สวัสดีอีกครั้งค่า~
เราได้เพิ่มเรื่อง 'Supermarket ที่เรารักที่สุดในอเมริกา' แล้ว อยู่ในโพสต์เกือบล่างสุดของตอนที่ 3 นะคะ
ตอนนี้จะมาขอเล่าเรื่องที่เคยเกริ่นไว้ในกระทู้ที่ 1 ต่อ จะพยายามมาทยอยอัพทุกวันนะคะ ช่วงนี้วุ่นๆ นิดหน่อย♥ แหะๆ ^^;;
ถ้าสนใจอยากอ่านต่อก็รบกวนโหวต/ คอมเมนต์/ แชร์ด้วยเนอะ พันทิปไม่มียอดวิวให้ดู มันเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เรารู้ว่ายังมีคนรออ่านอยู่ :^)
ขออนุญาตแปะลิ้งค์กระทู้เก่าก่อนเล็กน้อย เผื่อคนที่ยังไม่เคยอ่านนะคะ ^^*
[Review] เรียนภาษาที่ PORTLAND - ตอนที่ 1 Portland?!! ไปดี ไม่ไปดี? ไปละกัน!!
http://pantip.com/topic/33398794
[Review] เรียนภาษาที่ PORTLAND - ตอนที่ 2 วิถีชีวิตและกิจกรรมยามว่างของชาว Portlander~
http://pantip.com/topic/33403133
[Review] เรียนภาษาที่ PORTLAND - ตอนที่ 3 กิน กิน กินทั่วเมือง ร้านไหนรีวิวดี... ไปหมด!!
http://pantip.com/topic/33406992
ต่อจากเรื่องอาหารคาว-หวานใน Portland ที่ได้อัพรูปอย่างบ้าระห่ำไปในกระทู้ก่อน
ครั้งนี้ขอเป็นเรื่องที่พักบ้าง เพราะมีคนถามมากันเยอะเลย ที่พักสำหรับนักเรียนที่นี่ หลักๆ จะแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้ค่ะ
1.
หอพักของ University Pointe: ส่วนใหญ่คนที่พักที่นี่จะเป็นนักศึกษาของ PSU(Portland State University) ค่ะ
แต่ก็จะมีนักเรียน-นักศึกษาจากสถาบันอื่นมาพักที่นี่ด้วยนะ เช่น นักเรียน Kaplan หรือนักศึกษาจาก Art Institute of Portland
อย่างที่บอกไปในกระทู้แรกว่าที่นี่จะมีห้องทั้งหมด 4 ประเภท เอารูปผังห้องมาให้ดูด้วยค่ะ ^^*
-
แบบที่ 1: 2 ห้องนอน(แชร์ห้องกับรูมเมทอีกคน) 2 ห้องน้ำ ใช้ครัวและห้องนั่งเล่นรวม ใช้ห้องทั้งหมด 4 คน || $554.00 ต่อเดือน
(ราคาให้คูณด้วยประมาณ 32.5 จะได้เงินบาทไทยค่ะ)

-
แบบที่ 2: 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ใช้ครัวและห้องนั่งเล่นรวม ใช้ห้องทั้งหมด 4 คน || $634.00 - $669.00 ต่อเดือน

-
แบบที่ 3: 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ใช้ครัวและห้องนั่งเล่นรวม ใช้ห้องทั้งหมด 2 คน || $849.00 - $884.00 ต่อเดือน

-
แบบที่ 4: 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ห้องแบบ studio สำหรับคนรวยจัด ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างสูงค่ะ 55555555*
|| $1,289.00 - $1,374.00 ต่อเดือน
คนที่จองหอพักที่นี่ผ่านทาง Kaplan จะมีห้องให้ประเภทเดียวเท่านั้น คือ แบบที่ 3
แต่ถ้าอยากได้ห้องประเภทอื่นก็จะต้องติดต่อเอง ข้อดีคือจะได้ราคาถูกกว่าจองผ่าน Kaplan ค่ะ
ส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าคนที่ตั้งใจมาเรียนภาษาไม่ควรจะเลือกนอนแบบที่ 4 นะคะ เพราะจะไม่มีโอกาสได้พูดกับใครเลย แพงอีกตะหาก
