ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเธอ ... แต่วันนี้เป็นวันครอบครัวด้วย เราก็เลยอยากจะพูดถึงเธอซักหน่อย
"คุณนันทินี" ในฐานะเมีย และ ในฐานะแม่
ส่วนใหญ่พอกล่าวถึง "แม่" ในละครเล่ห์รตีเราจะเห็นภาพคุณหญิงแม่มาริสาลอยมา เข้มแข็ง เด็ดขาด มาดแรงเล่อร์ (ผิด) คือ ภาพของคุณหญิงแม่นี่โดดเด่นมาก ในการแก้ปัญหาให้ลูก ในความแกร่งเป็นหลักให้กับบ้าน ภาพของครอบครัวสุทธกานต์ฉายชัดมากในหลายตอนที่ผ่านมา แต่วันนี้เราขอพื้นที่ให้คุณแม่นันทินีบ้าง ในขณะที่คุณหญิงแม่มาริสามีสายป่านยาวยืด เครือข่าย อิทธิพล และ เงินตรา เธอใช้สิ่งเหล่านี้อย่างชาญฉลาด และ ตอกหน้าเหล่าศัตรูเสี้ยนหนามให้หงายเงิบไป พื้นหลังที่ดี อำนาจที่มี มันสมองและความเชี่ยวชาญ ความแข็งแกร่งของจิตใจ ทำให้เธอเป็นคุณแม่ที่เจ๋งสาดดดดในละครเรื่องนี้
ผิดกับคุณแม่นันทินี ... เปิดฉากมาภาพที่ติดต่อคือการที่โยนเสื้อผ้าของเคทลงกระเป๋า
ฉุดลูกสาวคนโตขึ้นรถไปส่งให้บ้านผู้ชาย
ก็มีแต่คนคิดว่า "นี่มันแม่แบบไหนกัน" แต่ถ้ามองให้ดีมองให้ลึก ผู้หญิงคนนี้ "มือก็ไกว ดาบก็แกว่ง แข็งหรือไม่" เธอไม่ได้เป็นแค่แม่ของเคทแต่เป็นแม่ของพีทและแพทด้วย และ เธอก็ไม่ใช่แค่แม่ของเคท พีท และ แพท แต่เธอเป็น "เมีย" ของคุณพัทธพลด้วย ด้านคุณหญิงมาริสามีศึกหนักคืออิษยา แต่เธอมีอาวุธยุทโธปกรณ์ คือ เงิน และ อำนาจ จะเรียกหาเครือข่ายยามไหนก็ได้ จะเรียกหาทนายมือดีที่สุดเมื่อใดไม่มีปัญหา และ ถ้าจะเอาเงินฟาดหัวก็ไม่เป็นประเด็น สิ่งที่ต้องคิดก็มีแต่เพียงว่าสิ่งที่อยู่ในมือจะใช้มันอย่างไรให้คุ้มค่าสุดประโยชน์สูงสุด
ส่วนคุณนันทินี นอกจากเรื่องเงินที่ชักหน้าไม่ถึงหลังแต่พยายามที่จะบริหารจนดำรงคงอยู่ได้ เธอยังต้องคอยจับตาดู "ผัว" ที่ผีพนันเข้าสิง ลูกสาวคนกลางเอาแต่ใจ ลูกชายคนเล็กที่ยังเป็นวัยรุ่น และ ลูกสาวคนโตที่เป็นกวางน้อยยังไม่ประสีประสา หนี้อีกกว่า 32 ล้าน และ การไล่บี้ของสุทธกานต์ ทุกอย่างนี้คือปัญหาที่อยู่ในมือนายท้ายอย่าง "คุณนันทินี" ปัญหาอลังการล้านแปดไม่เบา พอ ๆ กับที่คุณหญิงมาริสาเจอนั่นแหละ อิษยากับปัญหาธุรกิจบวกกันบางทีอาจยังไม่เท่านที่คุณนันเผชิญ
