สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆทุกคน วันนี้มีคำถามมาปรึกษาอีกแล้วค่ะ ตอนนี้เราทั้งสับสนและกังวลใจมากเกี่ยวกับเรื่องการงาน เราไม่รู้จะไปทางไหนดี หรือ กระทั่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆเราชอบอะไร T^T
จขกท จบเอกภาษาอังกฤษ ชอบพบปะผู้คน ชอบการเดินทางท่องเที่ยว ชอบเป็นผู้นำ วางแผน จัดการ อะไรก็ตามที่วางแผนไว้ควรจะเป็นไปตามนั้นเสมอ ไม่ว่าจะตารางชีวิตหรืองาน เคยทำงานด้าน Food Service ตอนไปเวิกแอนด์ทราฟเวลค่ะ สนใจเรื่องธุรกิจ (ที่ยังไม่สามารถสโคปได้ว่าคืออะไร) เป้าหมายคือถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปทำงานเมืองนอกค่ะ แต่ปัญหาคือ "ระบุไม่ได้ว่างานนั้นคืองานแบบไหน"น่ะสิ
จขกท เพิ่งออกจากงานที่แรก และมาเริ่มงานโรงแรมได้ 1 เดือน โดยตำแหน่งจะเป็นคล้ายกับ Service Attendant แต่เป็นของเลาจน์ VIP ค่ะ สาเหตุคือ โรงแรมอยู่ไกลบ้าน หากเดินทางด้วยบีทีเอส และต่อรถก็จะราวๆ เกือบ 1 ชม. ในเวลาปกติค่ะ และ เราไม่สะดวกมาเข้ากะเช้าเนื่องจากไม่มีรถตัวเอง และต้องให้คุณพ่อมาส่งซึ่งท่านก็ไม่สะดวกน่ะค่ะ ส่วนสาเหตุที่รู้ทั้งรู้ว่าไกลแต่ก็ยังอยากทำนั้น ตอนแรกเราก็นึกว่ามันคงทำได้ไม่มีปัญหา เพราะอุตส่าห์ได้รับการตอบรับให้ทำโรงแรมหรูริมน้ำระดับห้าดาว มันก็ยากที่จะปฏิเสธใช่มั้ยล่ะคะ
วันที่เราจะไปเขียนใบลาออก HR ขอให้อยู่ต่อโดยจะทำเรื่องย้ายแผนกให้โดยให้มีเวลาเป็น Office Hours โดยที่เราก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเราจะยังได้รับโอกาสนี้ โดยเราขอเล่าโดยสรุปว่าเค้าให้เราไปสัมภาษณ์ตำแหน่ง Sale วันนี้ค่ะ และเรามีความรู้สึกว่าเราทำได้ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ จนผู้สัมภาษณ์พูดว่า "พี่ว่าหนูลองกลับไปคิดดีๆดูก่อนนะว่าตัวเองชอบอะไร และ อยากเป็นอะไร อย่าเพิ่งด้วนตัดสินใจและอย่าเพิ่งยอมแพ้" ท้ายที่สุดเค้าบอกว่าถ้าเราอยากรู้ว่าเซลล์เค้าทำงานกันยังไงจะให้เข้ามาทดลองดูก่อนได้ แต่ต้องทำการคุยกับเอชอาก่อน ซึ่งวันจันทร์เราจะเข้าไปคุยอีกรอบค่ะ
แต่ก่อนหน้านั้น เรานึกว่าตัวเองต้องออกแน่ๆแล้วเลยไปสัมภาษณ์กับบริษัทญี่ปุ่น ตำแหน่ง Sale-Co เหมือนกันค่ะ แต่ต่างกันตรงที่บริษัทนี้เพิ่งเปิดสาขาในไทยได้ไม่นาน แต่ที่ญี่ปุ่นถือเป็นบริษัทด้านผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประกอบอาหารที่มีชื่อเสียงมานานแล้ว ซึ่งเค้าระบุว่าช่วงแรกอาจจะต้องทำงานแบบ Multi-tasking ไปก่อน เจ้านายญี่ปุ่นตอนสัมภาษณ์อัธยาศัยดีมากค่ะ และงานมีโอกาสได้เรียนรู้สกิลจากหลายด้านและเดินทางพบปะลูกค้าทั้งในและนอกประเทศค่ะ ซึ่งที่นี่การเดินทางสะดวกมาก และใกล้กว่าครึ่งต่อครึ่งเลยค่ะ (เรากำลังรอสัมภาษณ์รอบไฟนอลวันที่ 23 เม ย นี้ค่ะ)
โดยส่วนตัวงานที่โรงแรมที่เราทำอยู่ปัจจุบัน เรามีความสุขที่ได้พบปะแขกหลายเชื้อชาติ ชวนคุย แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ได้บริการเค้า ได้รับคำขอบคุณและรอยยิ้มของเขา แต่เพราะการเดินทางที่ค่อนข้างไม่สะดวก และทักษะด้าน F&B ที่เราเคยได้ทำมาตลอดตอนไป Work and Travel ทั้งสามปี ทำให้เราคิดว่า เหมือนมันเป็นเรื่องที่เรารู้อยู่แล้ว ลึกๆเราอยากเรียนรู้สกิลด้านธุรกิจ (เชื่อมั้ยคะ วันนี้เราตอบพี่ที่สัมภาษณ์ไม่ได้ว่าเราอยากเรียนรู้สกิลธุรกิจด้านไหน เค้าบอกเราตอบกว้างมากโดนตีหลังหักเยย) ซึ่งการสัมภาษณ์วันนี้มันทำให้เรารู้สึกเฟลตรงที่ว่า "จริงด้วย เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้วเราอยากทำอะไร เราเหมาะกับอะไร"
ต้องขอโทษที่เกริ่นมาซะยาวนะคะ คำถามคือ
1. เราควรจะอยู่ที่เก่า เพื่ออดทนรอโอกาส และสู้กับอุปสรรคต่างๆต่อไปดีมั้ยคะ?