ควรเลือกแบบที่ 1-3 มากกว่า มีเพื่อนคุย เพื่อนเที่ยว ได้ฝึกภาษา แถมยังได้ช่วยพ่อแม่ประหยัดเงินอีกด้วย
แต่ขอบอกก่อนว่า เรื่องรูมเมทนี่แล้วแต่โชคชะตาจะนำพานะคะ ถ้าโชคดีก็ได้รูมเมทดี โชคร้ายก็ซวยไปค่ะ
ตอนแรกเราก็กลัวเหมือนกัน 'ถ้าได้รูมเมทกากๆ แล้วฉันจะอยู่ยังไงวะ?' แต่ปรากฏว่าได้รูมเมทดีอย่างเคลม็องทีนค่ะ ให้ 10 เต็ม 555555*
อีกเรื่องคือ... อย่าเพิ่งวาดฝันสวยหรูว่าอีก 3 คนที่เหลือจะเป็นอเมริกันชนนะ เพื่อนญี่ปุ่นเราได้รูมเมทเป็นจีนล้วนเลยจ้าาา~
ไม่ได้บอกว่าพวกเขาไม่ดี แต่การที่เขามาจากประเทศเดียวกัน เขาก็จะพูดแต่ภาษาตัวเองค่ะ เวลาเราฟังไม่ออกก็อาจทำให้อึดอัดเนอะ
แต่ในทางกลับกัน ถ้าพวกเขามีมารยาทพอ เวลาอยู่ต่อหน้าเรา เขาก็จะพยายามสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
แล้วเราก็อาจจะได้ภาษาจีนง่ายๆ ในชีวิตประจำวันมาเป็นของแถม เหมือนที่เราให้พวกเพื่อนเกาหลีสอนภาษาเกาหลีให้ค่ะ :^)
หอนี้ถือว่าค่อนข้างจะสะดวกสบายและมีความปลอดภัยสูงนะคะ มี Gym ให้เล่นฟรีทุกวัน รอบๆ ก็มีร้านอาหารเยอะแยะ
มีห้องมีตติ้ง ห้องอ่านหนังสือ ห้องคอม ห้องซักรีด บลาๆๆ แถมมีสถานีรถไฟฟ้า MAX อยู่หน้าหอเลยด้วย
ส่วนคนที่สงสัยว่า แล้วฉันจะต้องซื้อจานชามเองมั้ย? ขอตอบเลยว่า แล้วแต่เจ้าของคนเก่าจะกรุณาค่ะ 5555555*
แต่คนที่ไม่อยากใช้ของใช้แล้วต่อจากคนอื่น ก็ไปซื้อของตัวเองได้ที่ห้าง Target หรือ Pioneer Place ไม่ก็ Ikea ก็ได้ค่ะ ;^)
(Ikea ที่อเมริกาจะเรียกว่า ไอเกีย นะคะ อ่านตรงตัวเลย ส่วนต้นฉบับอย่างสวีเดนจะเรียกว่า อีเกีย ตามการออกเสียงแบบยุโรปค่ะ)
ใครอยากได้รายละเอียดหอพักเพิ่มเติม สามารถไปเข้าอ่านได้ที่
univpointe.com นะคะ~
เอารูปปลากรอบมาให้ดู จะได้นึกภาพตามออกค่ะ นี่เป็นรูปทางเข้าหอ ต้องตื๊ดบัตรเข้าไป (ไม่ก็รอให้คนข้างในออกมา 5555555*)

นี่เป็น Front Desk ค่ะ มีเรื่องสงสัยอะไรก็เดินเข้าไปถามได้เลย มีเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด

โถงทางเดินชั้นล่างค่ะ โล่ง โปร่ง สบาย ด้านนอกมีสวนเล็กๆ อยู่~

ห้องคอมค่ะ เราอยู่หอนี้แค่ 2 อาทิตย์ เลยยังไม่มีโอกาสได้ใช้เลย =.=

ยิมค่ะ เข้าไปใช้ฟรีได้ตลอด ตอนเช้ากับเย็น หนุ่มๆ ชอบมาออกกำลังกาย วิ่งลู่ เล่นกล้ามกัน(บอกเป็นข้อมูลเฉยๆ ไม่ได้คิดไรค่ะ)

สถานี MAX มาเกยอยู่หน้าตึกเลยค่ะ ต้องเดินออกมาประมาณ 5 ก้าวได้ 55555555*

สภาพห้องครัวค่ะ เป็นครัวแบบครบเซ็ทเลย มีเตาไฟ เตาอบ ไมโครเวฟ เครื่องล้างจาน ตู้เย็น อ่างล้างจาน

สุดท้ายคือรูปห้องนอนค่ะ ขอบอกเลยว่า เป็นรูปเพื่อการโฆษณาเท่านั้น 55555555*
เปล่าหรอก... ประเด็นคือ ห้องจะน่าอยู่ขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของห้องจะแต่งมันยังไงนั่นแหละค่ะ ;^)
2.