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีสายป่านยาวเหลือเฟือ ไม่มีเครือข่าย ไม่มีอิทธิพล มีแต่หน้าที่ "เมีย" และ "แม่" เท่านั้น ที่ผลักดันให้เธอยืนหยัดขึ้นจัดการปัญหาทุกอย่างตามสติและปัญญา ตามศักยภาพที่มีในมือ ซึ่งก็คือ ใจ และ ประสบการณ์ ไม่ธรรมดาหรอก ... อยากจะเรียกว่า "ใจเพชร" เลยทีเดียวล่ะ ถ้าเป็นแม่บ้านธรรมดาที่อาศัยพึ่งพิงสามีเป็นหลัก ป่านนี้คงนั่งน้ำตาร่วงน้ำตาตก แต่นั่นไม่ใช่คุณนัน เมื่อเธอรู้ว่าคุณพัทธพลหนีไป สิ่งแรกที่เธอทำ คือ ขับรถออกจากบ้านแล้วตามหาแบบกัดไม่ปล่อย แถมยังใจเด็ดพอที่จะคัทลอสปัญหาด้วยการแจ้งให้คุณเสกข์รู้ เพราะ เธอเองก็ทราบว่าลำพังตัวคนเดียวคงเอาคุณพัทไม่อยู่ และ เอาเจ้าหนี้ก็คงไม่อยู่ งานนี้คงต้องเอาอิทธิพลชนอิทธิพล ... แบบนี้เขาเรียก Gut มีกึ๋นไงล่ะ
ยามคุณพัทธพลเอ่ยถึงเงื่อนไขพิลึกพิลั่น ด้วยความเป็นแม่ ... แน่นอนว่าใจแทบขาด แต่เมื่อประเมินแล้ว ถ้าไม่ยึดเงื่อนไขนี้ล่ะก็ มีซวยยกบ้าน ในความเครียดความขมขื่นและอดสู ในเวลาที่เธอส่งเคทเข้าไปในบ้านสุทธกานต์ ในความเป็นแม่เธอก็คิดสารตะแล้วว่าคำของเธอนั่นแหละที่จะช่วยเป็นเกราะคุ้มภัยให้ลูกได้ คุณนันทินีเห็นแล้วว่าคุณหญิงนั้นถึงจะแข็งอย่างไรแต่ก็รักลูก คนเป็นแม่ แม่ที่มีลูกสาว ถ้าไม่ใจไม้ไส้ระกำอะไรก็ต้องเห็นใจคนที่มีลูกสาว เธอเลือกกดตัวเองลงต่ำ ให้คุณหญิงช่วยดูแลเคท เปิดหน้าวางไพ่อย่างคนใจกล้า แล้วมันก็ได้ผลจริง คนที่เป็นเพราะคุ้มภัยให้เคทก็กลายเป็นคุณหญิงมาริสานี่แหละ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เสกข์กับเคทลงเอยกัน
คุณนันไม่เคยขายลูกหรอก ในวันที่เคทวิ่งกลับมาบ้าน ก็ไม่ใช่แม่คนนี้หรือที่กล้าต่อกรกับคุณหญิงมาริสาให้วางกฎเกณฑ์ของเคทในบ้านให้ชัด เมื่อเข้าใจว่าลูกสาวถูกหลู่เกียรติแม่คนนี้ก็ไม่ยอมเหมือนกัน เธอไม่ได้งอมืองอเท้าและทิ้งศักดิ์ศรีแต่อย่างใด หากวันใดที่ล้ำเส้น คุณนันทินีก็ไม่ถอยจนคุณแม่มาริสามีจนถ้อยคำไปบ้างในบางครั้ง เพราะฉะนั้นจะเห็นได้เลยว่า เรื่องราวอลวนในบ้านของเคทที่เหมือนวังน้ำวนที่พร้อมจะดูดกลืนทุกสิ่งลงไป แต่เรือที่เคท พีท แพท และ คุณพัท โดยสารอยู่นั้น ผ่านสถานการณ์เลวร้ายไปได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมาจากน้ำมือ และ ประสบการณ์ของคุณนันทั้งสิ้น ที่คอยจัดการทุกปัญหาอย่างเงียบเชียบและเรียบร้อยที่สุดตามสิ่งที่มีอยู่ในมือ ทั้งในฐานะเมีย และ แม่
ถึงชายได้กวัดแกว่งแผลงจากอาสน์
ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล
นอกจากคุณหญิงแม่แล้ว มือของคุณนันทินีนี่แหละที่เราถือว่า "ครองพิภพจบสากล" เช่นเดียวกัน
"The Hand That Rocks the Cradle Is the Hand That Rules the World"
William Ross Wallace
เล่ห์รตี : แด่เธอ ... นันทินี สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเมีย และ แม่
"คุณนันทินี" ในฐานะเมีย และ ในฐานะแม่
ส่วนใหญ่พอกล่าวถึง "แม่" ในละครเล่ห์รตีเราจะเห็นภาพคุณหญิงแม่มาริสาลอยมา เข้มแข็ง เด็ดขาด มาดแรงเล่อร์ (ผิด) คือ ภาพของคุณหญิงแม่นี่โดดเด่นมาก ในการแก้ปัญหาให้ลูก ในความแกร่งเป็นหลักให้กับบ้าน ภาพของครอบครัวสุทธกานต์ฉายชัดมากในหลายตอนที่ผ่านมา แต่วันนี้เราขอพื้นที่ให้คุณแม่นันทินีบ้าง ในขณะที่คุณหญิงแม่มาริสามีสายป่านยาวยืด เครือข่าย อิทธิพล และ เงินตรา เธอใช้สิ่งเหล่านี้อย่างชาญฉลาด และ ตอกหน้าเหล่าศัตรูเสี้ยนหนามให้หงายเงิบไป พื้นหลังที่ดี อำนาจที่มี มันสมองและความเชี่ยวชาญ ความแข็งแกร่งของจิตใจ ทำให้เธอเป็นคุณแม่ที่เจ๋งสาดดดดในละครเรื่องนี้
ฉุดลูกสาวคนโตขึ้นรถไปส่งให้บ้านผู้ชาย
ก็มีแต่คนคิดว่า "นี่มันแม่แบบไหนกัน" แต่ถ้ามองให้ดีมองให้ลึก ผู้หญิงคนนี้ "มือก็ไกว ดาบก็แกว่ง แข็งหรือไม่" เธอไม่ได้เป็นแค่แม่ของเคทแต่เป็นแม่ของพีทและแพทด้วย และ เธอก็ไม่ใช่แค่แม่ของเคท พีท และ แพท แต่เธอเป็น "เมีย" ของคุณพัทธพลด้วย ด้านคุณหญิงมาริสามีศึกหนักคืออิษยา แต่เธอมีอาวุธยุทโธปกรณ์ คือ เงิน และ อำนาจ จะเรียกหาเครือข่ายยามไหนก็ได้ จะเรียกหาทนายมือดีที่สุดเมื่อใดไม่มีปัญหา และ ถ้าจะเอาเงินฟาดหัวก็ไม่เป็นประเด็น สิ่งที่ต้องคิดก็มีแต่เพียงว่าสิ่งที่อยู่ในมือจะใช้มันอย่างไรให้คุ้มค่าสุดประโยชน์สูงสุด
ส่วนคุณนันทินี นอกจากเรื่องเงินที่ชักหน้าไม่ถึงหลังแต่พยายามที่จะบริหารจนดำรงคงอยู่ได้ เธอยังต้องคอยจับตาดู "ผัว" ที่ผีพนันเข้าสิง ลูกสาวคนกลางเอาแต่ใจ ลูกชายคนเล็กที่ยังเป็นวัยรุ่น และ ลูกสาวคนโตที่เป็นกวางน้อยยังไม่ประสีประสา หนี้อีกกว่า 32 ล้าน และ การไล่บี้ของสุทธกานต์ ทุกอย่างนี้คือปัญหาที่อยู่ในมือนายท้ายอย่าง "คุณนันทินี" ปัญหาอลังการล้านแปดไม่เบา พอ ๆ กับที่คุณหญิงมาริสาเจอนั่นแหละ อิษยากับปัญหาธุรกิจบวกกันบางทีอาจยังไม่เท่านที่คุณนันเผชิญ
