ใบเสนอราคาที่ใช้เสมือนเป็นใบP/Oต้องติดอากรแสตมป์เพราะถือเป็นสัญญาจ้าง! ใช่เหรอคะ ขอความรู้

ขอความรู้หน่อยค่ะ เหตุเนื่องมาจากว่า บริษัทเล็กๆของเรา ขอคืนเงินภาษีที่ชำระเกิน กับสรรพากร ซึ่งทราบกิติศัพท์กันเป็นอย่างดีว่า การขอคืนภาษีของบริษัทนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะทั่นสรรพกรจะมาตรวจมาค้น มาแทรกแซงเอกสารทุกฉบับของบริษัท ประหนึ่งคุณคือนักโทษ ไอ้ที่ไม่ผิดก็จะหาช่องให้ผิดให้ได้...ว่ากันอย่างนั้น
แต่บ.เล็กๆอย่างเรา ทำงานกันแค่ 3 คน ยื่นภาษีถูกต้องทุกเดือน ไม่มีหมกเม็ด คนทำบัญชีบอกว่า ขอคืนเถอะ เอกสารเราเรียบร้อยยื่นครบถ้วนตลอด ไม่มีอะไรต้องกังวล ซึ่งเราก็เห็นเช่นนั้นค่ะ เงินที่เราควรได้คืน 3หมื่นกว่าบาทในปีแรกที่เปิดบ. ปีที่ 2 อีก 4หมื่นกว่าบาท และปีที่ 3 ที่ยังไม่ได้ยื่นเข้าไปนี้อีก 5 หมื่นกว่าบาท ที่ได้คืนเพิ่มขึ้น เพราะหลวงให้วงเงินยกเว้นภาษีเพิ่มขึ้นด้วย ประกอบกับกิจการพอไปได้ มีรายรับเข้ามาสม่ำเสมอ มากบ้างน้อยบ้างในแต่ละเดือน รวมๆ แล้วสิ้นปีก็มียอดผลประกอบการเพิ่มขึ้นปีละ 5-10% โดยประมาณ เราเลยได้คืนภาษีมากขึ้นค่ะ
เงินคืน3-4หมื่นที่ว่า อาจจะไม่มากสำหรับบ.ใหญ่ๆ แต่สำหรับบ.เล็กๆอย่างเรา มันมาก! และมีความหมายมากค่ะ มันสามารถเอามาเป็นต้นทุนสำรองเพิ่มเติมได้ ให้เราทำงานต่อไปได้ มันเทียบเท่ากับเงินเดือนของคนในบ. 2 ใน 3 คนรวมกันด้วยซ้ำ
กระบวนการขอคืนเริ่มตั้งแต่ยื่นขอปี 55 รอปลายจนปี56จึงเรียกตรวจเอกสาร เราส่งให้ทุกแผ่นที่มี ยกกันไปทั้งแฟ้มทุกแฟ้ม ผ่านมาจนปี 57 เรียกขอเอกสารของปี 56 เพิ่มไปอีกกอง โดยของปีเก่ายังไม่เคลียร์ เราก็นำส่งให้ ทั้งหมดที่มีเช่นกัน จนปลายปี57 เรียกเราและบัญชีเข้าชี้แจ้งรายละเอียดการดำเนินงาน เราก็เข้าไปทุกครั้ง ชี้แจง อธิบายวิธีการทำงานละเอียดชนิดที่เจ้าหน้าที่ออกไปเปิดบริษัทแข่งกับเราได้เลย เพราะรู้ทุกขั้นตอน ทั้งยกตัวอย่าง ทั้งเหตุการณ์จริง เล่าหมด ทั้งที่มันเป็นวิชาชีพของเรา ไม่มีใครเค้ามาแจกแจงกันหรอกค่ะ แต่เราทำ!!!! เพราะเราต้องการให้เค้าเห็นว่า เราโปร่งใส ไม่มีอะไรหมกเม็ด
หลังจากนั้นเรียกเราเข้าไปพบอีก บอกว่ามีเอกสารตกหล่น เงินได้คืนต้องลดลง! โอเคค่ะ....ลดลงก็ได้ เราตัดสินใจไม่หาไม่ค้นเอกสารใดๆมาแก้ต่างเพื่อยื้อเงินส่วนที่หายไปคืนมา เอาเป็นว่า ได้เท่าที่ได้ก็แล้วกัน (จาก3หมื่นกว่าเหลือ 2หมื่นกว่า หายไปหมื่นกว่าบาท) เหนื่อยแล้ว อยากให้จบซะที เราทำงานกันงกๆ 2-3 คน ไม่มีเวลามาวิ่งเข้าออกสรรพากรถี่ยิบแบบนี้ เรายังต้องวิ่งหาเงินเลี้ยงปากท้องเรา พ่อแม่เรา พ่อแม่แฟนเรา อีกหลายชีวิตฝากไว้กับเรา ลดลงก็ลดลง ยอม จะได้จบเรื่องซะที
ผ่านไปสักพัก... ส่งเมล์มาขอตัวอย่างในเสนอราคา ที่มีลูกค้าเซ็นตอบรับ เราส่งก็ให้ดูอีก....จบไหม???
หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน...ขอใบPO เราบอกว่า บ.เราเล็กๆ ไม่ได้มีใบ PO เราใช้ใบราคาที่ลูกค้าเซ็นกลับมานี่แหละ เป็นเสมือนใบสั่งซื้อเลย
คิดว่าจบ........ ไม่ค่ะ ยังไม่จบ
อีก 1 วันผ่านไป ส่งมาของใบเสนอราคาทั้งหมดของทั้ง 2 ปี ที่ผ่านมา ..................................??????????
ไม่ไหวละค่ะ มันคืออะไรคะ สงสัยมากทำไมหนักหนา โทรเข้าไปหาจนท.ที่ดูแลเราเลย บอกไปตามตรงว่า พี่คะ....นี่มันอะไรกันคะ ติดประเด็นอะไรอีกคะ หนูบอกพี่ชี้แจง จนหมดไส้หมดพุงแล้ว ให้ความร่วมมือทุกอย่าง จะมาเอาเอกสารอะไรอีก มันติดอะไรคะ
คำตอบคือ เค้าบอกว่า ใบเสนอราคาของเรา ถือเป็นสัญญาจ้าง เพราะลงนาม 2 ฝ่าย มีสเป็คงาน มีราคา เมื่อเป็นสัญญาจ้าง ต้องติดอากรแสตมป์ 1000 ละ 1 บาท โอ้แม่เจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา.......งง ค่ะ
เราเคยเห็น (และเคยทำ) งานที่มีภาครัฐเป็นคู่สัญญา ที่ต้องติดอากรในสัญญาจ้างตามมูลค่างาน ก็ว่ากันไป ติดลงบนสัญญาจ้างตามมูลค่างาน ติดลงบนคู้สัญญา 5 บาท แต่ในใบเสนอราคา ใบPO ใดๆ ที่เคยทำผ่านมากับลูกค้าเอกชนทั่วๆไป ไม่เคยเห็นเลยค่ะว่าต้องติดอากรด้วย เวลาเสนอราคาเราก็มี vat7% ครบถ้วน หัก ณ ที่จ่าย ก็ระบุเป็นค่าบริการ หรือค่าจ้างทำของ แล้วแต่กรณีไป ทั้งกรณีที่เราเป็นผู้รับจ้าง และผู้จ้าง  และส่งมอบสรรพากรทุกบาททุกสตางค์ไม่เคยเห็นเลยว่าต้องมีการติดอากรแสตมป์ในใบเสนอราคา
จนท.บอกว่าใบเสนอราคาของเราถือเป็นสัญญาจ้าง มีรายละเอียดสเป็คงานชัดเจน มีลงนาม 2 ฝ่าย เท่ากับเป็นสัญญาจ้าง จึงต้องติดอากร!!!!
เราถามจนท.ว่า ถ้าเราเสนอราคาไป ได้มีรายละเอียดของงานที่จะทำให้ ไม่มีราคาที่ชัดเจนระบุไว้ ไม่ลงชื่อคนเสนอ และไม่ต้องให้ลูกค้าเซ็นกลับมา แล้วถ้าเราทำงานเสร็จ ปรากฏว่าลูกค้าไม่จ่ายเงินให้เรา บอกเราว่าไม่ได้จ้าง ใครเสียหายคะ???? แล้วเราจะมีหักฐานอะไรไปร้องเรียนเค้า ถ้าไม่มีรายละเอียด และลายเซ็นในใบเสนอราคา ใครจะรับผิดชอบเราถ้าเราโดนโกง เราจะมีอะไรไปยันกะเค้าว่าเค้าจ้างเราจริง!
จนท.ตอบไม่ได้ค่ะ บอกอย่างเดียวว่าถ้าเป็นสัญญาจ้างก็ต้องติดอากร เราเลยถามว่า บริษัทอื่นๆ ที่เค้าทำงานแบบเรา เค้าติดกันไหม? จนท.อึ้งค่ะ...ตอบไม่ได้ บอกแต่ว่า เคสนี้พี่ก็เพิ่งเคยเจอ???? สงสัยค่ะ....ทั้งเขตพื้นที่นี้ มีเราบ.เดียวเหรอคะ ที่ทำธุรกิจบริการแบบนี้?