Host Family: ถ้าอยากอยู่กับ Host ก็สามารถติดต่อผ่าน Kaplan ได้ค่ะ เราไม่เคยอยู่ บอกข้อมูลได้ไม่มาก
แต่จากการคุยกับเพื่อนๆ ก็พอจะทราบข้อดี-ข้อเสียอยู่ค่ะ ข้อดีคือ... ได้โฮสดีเป็นลาภอันประเสริฐ
เพื่อนเราโฮสดีมาก ทำอาหารเลิศหรูให้กินทุกเย็น เลี้ยงดูกันเยี่ยงคนในครอบครัว สนิทกันสุดๆ
การได้โฮสน่ารัก เฟรนลี่ก็จะยิ่งทำให้สกิลการใช้ภาษาพัฒนาได้เร็วค่ะ อยู่ที่เรากล้าคุยกับเขารึเปล่า แค่นั้น
ส่วนเพื่อนบางคนก็ได้โฮสเขี้ยวลากดิน ขี้งก ขี้เหนียว ใจแคบ ถ้าต้องไปอยู่ด้วย ก็คงไม่สบายใจหรอกเนอะ
เพื่อนเราอีกคนได้โฮสรักสุขภาพค่ะ บ้านไม่มีไมโครเวฟ ไม่กินเนื้อสัตว์ บางคนอาจจะอยู่ได้ แต่ถ้าเป็นเรา... บอกเลยตายหยังเขียด o<-<
แต่ใช่ว่าได้โฮสง่อยกระรอกแล้วชีวิตจะไม่มีทางออกนะ ขอเปลี่ยนโฮสได้ค่ะ Kaplan ที่ Portland จะมีจนท.ที่คอยดูแลเรื่องนี้ให้โดยเฉพาะ
เพียงแต่เราไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานขนาดไหนกว่าจะทำเรื่องเสร็จค่ะ เพราะไม่เคยติดต่อเรื่องพวกนี้เลย แต่ขอบอกเลยว่า...
อย่ายอมให้โฮสฝรั่งข่มค่ะ เราจ่ายเงินแพง ถ้าโดนเอาเปรียบก็ต้องรู้จักรักษาสิทธิ์ของตัวเอง อย่ายอม อย่าขี้กลัว อย่าทนนะคะ! สู้ว้อยยย!
3.
