คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ต้องถามว่าจะกู้ในนามตนเอง หรือในนามบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
กู้ในนามบริษัท คืออยากลงทุน แต่ไม่อยากเสี่ยงมาก จึงกู้ในนามบริษัท แต่เราเป็นเจ้าของ ถ้าขาดทุน ก็ไปฟ้องร้องบริษัท ความเสียหายจะจำกัดเฉพาะส่วนที่คุณลงทุนในบริษัทนั้นๆ กำไรอาจได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะต้องจ่ายส่วนหนึ่งไปกับดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ถ้าล้ม ก็ยังมีเงินเหลือ
ถ้ารุ่ง ก็อาจจะเอาเงินที่มีไปจ่ายคืนธนาคาร
แต่ปัญหาคือธนาคารจะให้กู้หรือไม่
ถ้ากู้ในนามตัวคุณเอง ได้กำไรมา ก็ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะก็ต้องจ่ายให้ธนาคารเป็นค่าดอกเบี้ย แต่ถ้าขาดทุนไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ย ธนาคารก็จะไล่เบี้ยฟ้องคุณ เอาทรัพย์สินคุณไปขายจนจ่ายหนี้จนหมด
ในกรณีนี้คุณจะกู้ทำไม ใช้เงินตัวเองดีกว่า เสียก็เสียเต็มๆเหมือนกัน แต่ถ้ากำไรก็ได้เต็มๆ
กู้ในนามบริษัท คืออยากลงทุน แต่ไม่อยากเสี่ยงมาก จึงกู้ในนามบริษัท แต่เราเป็นเจ้าของ ถ้าขาดทุน ก็ไปฟ้องร้องบริษัท ความเสียหายจะจำกัดเฉพาะส่วนที่คุณลงทุนในบริษัทนั้นๆ กำไรอาจได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะต้องจ่ายส่วนหนึ่งไปกับดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ถ้าล้ม ก็ยังมีเงินเหลือ
ถ้ารุ่ง ก็อาจจะเอาเงินที่มีไปจ่ายคืนธนาคาร
แต่ปัญหาคือธนาคารจะให้กู้หรือไม่
ถ้ากู้ในนามตัวคุณเอง ได้กำไรมา ก็ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะก็ต้องจ่ายให้ธนาคารเป็นค่าดอกเบี้ย แต่ถ้าขาดทุนไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ย ธนาคารก็จะไล่เบี้ยฟ้องคุณ เอาทรัพย์สินคุณไปขายจนจ่ายหนี้จนหมด
ในกรณีนี้คุณจะกู้ทำไม ใช้เงินตัวเองดีกว่า เสียก็เสียเต็มๆเหมือนกัน แต่ถ้ากำไรก็ได้เต็มๆ
แสดงความคิดเห็น
กู้เงินมาลงทุน กับ เอาเงินของตัวเองมาลงทุน อย่างไหนดีกว่ากันครับ ?
ระหว่าง
กู้เงินมาลงทุน กับ เอาเงินของตัวเองมาลงทุน อย่างไหนดีกว่ากันครับ ?
ขอทราบเหตุผลด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