คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 36
พยายามลดรายจ่ายลงน่าจะช่วยได้ครับ ขอแชร์ประสบการณ์นะครับ
ตอนนั้นผมก็เงินเดือน แค่ 9140 บาทนี่ละครับ แต่อยู่แบบพอมีพอกินครับ ประหยัดแต่ไม่ตระหนี่ทำงานไปเรื่อยๆ มันก็มีเงินเก็บนิดหน่อยครับ แต่พอมีการปรับเงินเดือนลูกจ้างเป็นหมื่นห้าพันบาท ผมก็ได้เงินตกเบิกย้อนหลังมาประมาณเกือบสองปี จำยอดที่แน่นอนไม่ได้ ประมาณเกือบๆ9หมื่นได้ครับ ตัดสินใจอยู่นานว่าจะออก มือ1แล้วค่อยๆผ่อน หรือ ซื้อมือสองแล้วจบๆไป
และหลังจากที่นั่งหาความรู้อยู่นาน ทั้งฟังจากคนรอบข้างและคิดเอง ก็ตัดสินใจ ผมซื้อรถต่อจากญาติครับ(ราคาถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 2 หมื่น) โชคดีประการหนึ่งที่ รถมือสองช่วงปี 56-57 ราคาจะตกมาก เพราะคนไม่ซื้อรถมือสองกัน เนื่องจากการตีตลาดของรถระดับอีโก้คาร์ สี่แสนก็ซื้อกันได้ ทำให้ราคารถมือสองตกอย่างมาก ได้รถฮอนด้า ซีตี้ 2003 มา ราคา150,000 บาทครับ(ส่วนตัวคิดว่ารุ่นนี้ปัญหาเยอะ เลยราคาถูกแต่คันที่ขับก็โอเคครับ สภาพดี) จ่ายเงินก้อนไปเลยรวดเดียวจากเงินตกเบิกกับเงินเก็บ มีหยิบยืมอีกนิดหน่อยครับ
ทุกวันนี้เงินแต่ละเดือนพอเงินเดือนขึ้นมา6พัน ก็ไม่ใช่ว่า จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นนะครับ ผมว่าทุกคนก็เป็นกันแบบนี้ครับ ยิ่งมีเงินเดือนเยอะยิ่งใช้เยอะกันมากขึ้นไปอีก ปัจจัยที่ทำให้มีเงินพอซื้อขึ้นมาได้เพราะ เงินเดือนที่ปรับขึ้นแต่เค้าไม่โอนมาให้เราตั้งแต่แรก มันกลายเป็นเหมือนเงินเก็บของเรา ถ้าคิดแบบนั้น ผมว่าก็ต้องตั้งเกณฑ์เงินเดือนให้น้อยกว่าเดิม จะได้มีเงินเก็บที่เเพิ่มขึ้น
สุดท้ายครับ ผมคิดว่า ถ้าอยากมีรถขับจริงๆต้องประหยัดขึ้นไปอีกครับ ทำบัญชีการใช้เงินอย่างจริงจัง มีน้อยก็ใช้น้อยครับ คุณจะมีความสุขกับตัวคุณเอง ถ้าอยากมีก็ต้องตั้งเป้าและอดทน สำหรับผมสิ่งสำคัญคือคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย และเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเรา ผมอาจขับรถที่เก่ากว่าเพื่อนร่วมงาน แต่สภาพการใช้งานมันก็อยู่ในระดับดี ไม่ควรแคร์คนรอบข้าง หรือ มองว่ามันเป็นวัสดุเสริมฐานะ เพราะสุดท้ายคนที่มีความสุขกับการใช้งานก็คือเราครับ มีคนรู้จักบางคนที่มีเงินใช้ยังไงก็ไม่หมด แต่ขับรถเก่าๆ ใช้ของเก่าๆแค่พอใช้งานของเค้า(รู้จักท่านนึงมีร้อยล้าน ขับมอเตอร์ไซด์ซูซูกิ สมัย30ปีที่แล้ว)
ตอนนั้นผมก็เงินเดือน แค่ 9140 บาทนี่ละครับ แต่อยู่แบบพอมีพอกินครับ ประหยัดแต่ไม่ตระหนี่ทำงานไปเรื่อยๆ มันก็มีเงินเก็บนิดหน่อยครับ แต่พอมีการปรับเงินเดือนลูกจ้างเป็นหมื่นห้าพันบาท ผมก็ได้เงินตกเบิกย้อนหลังมาประมาณเกือบสองปี จำยอดที่แน่นอนไม่ได้ ประมาณเกือบๆ9หมื่นได้ครับ ตัดสินใจอยู่นานว่าจะออก มือ1แล้วค่อยๆผ่อน หรือ ซื้อมือสองแล้วจบๆไป
