สวัสดีค่ะ เราเป็นเด็กอายุ 18 หรือ เด็กม.6 ทั่วๆไป ซึ่งเรื่องการเรียนต่อมหาลัยเป็นเรื่องที่สร้างความเครียดให้เรากับคนในครอบครัวมาก
(ตอนแรกเราไม่เครียดนะ แม่จะเป็นคนที่เครียดที่สุด แล้วก็พอแม่เครียดพ่อก็จะเครียด แล้วทีนี้ เราก็ต้องแบกรับความเครียดทั้งหมด)
เราเรียนสายวิทย์-คณิต เกรดเฉลี่ย 3 นิดๆ ไม่ได้เก่ง แต่ก็ไม่ได้อ่อนมาก เรายอมรับว่าเป็นเด็กที่ค่อนข้างอยากออกไปเผชิญโลก เฮฮากับผองเพื่อน (ไม่มีเรื่องความรับตัดออกไปได้เลยค่ะ) ตอนประถมเราได้เกรด 4.00 มาโดยตลอด(แม่ก็คงคิดว่าเก่ง แต่อยากบอก นั่นมันประถมนะคะคุณแม่ขาาาา)
พอขึ้นมัธยม ก็เริ่มลดเป็น 3.98 3.88 และลดมาเรื่อยๆ ตามชั้นปี (สมัยม.ต้นยังตัดเกรดเป็นปีค่ะ) เริ่มรู้สึกนะคะว่ายิ่งโตยิ่งโง่ 55555
พอมาม.6 ก็จะมีการสอบโควตา เราได้คะแนน 305 ค่ะ(ของสายวิทย์ ถ้าตอนนั้นเลือกเทคนิคก็น่าจะติดนะคะ จากการถามคะแนนจากเพื่อนที่ติดเทคนิคการแพทย์) แน่นอนค่ะ ว่าคณะที่เลือก หลุดหมด !!! ทีนี้แม่ก็เครียดค่ะ แม่เริ่มดราม่า ส่งไปเรียนพิเศษที่นั่นก็ไม่เรียน (เอ้าก็อาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง อาจารย์สนใจแต่เด็กเก่งๆ เราถามอาจารย์ก็ไม่ยอมตอบ จะให้เราเรียนต่อไปทำไมอะ เหมือนไปนั่งโง่ในห้อง - แน่นอนว่าบอกแม่ไปแล้วแม่ก็ไม่ฟัง) เราไปลงเรียนเองพวกที่เป็น aurum ก็โอเคค่ะ แต่พอจบคอร์สก็ไม่ได้ต่อ มานั่งอ่านเองที่บ้าน พอบอกแม่ว่าอ่านแล้ว แม่ก็'อืม'
(พอสอบไม่ติดก็มาดราม่าอีก ว่าไม่ยอมไปเรียน อ่านเองก็ไม่อ่าน - เอ้า! ก็อ่านแล้ว แต่เขาออกข้อสอบนึกว่าจะไปโอลิมปิกระดับชาติ เข้าไปก็นั่งมึน นั่งโง่ในห้องอะค่ะ คุณแม่ขาาาา) ตอนเด็กๆเราอยากเป็นหมอนะคะ แต่มาเปลี่ยนใจ ค้นพบตัวเองตอน ม.6 เราอยากทำธุรกิจส่วนตัว หรือไม่ก็ไปทางสัตวแพทย์ ที่เราสมัครของรับตรงไป แน่นอนค่ะ สัตวแพทย์ล้วนๆ 55555 แม่เราก็ยังคงอยากให้เราเรียนหมอ จนสุดท้ายเราสอบติดหมอของต่างประเทศ(ใครอยากทราบเพิ่มเติมหลังไมค์มาได้ค่ะ ไม่ระบุเพราะเดี๋ยวญาติๆจอมจุ้นมาอ่านเจอ) แต่เราตัดสินใจว่าจะไม่ไปเรียน ถือว่าสอบให้แม่ ติดแล้ว (ค่ะ แล้วแม่ก็ดราม่าอีก ว่า สอบที่ไหนก็ไม่ติด ยื่นคะแนนไปที่ไหนก็ไม่ติด แล้วมาทิ้งโอกาสตัวเองไป โง่จริงๆ - อันนี้จะไม่เถียง โง่เองค่ะยอมรับว่าโง่ แต่ทำไงได้ ก็มันไม่เข้าใจนี่นา)
