เนื่องด้วยเมื่อวันก่อน ความที่อยากดูหนัง เลยจองโรงหนังรอบ สามทุ่ม
ที่ SF cinema สาขา พรอมมินาด้า เชียงใหม่ไป
ผมก็ดูหนังกับเพื่อนไป เป็นเบาะคู่ด้านบนสุด ก็ดูจนจบ ประมาณ ห้าทุ่มครึ่ง
และแยกย้ายกันกลับบ้าน
สักพัก ประมาณ 23:45 เพื่อนโทรมาบอกว่าทำมือถือหาย
อันดับแรก ผมเปิดดู find my iphone ให้เพื่อนทันที ... ปรากฎว่า มือถือปิดครับ ติดต่อไม่ได้
จากนั้นก็โทรไปอีกหลายรอบ ผลเช่นเดิม คือปิดมือถือ
... รีบกลับไปที่โรงหนังอีกรอบ พนักงานพาเดินไปตรวจถึงเบาะที่นั่งเลย
ปรากฏว่า ไม่เจอ
สุดท้าย เลยตัดสินใจ เปิด Lost mode ทำการบันทึกเบอร์ผมลงไป
และส่งข้อความไปประมาณว่า ติดต่อกลับเบอร์... ด่วน
ณ ตอนนั้นคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ... ต้องนั่งรอความหวังอย่างเดียว
... กลับมาถึงบ้าน รีบเปิด iCloud บนคอม ก็ยังเป็น ปิดมือถืออยู่ดี
เลยไม่ได้สนใจ สักพักผมกำลังจะนอน ประมาณตีหนึ่งครึ่ง เมลล์ก็ดัง
ผมรีบเปิดดู ปรากฎว่ามีคนเปิดมือถือเพื่อนจริงๆ
พร้อมกับส่งที่อยู่ ณ ตอนนั้นว่าเครื่องอยู่ที่ไหน
(ตอนนั้นชัวร์แล้วแน่ๆว่าโดนขโมย เพราะถ้าตั้งใจคืนจริงๆไม่น่าจะปิดมือถือ และไม่น่าจะไปโผล่อีกอำเภอ)
... จากนั้น ผมรีบโทรกลับไปเบอร์เครื่องที่หาย โทรไป 4-5 รอบ ไม่มีคนรับ
เลยตัดสินใจ กระหน่ำส่ง Play sound
(เป็นโหมดหนึ่งในโปรแกรม find my iphone เสียงจะดังตลอดเวลา แสบแก้วหูมาก แม้ว่าเราจะปิดเสียงที่มือถือแล้วก็ตาม)
พร้อมกับส่งข้อความไปใน lost mode ว่า
"กรุณาติดต่อกลับเบอร์ ... ด้วยครับ ผมรู้ว่าคุณอยู่ อำเภอ... หรือถ้าพรุ่งนี้คืนมือถือให้ผมก่อนเที่ยงที่โรงหนัง ผมสัญญาว่าจะไม่แจ้งความ"
... สักพัก มีเบอร์แปลกๆ โทรกลับมาหา
ฟังจากน้ำเสียง น่าจะเป็น คนเพื่อนบ้านเรา (ต่างประเทศ)
แจ้งว่าชื่อบอล เก็บมือถือเราได้ แต่ไม่รู้จะเอาไปคืนที่ไหน
คนที่ชื่อบอลก็ให้เบอร์มือถือเค้ามา ก็คุยกันตกลงกันไปมาเรียบร้อย
ว่าพรุง่นี้ให้เอามาให้ที่โรงหนังประมาณ 10 โมง และย้ำกับคนที่เอาไปว่า อย่าปิดมือถือ
ทางนู้นก็รับปากแน่นอน
... จนถึงเช้าก็เห็นว่าเครื่องอยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหน
เพื่อนก็โทรไปหา นายบอลก็ตกลง และบอกว่าใกล้ๆ 10 โมง จะเอามาคืน
... จากนั้นเราก็สังเกตผ่าน icloud มาตลอดตั้งแต่เครื่องออกจากบ้าน เรื่อยๆมาจนมาหยุดอยู่กลางทาง
ระหว่างบ้านนายบอล กับ พรมมินนาด้า
อยู่ๆ สัญญานก็เงียบหายไปอีก ... เอาแล้วไง
ผมรีบโทรกลับไป ทั้งเบอร์นายบอลที่ให้ไว้ กับ เบอร์มือถือเพื่อนผม ปรากฎว่า "ไม่ติด"
ผมรีบนัดเจอเพื่อนผมที่โรงหนัง และตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อไป
ระหว่างทางที่ขับออกจากบ้านผมไปที่พรอมมินนาด้า
อยู่ๆ สัญญาน อีเมลล์ก็แจ้งเตือนมาอีกครั้งว่ามีการเปิดใช้มือถืออีกรอบ
พร้อมกับส่ง แผนที่มาว่าอยู่ที่ไหน ... ปรากฏว่าอยู่ไกลออกไปจากเดิม ทีนี้ไปโผล่ที่ อำเภอ สันกำแพง !!!!
