
ช้างศึก
(credit : wikipedia)
ณ ตอนนี้ กระแสฟุตบอลไทย ทั้งในลีกและในส่วนของทีมชาติกำลังมาแรง อาจจะเป็นปฏิกิริยาที่ได้มาจากการที่ทีมชาติไทยคว้าแชมป์
AFF Suzuki Cup ครั้งที่ 10 (ค.ศ. 2014) เป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ในรอบ 12 ปี ซึ่งไทยเคยเป็นแชมป์รายการนี้มาแล้ว 3 สมัย (นับรวมครั้งนี้ก็ 4 สมัยเท่ากับ สิงคโปร์)
ย้อนดูความสำเร็จของทีมชาติไทยกันบ้าง เคยเข้ารอบ
โอลิมปิก เมื่อปี ค.ศ. 1956 (พ.ศ. 2499) และ ปี ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ โดนเก็บซะยับเยินในเวทีระดับนานาชาติ และหลังจากนั้นก็ไม่เคยผ่านเข้ารอบอีกเลย
ใน
เอเชี่ยนคัพ ทีมชาติไทยทำได้ดีที่สุดแค่อันดับ 3 ในปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) ในครั้งที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยการเอาชนะจุดโทษต่อสาธารณรัฐเขมร 5-3 (ในเวลาเสมอกัน 2-2) จากนั้นเป็นต้นมา ส่วนใหญ่จะเล่นแค่รอบแรก หรือไม่ก็ไม่ผ่านรอบคัดเลือกจนถึงปัจจุบัน
ใน
เอเชี่ยนเกมส์ ทีมชาติไทยทำได้ดีที่สุดแค่รอบรองชนะเลิศเท่านั้น โดยล่าสุด ทีมชาติไทยก็พ่ายต่อทีมชาติอิรัก 0-1 พลาดคว้าเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์ไปอย่างน่าเสียดาย และตัวแสบในนัดนั้นก็คือ ยูนิส มะห์มูด นี่ละครับ
มาดูในระดับ
ซีเกมส์ ไทยเป็นแชมป์ 14 ครั้ง นับเป็นแชมป์ที่สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซี่ยนแล้ว ทิ้งคู่แข่งอันดับสองอย่าง มาเลเซีย ที่ได้แชมป์เพียงแค่ 6 ครั้งเท่านั้น นอกนั้นก็จะเป็นความสำเร็จยิบย่อย เช่น แชมป์คิงส์คัพ 13 ครั้ง, แชมป์ฟุตบอลสามเส้าที่ได้หวัน พ.ศ. 2514 และอื่น ๆ อีกมากมาย)

ราชมังคลากีฬาสถาน สเตเดี้ยม
(credit : pantip.com)
ส่วนรังเหย้าของทีมชาติไทย คือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพฯ จุผู้ชมได้ราว ๆ 55,000 คน และนี่เป็นสังเวียนที่ทีมชาติไทยจะใช้โม่แข้งกับผู้เล่นร่วมสายหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เรามาดูผู้เล่นตัวสำคัญที่ (ผม) คาดว่าน่าจะได้ลงทำศึกคัดบอลโลกคราวนี้

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
(credit : mtufc.com)
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ : ผู้รักษาประตูฝีมือดีจากสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมจากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ด้วยปฏิกิริยาที่ดี แข็งแรง น่าจะได้รับความไว้วางใจจาก โค้ชเกียรติ์ศักดิ์ให้ยืนประจำการเป็นนายประตูทีมช้างศึกในครั้งนี้

ธีราทร บุญมาทัน
(credit : thairath.com)
ธีราทร บุญมาทัน : ยอดแบ็คซ้ายกัปตันทีมชาติไทย จากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก มีทีเด็ดในการใช้ลูกนิ่งจู่โจมคู่แข่ง อีกทั้งการวางบอลที่แม่นยำ เป็นตัวเดินเกมส์ทั้งรับและรุกทางกราบซ้าย ถือเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองอีกคนนึง

สุทธินันท์ พุกหอม
(credit : kaiyim.com)
สุทธินันท์ พุกหอม : หัวใจในแนวรับของทีมชาติไทยชุดใหญ่ สังกัดสโมสรชลบุรี เอฟซี ทีมจากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ด้วยการอ่านเกมส์และทำลายเกมส์แบบเด็ดขาด มีความนิ่งที่สามารถคุมแผงหลังได้อย่างแนบเนียน จึงไม่แปลกใจถ้าสุทธินันท์ จะถูกเฮดโค้ชเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ในตำแหน่งแนวรับ

เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์
(credit : picpost.postjung.com)
เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ : ตัวรุกสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งริมเส้น, กองกลาง หรือจะดันไปเล่นหน้าก็ได้ มีความคล่องตัวและรวดเร็ว ปัจจุบันสังกัดสโมสรชลบุรี เอฟซี ทีมจากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก น่าจะเป็นอาวุธที่ทีมชาติไทยน่าจะเลือกใช้อีกเช่นกัน

จักรพันธ์ พรใส
(credit : goal.com)
จักรพันธ์ พรใส : ตัวริมเส้น ที่มีความเร็วและคล่องตัวสูงมาก อีกทั้งการพาบอลไปกับตัวค่อนข้างดี และมีทีเด็ดที่ลูกยิงไกล อีกหนึ่งอาวุธที่คิดว่าโค้ชเกียรติ์ศักดิ์ไม่น่าจะพลาดในการเลือกใช้งานเขา

ธีรศิลป์ แดงดา
(credit : hunsa.com)
ธีรศิลป์ แดงดา : ศูนย์หน้าตัวความหวังทีมชาติไทย ปัจจุบันสังกัดสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีประสบการณ์ไปค้าแข้งอยู่กับทีมอัลเมเรีย ในลีกลาลีก้า แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ปัจจุบันแม้ยังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาไม่ได้ แต่หากมองในด้านของประสบการณ์แล้วนับเป็นอีกคนนึงที่โค้ชเกียรติ์ศักดิ์น่าจะใช้เป็นอาวุธหลักในการล่าตาข่ายฝั่งตรงข้าม

