คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
มาตรานี้ อย่าให้มันออกมาเลย เพราะดูแนวโน้มแล้ว ฝ่ายพวกขี้แพ้ มันจะต้องหาทางเดินไปทางนั้นให้ได้อย่างแน่นอน เราจึงไม่ควรเปิดช่องให้มันทำให้เกิดเงื่อนไขชั่วๆที่ พวกนี้มันทำ สร้างสถานการณ์
เราควรเขียนเปิดช่องเพียงว่า ถ้าจะเอานายกคนนอก ต้องให้ประชาชน เกินกึ่งหนึ่งของประชาชนที่มีสิทธิ์ทั้งประเทศ ณ เวลานั้นๆ ลงคะแนนรับรอง แล้ว ถ้าการลงคะแนนรับรองของคนที่มีสิทธิ์ทั้งประเทศได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งก็ให้มีการเลือกตั้งใหม่ แบบนี้ถึงจะแฟร์กับประชาชนชาวไทย ไม่ใช่จะเอาแต่ใจไม่เห็นความสำคัญกับประชาชน
เราควรเขียนเปิดช่องเพียงว่า ถ้าจะเอานายกคนนอก ต้องให้ประชาชน เกินกึ่งหนึ่งของประชาชนที่มีสิทธิ์ทั้งประเทศ ณ เวลานั้นๆ ลงคะแนนรับรอง แล้ว ถ้าการลงคะแนนรับรองของคนที่มีสิทธิ์ทั้งประเทศได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งก็ให้มีการเลือกตั้งใหม่ แบบนี้ถึงจะแฟร์กับประชาชนชาวไทย ไม่ใช่จะเอาแต่ใจไม่เห็นความสำคัญกับประชาชน
Dragon301 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 708790 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 865801 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 770201 ถูกใจ, a fat cat in a hat ถูกใจ, กฎเกณฑ์ ถูกใจ, saramatpo ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1132726 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1633991 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
น้องน้ำหวาน สาวโรงงานที่ไม่ได้จบ ป.ตรี ขอมีความเห็นในมาตรา 182 ของร่างรัฐธรรมนูญค่ะ
จากการที่ท่านได้อ้างเหตุการณ์ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 57
เพื่อมาเป็นเหตุผลในการ "เปิดช่องในยามวิกฤติที่สภาต้องการคนนอกมาทำหน้าที่"
โดยใช้คะแนนเสียง ส.ส. 2 ใน 3 ของจำนวนส.ส.ทั้งหมดนั้น
หากย้อนนึกกลับไปถึงเหตุการณ์ในขณะนั้น แม้แต่การเลือกตั้งก็ยังล้มเหลว
ผู้ที่ทำให้สถานการณ์เลวร้าย ไม่มีท่าทีประนีประนอม ไม่ใช้เหตุผลในการเจรจา
มีเป้าประสงค์เพียงอย่างเดียวคือ "ให้ฝ่ายตรงข้ามถอยออกไป"
แล้วเช่นนี้ยังจะหวังให้มีการโหวตกันอีกหรือ
ซึ่งดูจากจำนวนคะแนนเสียงแล้ว อนุมานได้ว่าจะต้องใช้เสียงของทั้งสองฝ่ายรวมกัน
จึงจะได้คนมาทำหน้าที่แทน
ฉนั้นท่านน่าจะทบทวนเรื่องวิธีหาคนนอกมาทำหน้าที่ใหม่
หรือไม่ก็หาเหตุผลใหม่มาอ้างอิงจะดีกว่านะคะ
ปล.ยังมีประเด็นวาระในการดำรงตำแหน่ง และประเด็นอำนาจหน้าที่ของ สว อีกนะคะ