เช่าอพาร์ตเมนต์อยู่เอง: ของแบบนี้ต้องเสิร์ชกันเอาเองเลยค่ะ บางคนได้โลเคชั่นดี ราคาไม่แพง ก็โชคดีไป
อพาร์ทเมนต์ที่นี่มีแบบเช่าห้องเปล่ากับแบบมีเฟอร์นิเจอร์ให้ค่ะ เพื่อนเราบางคนก็เลือกแบบห้องเปล่านะ
แล้วไปหาซื้อเฟอร์นิเจอร์เองจากร้าน Goodwill ซึ่งเป็นร้านที่ขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบในราคาที่ถูกแสนถูกค่ะ
ความจริงมันก็เป็นร้านขายของมือสองน่ะนะ แต่ของคุณภาพดีที่เจ้าของไม่ต้องการแล้วก็ยังมีค่ะ ตาดีได้ตาร้ายเสียเนอะ ^^;;
ถ้าอยากได้ที่มันไม่แพงมาก ก็ต้องขยับตัวเองออกมานอก Downtown ค่ะ เราว่า Beaverton ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีนะ
เดินทางไม่ลำบากเลยด้วย นั่ง MAX เข้า downtown แค่ 25 นาทีเอง ถ้าขับรถก็ประมาณ 10-15 นาที
แต่คนที่คิดจะเช่าอพาร์ตเมนต์เนี่ย มองหารูมเมทไว้หน่อยก็ดีนะคะ ไม่ใช่อะไร... เอามาหารค่าห้องไงคะ 5555555*
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ว่าจะไม่โม้ยาว แต่ที่ใกล้หมดอีกละ~ งั้นโพสต์นี้เอาเท่านี้ก่อนดีกว่า ;w;
โพสต์หน้าจะเป็นเรื่อง "เพื่อนต่างชาติ... เกิดมาไม่เคยมีเพื่อนต่างชาติ แล้วฉันจะมีเพื่อนมั้ยเนี่ย? ทำไงดี?" นะคะ
เอ้อออ! เรามีหัวข้อใหม่ที่เพิ่งงอกขึ้นเมื่อกี๊แล้วนะคะ แต่นแต๊น... "ระบบขนส่งสาธารณะที่คนไทยจะต้องอิจฉาชัววววร์!"
เดี๋ยวก็คงมาโพสต์อยู่ในกระทู้นี้นั่นแหละ ยังไงก็ช่วยติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่า~♪♫ :^D
ใครมีคำถาม หรือข้อคิดเห็นยังไงก็ทิ้งไว้ได้เลยค่ะ ชอบอ่านคอมเมนต์ ฮิฮิฮิ~♥ ,,^_____^,,
[Review] เรียนภาษาที่ PORTLAND - ตอนจบ สารพัดเรื่องน่ารู้ก่อนก้าวออกจากสยามประเทศ~♪♫
เราได้เพิ่มเรื่อง 'Supermarket ที่เรารักที่สุดในอเมริกา' แล้ว อยู่ในโพสต์เกือบล่างสุดของตอนที่ 3 นะคะ
ตอนนี้จะมาขอเล่าเรื่องที่เคยเกริ่นไว้ในกระทู้ที่ 1 ต่อ จะพยายามมาทยอยอัพทุกวันนะคะ ช่วงนี้วุ่นๆ นิดหน่อย♥ แหะๆ ^^;;
ถ้าสนใจอยากอ่านต่อก็รบกวนโหวต/ คอมเมนต์/ แชร์ด้วยเนอะ พันทิปไม่มียอดวิวให้ดู มันเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เรารู้ว่ายังมีคนรออ่านอยู่ :^)
ขออนุญาตแปะลิ้งค์กระทู้เก่าก่อนเล็กน้อย เผื่อคนที่ยังไม่เคยอ่านนะคะ ^^*
[Review] เรียนภาษาที่ PORTLAND - ตอนที่ 1 Portland?!! ไปดี ไม่ไปดี? ไปละกัน!!
http://pantip.com/topic/33398794
[Review] เรียนภาษาที่ PORTLAND - ตอนที่ 2 วิถีชีวิตและกิจกรรมยามว่างของชาว Portlander~
http://pantip.com/topic/33403133
[Review] เรียนภาษาที่ PORTLAND - ตอนที่ 3 กิน กิน กินทั่วเมือง ร้านไหนรีวิวดี... ไปหมด!!