เกียรติ์ศักดิ์ เสนาเมือง
(credit : kapook.com)
เกียรติ์ศักดิ์ เสนาเมือง : เฮดโค้ชทีมชาติไทย ผู้ที่ร่ายมนต์ปลุกช้างศึกให้คืนชีพโดยการรินแชมป์ AFF Suzuki Cup ครั้งที่ 10 ให้ทีมชาติเริ่มฟื้นจากอาการโคม่า ด้วยสไตล์การทำฟุตบอลที่เน้นเรื่องวินัยเป็นหลัก น่าจะทำให้ทีมชาติไทยไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ได้
นั่นคือทั้งหมดที่ผมคิดไว้ และอยากฝากไว้ว่า จริง ๆ ผมไม่รู้หรอกครับ ว่า "
ผู้เล่นคนไหนควรอยู่ชุดไหน" เพราะผมเชื่อว่า ทีมงานสต๊าฟโค้ชน่าจะคิดกันมาอย่างดีแล้วถึงการวางแผนต่าง ๆ ในการดำเนินงาน ดังนั้น แม้ว่าบางครั้งดูเหมือนจะจัดตัว จัดทัพได้ขัดใจซะเหลือเกิน วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา แต่สิ่ง ๆ หนึ่งที่เราควรระลึกไว้เสมอ คือ "
การให้เกียรติ์เขาได้ทำงานอย่างเต็มที่" ครับ หากสิ่งที่เขาวางเป้าหมายไว้แล้วทำไม่สำเร็จ นั่นคือ สิ่งที่เราต้องมาทบทวนหาข้อผิดพลาดและทวงถามความรับผิดชอบในฐานะทีมงานสต๊าฟโค้ชที่ดูแลฟุตบอลทีมชาติไทย
และนับจากนี้ต่อไป "ช้างศึก" ตัวนี้จะผงาดขึ้นมาเดินทางไปสู่ในระดับเอเซีย หรือ ระดับนานาชาติได้หรือไม่? .. ติดตามชมกันต่อไปครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
บทความเดิม
รู้เขารู้เรา : ทีมฟุตบอลชายอิรัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/33515177
รู้เขารู้เรา(2) : ทีมฟุตบอลชายจีนไทเป (ไต้หวัน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/33516123
รู้เขารู้เรา(3) : ทีมฟุตบอลชายอินโดนีเซีย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/33517883
รู้เขารู้เรา(4) : ทีมฟุตบอลชายเวียดนาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/33520111
รู้เขา(แล้ว)รู้เรา(บ้าง) : ทีมฟุตบอลชายไทย
ช้างศึก
(credit : wikipedia)
ณ ตอนนี้ กระแสฟุตบอลไทย ทั้งในลีกและในส่วนของทีมชาติกำลังมาแรง อาจจะเป็นปฏิกิริยาที่ได้มาจากการที่ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ AFF Suzuki Cup ครั้งที่ 10 (ค.ศ. 2014) เป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ในรอบ 12 ปี ซึ่งไทยเคยเป็นแชมป์รายการนี้มาแล้ว 3 สมัย (นับรวมครั้งนี้ก็ 4 สมัยเท่ากับ สิงคโปร์)
ย้อนดูความสำเร็จของทีมชาติไทยกันบ้าง เคยเข้ารอบโอลิมปิก เมื่อปี ค.ศ. 1956 (พ.ศ. 2499) และ ปี ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ โดนเก็บซะยับเยินในเวทีระดับนานาชาติ และหลังจากนั้นก็ไม่เคยผ่านเข้ารอบอีกเลย
ในเอเชี่ยนคัพ ทีมชาติไทยทำได้ดีที่สุดแค่อันดับ 3 ในปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) ในครั้งที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยการเอาชนะจุดโทษต่อสาธารณรัฐเขมร 5-3 (ในเวลาเสมอกัน 2-2) จากนั้นเป็นต้นมา ส่วนใหญ่จะเล่นแค่รอบแรก หรือไม่ก็ไม่ผ่านรอบคัดเลือกจนถึงปัจจุบัน
ในเอเชี่ยนเกมส์ ทีมชาติไทยทำได้ดีที่สุดแค่รอบรองชนะเลิศเท่านั้น โดยล่าสุด ทีมชาติไทยก็พ่ายต่อทีมชาติอิรัก 0-1 พลาดคว้าเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์ไปอย่างน่าเสียดาย และตัวแสบในนัดนั้นก็คือ ยูนิส มะห์มูด นี่ละครับ
มาดูในระดับซีเกมส์ ไทยเป็นแชมป์ 14 ครั้ง นับเป็นแชมป์ที่สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซี่ยนแล้ว ทิ้งคู่แข่งอันดับสองอย่าง มาเลเซีย ที่ได้แชมป์เพียงแค่ 6 ครั้งเท่านั้น นอกนั้นก็จะเป็นความสำเร็จยิบย่อย เช่น แชมป์คิงส์คัพ 13 ครั้ง, แชมป์ฟุตบอลสามเส้าที่ได้หวัน พ.ศ. 2514 และอื่น ๆ อีกมากมาย)
ราชมังคลากีฬาสถาน สเตเดี้ยม
(credit : pantip.com)
ส่วนรังเหย้าของทีมชาติไทย คือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพฯ จุผู้ชมได้ราว ๆ 55,000 คน และนี่เป็นสังเวียนที่ทีมชาติไทยจะใช้โม่แข้งกับผู้เล่นร่วมสายหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เรามาดูผู้เล่นตัวสำคัญที่ (ผม) คาดว่าน่าจะได้ลงทำศึกคัดบอลโลกคราวนี้
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
(credit : mtufc.com)