เฮ้ย ... แบบนี้โดนขโมยแน่นอนผมรีบแคปหน้าจอไว้
และส่งข้อมูลผ่าน lost mode ว่า
"ผมรู้ว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหน ผมขอเครื่องคืน สัญญาว่าจะไม่แจ้งความ แต่ถ้ายังติดต่อไม่ได้ ผมแจ้งความแน่นอน "
... ผ่านไป 5 นาที มือถือโดนปิดไปอีกรอบ
ผมกับเพื่อนเลยตัดสินใจแจ้งความ ... ไปถึงสถานีตำรวจ ใช้เวลาในนั้นทั้งหมด 2 ชั่วโมง
เพื่อลงบันทึกประจำวัน คุณตำรวจบอกว่า
"ให้ผมกับเพื่อนไปตามหากันเองก่อน ตามโลเคชั่นที่ให้มา หากมีปัญหาอะไรให้โทรตามแกไปได้"
... เราก็โอเค ไม่ว่าไง ตามหากันเอง
ผมขับรถจนถึง อำเภอสารภี และไปตามหาหอพักจาก MAP ของ iphone ทั้งๆที่คิดในใจว่า
MAP ของไอโฟน มันปัญหาเยอะนี่หว่า แต่เราไม่มีเบาะแสอะไรมากไปกว่านี้แล้ว
ขับไปจนเจอหอพัก
(ตามแผนที่ที่ได้มา เป็นหอพักยาวๆหลังคาสีฟ้า แล้วปลายจุดที่ชี้ว่ามือถือเราหายคือบริเวณห้องเกือบๆสุดท้ายเลย)
ณ ตอนนั้นผมคิดว่าอาจไม่ใช่ห้องสุดท้ายจริง เพราะเราก็รู้ๆอยู่ว่า MAP มันไม่ได้เสถียรเป้าตรงๆแน่นอน
ผมเดินเข้าไปตามหอพักเรื่อยๆ ทุกห้องปิดหมด มีห้องตรงกลางเปิดอยู่
ผมเลยเข้าไปถาม ได้ความว่า มีป้าคนนึงเป็นพนักงานทำความสะอาดที่ โรงหนังพรอมมินนาด้า
อยู่ห้องสุดท้าย และอีกคนทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดในโรงหนังเช่นเดียวกัน อยู่ห้องติดๆกัน
ซึ่งมันเป็นห้องแถวๆสุดท้าย ตามที่แผนที่บอกจริงๆ
ผมเริ่มมีความหวังมากขึ้น จึงเดินไปห้องสุดท้าย เจอแต่ลูกเจ้าของห้อง
บอกว่าแม่เค้าไปทำงานกะกลางวัน ยังไม่กลับ
ผมเลยเดินไปเคาะอีกห้องที่ติดกัน มีผู้ชายเปิดประติออกมา ในห้องมีผู้หญิงนอนอยู่
เราก็เลยถามว่าเห็นมีใครเอามือถือมาบ้างไหม รู้จักใครชื่อบอลหรือไม่
ทั้งสองคนตอบว่าไม่เห็น และไม่รู้จัก ผมมองเข้าไปในห้อง เจอมือถืออีกเครื่องที่ปิดมือถืออยู่
ผมเลยถามไปว่า อีกเครื่องนั่นทำไมปิดไว้ ... ได้คำตอบมาว่าแบตไม่ดี
สักพักน้องผู้หญิงก็เดินมาคุย และบอกว่าทำงานที่นั่นจริงๆ แต่ไม่ได้ไปมาสามวันแล้ว เนื่องจากแท้งลูก และไม่สบาย
ผมจึงขอเบอร์ และ ชื่อของทั้งสองคนมา ซึ่งผู้ชายบอกว่าชื่อยอด ส่วนผู้หญิงบอกว่าชื่อ M
ผมออกมาจากหอพักด้วยความหวังที่คิดว่าจะไม่มีแล้ว
ตลอดทาง ผมคุยกับเพื่อน และลงความเห็นว่า
พวกผมสงสัย ห้องที่มี ช กับ ญ พักด้วยกัน เพราะรูปใน MAP มันชี้ไปที่ห้องนี้จริงๆ
