เเชร์การไปจดทะเบียนครอบครองงาช้างมานะครับ

กระทู้สนทนา
พอดีผมไปจดทะเบียนครอบครองงาช้างมาเเล้วเลยจะเเชร์ให้ทราบขั้นตอนพอสังเขปดังนี้นะครับ

1.ผลิตภัณท์งาช้างหากเป็นชิ้นเล็กเช่นเม็ดประคำงา หากน้ำหนักรวมเกินครึ่งกิโลควรนำไปจดทะเบียน

2. งาช้างเเมมมอสไม่ต้องจดทะเบียน พรบ งาช้างครับ

3. เเนะนำหากมีผลิตภัณท์งาช้างเเละหวังขายในกาลข้างหน้าควรนำไปจดทะเบียน เป็นการรักษาสิทธิ์ เเละไม่เป็นการเปิดช่องโหว่ของกฎหมายให้เจ้าหน้าที่มารบกวนเราในกาลข้างหน้า

เอกสารที่ต้องนำไป
1. สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน

2. กรณีไม่มีเอกสารอ้างอิงการครอบครอง ต้องพาพยานบุคคลไปเซ็นรับรองด้วย ( สำเนาบัตรประชาชนบุคคลที่ไปรับรอง )

ขั้นตอนการจดทะเบียน
1.ขอใบเเบบฟอร์มจากเจ้าหน้าที่เช่นใบกรอกชื่อนามสกุลเเละที่อยู่ของผู้ครอบครอง

2. ใบเเบบฟอร์มเเสดงรายการจำนวนงาช้างที่เราครอบครองพร้อมเเจ้งรายละเอียดคร่าวๆของเเหล่งที่ได้มา

3. นำใบกรอกเเบบฟอร์มทั้ง2ใบที่กรอกรายละเอียดเเล้วเเนบสำเนาทะเบียนบ้านเเละสำเนาบัตรประชาชนเซ็นรับรองเอกสารให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมยื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อรับบัตรคิวในการจดทะเบียนของเวลาทำการ

ในกรุงเทพฯ นำไปจดที่กรมอุทยานเเห่งชาติสัตว์ป่าเเละพันธ์พืช เขตจตุจักร ( ใกล้ ร.พ สัตว์เกษตรบางเขน ) เปิดทำการ 8.30 น เป็นต้นไป เสาร์เเละอาทิตย์ก็เปิดทำการ โทรสายด่วน 24ชั่วโมง 1362. ( หลีกเลี่ยงทุกวันพฤหัสเพราะจะมีตลาดนัด หาที่จอดรถยากมาก )

เเนะนำท่านที่มีครอบครองควรนำไปจดเพื่อรักษาสิทธิ์เเละได้ตรวจเช็คงาช้างที่ครอบครองด้วยว่าเป็นงาช้างเเท้หรือไม่ เพราะหากเป็นกระดูกช้างหรือเรซิ่นก็ไม่รับจดครับ
( เห็นทางเจ้าหน้าที่คุยกันว่ามีชายสูงอายุท่านนึงนำงาช้างเป็นกิ่งมา1คู่เเจ้งว่าซื้อไว้ร่วม10ปี มาในราคา 3เเสนบาท รักษาไว้อย่างดีเห็นว่าออก พรบ ครอบครองงาช้างจึงนำมาจดทะเบียนเเต่กลับเป็นว่างาช้างกลายเป็นเรซิ่นซะชิป ช๊อคไปชั่วขณะ การนำไปจดทะเบียนถือว่าได้ตรวจเช็คไปในตัวนะครับ เเละตลอดทุกขั้นตอนดำเนินการไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆนะครับ )
ไงเเล้วท่านใดมีงาช้างครอบครองจะนำไปจดทะเบียนก็รีบหน่อยนะครับ เพราะกฎหมายอนุญาตให้จดทะเบียนได้ถึงวันที่ 21 เมษายน 58นี้เท่านั้นนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่