สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของดิฉัน
อาจจะอ่านยาก เพราะว่าเล่นในโทรศัพท์ค่ะ
ดิฉันเรียนทันตแพทย์ชั้นปีที่ 3 ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง
ที่เลือกเรียนเพราะเป็นความต้องการของครอบครัว
ซึ่งไม่ได้ชอบ หรือไม่อยากเรียนเลย เพราะทันตแพทย์นั้นต้องอาศัยทักษะทางด้านศิลปะ
ซึ่งไม่มีความถนัดเลย ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้ง ก็รู้สึกว่ามันเกินความสามารถ
ตอนอยู่ ม ปลาย มีความฝันอยากเรียนวิศวะ ถนัดวิชาเคมี ฟิสิกส์ และภาษาอังกฤษ
แต่ก็ถูกจำกัดความคิดมาตลอด ด้วยเหตุผลที่ว่า เกิดเป็นลูกผู้หญิง ในความคิดของที่บ้าน การที่เป็นวิศวกรนั้น ต้องนอนกลางดิน กินกลางทราย
พอสอบติดคณะทันตแพทย์ ก็เป็นที่ยินดีของครอบครัว เริ่มมีการดราม่าเกิดขึ้น เนื่องจากจะไม่ยอมเรียน
สุดท้าย ระหว่าง ความฝัน กับ ความกตัญญู ดิฉันเลือกความกตัญญูค่ะ
ได้เรียนในคณะที่ครอบครัวพอใจ ก็หวังแค่ว่า เรียนไปจะมีความสุขกับมัน
ปี 1 ก็โอเค เพราะยังเรียน วิชาทั่วไป แต่ก็มีความคิดอยากจะซิ่วเหมือนเดิม
พอยื่นคะแนนซิ่ว ปรากฎว่า ติดค่ะ ติดคณะที่อยากเรียน แต่ก็เกิดการดราม่าอีกครั้ง จนตัดสินใจ โอเค หนูจะเรียนต่อเพื่อความสบายใจของแม่
พอขึ้น ปี 2 ปี 3 เริ่มเข้าเรียนวิชาภาค ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่ถนัด
จากเกรดเฉลี่ยตอนปี 1 3.5 พอปี3เทอม 1 เกรด 2 กว่าๆ
ตัวดิฉันเองก็กดดันตัวเอง เริ่มรู้สึกว่าเครียด ไม่มีความสุข
ตอนนี้คิดออกอย่างเดียว คือ ทำไมไม่ได้ทำตามความฝันเหมือนเพื่อนๆ
รู้สึกน้อยใจในตัวเอง เหนื่อยแค่ไหน ท้อแค่ไหน ก็ได้แต่เก็บไว้
พอเจออุปสรรคนิดหน่อย หัวใจมันก็สั่งให้ท้อ
ถ้าเป็นไปได้ อย่าบังคับให้ลูกเรียนเลยค่ะ เพราะสิ่งที่พ่อแม่คาดหวัง กับความสุขของลูก มันอาจจะไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
ปล่อยให้ลูกๆ ได้เลือกทางเดินของตัวเอง ที่เขาจะต้องเดินไปในทางนั้นทั้งชีวิตของเขาเอง ..
ฝากถึงพ่อแม่ที่กำลังตัดสินใจเลือกที่เรียนให้ลูก
อาจจะอ่านยาก เพราะว่าเล่นในโทรศัพท์ค่ะ
ดิฉันเรียนทันตแพทย์ชั้นปีที่ 3 ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง
ที่เลือกเรียนเพราะเป็นความต้องการของครอบครัว
ซึ่งไม่ได้ชอบ หรือไม่อยากเรียนเลย เพราะทันตแพทย์นั้นต้องอาศัยทักษะทางด้านศิลปะ
ซึ่งไม่มีความถนัดเลย ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้ง ก็รู้สึกว่ามันเกินความสามารถ
ตอนอยู่ ม ปลาย มีความฝันอยากเรียนวิศวะ ถนัดวิชาเคมี ฟิสิกส์ และภาษาอังกฤษ
แต่ก็ถูกจำกัดความคิดมาตลอด ด้วยเหตุผลที่ว่า เกิดเป็นลูกผู้หญิง ในความคิดของที่บ้าน การที่เป็นวิศวกรนั้น ต้องนอนกลางดิน กินกลางทราย
พอสอบติดคณะทันตแพทย์ ก็เป็นที่ยินดีของครอบครัว เริ่มมีการดราม่าเกิดขึ้น เนื่องจากจะไม่ยอมเรียน
สุดท้าย ระหว่าง ความฝัน กับ ความกตัญญู ดิฉันเลือกความกตัญญูค่ะ
ได้เรียนในคณะที่ครอบครัวพอใจ ก็หวังแค่ว่า เรียนไปจะมีความสุขกับมัน
ปี 1 ก็โอเค เพราะยังเรียน วิชาทั่วไป แต่ก็มีความคิดอยากจะซิ่วเหมือนเดิม
พอยื่นคะแนนซิ่ว ปรากฎว่า ติดค่ะ ติดคณะที่อยากเรียน แต่ก็เกิดการดราม่าอีกครั้ง จนตัดสินใจ โอเค หนูจะเรียนต่อเพื่อความสบายใจของแม่
พอขึ้น ปี 2 ปี 3 เริ่มเข้าเรียนวิชาภาค ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่ถนัด
จากเกรดเฉลี่ยตอนปี 1 3.5 พอปี3เทอม 1 เกรด 2 กว่าๆ
ตัวดิฉันเองก็กดดันตัวเอง เริ่มรู้สึกว่าเครียด ไม่มีความสุข
ตอนนี้คิดออกอย่างเดียว คือ ทำไมไม่ได้ทำตามความฝันเหมือนเพื่อนๆ
รู้สึกน้อยใจในตัวเอง เหนื่อยแค่ไหน ท้อแค่ไหน ก็ได้แต่เก็บไว้
พอเจออุปสรรคนิดหน่อย หัวใจมันก็สั่งให้ท้อ
ถ้าเป็นไปได้ อย่าบังคับให้ลูกเรียนเลยค่ะ เพราะสิ่งที่พ่อแม่คาดหวัง กับความสุขของลูก มันอาจจะไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
ปล่อยให้ลูกๆ ได้เลือกทางเดินของตัวเอง ที่เขาจะต้องเดินไปในทางนั้นทั้งชีวิตของเขาเอง ..