สืบเนื่องจากผมได้ซื้อคูปอง Ensogo ของร้านดังกล่าว
ผมจึงจะไปใช้คูปองตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2558 แต่เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งได้แจ้งในคูปองที่พิมพ์ไว้แล้วว่าไม่สามารถใช้คูปองได้ จึงไปเสียเที่ยวมา 1 รอบแต่ไม่เป็นไรเป็นความผิดของผมเองที่อ่านเงื่อนไขการใช้คูปองไม่ดีเอง
แต่วันนี้ 18 เมษายน 2558 ผมได้ไปใช้คูปองอีกครั้ง และต้องรีบใช้เพราะจะหมดอายุในวันที่ 24 เมษายน 2558 นี้แล้ว โดยเป้าหมายของการเดินทางในวันนี้เพื่อใช้คูปองและทานของหวานร้านนี้โดยเฉพาะ โดยเลือกไปใช้บริการสาขา Central World เพราะสะดวกสุด (สาขาอื่นคือ เมกา บางนา , เซ็นทรัลปิ่นเกล้า , เจเจปาร์คลำปาง)
เมื่อไปถึงในช่วงเวลา 10.00 น. ซึ่งตรงกับเวลาที่ Isetan เปิดพอดี ประทับใจกับการต้อนรับของพนักงานร้านต่างๆ ที่โค้งต้อนรับลูกค้าเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อถึงร้านในช่วงเวลา 10.10 น. พนักงานสองคนก็หันมามองแล้วก็พูดกันว่า Ensogo มาแต่เช้าเชียว ชุดเล็กหรือชุดใหญ่ละเนี่ย (เราก็คิดในใจว่า Ensogo ก็เสียเงินซื้อมานะ ไม่ได้ขอทานฟรี) โดยขนมหวานนี้ราคาหน้าร้าน 178 บาท แต่ผมซื้อจาก Ensogo ในราคา 119 บาท
เมื่อพนักงานทำขนมหวานที่สั่งเรียบร้อย แต่เมื่อนำคูปองเราไป ก็เกิดเรื่อง
พนักงาน : คูปองของพี่ใช้แล้วนะคะ
ผม : จะใช้ได้อย่างไรครับ ในเมื่อผมก็เพิ่งนำมาใช้ วันก่อนผมมาแล้วรอบหนึ่ง พวกคุณก็บอกว่าใช้ไม่ได้เพราะเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์
พนักงาน : มีคนใช้แล้วคะ ชื่อชุติมา เมื่อวันที่ 2
ผม : ยังไม่ได้ใช้แน่ๆ ครับ เพราะผมพิมพ์คูปองออกมาเอง แล้วเพิ่งได้นำมาใช้เพราะสาขาน้อยเดินทางลำบากในการนำมาใช้
พนักงาน : เดี๊ยวขอตรวจสอบก่อนนะคะ ... (นำขนมหวานที่ทำแล้วไปแช่ตู้เย็นรอ ... แล้วก็เริ่มโทรหาคุณชุติมา ซึ่งเธอบอกว่าได้ซื้อคูปองเช่นกัน แต่ซื้อมาสามใบ และใช้ไปจริง แต่จำไม่ได้ว่ารหัสใด และพนักงานก็ให้คุณชุติมาตรวจสอบ)
พนักงาน : เริ่มโทรหาผู้บริหารที่สูงขึ้น แล้วก็คุยกันสักพักก่อนส่งโทรศัพท์มาให้ผม
ผม : สวัสดีครับ ผมได้นำคูปองนี้มาใช้ แต่พนักงานบอกว่าใช้ไม่ได้ เพราะมีคนนำมาใช้แล้ว
ผู้บริหาร : ต้องตรวจสอบคะ เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าคุณให้คูปองใครไปหรือไม่ ขอตรวจสอบก่อนคะ แล้วจะติดต่อไป
ผม : ผมเดินทางมาที่นี่เพื่อทานขนมหวานคุณโดยเฉพาะนะครับ แบบนี้ผมก็เสียเที่ยวหรือครับ
ผู้บริหาร : ก็ต้องตรวจสอบคะ จะตรวจสอบกับทั้ง Ensogo และคนที่ใช้คูปองแล้ว
ผม : ต้องตรวจสอบอีกนานไหมครับ ผมต้องไปธุระที่อื่นต่อครับ
ผู้บริหาร : ยังไม่ทราบคะ ถ้ากลัวคูปองหมดอายุจะต่ออายุให้ หรือจะส่งคูปองใหม่ไปให้ที่บ้าน
ผม : สรุปผมจะมาเสียเที่ยวหรือครับ ผมเสียค่าเดินทางมาเพื่อใช้คูปองนะครับ
ผู้บริหาร : ก็ทำอะไรไม่ได้นี่คะ ตรวจสอบก็คือตรวจสอบ ถ้าคุณคิดว่ายังไม่ได้ใช้จริงจะกลัวอะไร
ผมจึงคิดว่าคุยกับท่านผู้บริหารไม่รู้เรื่องแน่ จึงส่งโทรศัพท์คืนพนักงาน และพนักงานทั้งสองคนก็ช่วยกันค้นหาคูปองต่างๆ ที่มีผู้ใช้บริการแล้ว และให้ผมนั่งรออีก 20 นาที ก่อนจะนำขนมหวานมาให้ผม ผมจึงถามว่า "เจอคูปองแล้วหรือครับ" พนักงานจึงตอบเพียงว่า "ยังคะ"
ผมจึงนั่งทานแบบหมดอารมณ์ แต่ก็ต้องทานก่อนมันจะละลาย
หลังจากนั้นอีก 5 นาที พนักงานก็เรียกผม และบอกว่า "พี่คะ ตกลงช่วยเซ็นตรงนี้นะคะ สรุปคือลูกค้าคนก่อนลงชื่อผิดช่อง"
ผมแทบจะอยากต่อว่า แต่ก็สงสารที่พวกเขาช่วยกันแก้ปัญหานี้ และเสียดายที่ไม่ได้คุยกับผู้บริหารอีกครั้ง (เพราะพนักงานพูดกันเองว่าโทรหาท่านไม่ติด)
ถ้าผมได้คุยกับท่านคงจะถามท่านว่าท่านจะแก้ปัญหาอย่างไร ???
