หลวงพ่อชา สอนลูกศิษย์ท่านหนึ่งให้ปล่อยวาง อย่าไปยึดอะไร เพราะจะทำให้เหนื่อย และเป็นทุกข์
ลูกศิษย์ท่านนี้ก็ดีจริงๆ คือปล่อยวางหมดเลย ไม่ทำความสะอาดกุฏิตัวเองเลย หลังคากุฏิพังก็ปล่อยไป เสื้อผ้าขาดก็ปล่อยไป พอหลวงพ่อชาทราบจึงอบรมว่า
"ไอ่ปล่อยวางแบบนี้เค้าเรียกว่าปล่อยวางแบบวัวแบบควาย วัวควายมันซ่อมบ้านไม่ได้ ซ่อมเสื้อผ้าไม่ได้ มันเลยปล่อยวาง แต่เอ็งทำได้ ทำไมเอ็งถึงไม่ทำ การปล่อยวางเราต้องรู้จักคิด รู้จักใช้ปัญญา ต้องเดินสายกลาง ต้องรู้ว่าอันไหนควรทำ อันไหนไม่ควรทำ"
เรื่องนี้ทำให้ใครหลายคนคิดได้ เพราะตอนแรกผู้เขียนก็โง่มาก ถึงขนาดใส่เสื้อผ้าขาดๆเหมือนกัน จริงๆแล้วต้องเดินสายกลาง คืออันไหนทำได้ก็ทำ อันไหนพยายามทำแล้ว ไม่ได้ ก็อย่าไปยึด ให้ปล่อยวางเสีย แล้วจะมีความสุข
http://dhammasawasde.blogspot.com/2013/05/blog-post_10.html
ใครเคยปล่อยวาง แบบนี้บ้าง อะไรก็ไม่สนใจ แบบนี้เรียกว่าปล่อยวาง แบบพุทธไหมเอ่ย
ลูกศิษย์ท่านนี้ก็ดีจริงๆ คือปล่อยวางหมดเลย ไม่ทำความสะอาดกุฏิตัวเองเลย หลังคากุฏิพังก็ปล่อยไป เสื้อผ้าขาดก็ปล่อยไป พอหลวงพ่อชาทราบจึงอบรมว่า
"ไอ่ปล่อยวางแบบนี้เค้าเรียกว่าปล่อยวางแบบวัวแบบควาย วัวควายมันซ่อมบ้านไม่ได้ ซ่อมเสื้อผ้าไม่ได้ มันเลยปล่อยวาง แต่เอ็งทำได้ ทำไมเอ็งถึงไม่ทำ การปล่อยวางเราต้องรู้จักคิด รู้จักใช้ปัญญา ต้องเดินสายกลาง ต้องรู้ว่าอันไหนควรทำ อันไหนไม่ควรทำ"
เรื่องนี้ทำให้ใครหลายคนคิดได้ เพราะตอนแรกผู้เขียนก็โง่มาก ถึงขนาดใส่เสื้อผ้าขาดๆเหมือนกัน จริงๆแล้วต้องเดินสายกลาง คืออันไหนทำได้ก็ทำ อันไหนพยายามทำแล้ว ไม่ได้ ก็อย่าไปยึด ให้ปล่อยวางเสีย แล้วจะมีความสุข
http://dhammasawasde.blogspot.com/2013/05/blog-post_10.html