สนามต่อไปของเราคือadmission คะแนนของเราได้ 18522.50000 แน่นอนว่าสัตวแพทย์ ไม่มีทางถึงอยู่แล้ว เราเลยตัดสินใจ จะเรียนเทคนิคการสัตวแพทย์ หรือไม่ก็คณะวิทยาศาสตร์สาขาสัตวิทยาแทน แล้วตามนั้นค่ะ แม่ไม่เข้าใจ !! แม่ไปเปิดดูคะแนนปีก่อนๆ(เฉพาะสัตวแพทย์) ยอมรับค่ะ ว่าโคตรเสี่ยง และแม่ก็คิดไปเลยว่า ยังไงก็ไม่ติดแอดแน่นอน ผ่านมาครึ่งปี แม่เริ่มทำใจยอมรับได้ค่ะ ถอยจากแพทย์มาเป็นสัตวแพทย์แทน พอเราดูคะแนนตัวเองก็พอสำเหนียกได้ว่าจะเลือกแค่เทคนิค แม่ไม่ยอมค่ะ เราก็ถามแล้วเทคนิคสัตตะมันไม่ดีตรงไหน แม่ก็ถาม แล้วมันใช่สัตตะมั๊ย ? เอ้าาาา ไม่รู้จะตอบยังไงค่ะ
โอกาสของเราตอนนี้คือ คณะแพทย์ของม.รังสิต และม.ธรรมศาสตร์ แล้วแม่ก็ดราม่าอีกแล้ว โดยบอกว่า ถ้าอีก 2 สนามนี้ไม่ได้อีก ก็ไม่ต้องเรียนละ ไปเลี้ยงควายเถอะ (คิดในใจ ก็ดีค่ะ ควายมันน่ารัก) คราวนี้เราให้พ่อเป็นกำบังไม่ได้ เพราะพ่อก็เครียดค่ะ อยากให้เรามีที่เรียน
และแม่ได้ยื่นคำขาดว่าหลังสงกรานต์นี้ ไม่ให้ออกบ้านเราต้องอ่านหนังสือที่มีทั้งหมดให้จบ และสรุปมาให้แม่ (คือมันไม่มีสอบละปะอ่านเพื่ออะไรคะ)
ใจจริงของเราคือ ปีนี้เข้าซักที่ให้ได้ก่อนแล้วจะซิ่วเข้าคณะในฝัน โดยไปทุ่มให้GAT/PAT มากขึ้น คะแนนของเรา GAT รวมได้ 250 ค่ะ ส่วน PAT น่ารักๆ เอาไป 109 คะแนน ! อันนี้คือคะแนนรอบแรกนะคะ รอบ2ทิ้งละค่ะ คะแนนลด 555555
สรุปคือเครียดมากค่ะ เราเป็นเด็กที่เวลาพูดแล้วจะเหมือนกวนตีน และเป็นคนอารมณ์ไม่นิ่ง เราเลยอยากทราบว่าควรทำตัวยังไงดีคะ จะพูดอธิบายแม่ยังไงดีไม่ให้แม่ดราม่า และป้องกันการขุดเรื่องเก่าๆมาพูด (ตั้งแต่หลังโควตามา แม่บ่นเรื่องให้ไปเรียนพิเศษที่ไหนก็ลาออกหมด ไปหาเรียนเองแล้วครูไม่ได้เรื่อง - คือโทษครูไม่ได้นะคะ ด่าหนูเถอะอย่าด่าสถาบัน หนูโง่ที่ตัวหนูเอง #เราเป็นเด็กที่หากจูนกับใครได้ ก็จะเรียนได้แบบพุ่งฟิ้วๆ แต่ถ้าจูนไม่ได้ ก็มึนตั้งแต่วิแรกที่เริ่มสอน อาจเป็นเพราะเราไม่เปิดใจยอมรับครูคนนั้นด้วยละมั้งคะ)
แม่ไม่เข้าใจ?