http://pantip.com/topic/33406992
ต่อจากเรื่องอาหารคาว-หวานใน Portland ที่ได้อัพรูปอย่างบ้าระห่ำไปในกระทู้ก่อน
ครั้งนี้ขอเป็นเรื่องที่พักบ้าง เพราะมีคนถามมากันเยอะเลย ที่พักสำหรับนักเรียนที่นี่ หลักๆ จะแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้ค่ะ
1. หอพักของ University Pointe: ส่วนใหญ่คนที่พักที่นี่จะเป็นนักศึกษาของ PSU(Portland State University) ค่ะ
แต่ก็จะมีนักเรียน-นักศึกษาจากสถาบันอื่นมาพักที่นี่ด้วยนะ เช่น นักเรียน Kaplan หรือนักศึกษาจาก Art Institute of Portland
อย่างที่บอกไปในกระทู้แรกว่าที่นี่จะมีห้องทั้งหมด 4 ประเภท เอารูปผังห้องมาให้ดูด้วยค่ะ ^^*
- แบบที่ 1: 2 ห้องนอน(แชร์ห้องกับรูมเมทอีกคน) 2 ห้องน้ำ ใช้ครัวและห้องนั่งเล่นรวม ใช้ห้องทั้งหมด 4 คน || $554.00 ต่อเดือน
(ราคาให้คูณด้วยประมาณ 32.5 จะได้เงินบาทไทยค่ะ)
- แบบที่ 2: 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ใช้ครัวและห้องนั่งเล่นรวม ใช้ห้องทั้งหมด 4 คน || $634.00 - $669.00 ต่อเดือน
- แบบที่ 3: 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ใช้ครัวและห้องนั่งเล่นรวม ใช้ห้องทั้งหมด 2 คน || $849.00 - $884.00 ต่อเดือน
- แบบที่ 4: 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ห้องแบบ studio สำหรับคนรวยจัด ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างสูงค่ะ 55555555*
|| $1,289.00 - $1,374.00 ต่อเดือน
คนที่จองหอพักที่นี่ผ่านทาง Kaplan จะมีห้องให้ประเภทเดียวเท่านั้น คือ แบบที่ 3
แต่ถ้าอยากได้ห้องประเภทอื่นก็จะต้องติดต่อเอง ข้อดีคือจะได้ราคาถูกกว่าจองผ่าน Kaplan ค่ะ
ส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าคนที่ตั้งใจมาเรียนภาษาไม่ควรจะเลือกนอนแบบที่ 4 นะคะ เพราะจะไม่มีโอกาสได้พูดกับใครเลย แพงอีกตะหาก
ควรเลือกแบบที่ 1-3 มากกว่า มีเพื่อนคุย เพื่อนเที่ยว ได้ฝึกภาษา แถมยังได้ช่วยพ่อแม่ประหยัดเงินอีกด้วย
แต่ขอบอกก่อนว่า เรื่องรูมเมทนี่แล้วแต่โชคชะตาจะนำพานะคะ ถ้าโชคดีก็ได้รูมเมทดี โชคร้ายก็ซวยไปค่ะ
ตอนแรกเราก็กลัวเหมือนกัน 'ถ้าได้รูมเมทกากๆ แล้วฉันจะอยู่ยังไงวะ?' แต่ปรากฏว่าได้รูมเมทดีอย่างเคลม็องทีนค่ะ ให้ 10 เต็ม 555555*
อีกเรื่องคือ... อย่าเพิ่งวาดฝันสวยหรูว่าอีก 3 คนที่เหลือจะเป็นอเมริกันชนนะ เพื่อนญี่ปุ่นเราได้รูมเมทเป็นจีนล้วนเลยจ้าาา~
ไม่ได้บอกว่าพวกเขาไม่ดี แต่การที่เขามาจากประเทศเดียวกัน เขาก็จะพูดแต่ภาษาตัวเองค่ะ เวลาเราฟังไม่ออกก็อาจทำให้อึดอัดเนอะ
แต่ในทางกลับกัน ถ้าพวกเขามีมารยาทพอ เวลาอยู่ต่อหน้าเรา เขาก็จะพยายามสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
แล้วเราก็อาจจะได้ภาษาจีนง่ายๆ ในชีวิตประจำวันมาเป็นของแถม เหมือนที่เราให้พวกเพื่อนเกาหลีสอนภาษาเกาหลีให้ค่ะ :^)