ชี้ไปที่ห้องรองสุดท้ายว่ามือถืออยู่ในนั้น แถมมีมือถืออีกเครื่องอยู่ในห้องแต่ปิดมือถือไว้
แถมผู้หญิงยังทำงานเป็นแม่บ้านในโรงหนังด้วย
แต่เราก็ไม่มีหลักฐานพอที่จะเข้าไปค้นภายในห้องได้
จากนั้นผมจึงตัดสินใจ ตามไปยังแผนที่สุดท้าย ที่ icloud ส่งมาให้ผม คือ อำเภอสันกำแพง
ไปถึง เป็นหอพักเช่นกัน มีคนอยู่ 2 ห้อง
สอบถามคนที่กพักในนั้น ก็ไม่มีใครรู้เรื่องเลย
ผมจึงตัดสินใจโทรหาตำรวจที่ให้เบอร์ไว้ ... ปรากฎว่า ไม่มีคนรับครับ
... ความหวังผมเหลือน้อยเต็มที
... ความหวังสุดท้ายของผมคือ "โรงหนัง SF"
ผมรีบออกจากอำเภอสันกำแพง และไปที่โรงหนัง
ไปถึงจึงแจ้งให้พนักงานทราบ พนักงานจึงตามผู้จัดการมา และคุยกัน
(ผู้จัดการชื่อ เอ นะครับ)
คุณ เอ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจริงๆครับ
เริ่มต้น ด้วยการตามแม่บ้านที่อยู่ห้องสุดท้ายมาถาม
ผมจึงได้ความว่า แกพักหอพักแรกที่ผมไปหาจริง แต่แกทำงานกะเช้า คือเลิกสี่โมงเย็น
ผมจึงถามต่อไปว่ารู้จักผู้หญิงที่ชื่อ M หรือเปล่า ที่พักห้องข้างๆกัน อยู่กับผู้ชาย
คุณป้าบอกว่ารู้จัก และเค้าก็ทำงานที่นี่จริง
ผมจึงถามไปว่า น้อง M เมื่อคืนเค้ามาทำงานหรือเปล่า และเค้าแท้งลูกเหรอ
... ป้าตอบว่า "เมื่อคืนเค้ายังมาทำงานอยู่เลย และไม่ได้ท้องเลยนะ"
คำตอบที่ได้มาทำให้ผมเริ่มมีความหวังขึ้น เพราะคนชื่อ M โกหกเราแน่ๆ
และเริ่มแน่ใจแล้วว่าเป้นสองคนนี้จริงๆที่เอาไป
... ผมตัดสินใจ นั่งรอ ... จนถึงเวลาที่น้อง M มาทำงาน
พอ M มาถึง ... ผู้จัดการ ผม และเพื่อน รุมถาม คำถามมากมาย
ว่าไหนบอกพี่ว่าไม่ได้มาทำงาน ไหนบอกพี่ว่าเราแท้ง
แต่ น้อง M เค้าก็ยังไม่ยอมรับว่าเป็นคนเอาไป
สุดท้ายผมจึงต้องบอกว่า ถ้าไม่บอกความจริง ผมจะต้องเรียกตำรวจมาที่นี่นะ
... น้องเค้าเงียบไปซักพัก จึงบอกว่า แฟนเค้าเป็นคนเก็บได้
ผมโล่งเลยครับ แต่ปัญหาตอนนี้คือ มือถือไม่ได้อยู่ที่น้องเค้า ไม่รู้ว่าผู้ชายเอาไปเก็บไว้ที่ไหน
ผมจึงให้เค้าโทรกลับไปหาแฟน และบอกว่าจะเอามือถือคืน และผมจะไม่เรียกตำรวจมา
น้อง M บอก งั้นให้เค้าขับมอเตอร์ไซค์กลับไปที่ห้องก่อน และจะไปเอามือถือมาคืนให้
ผมบอกเลยว่า "ไม่ได้ครับ" เอากุญแจรถฝากไว้ที่ผู้จัดการ แล้วน้องไปกับพวกพี่
ถ้าพวกพี่ไม่ได้มือถือคืน น้องก็ไม่ได้รถคืนเช่นกัน
ระหว่างทาง ผมให้น้องเค้าโทรหาแฟน
ได้ความว่า แฟนเอามือถือไปไว้ที่อื่นแล้ว ไม่ได้อยู่ที่หอ