และหลังจากที่นั่งหาความรู้อยู่นาน ทั้งฟังจากคนรอบข้างและคิดเอง ก็ตัดสินใจ ผมซื้อรถต่อจากญาติครับ(ราคาถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 2 หมื่น) โชคดีประการหนึ่งที่ รถมือสองช่วงปี 56-57 ราคาจะตกมาก เพราะคนไม่ซื้อรถมือสองกัน เนื่องจากการตีตลาดของรถระดับอีโก้คาร์ สี่แสนก็ซื้อกันได้ ทำให้ราคารถมือสองตกอย่างมาก ได้รถฮอนด้า ซีตี้ 2003 มา ราคา150,000 บาทครับ(ส่วนตัวคิดว่ารุ่นนี้ปัญหาเยอะ เลยราคาถูกแต่คันที่ขับก็โอเคครับ สภาพดี) จ่ายเงินก้อนไปเลยรวดเดียวจากเงินตกเบิกกับเงินเก็บ มีหยิบยืมอีกนิดหน่อยครับ
ทุกวันนี้เงินแต่ละเดือนพอเงินเดือนขึ้นมา6พัน ก็ไม่ใช่ว่า จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นนะครับ ผมว่าทุกคนก็เป็นกันแบบนี้ครับ ยิ่งมีเงินเดือนเยอะยิ่งใช้เยอะกันมากขึ้นไปอีก ปัจจัยที่ทำให้มีเงินพอซื้อขึ้นมาได้เพราะ เงินเดือนที่ปรับขึ้นแต่เค้าไม่โอนมาให้เราตั้งแต่แรก มันกลายเป็นเหมือนเงินเก็บของเรา ถ้าคิดแบบนั้น ผมว่าก็ต้องตั้งเกณฑ์เงินเดือนให้น้อยกว่าเดิม จะได้มีเงินเก็บที่เเพิ่มขึ้น
สุดท้ายครับ ผมคิดว่า ถ้าอยากมีรถขับจริงๆต้องประหยัดขึ้นไปอีกครับ ทำบัญชีการใช้เงินอย่างจริงจัง มีน้อยก็ใช้น้อยครับ คุณจะมีความสุขกับตัวคุณเอง ถ้าอยากมีก็ต้องตั้งเป้าและอดทน สำหรับผมสิ่งสำคัญคือคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย และเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเรา ผมอาจขับรถที่เก่ากว่าเพื่อนร่วมงาน แต่สภาพการใช้งานมันก็อยู่ในระดับดี ไม่ควรแคร์คนรอบข้าง หรือ มองว่ามันเป็นวัสดุเสริมฐานะ เพราะสุดท้ายคนที่มีความสุขกับการใช้งานก็คือเราครับ มีคนรู้จักบางคนที่มีเงินใช้ยังไงก็ไม่หมด แต่ขับรถเก่าๆ ใช้ของเก่าๆแค่พอใช้งานของเค้า(รู้จักท่านนึงมีร้อยล้าน ขับมอเตอร์ไซด์ซูซูกิ สมัย30ปีที่แล้ว)
แสดงความคิดเห็น
มนุษย์เงินเดือน เงินเดือนหมื่นต้นๆ เมื่อไหร่ จะมีรถเก๋งคันสวยๆ ขับกับชาวบ้านเค้ามั้งครับ
แต่พอมามองดูเงินเดือนตัวเอง ช่างน้อยเสียนี่กระไร ไม่รู้ชะตากรรมเลย เมื่อไหร่ จะลืมตา อ้าปากได้เหมือนคนอื่นบ้าง
ที่มองไว้คือ โตโยต้า วีออสครับ ชอบมาก เห็นเพื่อนขับรถคันนี้ ทีไร ผมนี่บอกเลยอยากได้มากๆ ตอนนี้กำลังพยายาม
เก็บเงินดาวน์อยู่ครับ อยากได้มาก
เงินเดือน 14,000 บาท
ค่าหอ + น้ำไฟ ราวๆ 3,000 บาท
ค่าอาหารต่อเดือน 3,500 บาท
ค่าน้ำมันรถ 1,500 บาท
ส่งให้พ่อแม่ 3,000 บาท
ออมเพื่ออนาคต 1,500 บาท
ค่าอื่นๆ 1,500 บาท
สู้ๆครับ ว่าจะหาของมาขายอยู่ครับ เผื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย เฮ้อๆๆๆ