หอนี้ถือว่าค่อนข้างจะสะดวกสบายและมีความปลอดภัยสูงนะคะ มี Gym ให้เล่นฟรีทุกวัน รอบๆ ก็มีร้านอาหารเยอะแยะ
มีห้องมีตติ้ง ห้องอ่านหนังสือ ห้องคอม ห้องซักรีด บลาๆๆ แถมมีสถานีรถไฟฟ้า MAX อยู่หน้าหอเลยด้วย
ส่วนคนที่สงสัยว่า แล้วฉันจะต้องซื้อจานชามเองมั้ย? ขอตอบเลยว่า แล้วแต่เจ้าของคนเก่าจะกรุณาค่ะ 5555555*
แต่คนที่ไม่อยากใช้ของใช้แล้วต่อจากคนอื่น ก็ไปซื้อของตัวเองได้ที่ห้าง Target หรือ Pioneer Place ไม่ก็ Ikea ก็ได้ค่ะ ;^)
(Ikea ที่อเมริกาจะเรียกว่า ไอเกีย นะคะ อ่านตรงตัวเลย ส่วนต้นฉบับอย่างสวีเดนจะเรียกว่า อีเกีย ตามการออกเสียงแบบยุโรปค่ะ)
ใครอยากได้รายละเอียดหอพักเพิ่มเติม สามารถไปเข้าอ่านได้ที่ univpointe.com นะคะ~
เอารูปปลากรอบมาให้ดู จะได้นึกภาพตามออกค่ะ นี่เป็นรูปทางเข้าหอ ต้องตื๊ดบัตรเข้าไป (ไม่ก็รอให้คนข้างในออกมา 5555555*)
นี่เป็น Front Desk ค่ะ มีเรื่องสงสัยอะไรก็เดินเข้าไปถามได้เลย มีเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด
โถงทางเดินชั้นล่างค่ะ โล่ง โปร่ง สบาย ด้านนอกมีสวนเล็กๆ อยู่~
ห้องคอมค่ะ เราอยู่หอนี้แค่ 2 อาทิตย์ เลยยังไม่มีโอกาสได้ใช้เลย =.=
ยิมค่ะ เข้าไปใช้ฟรีได้ตลอด ตอนเช้ากับเย็น หนุ่มๆ ชอบมาออกกำลังกาย วิ่งลู่ เล่นกล้ามกัน(บอกเป็นข้อมูลเฉยๆ ไม่ได้คิดไรค่ะ)
สถานี MAX มาเกยอยู่หน้าตึกเลยค่ะ ต้องเดินออกมาประมาณ 5 ก้าวได้ 55555555*
สภาพห้องครัวค่ะ เป็นครัวแบบครบเซ็ทเลย มีเตาไฟ เตาอบ ไมโครเวฟ เครื่องล้างจาน ตู้เย็น อ่างล้างจาน
สุดท้ายคือรูปห้องนอนค่ะ ขอบอกเลยว่า เป็นรูปเพื่อการโฆษณาเท่านั้น 55555555*
เปล่าหรอก... ประเด็นคือ ห้องจะน่าอยู่ขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของห้องจะแต่งมันยังไงนั่นแหละค่ะ ;^)
2. Host Family: ถ้าอยากอยู่กับ Host ก็สามารถติดต่อผ่าน Kaplan ได้ค่ะ เราไม่เคยอยู่ บอกข้อมูลได้ไม่มาก
แต่จากการคุยกับเพื่อนๆ ก็พอจะทราบข้อดี-ข้อเสียอยู่ค่ะ ข้อดีคือ... ได้โฮสดีเป็นลาภอันประเสริฐ
เพื่อนเราโฮสดีมาก ทำอาหารเลิศหรูให้กินทุกเย็น เลี้ยงดูกันเยี่ยงคนในครอบครัว สนิทกันสุดๆ
การได้โฮสน่ารัก เฟรนลี่ก็จะยิ่งทำให้สกิลการใช้ภาษาพัฒนาได้เร็วค่ะ อยู่ที่เรากล้าคุยกับเขารึเปล่า แค่นั้น
ส่วนเพื่อนบางคนก็ได้โฮสเขี้ยวลากดิน ขี้งก ขี้เหนียว ใจแคบ ถ้าต้องไปอยู่ด้วย ก็คงไม่สบายใจหรอกเนอะ
เพื่อนเราอีกคนได้โฮสรักสุขภาพค่ะ บ้านไม่มีไมโครเวฟ ไม่กินเนื้อสัตว์ บางคนอาจจะอยู่ได้ แต่ถ้าเป็นเรา... บอกเลยตายหยังเขียด o<-<
แต่ใช่ว่าได้โฮสง่อยกระรอกแล้วชีวิตจะไม่มีทางออกนะ ขอเปลี่ยนโฮสได้ค่ะ Kaplan ที่ Portland จะมีจนท.ที่คอยดูแลเรื่องนี้ให้โดยเฉพาะ
เพียงแต่เราไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานขนาดไหนกว่าจะทำเรื่องเสร็จค่ะ เพราะไม่เคยติดต่อเรื่องพวกนี้เลย แต่ขอบอกเลยว่า...