ผมจึงให้แฟนนั่งรถไปด้วย และตามเอามือถือคืน
... ปรากฎว่า มือถือผมไปอยู่ที่ หอที่สอง ที่อำเภอสันกำแพงจริงๆ (เป็นหอที่พี่สาวเค้าพักอยู่)
ซึ่งเป็นที่สุดท้ายที่ icloud ส่งแผนที่มาให้
อือหือ find my iphone มันเจ๋งจริงเว้ย
... สุดท้าย ผมได้มือถือคืน แต่ไม่ได้ซิม เพราะเค้าบอกว่าโยนซิมทิ้งข้างทางแล้ว
พร้อมกับได้รอยแงะบริเวณถาดซิมของ ไอโฟน แทน 555
... ตลอดเวลาที่นั่งรถมา ผู้ชาย กับ ผู้หญิง ยืนยันว่าไม่ได้ขโมย แค่เก็บได้ และคิดว่าจะเอาไปคืนให้
แต่ไม่กล้าเอาไปคืน เพราะ เค้าไปปรึกษากับพี่สาวเค้า (หอพักที่สองที่ผมตามไปและได้มือถือคืนมา)
แล้วพี่สาวบอกว่าอย่าเอาไปคืน เผื่อเจ้าของเอาตำรวจมาดักจับ ... 555
เฮ้ออออ ถ้าไม่คิดแบบนี้ ก็จบไปตั้งแต่เช้าแล้วน้องงงงงง
อยากฝากบอกทุกคนว่า
1. หากมีคนใช้ iphone อย่าลืมเปิด find my iphone ไว้
2. อัพ ios ให้เป็น 7 ขึ้นไป เพราะถ้าเรา lock เครื่องไว้ ใครก็ตามจะเอาไปใช้ต่อไม่ได้เลย
เพราะตอนเปิดเครื่อง มันจะถามรหัสล็อคของเราตลอด
3. หากได้เบอร์คนที่ขโมยไป รีบบันทึกเบอร์ไว้ เพราะบางที คนขโมยอาจมีไลน์ เราก็จะได้รูปของคนที่ขโมยไป
4. ใช้ play back และ lost mode ให้เป็น
5. MAP ของ iphone ก็ใช้ได้เหมือนกัน (ตอนแรกเราคิดว่าจะเพี้ยนๆไปโผล่ที่ใกล้ๆกัน แต่นี้ชี้ตรงๆเลย)
อยากขอบคุณ ผู้จัดการ และ พนักงาน SF สาขา พรอมมินาด้าเชียงใหม่
ที่อำนวยความสะดวกทุกอย่าง
เปิดกล้องให้ดู เรียกพนักงานทำความสะอาดทั้งหมดมาให้เราถาม
โดยที่ไม่ได้ขอดู ใบแจ้งความ ก่อนแต่อย่างใด ขอบคุณครับ
สุดท้าย ขอบคุณ คุณตำรวจที่รับแจ้งความให้ครับ
ปล. ผมอาจแท็กผิดห้องนะครับ เพราะโพสครั้งแรก
ทุกทีเคยแต่อ่านอย่างเดียว
กระทู้แรกในชีวิตของผม ขอบคุณครับ
ความหวังริบหรี่ แต่ตามหามือถือจนเจอ จาก Find my iphone ขอบคุณ พนักงาน SF พรอมมินาด้า เชียงใหม่ ครับ
ที่ SF cinema สาขา พรอมมินาด้า เชียงใหม่ไป
ผมก็ดูหนังกับเพื่อนไป เป็นเบาะคู่ด้านบนสุด ก็ดูจนจบ ประมาณ ห้าทุ่มครึ่ง
และแยกย้ายกันกลับบ้าน
สักพัก ประมาณ 23:45 เพื่อนโทรมาบอกว่าทำมือถือหาย
อันดับแรก ผมเปิดดู find my iphone ให้เพื่อนทันที ... ปรากฎว่า มือถือปิดครับ ติดต่อไม่ได้
จากนั้นก็โทรไปอีกหลายรอบ ผลเช่นเดิม คือปิดมือถือ
... รีบกลับไปที่โรงหนังอีกรอบ พนักงานพาเดินไปตรวจถึงเบาะที่นั่งเลย