2. Sale-Co ของธุรกิจทุกประเภท มีทักษะที่เหมือนหรือต่างกันหรือไม่คะ? เช่น หากเป็นเซลล์ด้านผลิตภัณฑ์อาหารมาก่อน แล้วในอนาคตไปธุรกิจท่องเที่ยวจะเป็นไปได้มั้ยคะ?
3. เพื่อนๆพี่ๆเคยเจออุปสรรคอะไรในการทำงานบ้าง และก้าวผ่านมันมาได้ยังไงคะ?
4. ใช้เวลานานแค่ไหนถึงหาตัวเองเจอ รวมทั้งเจองานที่เราทำและมีความสุข?
อาจจะดูว่าเรายอมแพ้ง่ายจัง ซึ่งก็จริงค่ะ เราก็ไม่คิดว่าเราจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน พอมาเจองานที่ต้องยืนและเดินเกือบ สิบ ชม เดินทางไปกลับอีกเกือบ สอง ชม เหมือนตารางชีวิตเรารวนไปเลยค่ะ พอได้มีโอกาสสัมภาษณ์ตำแหน่งอื่นก็เหมือนว่าจะไม่ได้อีก เราเลยกลับมานั่งเครียดเลยค่ะทีนี้ หากใครอ่านจนถึงตรงนี้ก็คงจะรู้ว่า เป้าหมายของเรามันเบลอ มาก ไม่ชัดเจน ไม่อะไรสักอย่าง ดังนั้น เราเลยมาขอคำแนะนำและกำลังใจในการเดินทางเพื่อค้นหาตนเองต่อไปค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ^^
ปล หากแท็กผิดไปบ้าง ต้องขออภัยนะคะ
ขอคำแนะนำ(และกำลังใจ): เรียนจบมา 1 ปี แต่ยังไม่รู้ว่าควรไปงานสายไหนดี Sale Co ของบริษัทหรือโรงแรม
จขกท จบเอกภาษาอังกฤษ ชอบพบปะผู้คน ชอบการเดินทางท่องเที่ยว ชอบเป็นผู้นำ วางแผน จัดการ อะไรก็ตามที่วางแผนไว้ควรจะเป็นไปตามนั้นเสมอ ไม่ว่าจะตารางชีวิตหรืองาน เคยทำงานด้าน Food Service ตอนไปเวิกแอนด์ทราฟเวลค่ะ สนใจเรื่องธุรกิจ (ที่ยังไม่สามารถสโคปได้ว่าคืออะไร) เป้าหมายคือถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปทำงานเมืองนอกค่ะ แต่ปัญหาคือ "ระบุไม่ได้ว่างานนั้นคืองานแบบไหน"น่ะสิ
จขกท เพิ่งออกจากงานที่แรก และมาเริ่มงานโรงแรมได้ 1 เดือน โดยตำแหน่งจะเป็นคล้ายกับ Service Attendant แต่เป็นของเลาจน์ VIP ค่ะ สาเหตุคือ โรงแรมอยู่ไกลบ้าน หากเดินทางด้วยบีทีเอส และต่อรถก็จะราวๆ เกือบ 1 ชม. ในเวลาปกติค่ะ และ เราไม่สะดวกมาเข้ากะเช้าเนื่องจากไม่มีรถตัวเอง และต้องให้คุณพ่อมาส่งซึ่งท่านก็ไม่สะดวกน่ะค่ะ ส่วนสาเหตุที่รู้ทั้งรู้ว่าไกลแต่ก็ยังอยากทำนั้น ตอนแรกเราก็นึกว่ามันคงทำได้ไม่มีปัญหา เพราะอุตส่าห์ได้รับการตอบรับให้ทำโรงแรมหรูริมน้ำระดับห้าดาว มันก็ยากที่จะปฏิเสธใช่มั้ยล่ะคะ
วันที่เราจะไปเขียนใบลาออก HR ขอให้อยู่ต่อโดยจะทำเรื่องย้ายแผนกให้โดยให้มีเวลาเป็น Office Hours โดยที่เราก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเราจะยังได้รับโอกาสนี้ โดยเราขอเล่าโดยสรุปว่าเค้าให้เราไปสัมภาษณ์ตำแหน่ง Sale วันนี้ค่ะ และเรามีความรู้สึกว่าเราทำได้ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ จนผู้สัมภาษณ์พูดว่า "พี่ว่าหนูลองกลับไปคิดดีๆดูก่อนนะว่าตัวเองชอบอะไร และ อยากเป็นอะไร อย่าเพิ่งด้วนตัดสินใจและอย่าเพิ่งยอมแพ้" ท้ายที่สุดเค้าบอกว่าถ้าเราอยากรู้ว่าเซลล์เค้าทำงานกันยังไงจะให้เข้ามาทดลองดูก่อนได้ แต่ต้องทำการคุยกับเอชอาก่อน ซึ่งวันจันทร์เราจะเข้าไปคุยอีกรอบค่ะ