อย่ายอมให้โฮสฝรั่งข่มค่ะ เราจ่ายเงินแพง ถ้าโดนเอาเปรียบก็ต้องรู้จักรักษาสิทธิ์ของตัวเอง อย่ายอม อย่าขี้กลัว อย่าทนนะคะ! สู้ว้อยยย!
3. เช่าอพาร์ตเมนต์อยู่เอง: ของแบบนี้ต้องเสิร์ชกันเอาเองเลยค่ะ บางคนได้โลเคชั่นดี ราคาไม่แพง ก็โชคดีไป
อพาร์ทเมนต์ที่นี่มีแบบเช่าห้องเปล่ากับแบบมีเฟอร์นิเจอร์ให้ค่ะ เพื่อนเราบางคนก็เลือกแบบห้องเปล่านะ
แล้วไปหาซื้อเฟอร์นิเจอร์เองจากร้าน Goodwill ซึ่งเป็นร้านที่ขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบในราคาที่ถูกแสนถูกค่ะ
ความจริงมันก็เป็นร้านขายของมือสองน่ะนะ แต่ของคุณภาพดีที่เจ้าของไม่ต้องการแล้วก็ยังมีค่ะ ตาดีได้ตาร้ายเสียเนอะ ^^;;
ถ้าอยากได้ที่มันไม่แพงมาก ก็ต้องขยับตัวเองออกมานอก Downtown ค่ะ เราว่า Beaverton ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีนะ
เดินทางไม่ลำบากเลยด้วย นั่ง MAX เข้า downtown แค่ 25 นาทีเอง ถ้าขับรถก็ประมาณ 10-15 นาที
แต่คนที่คิดจะเช่าอพาร์ตเมนต์เนี่ย มองหารูมเมทไว้หน่อยก็ดีนะคะ ไม่ใช่อะไร... เอามาหารค่าห้องไงคะ 5555555*
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ว่าจะไม่โม้ยาว แต่ที่ใกล้หมดอีกละ~ งั้นโพสต์นี้เอาเท่านี้ก่อนดีกว่า ;w;
โพสต์หน้าจะเป็นเรื่อง "เพื่อนต่างชาติ... เกิดมาไม่เคยมีเพื่อนต่างชาติ แล้วฉันจะมีเพื่อนมั้ยเนี่ย? ทำไงดี?" นะคะ
เอ้อออ! เรามีหัวข้อใหม่ที่เพิ่งงอกขึ้นเมื่อกี๊แล้วนะคะ แต่นแต๊น... "ระบบขนส่งสาธารณะที่คนไทยจะต้องอิจฉาชัววววร์!"
เดี๋ยวก็คงมาโพสต์อยู่ในกระทู้นี้นั่นแหละ ยังไงก็ช่วยติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่า~♪♫ :^D
ใครมีคำถาม หรือข้อคิดเห็นยังไงก็ทิ้งไว้ได้เลยค่ะ ชอบอ่านคอมเมนต์ ฮิฮิฮิ~♥ ,,^_____^,,