คิดว่ามีเหตุผลอะไรที่ "จา พนม" เลือกที่จะไม่คุยกับ "เสี่ย"
ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเกิดจากช่วงที่ "จา พนม" ทำองค์บาก 2 เพราะมีปัญหาที่ว่า งบบานปลาย แถมเริ่มเจอปัญหาครอบครัวที่ช่วงนั้นตาม จา พนม หนักมาก
เลยน่าจะกลายเป็นปัญหาทำให้ จา พนม หายไปจากกองถ่าย
หลังจากนั้นเราจะเห็นข่าว จา พนม เริ่มหนีครอบครัวหนักขึ้น
แถมมีข่าวว่ามีหนังฮอลลีวูดติดต่อเข้ามาแต่เสี่ยไม่ให้เล่นเพราะอยากให้ได้บทพระเอก ไม่อยากให้เล่นตัวรอง หรือบทผู้ร้าย เลยน่าจะเป็นจุดแตกหัก
ที่ทำให้ จา พนม ทนอยู่จนครบสัญญา พอสัญญาหมด และมีหนังฮอลลีวูดติดต่อเข้ามา ทำให้จาไม่ลังเลที่จะไปตามฝัน เพราะตัวเองถือว่าหมดสัญญาแล้ว
เพราะถ้า จา พนม ยังคงอยู่ในสัญญาเสี่ยคงไม่ปล่อยตัวให้ไปเล่นง่ายๆแน่ และด้วยอายุที่มากขึ้น ถ้าไม่รีบคว้า โอกาสอาจจะไม่มีอีกแล้ว
หลังจากพลาดมาแล้วในช่วงที่อยู่ในสัญญา 10 ปีแรกหลังองค์บากดัง ค่ายหนังต่างประเทศ,ดาราดังๆก็อยากร่วมงาน แต่เสี่ยปิดโอกาสตรงจุดนี้
ในส่วนของการไม่คุยกับเสี่ย เพราะคิดว่าในหลายๆเรื่อง คงมีผลกระทบ จะไปบอกว่าผ้ใหญ่ปิดโอกาสก็กลายเป็น คนไม่นึกถึงบุญคุณ
เลยเลือกที่จะเงียบ เพราะคิดว่าคงมีผลกระทบน้อยที่สุด แต่กลับกลายเป็นผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ คิดว่าเด็กมันดังแล้วไม่เห็นหัว
ก็เลยต้องสั่งสอน ผลสุดท้ายกลายเป็นย้อนเข้าหาตัวเอง
ถ้าใจกว้างจริงเรียกมาคุยดีๆ ไม่เอากฎหมายมาขู่ พร้อมให้โอกาสหรือพร้อมสนับสนุน
คิดว่ายังไง จา พนม คงเข้าไปคุยอยู่แล้ว ไม่ใช่เอะอ่ะก็เสียงแข็งใส่
ส่วนตัวก็อยากให้พูดคุยกันดีๆ เสี่ยก็ต้องลดโทนความดุ ลดความเข้ม เอาเหตุผลมาคุยดีๆ เรื่องมันน่าจะจบสวย กว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ
แล้วเพื่อนๆคิดว่ายังไง
ทำไม "จา พนม" เลือกที่จะไม่คุยกับ "เสี่ย"
ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเกิดจากช่วงที่ "จา พนม" ทำองค์บาก 2 เพราะมีปัญหาที่ว่า งบบานปลาย แถมเริ่มเจอปัญหาครอบครัวที่ช่วงนั้นตาม จา พนม หนักมาก
เลยน่าจะกลายเป็นปัญหาทำให้ จา พนม หายไปจากกองถ่าย
หลังจากนั้นเราจะเห็นข่าว จา พนม เริ่มหนีครอบครัวหนักขึ้น
แถมมีข่าวว่ามีหนังฮอลลีวูดติดต่อเข้ามาแต่เสี่ยไม่ให้เล่นเพราะอยากให้ได้บทพระเอก ไม่อยากให้เล่นตัวรอง หรือบทผู้ร้าย เลยน่าจะเป็นจุดแตกหัก
ที่ทำให้ จา พนม ทนอยู่จนครบสัญญา พอสัญญาหมด และมีหนังฮอลลีวูดติดต่อเข้ามา ทำให้จาไม่ลังเลที่จะไปตามฝัน เพราะตัวเองถือว่าหมดสัญญาแล้ว
เพราะถ้า จา พนม ยังคงอยู่ในสัญญาเสี่ยคงไม่ปล่อยตัวให้ไปเล่นง่ายๆแน่ และด้วยอายุที่มากขึ้น ถ้าไม่รีบคว้า โอกาสอาจจะไม่มีอีกแล้ว
หลังจากพลาดมาแล้วในช่วงที่อยู่ในสัญญา 10 ปีแรกหลังองค์บากดัง ค่ายหนังต่างประเทศ,ดาราดังๆก็อยากร่วมงาน แต่เสี่ยปิดโอกาสตรงจุดนี้
ในส่วนของการไม่คุยกับเสี่ย เพราะคิดว่าในหลายๆเรื่อง คงมีผลกระทบ จะไปบอกว่าผ้ใหญ่ปิดโอกาสก็กลายเป็น คนไม่นึกถึงบุญคุณ
เลยเลือกที่จะเงียบ เพราะคิดว่าคงมีผลกระทบน้อยที่สุด แต่กลับกลายเป็นผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ คิดว่าเด็กมันดังแล้วไม่เห็นหัว
ก็เลยต้องสั่งสอน ผลสุดท้ายกลายเป็นย้อนเข้าหาตัวเอง
ถ้าใจกว้างจริงเรียกมาคุยดีๆ ไม่เอากฎหมายมาขู่ พร้อมให้โอกาสหรือพร้อมสนับสนุน
คิดว่ายังไง จา พนม คงเข้าไปคุยอยู่แล้ว ไม่ใช่เอะอ่ะก็เสียงแข็งใส่
ส่วนตัวก็อยากให้พูดคุยกันดีๆ เสี่ยก็ต้องลดโทนความดุ ลดความเข้ม เอาเหตุผลมาคุยดีๆ เรื่องมันน่าจะจบสวย กว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ
แล้วเพื่อนๆคิดว่ายังไง