ปรากฏว่า ไม่เจอ
สุดท้าย เลยตัดสินใจ เปิด Lost mode ทำการบันทึกเบอร์ผมลงไป
และส่งข้อความไปประมาณว่า ติดต่อกลับเบอร์... ด่วน
ณ ตอนนั้นคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ... ต้องนั่งรอความหวังอย่างเดียว
... กลับมาถึงบ้าน รีบเปิด iCloud บนคอม ก็ยังเป็น ปิดมือถืออยู่ดี
เลยไม่ได้สนใจ สักพักผมกำลังจะนอน ประมาณตีหนึ่งครึ่ง เมลล์ก็ดัง
ผมรีบเปิดดู ปรากฎว่ามีคนเปิดมือถือเพื่อนจริงๆ
พร้อมกับส่งที่อยู่ ณ ตอนนั้นว่าเครื่องอยู่ที่ไหน
(ตอนนั้นชัวร์แล้วแน่ๆว่าโดนขโมย เพราะถ้าตั้งใจคืนจริงๆไม่น่าจะปิดมือถือ และไม่น่าจะไปโผล่อีกอำเภอ)
... จากนั้น ผมรีบโทรกลับไปเบอร์เครื่องที่หาย โทรไป 4-5 รอบ ไม่มีคนรับ
เลยตัดสินใจ กระหน่ำส่ง Play sound
(เป็นโหมดหนึ่งในโปรแกรม find my iphone เสียงจะดังตลอดเวลา แสบแก้วหูมาก แม้ว่าเราจะปิดเสียงที่มือถือแล้วก็ตาม)
พร้อมกับส่งข้อความไปใน lost mode ว่า
"กรุณาติดต่อกลับเบอร์ ... ด้วยครับ ผมรู้ว่าคุณอยู่ อำเภอ... หรือถ้าพรุ่งนี้คืนมือถือให้ผมก่อนเที่ยงที่โรงหนัง ผมสัญญาว่าจะไม่แจ้งความ"
... สักพัก มีเบอร์แปลกๆ โทรกลับมาหา
ฟังจากน้ำเสียง น่าจะเป็น คนเพื่อนบ้านเรา (ต่างประเทศ)
แจ้งว่าชื่อบอล เก็บมือถือเราได้ แต่ไม่รู้จะเอาไปคืนที่ไหน
คนที่ชื่อบอลก็ให้เบอร์มือถือเค้ามา ก็คุยกันตกลงกันไปมาเรียบร้อย
ว่าพรุง่นี้ให้เอามาให้ที่โรงหนังประมาณ 10 โมง และย้ำกับคนที่เอาไปว่า อย่าปิดมือถือ
ทางนู้นก็รับปากแน่นอน
... จนถึงเช้าก็เห็นว่าเครื่องอยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหน
เพื่อนก็โทรไปหา นายบอลก็ตกลง และบอกว่าใกล้ๆ 10 โมง จะเอามาคืน
... จากนั้นเราก็สังเกตผ่าน icloud มาตลอดตั้งแต่เครื่องออกจากบ้าน เรื่อยๆมาจนมาหยุดอยู่กลางทาง
ระหว่างบ้านนายบอล กับ พรมมินนาด้า
อยู่ๆ สัญญานก็เงียบหายไปอีก ... เอาแล้วไง
ผมรีบโทรกลับไป ทั้งเบอร์นายบอลที่ให้ไว้ กับ เบอร์มือถือเพื่อนผม ปรากฎว่า "ไม่ติด"
ผมรีบนัดเจอเพื่อนผมที่โรงหนัง และตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อไป
ระหว่างทางที่ขับออกจากบ้านผมไปที่พรอมมินนาด้า
อยู่ๆ สัญญาน อีเมลล์ก็แจ้งเตือนมาอีกครั้งว่ามีการเปิดใช้มือถืออีกรอบ
พร้อมกับส่ง แผนที่มาว่าอยู่ที่ไหน ... ปรากฏว่าอยู่ไกลออกไปจากเดิม ทีนี้ไปโผล่ที่ อำเภอ สันกำแพง !!!!