ปัญหาที่เกิดขึ้น ผมผิดหรือที่ต้องเสียเวลารอทานขนมหวานของท่านเกือบครึ่งชั่วโมง ???
แถมก่อนหน้าก็ถูกตราหน้าว่าอยากทานมาก อยากทานซ้ำ นำคูปองที่ใช้แล้ว วนมาใช้ใหม่ ...
เรื่องทั้งหมดนี้ ผมไม่คิดว่าเป็นความผิดของพนักงาน เพราะอาจมีความผิดพลาด ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับระบบการขายที่ลูกค้าที่ลงนามผิดช่องอาจซื้อในช่วงที่มีผู้ใช้บริการหลายคน (และพนักงานก็พูดกันว่าถ้ามีการทำผิดพลาด พวกเรานี่แหละจะแย่ โดยเฉพาะคนลงนามกำกับ)
*** แต่ผู้บริหารร้านแฟรนไชส์ที่มีหลายสาขาในห้างดัง มีการแก้ไขสถานการณ์เช่นนี้ กับของราคาร้อยต้นๆ ***
ครั้งนี้คงเป็นครั้งเดียวกับการทานขนมหวานยี่ห้อนี้ !!!
อร่อย ... แต่บริหารงานแย่ คือสโลแกนใหม่ของเยนลี่ยัวส์ (YenlyYours)
ผมจึงจะไปใช้คูปองตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2558 แต่เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งได้แจ้งในคูปองที่พิมพ์ไว้แล้วว่าไม่สามารถใช้คูปองได้ จึงไปเสียเที่ยวมา 1 รอบแต่ไม่เป็นไรเป็นความผิดของผมเองที่อ่านเงื่อนไขการใช้คูปองไม่ดีเอง
แต่วันนี้ 18 เมษายน 2558 ผมได้ไปใช้คูปองอีกครั้ง และต้องรีบใช้เพราะจะหมดอายุในวันที่ 24 เมษายน 2558 นี้แล้ว โดยเป้าหมายของการเดินทางในวันนี้เพื่อใช้คูปองและทานของหวานร้านนี้โดยเฉพาะ โดยเลือกไปใช้บริการสาขา Central World เพราะสะดวกสุด (สาขาอื่นคือ เมกา บางนา , เซ็นทรัลปิ่นเกล้า , เจเจปาร์คลำปาง)
เมื่อไปถึงในช่วงเวลา 10.00 น. ซึ่งตรงกับเวลาที่ Isetan เปิดพอดี ประทับใจกับการต้อนรับของพนักงานร้านต่างๆ ที่โค้งต้อนรับลูกค้าเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อถึงร้านในช่วงเวลา 10.10 น. พนักงานสองคนก็หันมามองแล้วก็พูดกันว่า Ensogo มาแต่เช้าเชียว ชุดเล็กหรือชุดใหญ่ละเนี่ย (เราก็คิดในใจว่า Ensogo ก็เสียเงินซื้อมานะ ไม่ได้ขอทานฟรี) โดยขนมหวานนี้ราคาหน้าร้าน 178 บาท แต่ผมซื้อจาก Ensogo ในราคา 119 บาท
เมื่อพนักงานทำขนมหวานที่สั่งเรียบร้อย แต่เมื่อนำคูปองเราไป ก็เกิดเรื่อง
พนักงาน : คูปองของพี่ใช้แล้วนะคะ
ผม : จะใช้ได้อย่างไรครับ ในเมื่อผมก็เพิ่งนำมาใช้ วันก่อนผมมาแล้วรอบหนึ่ง พวกคุณก็บอกว่าใช้ไม่ได้เพราะเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์
พนักงาน : มีคนใช้แล้วคะ ชื่อชุติมา เมื่อวันที่ 2
ผม : ยังไม่ได้ใช้แน่ๆ ครับ เพราะผมพิมพ์คูปองออกมาเอง แล้วเพิ่งได้นำมาใช้เพราะสาขาน้อยเดินทางลำบากในการนำมาใช้