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ : ผู้รักษาประตูฝีมือดีจากสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมจากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ด้วยปฏิกิริยาที่ดี แข็งแรง น่าจะได้รับความไว้วางใจจาก โค้ชเกียรติ์ศักดิ์ให้ยืนประจำการเป็นนายประตูทีมช้างศึกในครั้งนี้
ธีราทร บุญมาทัน
(credit : thairath.com)
ธีราทร บุญมาทัน : ยอดแบ็คซ้ายกัปตันทีมชาติไทย จากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก มีทีเด็ดในการใช้ลูกนิ่งจู่โจมคู่แข่ง อีกทั้งการวางบอลที่แม่นยำ เป็นตัวเดินเกมส์ทั้งรับและรุกทางกราบซ้าย ถือเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองอีกคนนึง
สุทธินันท์ พุกหอม
(credit : kaiyim.com)
สุทธินันท์ พุกหอม : หัวใจในแนวรับของทีมชาติไทยชุดใหญ่ สังกัดสโมสรชลบุรี เอฟซี ทีมจากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ด้วยการอ่านเกมส์และทำลายเกมส์แบบเด็ดขาด มีความนิ่งที่สามารถคุมแผงหลังได้อย่างแนบเนียน จึงไม่แปลกใจถ้าสุทธินันท์ จะถูกเฮดโค้ชเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ในตำแหน่งแนวรับ
เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์
(credit : picpost.postjung.com)
เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ : ตัวรุกสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งริมเส้น, กองกลาง หรือจะดันไปเล่นหน้าก็ได้ มีความคล่องตัวและรวดเร็ว ปัจจุบันสังกัดสโมสรชลบุรี เอฟซี ทีมจากไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก น่าจะเป็นอาวุธที่ทีมชาติไทยน่าจะเลือกใช้อีกเช่นกัน
จักรพันธ์ พรใส
(credit : goal.com)
จักรพันธ์ พรใส : ตัวริมเส้น ที่มีความเร็วและคล่องตัวสูงมาก อีกทั้งการพาบอลไปกับตัวค่อนข้างดี และมีทีเด็ดที่ลูกยิงไกล อีกหนึ่งอาวุธที่คิดว่าโค้ชเกียรติ์ศักดิ์ไม่น่าจะพลาดในการเลือกใช้งานเขา
ธีรศิลป์ แดงดา
(credit : hunsa.com)
ธีรศิลป์ แดงดา : ศูนย์หน้าตัวความหวังทีมชาติไทย ปัจจุบันสังกัดสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีประสบการณ์ไปค้าแข้งอยู่กับทีมอัลเมเรีย ในลีกลาลีก้า แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ปัจจุบันแม้ยังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาไม่ได้ แต่หากมองในด้านของประสบการณ์แล้วนับเป็นอีกคนนึงที่โค้ชเกียรติ์ศักดิ์น่าจะใช้เป็นอาวุธหลักในการล่าตาข่ายฝั่งตรงข้าม
เกียรติ์ศักดิ์ เสนาเมือง
(credit : kapook.com)
เกียรติ์ศักดิ์ เสนาเมือง : เฮดโค้ชทีมชาติไทย ผู้ที่ร่ายมนต์ปลุกช้างศึกให้คืนชีพโดยการรินแชมป์ AFF Suzuki Cup ครั้งที่ 10 ให้ทีมชาติเริ่มฟื้นจากอาการโคม่า ด้วยสไตล์การทำฟุตบอลที่เน้นเรื่องวินัยเป็นหลัก น่าจะทำให้ทีมชาติไทยไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ได้
นั่นคือทั้งหมดที่ผมคิดไว้ และอยากฝากไว้ว่า จริง ๆ ผมไม่รู้หรอกครับ ว่า "ผู้เล่นคนไหนควรอยู่ชุดไหน" เพราะผมเชื่อว่า ทีมงานสต๊าฟโค้ชน่าจะคิดกันมาอย่างดีแล้วถึงการวางแผนต่าง ๆ ในการดำเนินงาน ดังนั้น แม้ว่าบางครั้งดูเหมือนจะจัดตัว จัดทัพได้ขัดใจซะเหลือเกิน วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา แต่สิ่ง ๆ หนึ่งที่เราควรระลึกไว้เสมอ คือ "การให้เกียรติ์เขาได้ทำงานอย่างเต็มที่" ครับ หากสิ่งที่เขาวางเป้าหมายไว้แล้วทำไม่สำเร็จ นั่นคือ สิ่งที่เราต้องมาทบทวนหาข้อผิดพลาดและทวงถามความรับผิดชอบในฐานะทีมงานสต๊าฟโค้ชที่ดูแลฟุตบอลทีมชาติไทย
และนับจากนี้ต่อไป "ช้างศึก" ตัวนี้จะผงาดขึ้นมาเดินทางไปสู่ในระดับเอเซีย หรือ ระดับนานาชาติได้หรือไม่? .. ติดตามชมกันต่อไปครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
บทความเดิม
รู้เขารู้เรา : ทีมฟุตบอลชายอิรัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รู้เขารู้เรา(2) : ทีมฟุตบอลชายจีนไทเป (ไต้หวัน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รู้เขารู้เรา(3) : ทีมฟุตบอลชายอินโดนีเซีย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รู้เขารู้เรา(4) : ทีมฟุตบอลชายเวียดนาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้