ซื้อบ้านแล้วผิดหวังบ้างมั๊ยค่ะ เราผิดหวังมาก ชะอำ-หัวหิน

กระทู้คำถาม
คือว่าเราได้ซื้อบ้านหลังนี้มาประมาณเกือบ 2 ปี เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั่น อยู่ปลายเขตชะอำ
ค่อนไปทางหัวหิน ใกล้กับ สนามบินหัวหิน , ทางรถไฟ และสนามกอล์ฟที่มีทางเข้าเป็น นกบิน
ชื่อโครงการเป็นชื่อสองผัวเมียรวมกัน โดยชื่อแรกเป็นชื่อผัว ชื่อหลังเป็นชื่อเมีย รวมกันแล้วได้สามพยางค์              
         เรื่องของเรื่อง คือว่า ผ่านมาแล้วเกือบ 2 ปี น้ำประปายังไม่เข้าเลยค่ะ
เราได้เข้ามาดูโครงการนี้ประมาณปลายเมษา 56 เจ้าของโครงการบอกว่าโครงการเป็นน้ำบาดาล
แต่ประปาจะขยายเขตประมาณเดือนกันยายน 56 ก็คาดว่าจะเรียบร้อย
             โดยตัวเรานั้นไม่ชอบเลยเพราะว่างาน defect ค่อนข้าง "ชุ่ย"  คือว่าเสี้ยนประตู ยาวเป็นแผงเลยค่ะ ขอย้ำว่าเป็นแผง เพราะว่าข่วนเราเป็นทางยาว
                 ส่วนร่องยาแนวที่เชื่อมระหว่าประตูกับวงกบ คาดว่าน่าจะเป็น ร่องยาแนวที่ "ทุเรศ" ที่สุด เท่าที่เคยเห็นมา เลยค่ะ  
                 แต่แฟนเราเห็นว่าเป้นทำเลที่ดีน่าจะทำประโยชน์ได้ในอนาคต จึงตัดสินใจซื้อเพราะคิดว่าสาธารณูปโภคครบแล้ว(หมายเหตุว่ากู้มาซื้อนะคะ)
               ทำเรื่องกู้ ก็ได้เข้าอยู่ปลายเดือนกรกฎาคม 56  คิดว่าไม่นานน้ำประปาก็จะเรียบร้อย  
            หลังจากกันยายนผ่านไป ไม่ใช้น้ำประปาที่มานะคะ กลายเป็นน้ำฝนค่ะ เริ่มจากไม่หนักมาก ก็เริ่มตกหนักุทกวัน
            ปรากฏว่า หัลงคารั่วค่ะ โดยเริ่มรั่วจากชั้นสองที่เป็นระเบียงด้านหลังบ้านลงมาที่ชั้นล่างซึ่งเป็นห้องครัว
             ตอนแรกก็ซึมมาที่ฝ้าทีละนิด จนเริ่มหนักขึ้นเป็นฝ้าย้อยลงมา แบบที่เรียกว่าท้องช้างค่ะ
(หลังคาแบบหมาแหงนนะคะ จิตนาการตามได้เลยห้องอื่นไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ รั่วทั้งเฟส ประมาณ 7-8หลัง ของเราเป็นเฟสสุดท้าย แต่เฟสอ่ื่นไม่รั่วนะ รึเปล่า ไม่ได้เดินไปถาม)
              ก็ต้องตามงานกันไป รวมทั้งงานที่แฟนเราคิดว่าเล็กน้อย แต่เราคิดว่าไม่เล็กน้อยค่ะ กระเบื้องผนังในห้องน้ำร้าว
              คิดตามนะคะ เราคิดเลยว่าโครงสร้างที่เป็นตึกติดกันงานที่ร้าวมาถึงกระเบื้องได้ คือว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับโครงสร้างหรือ T___T เราไม่ยอม ก็มีทะเลาะกับแฟนนิดหน่อย
            แฟนบอกว่ายอมกันไป เราบอกว่า เขาไม่เคยเป็นคนแบบนี้เลยนะ นิดหน่อยก็เอะอะโวยวาย ใจร้อน
            เรื่องนี้เรายอมไม่ได้ เพราะเราเป็นหนี้ทั้งชีวิตนะคะ โครงการขาย 2.6 ล้านบาท กว่าจะผ่อนหมดก็แก่ กันพอดี มนุษย์ทำงานอย่งเรา ดอกเบี้ยธนาคารก็เพิ่มเป็นเท่าตัว
            นอกจากนั้นก็มีงานร้าวที่ผนังหลังบ้าน รั่วที่ห้องนอน อันนี้ไม่เยอะ  ก็ตามงานอีก กว่าจะซ่อมได้ก็หลังปีใหม่ ไปแล้ว
           ล่วงเข้า ปี 2557 นะคะ  แต่มีที่ยังไม่ได้แก้ ก็หลายอย่างค่ะ  แก้ให้ก็เป็นฝ้าที่รั่ว
            รอยร้าวหลังบ้านประมาณ 90 ซม. เป็นทางยาว แฟนบอกว่า ต้องกรีด แล้วฉาบปูนโปะเข้าไปที่รอยแล้วฉาบใหม่ให้เรียบเท่ากับผนังเดิม อันนี้ก็โอเค
            แต่ซ่อมฝ้าให้  หลอดไฟ 1 โซน มี 4 หลุม ทำฝ้าใหม่ แต่ไม่ใส่คืนให้ซะงั้น กลายเป็น 3 หลุม จนถึงตอนนี้
           ส่วนเรื่องน้ำประปา ลืมไปเลยค่ะ ปัญหาจุกจิกมีมาตลอด  
            จนเริ่มมามีปัญหา เรื่องเครื่องซักผ้าพัง   เครื่องซักฝ้า ถัง แบบ 2  ถังนะคะ มี 2 เครื่อง เครื่องละ 10,000 บาท
             ตอนแรกซ่อม ค่ะ ช่างบอกว่าสนิมกัดสายไฟ จนไม่ซักแล้ว
             ส่วน ตัวเครื่องก็เป็นคราบหินปูนหมดเลย
              และแล้วเครื่องปั้มน้ำก็พัง  เราก็ซื้อใหม่ประมาณเดือน กุมภา 57 (เสัยเงินอีก)  
           
             สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เป็นคราบที่แสนจะ "อุบาทย์" จาน ชามดีๆ เอามาใช้ไม่ได้เลย เสียดาย
              จะติดเครื่องกรองก็หลายบาท ไปถามมาหลายที่ ก็หลักหลายหมิ่นบาท
             ไปถามเจ้าของโครงการก็บ่ายเบี่ยงว่าประปา ยังไม่ปล่อยน้ำมา เพราะว่า ตอนแรกเราเห็นแล้วว่าประปา วางท่อใหญ่มากมาที่ถนนฝั่งตรงข้ามหมู่บ้าน
             เราก็งานยุ่ง แฟนก็งานยุ่ง  ปวดหัวไปทุกเรื่อง จะตามทุกวันก็กระไร
             จนเวลาล่วงเลยผ่านไปจะปลายปี เราก็เลยโทรไปถามทางการประปา ประปาบอกว่า ปล่อยน้ำมาแล้วเมื่อกันยายน ปีที่แล้วหลังจากวางท่อเสร็จก็ปล่อยน้ำได้เลย
             แต่เจ้าของโครงการยังไม่ได้มายื่นเรื่องขอน้ำประปาเท่านั้นเองเพราะไม่มีรายชื่อ ทางเราจึงไปเร่งถาม ก็บอกว่ากำลังดำเนินการ
             ไปถามเรื่อยๆก็บอกว่ากำลังดำเนินการ ตอนหลัง บอกว่าไปยื่นเรื่องมาแล้วนะ ค่าดำเนินการประมาณ 320,000 บาท แล้วมาบอกพวกเราว่ายังไม่เงินตอนนี้ เห็นใจหน่อย
             
                เราก็เห็นใจเรื่อยมา
              จากนั้นมีคนไปยื่นเรื่องร้องเรียนนายกเทศมนตรี ท่านก็เห็นใจปรับลดค่าดำเนินการให้เหลือประมาณ 160,000 ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกิดขึ้น
             เราถามทางเทศบาลว่าลูกบ้านขอเองได้รึเปล่า เขาตอบว่าเป็นโครงการต้องให้โครงการยื่นจัดการ  

             แต่  ตอนนี้ มันสุดจะทนแล้ว !!!!!!!!!
             เพราะคุณบอกว่าคุณไม่มีเงิน แต่พฤติกรรมที่คุณปฏิบัติมันตรงกันข้าม กินหรู อยู่สบาย ส่งลูกเรียน อินเตอร์ ค่าเทอมแพงๆได้             
            โครงการก็เห็นขายได้เรื่อยๆ มีคนเริ่มย้ายเข้ามาอยู่มากขึ้น คนแบบนี้ มันเข้าข่ายเหนียวหนี้นี่นา ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาแต่เรื่องของตัวเอง ไม่เห็นใจคนอื่นบ้าง
            ตอนนี้ล่วงเลยมา ปี 2558 แล้ว เข้าเมษา อีกรอบแล้ว รบกวนเพื่อนๆช่วยหน่อยว่าจะทำ ยังไง กับ"คนหน้าด้าน"เช่นนี้ ขอปรึกษานักกฎหมายด้วยค่ะ โทรไป สคบ. ก็บอกว่าให้ยื่นร้องเรียนที่เทศบาลตอนนี้กำลังรวบรวมกำลังไปยื่นเรื่องนายก กันค่ะ

เศร้า
มนุษย์ผู้หาเช้าหินค่ำ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่