
ไม่ต้องไปกันและ
จากข้อมูลที่สรุปมาจะเป็นประสพการณ์จากพ่อบ้านยุคใหม่ที่มักจะสรุปในวงเหล้า ที่ปกติก่อนหน้านี้เรามักจะใช้เวลานานมากๆ
กว่าเราจะเมา แต่พอมีแม่บ้านทำไมร่างกายมันอ่อนแอก็ไม่รู้ แค่ไม่กี่ชั่วโมงเราก็เมากันได้ แถม เหล้าหมดเร็วขึ้นด้วย ส่วนใหญ่จะ
พอสรุปกันได้ว่า รีบ ๆ หน่อย เดี๋ยวเมียตาม ในวงเหล้าเราสามารถสังเกตุได้ง่ายว่าคนไหนพ่อบ้านยุคใหม่ ถ้าคนไหนวางโทรศัพท์
ไว้ข้างด้านหน้าบนโต๊ะเหล้า ร้อยทั้งร้อยพ่อบ้านยุคใหม่ ที่วางแบบนั้นไม่ใช่อะไรถ้าไม่รับสายกลับบ้านตายแน่ๆ และจากที่สรุปให้
ฟังถ้ามีแม่บ้านยุคใหม่ได้อ่าน กรุณาเพลามือจากพวกเราบ้างนะครับ พวกเราก็เหนื่อยเหมือนกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า
และสุดท้ายอยากให้พ่อบ้านแชร์เคล็ดลับการขอแม่บ้านออกไปตกปลา หรือ ยิงปืน พวกท่านขอภรรยาท่านอย่างไร ผมเคย
ขอแล้วแม่บ่นยับ ทำบาป ใครจะช่วยเลี้ยงลูก ว่างนักเหรอ สุดท้ายกลับไปทำตั้งแต่ข้อ 1 ยันข้อ 8 ขอบคุณล่วงหน้าครับ