(ตอนแรกเราไม่เครียดนะ แม่จะเป็นคนที่เครียดที่สุด แล้วก็พอแม่เครียดพ่อก็จะเครียด แล้วทีนี้ เราก็ต้องแบกรับความเครียดทั้งหมด)
เราเรียนสายวิทย์-คณิต เกรดเฉลี่ย 3 นิดๆ ไม่ได้เก่ง แต่ก็ไม่ได้อ่อนมาก เรายอมรับว่าเป็นเด็กที่ค่อนข้างอยากออกไปเผชิญโลก เฮฮากับผองเพื่อน (ไม่มีเรื่องความรับตัดออกไปได้เลยค่ะ) ตอนประถมเราได้เกรด 4.00 มาโดยตลอด(แม่ก็คงคิดว่าเก่ง แต่อยากบอก นั่นมันประถมนะคะคุณแม่ขาาาา)
พอขึ้นมัธยม ก็เริ่มลดเป็น 3.98 3.88 และลดมาเรื่อยๆ ตามชั้นปี (สมัยม.ต้นยังตัดเกรดเป็นปีค่ะ) เริ่มรู้สึกนะคะว่ายิ่งโตยิ่งโง่ 55555
พอมาม.6 ก็จะมีการสอบโควตา เราได้คะแนน 305 ค่ะ(ของสายวิทย์ ถ้าตอนนั้นเลือกเทคนิคก็น่าจะติดนะคะ จากการถามคะแนนจากเพื่อนที่ติดเทคนิคการแพทย์) แน่นอนค่ะ ว่าคณะที่เลือก หลุดหมด !!! ทีนี้แม่ก็เครียดค่ะ แม่เริ่มดราม่า ส่งไปเรียนพิเศษที่นั่นก็ไม่เรียน (เอ้าก็อาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง อาจารย์สนใจแต่เด็กเก่งๆ เราถามอาจารย์ก็ไม่ยอมตอบ จะให้เราเรียนต่อไปทำไมอะ เหมือนไปนั่งโง่ในห้อง - แน่นอนว่าบอกแม่ไปแล้วแม่ก็ไม่ฟัง) เราไปลงเรียนเองพวกที่เป็น aurum ก็โอเคค่ะ แต่พอจบคอร์สก็ไม่ได้ต่อ มานั่งอ่านเองที่บ้าน พอบอกแม่ว่าอ่านแล้ว แม่ก็'อืม'
(พอสอบไม่ติดก็มาดราม่าอีก ว่าไม่ยอมไปเรียน อ่านเองก็ไม่อ่าน - เอ้า! ก็อ่านแล้ว แต่เขาออกข้อสอบนึกว่าจะไปโอลิมปิกระดับชาติ เข้าไปก็นั่งมึน นั่งโง่ในห้องอะค่ะ คุณแม่ขาาาา) ตอนเด็กๆเราอยากเป็นหมอนะคะ แต่มาเปลี่ยนใจ ค้นพบตัวเองตอน ม.6 เราอยากทำธุรกิจส่วนตัว หรือไม่ก็ไปทางสัตวแพทย์ ที่เราสมัครของรับตรงไป แน่นอนค่ะ สัตวแพทย์ล้วนๆ 55555 แม่เราก็ยังคงอยากให้เราเรียนหมอ จนสุดท้ายเราสอบติดหมอของต่างประเทศ(ใครอยากทราบเพิ่มเติมหลังไมค์มาได้ค่ะ ไม่ระบุเพราะเดี๋ยวญาติๆจอมจุ้นมาอ่านเจอ) แต่เราตัดสินใจว่าจะไม่ไปเรียน ถือว่าสอบให้แม่ ติดแล้ว (ค่ะ แล้วแม่ก็ดราม่าอีก ว่า สอบที่ไหนก็ไม่ติด ยื่นคะแนนไปที่ไหนก็ไม่ติด แล้วมาทิ้งโอกาสตัวเองไป โง่จริงๆ - อันนี้จะไม่เถียง โง่เองค่ะยอมรับว่าโง่ แต่ทำไงได้ ก็มันไม่เข้าใจนี่นา)
