[Food] ปลา.... กับสิ่งที่ควรระวัง (แต่ปลามีประโยชน์นะ)
ทุกคนรู้ดีว่า ปลาน้ำจืดและปลาทะเลมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ของดีนั้นมันก็มีความน่ากลัวซ่อนอยู่ ความน่ากลัวนี้ไม่ได้ถูกเอาใจใส่มากนัก อาจเป็นเพราะเราไม่ได้เจอเหตุการณ์ร้ายๆถึงขนาดทำให้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เราเลยมองมันเป็นเรื่องไกลตัว แต่เรื่องอันตรายนี้ คือสารพิษที่มากับปลา ซึ่งคนไทยกินปลากันบ่อยมากอยู่แล้ว สารพิษที่ว่าก็คือ "สารปรอท" มีคนพูดกันบ่อยๆว่า "ปลาทะเลมีสารปรอทอยู่มาก" แต่เพราะว่าปลาทะเลมันมีประโยชน์มากกว่าผลร้ายคนเลยกินกันต่อไป ไม่สนใจ
.
.
ในปี ค.ส.1959 ที่ประเทศญี่ปุ่นจังหวัด คุมาโมโต้ทางตอนใต้ ได้เกิดภาวะมลพิษที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนั่นก็คือ โรคมินามาตะ มินามาตะเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่คนนิยมทำประมงเป็นอาชีพหลัก แต่พื้นที่ส่วนมากเป็นที่ตั้งของโรงงานปุ๋ยและสารเคมีของบริษัท ชิสโซะ (Chisso Corporation) ต่อมาเกิดโรคขึ้นกับเด็กในหมู่บ้าน มีอาการประหลาด เช่น ตาพร่า จับตะเกียบไม่ค่อยได้ พูดลำบาก ชักกระตุกบ่อย แขนขาบิดเบี้ยวคล้ายคนพิการ ต่อมาผู้ใหญ่ก็เริ่มเป็นด้วย โรคนี้ใช้เวลาวินิชฉัยจาก คณะแพทย์ศาสตร์จังหวัดคุมาโมโต้ อยู่ 3 ปี จนได้ข้อสรุปมาว่า โรคมินามาตะ เกิดจากการที่ได้รับสาร ปรอทที่มากเกินไป สารปรอทที่ว่า ถูกปล่อยมากับน้ำเสียของโรงงานปุ๋ยและสารเคมีของบริษัท ชิสโซะ เหตุการณ์นี้ต้องทำให้มีผู้สูญเสียกว่า 600 คน และโรงงานก็ถูกปิดตัวลง
.
.
นี่คือความอันตรายของสารปรอทเมื่อเราได้รับมันมากเกินไป สารปรอทเกิดขึ้นจากธรรมชาติเช่น ภูเขาไฟระเบิด และจากมนุษย์ เช่น โรงงานทำกระดาษ โรงงานผลิตไฟฟ้าถ่านหิน โรงงานเผาขยะ โรงงานทำอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สารปรอทถูกปล่อยลงทะเลพร้อมกับน้ำเสีย หรือถูกชะล้างมากับดิน แล้วลงสู่แม่น้ำ ลำธาร และรวมถึงทะเล หลังจากนั้นแพลงก์ตอนจะดูดซึมสารปรอทนี้เข้าร่างกาย ปลาตัวเล็กตัวน้อยก็กินแพลงก์ตอน ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เป็นห่วงโซ่อาหาร สุดท้ายปลาที่เป็นนักล่าและอายุยืนยาว จะมีสารปรอทสูง เช่น ปลาฉลาม ปลาดาบเงิน หลังจากนั้นคนก็กินปลาที่มีสารปรอทอยู่ ใช่ว่าปลาทะเลจะมีสารปรอทอย่างเดียว ปลาน้ำจืดอย่าง ปลาช่อนก็มีนะ แต่ขึ้นอยู่กับจุดเสี่ยงของปลาที่เลี้ยง จังหวัดปราจีนบุรีซึ่งมีที่ตั้งของโรงงานกระดาษและถ่านหินอยู่ ปลาช่อนในบริเวณใกล้ๆถูกวินิจฉัยค่าปรอท ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เกณฑ์ที่กำหนดอยู่ที่ 0.02 มก./เนื้อปลา1กิโล แต่วัดได้สูงที่สุดประมาณ 0.5 มก./เนื้อปลา1กิโล
.