เฮ้ย ... แบบนี้โดนขโมยแน่นอนผมรีบแคปหน้าจอไว้
และส่งข้อมูลผ่าน lost mode ว่า
"ผมรู้ว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหน ผมขอเครื่องคืน สัญญาว่าจะไม่แจ้งความ แต่ถ้ายังติดต่อไม่ได้ ผมแจ้งความแน่นอน "
... ผ่านไป 5 นาที มือถือโดนปิดไปอีกรอบ
ผมกับเพื่อนเลยตัดสินใจแจ้งความ ... ไปถึงสถานีตำรวจ ใช้เวลาในนั้นทั้งหมด 2 ชั่วโมง
เพื่อลงบันทึกประจำวัน คุณตำรวจบอกว่า
"ให้ผมกับเพื่อนไปตามหากันเองก่อน ตามโลเคชั่นที่ให้มา หากมีปัญหาอะไรให้โทรตามแกไปได้"
... เราก็โอเค ไม่ว่าไง ตามหากันเอง
ผมขับรถจนถึง อำเภอสารภี และไปตามหาหอพักจาก MAP ของ iphone ทั้งๆที่คิดในใจว่า
MAP ของไอโฟน มันปัญหาเยอะนี่หว่า แต่เราไม่มีเบาะแสอะไรมากไปกว่านี้แล้ว
ขับไปจนเจอหอพัก
(ตามแผนที่ที่ได้มา เป็นหอพักยาวๆหลังคาสีฟ้า แล้วปลายจุดที่ชี้ว่ามือถือเราหายคือบริเวณห้องเกือบๆสุดท้ายเลย)
ณ ตอนนั้นผมคิดว่าอาจไม่ใช่ห้องสุดท้ายจริง เพราะเราก็รู้ๆอยู่ว่า MAP มันไม่ได้เสถียรเป้าตรงๆแน่นอน
ผมเดินเข้าไปตามหอพักเรื่อยๆ ทุกห้องปิดหมด มีห้องตรงกลางเปิดอยู่
ผมเลยเข้าไปถาม ได้ความว่า มีป้าคนนึงเป็นพนักงานทำความสะอาดที่ โรงหนังพรอมมินนาด้า
อยู่ห้องสุดท้าย และอีกคนทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดในโรงหนังเช่นเดียวกัน อยู่ห้องติดๆกัน
ซึ่งมันเป็นห้องแถวๆสุดท้าย ตามที่แผนที่บอกจริงๆ
ผมเริ่มมีความหวังมากขึ้น จึงเดินไปห้องสุดท้าย เจอแต่ลูกเจ้าของห้อง
บอกว่าแม่เค้าไปทำงานกะกลางวัน ยังไม่กลับ
ผมเลยเดินไปเคาะอีกห้องที่ติดกัน มีผู้ชายเปิดประติออกมา ในห้องมีผู้หญิงนอนอยู่
เราก็เลยถามว่าเห็นมีใครเอามือถือมาบ้างไหม รู้จักใครชื่อบอลหรือไม่
ทั้งสองคนตอบว่าไม่เห็น และไม่รู้จัก ผมมองเข้าไปในห้อง เจอมือถืออีกเครื่องที่ปิดมือถืออยู่
ผมเลยถามไปว่า อีกเครื่องนั่นทำไมปิดไว้ ... ได้คำตอบมาว่าแบตไม่ดี
สักพักน้องผู้หญิงก็เดินมาคุย และบอกว่าทำงานที่นั่นจริงๆ แต่ไม่ได้ไปมาสามวันแล้ว เนื่องจากแท้งลูก และไม่สบาย
ผมจึงขอเบอร์ และ ชื่อของทั้งสองคนมา ซึ่งผู้ชายบอกว่าชื่อยอด ส่วนผู้หญิงบอกว่าชื่อ M
