มีใครเคยได้ยินเรื่อง กฎเเห่งเเรงดึงดูด รึปาว? พวกคุณเชื่อมั้ย?

มีใครเคยได้ยินเรื่อง กฎเเห่งเเรงดึงดูด รึปาว? พวกคุณเชื่อมั้ย?
ที่เค้าบอกว่า ถ้าเราคิดถึงเรื่องอะไร เราก็จะดึงดูดสิ่งนั้นมาไรงี้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 54
ถ้าจขกท.อ่านมาจาก เดอะซีเคร็ต เหมือนกันนะ         แนวคิดที่สรุปเป็นกฎแห่งแรงดึงดูดของเราเองคือ

                                                  ขอในสิ่งที่คุณเชื่อ
                                                                    เชื่อในสิ่งที่คุณจะทำ
                                                                                          ทำในสิ่งที่คุณอยากรับ
                                                                                                                   รับในสิ่งที่คุณเคยขอ....

ถ้าอ่านแนวคิดของกฏนี้โดยคิดและเข้าใจ  กฏจะสอนคุณให้คิดบวก  แล้วทำอย่างมุ่งมั่น   ไม่ได้บอกว่าแค่ท่องหรือบนบานแล้วได้โน่นนี่นะ   ที่สำคัญทุกสิ่งเกิดเพราะตัวเราเอง     ต.ย.ในหนังสือจะทำให้เข้าใจกฎนี้ง่ายขึ้นค่ะ  

จริงๆเป็นกฏที่เกี่ยวข้องกับหลายๆศาสตร์เช่น จิตวิทยา   วิทยาศาสตร์  ศาสนา ปรัชญา       จขกท.ลองด้วยตัวเองสิคะ  จะเข้าใจนะ

อย่าเชื่อจนกว่าจะพิสูจน์ได้เองค่ะ  จะยอมรับอะไรก็ตาม ควรเพราะเหตุผลที่คุณคิดหรือเลือกเอง  เพราะคุณเป็นผู้รับผลนั้นเองเช่นกัน อมยิ้ม04
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
confirmation bias.

อะไรที่ไม่สมหวังตามกฏ ไม่นับ เพราะกฏนี้มันก็ไม่ได้ใช้ได้เสมอนี่นา
อะไรที่สมหวังตามกฏ เป็นเพราะกฏแน่ๆเลย!!!

หมอดูยังไงก็แม่น ถ้าคุณไม่นับส่วนที่เขาทายไม่ถูก
ความคิดเห็นที่ 23
กฏแรงดึงดูด หรือ การคิดบวก การคิดลบ เป็นเพียง ปัจจัยอย่างหนึ่ง ที่ทำให้สิ่งดีๆ หรือ สิ่งไม่ดีๆ มาหาเราน่ะครับ แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่นอกเหนือจากกฏแรงดึงดูดครับ

ตัวอย่างของการใช้กฏแรงดึงดูด และกฏตรงข้ามแรงดึงดูด ในอดีตและปัจจุบัน
1) กฏแรงดึงดูด ในแง่คิดบวก เช่น ชาวบางระจัน คิดว่า ตนสามารถต้านทานพวกหงสาได้ แม้กำลังน้อยกว่า และชาวบางระจันก็สามารถต้านทานได้ เป็นระยะเวลาช่วงหนึ่งจริงๆ
2) กฏแรงดึงดูด ในแง่คิดลบ เช่น พ่อแม่ในอดีต เวลาคลอดลูกออกมาได้หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู บางพ่อแม่ ญาติๆ และเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยม จะพากันบอกว่า เด็กคนนี้ หน้าตาน่าชังจังเลย โดยมีความเชื่อต่อๆ กันมาว่า ถ้าบอกว่า เด็กหน้าตาน่ารัก เดี๋ยวผีชอบ ก็จะมาเอาเด็กไป (คือ เด็กตายนั่นแหละ) นี่ก็อีกแบบหนึ่ง

ซึ่งใช้ได้ผลหรือไม่ ตอบว่า ปัจจัยเดียวใช้ได้ผล ต่อเมื่อปัจจัยอื่นๆ ได้รับการดูแลอย่างดีน่ะครับ ยกตัวอย่าง ชาวบ้านบางระจัน คิดบวกว่า พวกตนสู้ได้ เพียงอย่างเดียว แต่ราชการไม่สนับสนุนปืนใหญ่ดีๆ มาให้ สุดท้าย กำลังน้อย ก็พ่ายกำลังมาก ในที่สุด

ดังนั้น คิดบวกเป็นปัจจัยหนึ่ง ลงมือทำก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ติดตามผล(ต่อเนื่อง) ก็เป็นอีกหนึ่ง และสุดท้ายคือ ปรับปรุง ก็เป็นอีกหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบัน เขาเรียก วิธีการแบบนี้ว่า PDCA คือ Plan Do Check และ Action ได้แก่ วางแผน(คิดบวก) ลงมือทำ ตรวจสอบผล และปรับปรุงเรื่อยๆ กรณีผลยังไม่ดี ซึ่งกลายเป็นมาแนวทางของบรรดาระบบ ISO9000 ต่างๆ ในปัจจุบัน

แต่ระบบ PDCA ที่ว่านี้ ก็ไปเหมือนกับ หัวข้อธรรมของทางพุทธศาสนาในอดีตโดยเขาไม่รู้กันน่ะครับ ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา หรือ เต็มใจ พากเพียร จดจ่อ และปรับปรุง เหมือนกันเลยครับ เต็มใจ คือ ปรารถนาที่จะสำเร็จ หรือ คิดบวก นั่นเอง ส่วน พากเพียร ก็คือ ลงมือทำไป ไม่ย่อท้อ ตามด้วย จดจ่อ คือ หมั่นเอาใจจดจ่อ ดูผลลัพธิ์ที่ทำไป หากได้ผลก็ทำต่อ หากไม่ได้ผล ก็ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง นั่นเอง
ความคิดเห็นที่ 14
ไม่รู้
รู้แต่ผู้ใช้สแตนด์ย่อมดึงดูดผู้ใช้สแตนด์ด้วยกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่