6 เดือนที่ได้ลาออกจากงานประจำมาขายของทาง online (eBay Amazon Facebook)

จากกระทู้นี้เมื่อปีที่แล้ว http://pantip.com/topic/31825634

ผมได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเมื่อกลางเดือนตุลาคม 57 เพื่อมาลองลุยกับการเป็นเจ้าของกิจการส่วนตัว

ตอนลาออกผมมีเงินเดือนประมาณ 100,000 บาท ไม่รวมสวัสดิการอื่นๆ ตอนนั้นแค่คิดว่าออกมาลุยไม่ไหวก็กลับไปหางานทำอีกครั้ง แต่หลายๆคนทักท้วงว่าอย่าออกเลยเป็นมนุษย์เงินเดือนดีแล้ว

เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ เพราะผมเห็นหนังสือ How to มากมาย และคำว่าออกจาก Comfort Zone

จริงๆลึกๆหนังสือเหล่านั้นและคำว่า ออกจาก Comfort Zone ก็มีส่วนให้ผมตัดสินใจลาออกด้วย

ผมสรุปประสบการณ์โดยภาพรวมไว้ได้ประมาณ 10 ข้อ

1. โลกแห่งการเป็น entrepreneur มันยากมากถึงมากที่สุดครับ ไม่ได้สวยงามเหมือนในหนังสือพวกนั้นเลย ใครที่บอกว่าออกมาทำเองสบาย อย่าไปเชื่อครับ ช่วงแรกๆลำบากสุดๆ

2. ประสบการณ์ที่ได้รับในช่วง 6 เดือน มันมากกว่าประสบการณ์ทำงานร่วมๆ 10 ปี

3. ทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินของเราหมด ทำอะไรที่ต้องใช้เงินต้องคิดหน้าคิดหลังว่าคุ้มไหมที่จะลงทุน

4. ไม่เคยมีวันหยุด ร่างกายอาจจะหยุดพักแต่สมองไม่เคยหยุดคิด

5. กลัวเจ๊งตลอดเวลา

6. Youtube มั้งจะไม่ได้ใช่ดู Clip สนุกสนานหรือฟังเพลงอีกต่อไป แต่จะให้ดูและฟังประสบการณ์ของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ (ผมชอบคุณวสันต์แห่ง Benz ทองหล่อ กับคุณตัน) เวลาดูจบ 1 ท่าน List ข้างๆจะมีท่านอื่นๆให้ฟังอีก

7. ความรู้หาได้จาก Youtube Google Facebook และ ปากเราที่จะไปถามผู้รู้

8. ต้องวางแผนระยะสั้น ระยะยาว แต่เปลี่ยนตลอดตามสภาวะ

9. กำลังใจจากคนข้างๆ ทั้งแฟน แม่ แม่แฟน ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท สำคัญสุดๆ

10. พรที่สำคัญและประเสริฐที่สุดคือพรจากแม่ทุกเช้า


และผมได้สรุปประสบการณ์ที่ได้ขายของ online

1. ตลาดไม่ได้มีแค่ eBay และ Amazon ต้องหาตลาดเพิ่ม ของจะขายได้ดีขึ้นต้องมีช่องทางอื่นๆ

2. คนไทยมักตัดราคากันเอง หรือซื้อของคู่แข่งแล้วให้ negative feedback กัน (ผมยังไม่เคยโดน แต่เพื่อนๆหลายคนโดนกัน)

3. อยากอยู่รอด อย่าหาสินค้าที่เป็น Red Ocean ใน eBay และ Amazon ต้องสร้าง Brand เอง ออกแบบสินค้า หาโรงงานผลิตเอง ใครขาย Amazon จะทราบเรื่องการ Hi Jack สินค้าใน Sale Page ดี

4. มีแบรนด์เอง ลูกค้าเริ่มหาสินค้าเราด้วย Brand แล้ว จงหาทางเปิด website และทำโฆษณาทางอื่นๆ (ผมกำลังลองผิดลองถูกอยู่)