พนักงาน : เดี๊ยวขอตรวจสอบก่อนนะคะ ... (นำขนมหวานที่ทำแล้วไปแช่ตู้เย็นรอ ... แล้วก็เริ่มโทรหาคุณชุติมา ซึ่งเธอบอกว่าได้ซื้อคูปองเช่นกัน แต่ซื้อมาสามใบ และใช้ไปจริง แต่จำไม่ได้ว่ารหัสใด และพนักงานก็ให้คุณชุติมาตรวจสอบ)
พนักงาน : เริ่มโทรหาผู้บริหารที่สูงขึ้น แล้วก็คุยกันสักพักก่อนส่งโทรศัพท์มาให้ผม
ผม : สวัสดีครับ ผมได้นำคูปองนี้มาใช้ แต่พนักงานบอกว่าใช้ไม่ได้ เพราะมีคนนำมาใช้แล้ว
ผู้บริหาร : ต้องตรวจสอบคะ เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าคุณให้คูปองใครไปหรือไม่ ขอตรวจสอบก่อนคะ แล้วจะติดต่อไป
ผม : ผมเดินทางมาที่นี่เพื่อทานขนมหวานคุณโดยเฉพาะนะครับ แบบนี้ผมก็เสียเที่ยวหรือครับ
ผู้บริหาร : ก็ต้องตรวจสอบคะ จะตรวจสอบกับทั้ง Ensogo และคนที่ใช้คูปองแล้ว
ผม : ต้องตรวจสอบอีกนานไหมครับ ผมต้องไปธุระที่อื่นต่อครับ
ผู้บริหาร : ยังไม่ทราบคะ ถ้ากลัวคูปองหมดอายุจะต่ออายุให้ หรือจะส่งคูปองใหม่ไปให้ที่บ้าน
ผม : สรุปผมจะมาเสียเที่ยวหรือครับ ผมเสียค่าเดินทางมาเพื่อใช้คูปองนะครับ
ผู้บริหาร : ก็ทำอะไรไม่ได้นี่คะ ตรวจสอบก็คือตรวจสอบ ถ้าคุณคิดว่ายังไม่ได้ใช้จริงจะกลัวอะไร
ผมจึงคิดว่าคุยกับท่านผู้บริหารไม่รู้เรื่องแน่ จึงส่งโทรศัพท์คืนพนักงาน และพนักงานทั้งสองคนก็ช่วยกันค้นหาคูปองต่างๆ ที่มีผู้ใช้บริการแล้ว และให้ผมนั่งรออีก 20 นาที ก่อนจะนำขนมหวานมาให้ผม ผมจึงถามว่า "เจอคูปองแล้วหรือครับ" พนักงานจึงตอบเพียงว่า "ยังคะ"
ผมจึงนั่งทานแบบหมดอารมณ์ แต่ก็ต้องทานก่อนมันจะละลาย
หลังจากนั้นอีก 5 นาที พนักงานก็เรียกผม และบอกว่า "พี่คะ ตกลงช่วยเซ็นตรงนี้นะคะ สรุปคือลูกค้าคนก่อนลงชื่อผิดช่อง"
ผมแทบจะอยากต่อว่า แต่ก็สงสารที่พวกเขาช่วยกันแก้ปัญหานี้ และเสียดายที่ไม่ได้คุยกับผู้บริหารอีกครั้ง (เพราะพนักงานพูดกันเองว่าโทรหาท่านไม่ติด)
ถ้าผมได้คุยกับท่านคงจะถามท่านว่าท่านจะแก้ปัญหาอย่างไร ???
ปัญหาที่เกิดขึ้น ผมผิดหรือที่ต้องเสียเวลารอทานขนมหวานของท่านเกือบครึ่งชั่วโมง ???
แถมก่อนหน้าก็ถูกตราหน้าว่าอยากทานมาก อยากทานซ้ำ นำคูปองที่ใช้แล้ว วนมาใช้ใหม่ ...
เรื่องทั้งหมดนี้ ผมไม่คิดว่าเป็นความผิดของพนักงาน เพราะอาจมีความผิดพลาด ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับระบบการขายที่ลูกค้าที่ลงนามผิดช่องอาจซื้อในช่วงที่มีผู้ใช้บริการหลายคน (และพนักงานก็พูดกันว่าถ้ามีการทำผิดพลาด พวกเรานี่แหละจะแย่ โดยเฉพาะคนลงนามกำกับ)
*** แต่ผู้บริหารร้านแฟรนไชส์ที่มีหลายสาขาในห้างดัง มีการแก้ไขสถานการณ์เช่นนี้ กับของราคาร้อยต้นๆ ***
ครั้งนี้คงเป็นครั้งเดียวกับการทานขนมหวานยี่ห้อนี้ !!!