อ่ะ...ถามต่อ? แล้วกรณีเราถ้าต้องติดต้องทำไง ติดยังไงมันผ่านมาเป็นปีแล้ว จนท.ตอบไม่ได้เช่นกันค่ะ บอกว่าต้องไปถามคนที่คอมเม้นมาก่อนว่าติดย้อนหลังได้ไหม ต้องปรับไหม ยังไง และเรียกให้เราเข้าไปคุยอีกครั้ง บอกว่าเข้ามาคุยกัน จะได้ดูว่าจะทำยังไงได้บ้าง เราถามว่า อากรแสตมป์คือเงินที่เราต้องให้สรรพากรอีกใช่ไหมคะ จนท.บอกไม่ใช่ค่ะ อากรคือแสตมป์ที่ติดในสัญญา....????? จะไม่ใช่ได้ไงคะ ก็อากรก็ต้องซื้อที่สรรพากร มูลค่างานเท่าไหร่ก็ 1000 ละบาท เราก็ต้องซื้อสรรพากร ค่าปรับอีก(ถ้ามี) ก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ ก็ต้องสรรพากร แล้วมันจะไม่ใช่เงินที่เราต้องจ่ายให้สรรพากรได้ไง?????????
จนท.ก็ได้แต่บอกว่า ใจเย็นๆค่ะน้องๆๆๆๆ  เข้ามาคุยกันก่อนไหม จะได้เย็นลง จะได้ช่วยกันหาทางออก เราไม่ได้พูโโผงผางเลยนะคะ พูดดีๆ แต่บอกตรงๆไปเลยว่า เราผิดหวังมาก ที่สรรพากรทำแบบนี้ ก่อนหน้านี้ที่เรียกเราไปคุย ก็ถามเราหลายรอบ ว่าจะไม่ยกเงินส่วนนี้ให้หลวงเหรอ เงินจ่ายไปแล้วนะ ไม่ได้ต้องควักจ่ายเพิ่ม ให้หลวงเถอะ ช่วยชาติ!!!!!! ใช่เหรอคะ??? ก็หลวงงดเว้นภาษีให้ เพื่อช่วยประชาชน ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยๆ แต่ในทางปฏิบัติจริง ทั้งยากเย็น ทั้งยุ่งยาก อย่างกับเราเป็นโจรคดโกงประเทศชาติซะอย่างนั้น จะเอาเงินจากเราให้ได้ซะอย่างนั้น เวลาจะเก็บภาษีจากเราไม่เห็ยยุ่งยากเลย เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ต้องตรงเวลา ต้องครบถ้วน ไม่งั้นโดนปรับ โดนย้อนหลัง ยื่นไปแล้วจะขอแก้ไขปรับปรุงยอด ถ้ายื่นเกินยากเย็นมาก ถ้ายื่นขาดจ่ายเพิ่มสบายไป ง่ายหน่อย????????? นี่มันอะไรกัน ปวดใจคนทำมาหากินจริงๆค่ะ
บริษัทเรารับจ้างออกแบบงานกราฟฟิค และผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ จัดบูธบ้างนิดหน่อย สต็อคก็ไม่มี ต้นทุนก็เป็นการจ้างทำของตามสั่ง เอาไปขายก็+กำไรนิดหน่อย เท่านั้น บางเดือนรายได้ยังไม่พอเงินเดือนคนทำงานเลยค่ะ บางเดือนได้มาก ได้งานงบเยอะหน่อย ก็ถัวเฉลี่ยกันไป เจอแบบนี้ท้อใจค่ะ  
ขอความรู้ชาวพันทิปหน่อยค่ะ ใครโดนแบบนี้บ้างคะ ติดอากรในใบเสนอราคา เพราะถือเป็นสัญญาจ้าง??? เราไปหาอ่านในประกาศของอธิบดีกรมสรรพากร ก็บอกว่าต้องติดในสัญญาจ้าง แต่ก็ไม่ประเด็นว่าเป็นเฉพาะภาครัฐ หรือรวมถึงภาคเอกชนทั่วไป และถ้าย้อนหลังเกิน 90 วันต้องโดนปรับ 5 เท่า ??????? ( http://office.nu.ac.th/psd/natarnongj/%CD%D2%A1%C3%E1%CA%B5%C1%BB%EC1.htm )  อย่างนี้เราก็ตายสิคะ ใครมีความรู้ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ เราควรต้องทำอย่างไร เหนื่อยใจจริงๆเลยค่ะ ใครทำอย่างไรกันบ้าง รบกวนมาแชร์เป็นความรู้ให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่