ผมออกมาจากหอพักด้วยความหวังที่คิดว่าจะไม่มีแล้ว
ตลอดทาง ผมคุยกับเพื่อน และลงความเห็นว่า
พวกผมสงสัย ห้องที่มี ช กับ ญ พักด้วยกัน เพราะรูปใน MAP มันชี้ไปที่ห้องนี้จริงๆ
ชี้ไปที่ห้องรองสุดท้ายว่ามือถืออยู่ในนั้น แถมมีมือถืออีกเครื่องอยู่ในห้องแต่ปิดมือถือไว้
แถมผู้หญิงยังทำงานเป็นแม่บ้านในโรงหนังด้วย
แต่เราก็ไม่มีหลักฐานพอที่จะเข้าไปค้นภายในห้องได้
จากนั้นผมจึงตัดสินใจ ตามไปยังแผนที่สุดท้าย ที่ icloud ส่งมาให้ผม คือ อำเภอสันกำแพง
ไปถึง เป็นหอพักเช่นกัน มีคนอยู่ 2 ห้อง
สอบถามคนที่กพักในนั้น ก็ไม่มีใครรู้เรื่องเลย
ผมจึงตัดสินใจโทรหาตำรวจที่ให้เบอร์ไว้ ... ปรากฎว่า ไม่มีคนรับครับ
... ความหวังผมเหลือน้อยเต็มที
... ความหวังสุดท้ายของผมคือ "โรงหนัง SF"
ผมรีบออกจากอำเภอสันกำแพง และไปที่โรงหนัง
ไปถึงจึงแจ้งให้พนักงานทราบ พนักงานจึงตามผู้จัดการมา และคุยกัน
(ผู้จัดการชื่อ เอ นะครับ)
คุณ เอ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจริงๆครับ
เริ่มต้น ด้วยการตามแม่บ้านที่อยู่ห้องสุดท้ายมาถาม
ผมจึงได้ความว่า แกพักหอพักแรกที่ผมไปหาจริง แต่แกทำงานกะเช้า คือเลิกสี่โมงเย็น
ผมจึงถามต่อไปว่ารู้จักผู้หญิงที่ชื่อ M หรือเปล่า ที่พักห้องข้างๆกัน อยู่กับผู้ชาย
คุณป้าบอกว่ารู้จัก และเค้าก็ทำงานที่นี่จริง
ผมจึงถามไปว่า น้อง M เมื่อคืนเค้ามาทำงานหรือเปล่า และเค้าแท้งลูกเหรอ
... ป้าตอบว่า "เมื่อคืนเค้ายังมาทำงานอยู่เลย และไม่ได้ท้องเลยนะ"
คำตอบที่ได้มาทำให้ผมเริ่มมีความหวังขึ้น เพราะคนชื่อ M โกหกเราแน่ๆ
และเริ่มแน่ใจแล้วว่าเป้นสองคนนี้จริงๆที่เอาไป
... ผมตัดสินใจ นั่งรอ ... จนถึงเวลาที่น้อง M มาทำงาน
พอ M มาถึง ... ผู้จัดการ ผม และเพื่อน รุมถาม คำถามมากมาย
ว่าไหนบอกพี่ว่าไม่ได้มาทำงาน ไหนบอกพี่ว่าเราแท้ง
แต่ น้อง M เค้าก็ยังไม่ยอมรับว่าเป็นคนเอาไป
สุดท้ายผมจึงต้องบอกว่า ถ้าไม่บอกความจริง ผมจะต้องเรียกตำรวจมาที่นี่นะ
... น้องเค้าเงียบไปซักพัก จึงบอกว่า แฟนเค้าเป็นคนเก็บได้
ผมโล่งเลยครับ แต่ปัญหาตอนนี้คือ มือถือไม่ได้อยู่ที่น้องเค้า ไม่รู้ว่าผู้ชายเอาไปเก็บไว้ที่ไหน