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีสายป่านยาวเหลือเฟือ ไม่มีเครือข่าย ไม่มีอิทธิพล มีแต่หน้าที่ "เมีย" และ "แม่" เท่านั้น ที่ผลักดันให้เธอยืนหยัดขึ้นจัดการปัญหาทุกอย่างตามสติและปัญญา ตามศักยภาพที่มีในมือ ซึ่งก็คือ ใจ และ ประสบการณ์ ไม่ธรรมดาหรอก ... อยากจะเรียกว่า "ใจเพชร" เลยทีเดียวล่ะ ถ้าเป็นแม่บ้านธรรมดาที่อาศัยพึ่งพิงสามีเป็นหลัก ป่านนี้คงนั่งน้ำตาร่วงน้ำตาตก แต่นั่นไม่ใช่คุณนัน เมื่อเธอรู้ว่าคุณพัทธพลหนีไป สิ่งแรกที่เธอทำ คือ ขับรถออกจากบ้านแล้วตามหาแบบกัดไม่ปล่อย แถมยังใจเด็ดพอที่จะคัทลอสปัญหาด้วยการแจ้งให้คุณเสกข์รู้ เพราะ เธอเองก็ทราบว่าลำพังตัวคนเดียวคงเอาคุณพัทไม่อยู่ และ เอาเจ้าหนี้ก็คงไม่อยู่ งานนี้คงต้องเอาอิทธิพลชนอิทธิพล ... แบบนี้เขาเรียก Gut มีกึ๋นไงล่ะ
ยามคุณพัทธพลเอ่ยถึงเงื่อนไขพิลึกพิลั่น ด้วยความเป็นแม่ ... แน่นอนว่าใจแทบขาด แต่เมื่อประเมินแล้ว ถ้าไม่ยึดเงื่อนไขนี้ล่ะก็ มีซวยยกบ้าน ในความเครียดความขมขื่นและอดสู ในเวลาที่เธอส่งเคทเข้าไปในบ้านสุทธกานต์ ในความเป็นแม่เธอก็คิดสารตะแล้วว่าคำของเธอนั่นแหละที่จะช่วยเป็นเกราะคุ้มภัยให้ลูกได้ คุณนันทินีเห็นแล้วว่าคุณหญิงนั้นถึงจะแข็งอย่างไรแต่ก็รักลูก คนเป็นแม่ แม่ที่มีลูกสาว ถ้าไม่ใจไม้ไส้ระกำอะไรก็ต้องเห็นใจคนที่มีลูกสาว เธอเลือกกดตัวเองลงต่ำ ให้คุณหญิงช่วยดูแลเคท เปิดหน้าวางไพ่อย่างคนใจกล้า แล้วมันก็ได้ผลจริง คนที่เป็นเพราะคุ้มภัยให้เคทก็กลายเป็นคุณหญิงมาริสานี่แหละ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เสกข์กับเคทลงเอยกัน
คุณนันไม่เคยขายลูกหรอก ในวันที่เคทวิ่งกลับมาบ้าน ก็ไม่ใช่แม่คนนี้หรือที่กล้าต่อกรกับคุณหญิงมาริสาให้วางกฎเกณฑ์ของเคทในบ้านให้ชัด เมื่อเข้าใจว่าลูกสาวถูกหลู่เกียรติแม่คนนี้ก็ไม่ยอมเหมือนกัน เธอไม่ได้งอมืองอเท้าและทิ้งศักดิ์ศรีแต่อย่างใด หากวันใดที่ล้ำเส้น คุณนันทินีก็ไม่ถอยจนคุณแม่มาริสามีจนถ้อยคำไปบ้างในบางครั้ง เพราะฉะนั้นจะเห็นได้เลยว่า เรื่องราวอลวนในบ้านของเคทที่เหมือนวังน้ำวนที่พร้อมจะดูดกลืนทุกสิ่งลงไป แต่เรือที่เคท พีท แพท และ คุณพัท โดยสารอยู่นั้น ผ่านสถานการณ์เลวร้ายไปได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมาจากน้ำมือ และ ประสบการณ์ของคุณนันทั้งสิ้น ที่คอยจัดการทุกปัญหาอย่างเงียบเชียบและเรียบร้อยที่สุดตามสิ่งที่มีอยู่ในมือ ทั้งในฐานะเมีย และ แม่
ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล
William Ross Wallace