5. การขายสินค้า Online ก็เหมือนขาย Offline คือสินค้าต้องดี บริการลูกค้าต้องเยี่ยม คิดเสียว่าเราอยากอะไรจากคนขาย เราก็ต้องทำกับลูกค้าเราแบบนั้น

6. ภาษาอังกฤษต้องพอสื่อสารได้ Google Translate ดีแต่บางครั้งอาจพาคุณลงคลองเวลาคุยกับลูกค้า

7. ฝรั่งไม่ได้เป็นคนดีทุกคน บางครั้งอยากได้ของฟรีก็มี

8. ขายด้วย Facebook ในประเทศกำไรดี ความเสี่ยงเรื่องขนส่งน้อยกว่า แต่ต้องหาสินค้าตัวนั้นให้เจอ (ผมเจอมา 1 ตัว)

9. Supplier ที่ผลิตสินค้าให้เรา มักจะช่วยบอกเราว่าสินค้าอะไรที่เค้าขายดี ขายไม่ดี

10. ใน eBay และ Amazon อย่าขายของที่เราไม่สบายใจที่จะขาย เช่นของสีเทาระหว่างถูกลิขสิทธิ์หรือผิดลิขสิทธิ์ (เพื่อนผมโดน Sue จากเจ้าของ Brand ซึ่งอาจจะเป็นคำขู่ แต่เพื่อนผมเลิกขายทาง online ไปเลย)

11. ช่วงไหนขายดี ให้ฝึกใจไว้เผื่อช่วงขายไม่ดีด้วย

12. ทำบัญชีเสียภาษีด้วย

หวังว่าสิ่งที่ผม share จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกๆท่าน

ผมยังเห็นคนหน้าใหม่ๆเข้ามาขายของทาง online ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น แต่ก็จะหายไปในเวลาไม่กี่เดือน ฝากไว้คืออย่าท้อครับ ไม่มีอะไรง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไป

ขอบคุณครับ

-----------------------------------------

เพิ่มเติมให้นะครับ

มีเพื่อนๆหลายท่านหลังไมค์มาถามการหาสินค้ามาขาย online ครับ

ผมใช้เวลาตั้งแต่เริ่มขาย กรกฎาคม 56 กว่าจะเจอสินค้าที่ "เกิด" มาเพื่อผมก็ประมาณเดือนตุลาคม 56 หลังจากนั้นก็ขายสินค้าตัวนี้มาโดยตลอด

พอขายตัวนี้ดี ตัวอื่นๆมันก็ค่อยเกิดจากการแนะนำของ supplier และการสร้างความแตกต่างกับคู่แข่ง สุดท้ายก็เลยเป็นแบรนด์ครับ

ส่วนวิธีของผมคิดง่ายๆครับ

อย่างแรกต้องหาว่าตลาดขณะนั้นต้องการอะไร หลายๆคนเริ่มต้นด้วยการขายของที่ตัวเองอยากขาย (ผมก็เช่นกัน) สุดท้ายไม่ตอบโจทย์ก็ท้อแล้วก็เลิก

แต่ใครโชคดีคือขายของที่อยากขายแลัวเป็นของที่ตลาดต้องการ

สำคัญที่สุดคือต้องทราบ trend ของตลาด ซึ่งมันก็มีหลายๆวิธีทั้งหนังสือ หนัง หรือ internet

ช่วงนี้อะไร Hit ลูกค้าคือใคร (ผู้ชาย ผู้หญิง ผู้ใหญ่ วัยรุ่น) และฤดูกาล เทศกาลก็มีผลครับ เช่นคงไม่มีใครซื้อต้นคริสมาสต์ในวันวาเลนไทน์ หรือถุงมือกันหนาวในฤดูร้อน

ลองดูครับ สู้ๆ อย่าท้อ อย่าฆ่าคนไทยกันเองโดยการตัดราคา สู้กันด้วยการบริการ สู้กันด้วยความแตกต่างครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่