แบ่งปันประสบการณ์ สัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยว USA 2015 จ้า ^^

กระทู้สนทนา
ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่า เราเขียนบรรยายเรื่องนี้ไว้ละเอียดมว้ากก ! (ก่อนนี้) ซึ่ง เป็นครั้งแรกของเรา ๆ ที่โพส ใน Pantip จึงลืมกดส่งกระทู้คร้า !นึกว่าแค่ Preview  ปรากฏว่า !! ข้อมูลหายหมดเลยคัฟพี่น้อง !! แต่เราก็ไม่ยอมละความพยายาม เพราะอยากตอบแทน คนที่เคยแชร์ข้อมูลไว้บ้าง มันเป็นประโยชน์จริงๆ นะ ไม่มากก็น้อย เอาละ เริ่มเลยดีกว่า จากข้อมูลประสบการณ์ของเพื่อนๆ หลายๆ ที่ทำให้เรา ฮึดเตรียมเอกสารขอวีซ่าครั้งนี้ด้วยตัวเองทั้งหมด และไม่เสียคชจ.ให้เอเจนซี่สักบาท (ภูมิใจมว้าก !) เพราะเรางานยุ่งมาก จึงเคยโทรไปถามหลายเอเจนซี่ มีเริ่มตั้งแต่ 2000-10,000 บาท จร้าา!! โดยการบริการคือ กรอก DS160 ให้เราและช่วยเตรียมเอกสาร รวมถึงให้คำปรึกษาทุกอย่างในการสัมภาษณ์ แต่ถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่าน ก้อเรื่องของคุณ อิอิ (ใช่สิ ! ก็ตอบไม่ถูกใจเอง ใครจะรับผิดชอบ 555+) อะเค ! เริ่มสิ่งสำคัญกันดีกว่า เราจะไม่ละเอียดมากในวิธีการทำนะ เพราะหลายเวบ อธิบายชัดเจนแล้ว เอาเป็นว่า เอกสารที่เราต้องเตรียมหลักๆ กันดีกว่า ส่วนเอกสารสนับสนุน ก็แล้วแต่ case by case นะจ้ะ นั่นก็คือ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเรา และหน้าที่การงานที่แตกต่างกัน ก็ทำให้เอกสารสนับสนุนแตกต่างกันด้วยจ้ะ เริ่มเลยดีกว่า เอกสารหลักๆ ที่บอกไม่มีไม่ได้เข้าไปสัมภาษณ์นะเออ...

1.  หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน และเล่มเก่าถ้ามีให้ถือเล่มจริงไปทั้งหมด   : ปล ( เราเอาเล่มเก่าไป 4 เล่าแต่ท่านกง ไม่ดูเลยจ้า )
2. แบบฟอร์มสมัครขอวีซ่า DS-160  :=> ปริ้นไปยืนยันใบเดียวพอ จ้า
3. ใบนัดวันเวลา สัมภาษณ์วีซ่า => เรานัด 7 เมย 8.15 am.
4. ใบเสร็จชำระค่าวีซ่า อเมริกาที่ออกให้โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา => 5120 บาท

ส่วนเอกสารต่อไปนี้ขึ้นอยู่กับว่า วัตถุประสงค์ที่ไป งานที่ทำ ใครสปอรเซอรให้นะจ้ะ ในกรณีของเราทำธุรกิจส่วนตัวจ้า
5. ใบรับรองการทำงาน / ใบทะเบียนการค้า หรือเอกสารจดทะเบียนพาณิชย์อื่นๆ อาทิเช่น หนังสือรับรองบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน  
6. สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน  => อ่านตามเค้ามา แต่ไม่เห็นใช้เลย
7. สมุดบัญชีธนาคาร ( เอาโฉนด ใบกองทุน ใบหุ้น สมุดฝากประจำไปด้วย) แต่ท่านกง ขอดูแค่สมุดบัญชีเงินฝากจ้า และเราไม่ได้ขอใบรับรองสถานะการเงินจากธนาคารไปด้วยนะ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ควรเตรียมไป เผื่อเค้าขอดูจ้าา
8. จดหมายเชิญ พร้อมหน้าพาสปอร์ต (อันนี้เตรียมไป แต่ไม่ใช้ เพราะเราบอกว่าเราเป็น สปอรนเซอรตัวเองจ้า)