แต่ก่อนหน้านั้น เรานึกว่าตัวเองต้องออกแน่ๆแล้วเลยไปสัมภาษณ์กับบริษัทญี่ปุ่น ตำแหน่ง Sale-Co เหมือนกันค่ะ แต่ต่างกันตรงที่บริษัทนี้เพิ่งเปิดสาขาในไทยได้ไม่นาน แต่ที่ญี่ปุ่นถือเป็นบริษัทด้านผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประกอบอาหารที่มีชื่อเสียงมานานแล้ว ซึ่งเค้าระบุว่าช่วงแรกอาจจะต้องทำงานแบบ Multi-tasking ไปก่อน เจ้านายญี่ปุ่นตอนสัมภาษณ์อัธยาศัยดีมากค่ะ และงานมีโอกาสได้เรียนรู้สกิลจากหลายด้านและเดินทางพบปะลูกค้าทั้งในและนอกประเทศค่ะ ซึ่งที่นี่การเดินทางสะดวกมาก และใกล้กว่าครึ่งต่อครึ่งเลยค่ะ (เรากำลังรอสัมภาษณ์รอบไฟนอลวันที่ 23 เม ย นี้ค่ะ)
โดยส่วนตัวงานที่โรงแรมที่เราทำอยู่ปัจจุบัน เรามีความสุขที่ได้พบปะแขกหลายเชื้อชาติ ชวนคุย แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ได้บริการเค้า ได้รับคำขอบคุณและรอยยิ้มของเขา แต่เพราะการเดินทางที่ค่อนข้างไม่สะดวก และทักษะด้าน F&B ที่เราเคยได้ทำมาตลอดตอนไป Work and Travel ทั้งสามปี ทำให้เราคิดว่า เหมือนมันเป็นเรื่องที่เรารู้อยู่แล้ว ลึกๆเราอยากเรียนรู้สกิลด้านธุรกิจ (เชื่อมั้ยคะ วันนี้เราตอบพี่ที่สัมภาษณ์ไม่ได้ว่าเราอยากเรียนรู้สกิลธุรกิจด้านไหน เค้าบอกเราตอบกว้างมากโดนตีหลังหักเยย) ซึ่งการสัมภาษณ์วันนี้มันทำให้เรารู้สึกเฟลตรงที่ว่า "จริงด้วย เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้วเราอยากทำอะไร เราเหมาะกับอะไร"
ต้องขอโทษที่เกริ่นมาซะยาวนะคะ คำถามคือ
1. เราควรจะอยู่ที่เก่า เพื่ออดทนรอโอกาส และสู้กับอุปสรรคต่างๆต่อไปดีมั้ยคะ?
2. Sale-Co ของธุรกิจทุกประเภท มีทักษะที่เหมือนหรือต่างกันหรือไม่คะ? เช่น หากเป็นเซลล์ด้านผลิตภัณฑ์อาหารมาก่อน แล้วในอนาคตไปธุรกิจท่องเที่ยวจะเป็นไปได้มั้ยคะ?
3. เพื่อนๆพี่ๆเคยเจออุปสรรคอะไรในการทำงานบ้าง และก้าวผ่านมันมาได้ยังไงคะ?
4. ใช้เวลานานแค่ไหนถึงหาตัวเองเจอ รวมทั้งเจองานที่เราทำและมีความสุข?
อาจจะดูว่าเรายอมแพ้ง่ายจัง ซึ่งก็จริงค่ะ เราก็ไม่คิดว่าเราจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน พอมาเจองานที่ต้องยืนและเดินเกือบ สิบ ชม เดินทางไปกลับอีกเกือบ สอง ชม เหมือนตารางชีวิตเรารวนไปเลยค่ะ พอได้มีโอกาสสัมภาษณ์ตำแหน่งอื่นก็เหมือนว่าจะไม่ได้อีก เราเลยกลับมานั่งเครียดเลยค่ะทีนี้ หากใครอ่านจนถึงตรงนี้ก็คงจะรู้ว่า เป้าหมายของเรามันเบลอ มาก ไม่ชัดเจน ไม่อะไรสักอย่าง ดังนั้น เราเลยมาขอคำแนะนำและกำลังใจในการเดินทางเพื่อค้นหาตนเองต่อไปค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ^^
ปล หากแท็กผิดไปบ้าง ต้องขออภัยนะคะ