.
ตอนนี้สารปรอทที่วัดได้จากปลาทะเลบางพื้นที่ และปลาน้ำจืดบางจุดเสี่ยง เกินเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารสุขกำหนดไว้ สารปรอทที่เราได้รับจากการกินปลาอยู่นี้คงไม่มีผลร้ายแรงเท่าภาวะมลพิษอย่างประเทศญี่ปุ่น แต่จากเกิดโรคที่มินามาตะ เราได้รับบทเรียนอันมีค่าซึ่งต้องปรับใช้ในบ้านเราได้ ไม่ใช่แค่รัฐ หรือ เอกชนที่จะเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เราทั้ง รัฐ เอกชน และประชาชนต้องช่วยเหลือกัน หน่วยงานเอกชนควรควบคุมโลหะหนักไม่ให้รั่วไหลให้ได้มากที่สุด และเราคอยสอดส่องดูแลว่าโรงงานไหนทิ้งน้ำเสียลงแม่น้ำ ลำคลอง หรือทะเล
เสริมจ้า
ไม่ได้ให้เลิกกินปลานะครับบ ปลามีประโยชน์มากๆๆๆครับ แต่แค่อยากบอกให้รู้ครับว่าปลาได้สารปรอทมายังไง และเราควรหลีกเลี่ยงอะไร ปลาที่ถูกเลี้ยง หรือจับแถวโรงงานมักมีสารโลหะหนักอยู่มากครับ
ติดตามเนื้อเรื่องที่เคยโพสได้ที่ Facebook:
https://www.facebook.com/pages/Just-Love-Good-Food/961789493844962
.
.
อันนี้เป็น Link กระทรวงสาธารณะสุข
http://goo.gl/qdXusV
.
Link วัดสารปรอทปลาช่อนที่ปราจีนบุรี
http://www.ipen.org/hgmonitoring/pdfs/thailand_mercury_fish-hair_final-th.pdf
.
Link สารปรอทของปลาชนิดต่างๆของต่างประเทศ และ ไทย (อยู่หน้า 25)
http://doc2.clib.psu.ac.th/home/kanung.b/public13/thises/306656.pdf
[Food] ปลา.... กับสิ่งที่ควรระวัง (แต่ปลามีประโยชน์นะ)
ทุกคนรู้ดีว่า ปลาน้ำจืดและปลาทะเลมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ของดีนั้นมันก็มีความน่ากลัวซ่อนอยู่ ความน่ากลัวนี้ไม่ได้ถูกเอาใจใส่มากนัก อาจเป็นเพราะเราไม่ได้เจอเหตุการณ์ร้ายๆถึงขนาดทำให้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เราเลยมองมันเป็นเรื่องไกลตัว แต่เรื่องอันตรายนี้ คือสารพิษที่มากับปลา ซึ่งคนไทยกินปลากันบ่อยมากอยู่แล้ว สารพิษที่ว่าก็คือ "สารปรอท" มีคนพูดกันบ่อยๆว่า "ปลาทะเลมีสารปรอทอยู่มาก" แต่เพราะว่าปลาทะเลมันมีประโยชน์มากกว่าผลร้ายคนเลยกินกันต่อไป ไม่สนใจ
.
.
ในปี ค.ส.1959 ที่ประเทศญี่ปุ่นจังหวัด คุมาโมโต้ทางตอนใต้ ได้เกิดภาวะมลพิษที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนั่นก็คือ โรคมินามาตะ มินามาตะเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่คนนิยมทำประมงเป็นอาชีพหลัก แต่พื้นที่ส่วนมากเป็นที่ตั้งของโรงงานปุ๋ยและสารเคมีของบริษัท ชิสโซะ (Chisso Corporation) ต่อมาเกิดโรคขึ้นกับเด็กในหมู่บ้าน มีอาการประหลาด เช่น ตาพร่า จับตะเกียบไม่ค่อยได้ พูดลำบาก ชักกระตุกบ่อย แขนขาบิดเบี้ยวคล้ายคนพิการ ต่อมาผู้ใหญ่ก็เริ่มเป็นด้วย โรคนี้ใช้เวลาวินิชฉัยจาก คณะแพทย์ศาสตร์จังหวัดคุมาโมโต้ อยู่ 3 ปี จนได้ข้อสรุปมาว่า โรคมินามาตะ เกิดจากการที่ได้รับสาร ปรอทที่มากเกินไป สารปรอทที่ว่า ถูกปล่อยมากับน้ำเสียของโรงงานปุ๋ยและสารเคมีของบริษัท ชิสโซะ เหตุการณ์นี้ต้องทำให้มีผู้สูญเสียกว่า 600 คน และโรงงานก็ถูกปิดตัวลง
.