ผมจึงให้เค้าโทรกลับไปหาแฟน และบอกว่าจะเอามือถือคืน และผมจะไม่เรียกตำรวจมา
น้อง M บอก งั้นให้เค้าขับมอเตอร์ไซค์กลับไปที่ห้องก่อน และจะไปเอามือถือมาคืนให้
ผมบอกเลยว่า "ไม่ได้ครับ" เอากุญแจรถฝากไว้ที่ผู้จัดการ แล้วน้องไปกับพวกพี่
ถ้าพวกพี่ไม่ได้มือถือคืน น้องก็ไม่ได้รถคืนเช่นกัน
ระหว่างทาง ผมให้น้องเค้าโทรหาแฟน
ได้ความว่า แฟนเอามือถือไปไว้ที่อื่นแล้ว ไม่ได้อยู่ที่หอ
ผมจึงให้แฟนนั่งรถไปด้วย และตามเอามือถือคืน
... ปรากฎว่า มือถือผมไปอยู่ที่ หอที่สอง ที่อำเภอสันกำแพงจริงๆ (เป็นหอที่พี่สาวเค้าพักอยู่)
ซึ่งเป็นที่สุดท้ายที่ icloud ส่งแผนที่มาให้
อือหือ find my iphone มันเจ๋งจริงเว้ย
... สุดท้าย ผมได้มือถือคืน แต่ไม่ได้ซิม เพราะเค้าบอกว่าโยนซิมทิ้งข้างทางแล้ว
พร้อมกับได้รอยแงะบริเวณถาดซิมของ ไอโฟน แทน 555
... ตลอดเวลาที่นั่งรถมา ผู้ชาย กับ ผู้หญิง ยืนยันว่าไม่ได้ขโมย แค่เก็บได้ และคิดว่าจะเอาไปคืนให้
แต่ไม่กล้าเอาไปคืน เพราะ เค้าไปปรึกษากับพี่สาวเค้า (หอพักที่สองที่ผมตามไปและได้มือถือคืนมา)
แล้วพี่สาวบอกว่าอย่าเอาไปคืน เผื่อเจ้าของเอาตำรวจมาดักจับ ... 555
เฮ้ออออ ถ้าไม่คิดแบบนี้ ก็จบไปตั้งแต่เช้าแล้วน้องงงงงง
อยากฝากบอกทุกคนว่า
1. หากมีคนใช้ iphone อย่าลืมเปิด find my iphone ไว้
2. อัพ ios ให้เป็น 7 ขึ้นไป เพราะถ้าเรา lock เครื่องไว้ ใครก็ตามจะเอาไปใช้ต่อไม่ได้เลย
เพราะตอนเปิดเครื่อง มันจะถามรหัสล็อคของเราตลอด
3. หากได้เบอร์คนที่ขโมยไป รีบบันทึกเบอร์ไว้ เพราะบางที คนขโมยอาจมีไลน์ เราก็จะได้รูปของคนที่ขโมยไป
4. ใช้ play back และ lost mode ให้เป็น
5. MAP ของ iphone ก็ใช้ได้เหมือนกัน (ตอนแรกเราคิดว่าจะเพี้ยนๆไปโผล่ที่ใกล้ๆกัน แต่นี้ชี้ตรงๆเลย)
อยากขอบคุณ ผู้จัดการ และ พนักงาน SF สาขา พรอมมินาด้าเชียงใหม่
ที่อำนวยความสะดวกทุกอย่าง
เปิดกล้องให้ดู เรียกพนักงานทำความสะอาดทั้งหมดมาให้เราถาม
โดยที่ไม่ได้ขอดู ใบแจ้งความ ก่อนแต่อย่างใด ขอบคุณครับ
สุดท้าย ขอบคุณ คุณตำรวจที่รับแจ้งความให้ครับ
ปล. ผมอาจแท็กผิดห้องนะครับ เพราะโพสครั้งแรก
ทุกทีเคยแต่อ่านอย่างเดียว
กระทู้แรกในชีวิตของผม ขอบคุณครับ