สนามต่อไปของเราคือadmission คะแนนของเราได้ 18522.50000 แน่นอนว่าสัตวแพทย์ ไม่มีทางถึงอยู่แล้ว เราเลยตัดสินใจ จะเรียนเทคนิคการสัตวแพทย์ หรือไม่ก็คณะวิทยาศาสตร์สาขาสัตวิทยาแทน แล้วตามนั้นค่ะ แม่ไม่เข้าใจ !! แม่ไปเปิดดูคะแนนปีก่อนๆ(เฉพาะสัตวแพทย์) ยอมรับค่ะ ว่าโคตรเสี่ยง และแม่ก็คิดไปเลยว่า ยังไงก็ไม่ติดแอดแน่นอน ผ่านมาครึ่งปี แม่เริ่มทำใจยอมรับได้ค่ะ ถอยจากแพทย์มาเป็นสัตวแพทย์แทน พอเราดูคะแนนตัวเองก็พอสำเหนียกได้ว่าจะเลือกแค่เทคนิค แม่ไม่ยอมค่ะ เราก็ถามแล้วเทคนิคสัตตะมันไม่ดีตรงไหน แม่ก็ถาม แล้วมันใช่สัตตะมั๊ย ? เอ้าาาา ไม่รู้จะตอบยังไงค่ะ
โอกาสของเราตอนนี้คือ คณะแพทย์ของม.รังสิต และม.ธรรมศาสตร์ แล้วแม่ก็ดราม่าอีกแล้ว โดยบอกว่า ถ้าอีก 2 สนามนี้ไม่ได้อีก ก็ไม่ต้องเรียนละ ไปเลี้ยงควายเถอะ (คิดในใจ ก็ดีค่ะ ควายมันน่ารัก) คราวนี้เราให้พ่อเป็นกำบังไม่ได้ เพราะพ่อก็เครียดค่ะ อยากให้เรามีที่เรียน
และแม่ได้ยื่นคำขาดว่าหลังสงกรานต์นี้ ไม่ให้ออกบ้านเราต้องอ่านหนังสือที่มีทั้งหมดให้จบ และสรุปมาให้แม่ (คือมันไม่มีสอบละปะอ่านเพื่ออะไรคะ)
ใจจริงของเราคือ ปีนี้เข้าซักที่ให้ได้ก่อนแล้วจะซิ่วเข้าคณะในฝัน โดยไปทุ่มให้GAT/PAT มากขึ้น คะแนนของเรา GAT รวมได้ 250 ค่ะ ส่วน PAT น่ารักๆ เอาไป 109 คะแนน ! อันนี้คือคะแนนรอบแรกนะคะ รอบ2ทิ้งละค่ะ คะแนนลด 555555
สรุปคือเครียดมากค่ะ เราเป็นเด็กที่เวลาพูดแล้วจะเหมือนกวนตีน และเป็นคนอารมณ์ไม่นิ่ง เราเลยอยากทราบว่าควรทำตัวยังไงดีคะ จะพูดอธิบายแม่ยังไงดีไม่ให้แม่ดราม่า และป้องกันการขุดเรื่องเก่าๆมาพูด (ตั้งแต่หลังโควตามา แม่บ่นเรื่องให้ไปเรียนพิเศษที่ไหนก็ลาออกหมด ไปหาเรียนเองแล้วครูไม่ได้เรื่อง - คือโทษครูไม่ได้นะคะ ด่าหนูเถอะอย่าด่าสถาบัน หนูโง่ที่ตัวหนูเอง #เราเป็นเด็กที่หากจูนกับใครได้ ก็จะเรียนได้แบบพุ่งฟิ้วๆ แต่ถ้าจูนไม่ได้ ก็มึนตั้งแต่วิแรกที่เริ่มสอน อาจเป็นเพราะเราไม่เปิดใจยอมรับครูคนนั้นด้วยละมั้งคะ)