เริ่มเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์จ้า

7.00 น. ไปถึงหน้ากงศุล ตามเอกสารเรานัด 8.15 am ขอบอกว่าไปทัน คนนัด 7.45 am. ด้วยซ้ำไป (ควรนัดเช้าๆ ที่สุดที่จะทำได้ จะเสร็จเร็วมว้าก !)  แต่ก้อนะตามสะดวก เสร็จเหมือนกันจ้า จากนั้นจะมีสาวนางนึง คอยยืนเช็คเวลา ให้คนนัดเวลาเดียวกัน ยืนไล่ๆ กัน ต่อด้วยที่คุณยาม เรียกหา บัตรประชาชนตัวจริง 1 ใบและมือถือที่พกมา 1 เครื่องเพื่อฝากไว้ ส่วนกะเป๋าเล็กๆ แอบเห็นว่าเข้าไปได้บางคน ถ้าเยอะกว่านี้ต้องไปฝากข้างนอก ซึ่งเราไปตัวปล่าวที่เหลือฝากแฟนหมด และพกตังไป 100 เผื่อฉุกเฉิน จากนั้นเข้าไป นั่งรอ ชิลๆ ด้านใน มีห้องน้ำให้บริการ และรอเรียกตามเวลา โดยมีสาวสวย 2 นางอยู่ในตู้เรียกไปเพื่อเตรียมเอกสารหลักบางส่วนให้เรา พร้อมถามคำถามเดียวกันว่า เคยไปอเมริกามาก่อนมั้ยคะ จากนั้นรัดยางเอกสารให้เรา เพื่อเข้าประตูสู่การ Scan ลายนิ้วมือ และสัมภาษณ์

เราได้สัมภาษณ์ช่อง 9 ท่านกงฝรั่งอวบๆ หน่อยใส่แว่นด้วย ท่าทางใจดีเชียย แต่ถามเยอะเหมือนกัน

1 ไปทำไม
2. ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
3. ไปกับใคร ไปกี่วัน ตอบไป 2 weeks
4.ใครเป้นสปอรเซอรให้ ตอบ ตัวเอง
5.ทำงานอะไร ตอบธุรกิจส่วนตัว
6 ความจริงไปกับแฟน แต่บอกว่าไปกับเพื่อน และก็เป็นสปอรเซอรให้ตัวเองคะ เค้าก็ขอดูเอกสารการเงิน และใบแสดงว่าเราทำธุรกิจอยู่จริง (มีบัญชี SA อยู่แสนก่าบาท , หุ้นแสนกว่าบาท , กองทุนแสนกว่าบาท โฉนดที่ดินผืนน้อย 1 ผืน บัญชีฝากประจำ)
7. เคยไปอเมริกามั้ย
8. เคยเที่ยวนอกประเทศไทย ใน5 ปีเคยไปไหนมาบ้าง (อันนี้เราลืมกรอกใน DS160) ไม่ได้กรอกเพิ่มอะไร ก็ไม่มีปัญหาคะ เราเอา Passport เก่าไปด้วยแต่ก็ไม่ได้ขอดูอะไร
9 มีถามย้ำด้วยว่า ผู้ชายที่ไปด้วยที่บอกว่าเพื่อน นี้ ความจริงเป้นเพื่อนหรือแฟน เหมือนเค้าจะจับได้ แต่เราตอบว่า กำลังดูกันอยู่ ถ้าเค้าขอเป็นแฟนเราก็ Say Yes คะ ^^ แล้วก็บอกว่าวีซาผ่าน รอรับทางไปรษณีย 3-4 วัน มีแนะนำด้วยว่า ถ้าต่อไปเป็นแฟนกันจริงๆ ก็ขอวีซ่า คู่หมั้นหรือแต่งงานไปนะ เพราะวีซ่านี้ห้ามทำงานเด็ดขาด น่ารักดีนะคะ ^^ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังขอวีซ่าประเภทนี้บ้างนะคะ ^^

ปล วันที่ 10/4 วีซ่าถึงบ้าน ได้ 10 ปีเลยค้าา ดีใจๆ ^^ Good Luck นะคะทุกคน You Can Do it! ka
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่