.
นี่คือความอันตรายของสารปรอทเมื่อเราได้รับมันมากเกินไป สารปรอทเกิดขึ้นจากธรรมชาติเช่น ภูเขาไฟระเบิด และจากมนุษย์ เช่น โรงงานทำกระดาษ โรงงานผลิตไฟฟ้าถ่านหิน โรงงานเผาขยะ โรงงานทำอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สารปรอทถูกปล่อยลงทะเลพร้อมกับน้ำเสีย หรือถูกชะล้างมากับดิน แล้วลงสู่แม่น้ำ ลำธาร และรวมถึงทะเล หลังจากนั้นแพลงก์ตอนจะดูดซึมสารปรอทนี้เข้าร่างกาย ปลาตัวเล็กตัวน้อยก็กินแพลงก์ตอน ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เป็นห่วงโซ่อาหาร สุดท้ายปลาที่เป็นนักล่าและอายุยืนยาว จะมีสารปรอทสูง เช่น ปลาฉลาม ปลาดาบเงิน หลังจากนั้นคนก็กินปลาที่มีสารปรอทอยู่ ใช่ว่าปลาทะเลจะมีสารปรอทอย่างเดียว ปลาน้ำจืดอย่าง ปลาช่อนก็มีนะ แต่ขึ้นอยู่กับจุดเสี่ยงของปลาที่เลี้ยง จังหวัดปราจีนบุรีซึ่งมีที่ตั้งของโรงงานกระดาษและถ่านหินอยู่ ปลาช่อนในบริเวณใกล้ๆถูกวินิจฉัยค่าปรอท ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เกณฑ์ที่กำหนดอยู่ที่ 0.02 มก./เนื้อปลา1กิโล แต่วัดได้สูงที่สุดประมาณ 0.5 มก./เนื้อปลา1กิโล
.
.
ตอนนี้สารปรอทที่วัดได้จากปลาทะเลบางพื้นที่ และปลาน้ำจืดบางจุดเสี่ยง เกินเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารสุขกำหนดไว้ สารปรอทที่เราได้รับจากการกินปลาอยู่นี้คงไม่มีผลร้ายแรงเท่าภาวะมลพิษอย่างประเทศญี่ปุ่น แต่จากเกิดโรคที่มินามาตะ เราได้รับบทเรียนอันมีค่าซึ่งต้องปรับใช้ในบ้านเราได้ ไม่ใช่แค่รัฐ หรือ เอกชนที่จะเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เราทั้ง รัฐ เอกชน และประชาชนต้องช่วยเหลือกัน หน่วยงานเอกชนควรควบคุมโลหะหนักไม่ให้รั่วไหลให้ได้มากที่สุด และเราคอยสอดส่องดูแลว่าโรงงานไหนทิ้งน้ำเสียลงแม่น้ำ ลำคลอง หรือทะเล
เสริมจ้า
ไม่ได้ให้เลิกกินปลานะครับบ ปลามีประโยชน์มากๆๆๆครับ แต่แค่อยากบอกให้รู้ครับว่าปลาได้สารปรอทมายังไง และเราควรหลีกเลี่ยงอะไร ปลาที่ถูกเลี้ยง หรือจับแถวโรงงานมักมีสารโลหะหนักอยู่มากครับ
ติดตามเนื้อเรื่องที่เคยโพสได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/pages/Just-Love-Good-Food/961789493844962
.
.
อันนี้เป็น Link กระทรวงสาธารณะสุข http://goo.gl/qdXusV
.
Link วัดสารปรอทปลาช่อนที่ปราจีนบุรี
http://www.ipen.org/hgmonitoring/pdfs/thailand_mercury_fish-hair_final-th.pdf
.
Link สารปรอทของปลาชนิดต่างๆของต่างประเทศ และ ไทย (อยู่หน้า 25)
http://doc2.clib.psu.ac.th/home/kanung.b/public13/thises/306656.pdf