บทความวิจารณ์การ์ตูนเรื่อง "ปรสิต" โดย น.พ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ [มีสปอยล์ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง]

เอาจริงผมตั้งใจว่าจะเอาบทความนี้มาลงให้อ่านตั้งแต่ช่วงปรสิตภาคอนิเมฉายไปถึงกลางเรื่องแล้ว เพราะคิดว่ามุมมองในบทความนี้น่าสนใจดี (แม้บางทีแกจะพลาดๆ รายละเอียดของเรื่องไปบ้าง โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายที่พูดถึงโกโต้กับขยะเคมี) ประกอบกับตัวบทความนี้เขียนมาตั้งแต่ปี 2544 นับถึงตอนนี้ก็ 14 ปีคงหาอ่านกันยากแล้ว ดังนั้นผมจึงคิดว่าน่าเอามาลงเผยแพร่เนื่องในโอกาสที่เรื่องปรสิตได้เป็นอนิเมซักหน่อย

แต่หลังจากนั้นผมก็มาคิดได้แฮะว่าคนดูภาคอนิเมหลายคนน่าจะยังไม่เคยอ่านมังงะ เลยตัดสินใจทิ้งช่วงรอจนกว่าอนิเมจะฉายจบค่อยเอามาลงอีกที

ซึ่งอนิเมปรสิตเองก็ฉายจบไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ดังนั้นผมเลยเอามาลงไว้ ณ ที่นี้ซะเลย





บทความวิจารณ์การ์ตูน "ปรสิต"

โดย: น.พ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

คอลัมน์ "การ์ตูนที่รัก" นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ปีที่ 21 ฉบับที่ 1088 [25 มิ.ย.-1 ก.ค. 2544]






เรื่องเริ่มขึ้นแบบเดียวกับ Invasion of the Body Snatchers และสยดสยองเกือบๆ จะเท่ากับ Night of the Living Dead

เรื่องเริ่มขึ้นแบบเดียวกับ Invasion of the Body Snatchers ฉบับปี 1978 ของ Philips Kaufman ที่โดนัล ซูทเธอร์แลนด์ และเลินนาร์ด นีมอย เล่นคู่กับเวโรนิกา คาร์ทไรท์ สปอร์อวกาศจำนวนมากลอยผ่านบรรยากาศโลกลงสู่ประเทศญี่ปุ่น สิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายหนอนฟักตัวออกมาแล้วคืบคลานเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ มันไชขึ้นสมองแล้วครอบครองทั้งร่างกายและจิตใจ

หลังจากนั้นเนื้อเรื่องก็ดำเนินไปอย่างน่าสยดสยองและไม่มีที่มาที่ไปคล้ายกับ Night of the Living Dead ฉบับปี 1968 ของ George Romero นอกจากจะไม่มีที่มาที่ไปเหมือนกันแล้ว สิ่งที่คล้ายกันคือมันกลายเป็นการ์ตูนเกรดบีที่ขึ้นชั้นคลาสสิคจนได้

ภายใต้หนังสยองขวัญเกรดบีชั้นดี มักมีเนื้อหาที่ซับซ้อนรองรับอยู่ข้างใต้ ภายใต้การ์ตูนปรสิต ซึ่งนอกจากจะมีลายเส้นไม่น่าประทับใจและเนื้อหาที่ตื้นเขินอย่างยิ่ง ก็ยังมีคำถามมากมายเกิดขึ้นเมื่ออ่านจบ

ผมคาดหวังว่าเด็กจำนวนมากมายที่อ่านการ์ตูนเรื่องนี้จะรู้จักตั้งคำถาม แม้ว่าอาจจะเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ สาเหตุที่ปรสิตดูดีในตอนจบขึ้นมาได้ เพราะคำถามมากมายที่ถูกทิ้งค้างเอาไว้ จึงน่าชมเชยที่ผู้เขียนรู้จักการตั้งคำถาม แม้ลายเส้นจะไม่สวย

เด็กจำนวนมากอ่านการ์ตูนเลือดสาดเรื่องนี้ไปแล้วนะครับ อันที่จริงคนที่อ่านไปรุ่นแรกๆ ตั้งแต่สมัยยังไม่มีลิขสิทธิ์ล้วนโตกันหมดแล้ว ตอนนี้สยามอินเตอร์คอมิกส์วางฉบับลิขสิทธิ์สิบเล่มจบให้เด็กรุ่นใหม่อ่านกันอีกครั้ง

ปรสิต หรือ Kiseijuu ผลงานปี 1990 ของ Hitoshi Iwaaki มีลายเส้นที่มิอาจเรียกว่าสวย แต่อ่านสบายตา ตัวละครชัดเจน ฉากหลังเรียบง่าย ตัดต่อรวดเร็ว และช็อกคนอ่านด้วยภาพทุเรศนัยน์ตาเป็นระยะๆ

สปอร์จำนวนมากลอยลงมา ฟักเป็นตัวหนอนไชเข้าร่างกายผู้คน ตัวที่ไชถึงสมองจะเข้าควบคุมร่างกายของเจ้าของไว้ได้ ขากระโดดได้สูงและไกล แขนสามารถเปลี่ยนเป็นอาวุธแหลมคมที่ยืดยาวออกได้ ศีรษะและใบหน้าสามารถแยกออกเป็นเสี่ยงๆ เพื่อกัดกินมนุษย์เป็นอาหาร

ฉากที่พ่อบ้านเดินออกจากห้องน้ำ แล้วแยกศีรษะของตนเองออกเป็นเสี่ยงๆ กัดหัวแม่บ้านหลุดหายไปทั้งพวงนั้นน่าตกใจมาก

สยามอินเตอร์คอมิกส์ตีพิมพ์ภาพแบบนี้ขายเด็ก มติชนสุดสัปดาห์จะตีพิมพ์ภาพแบบนี้ให้ผู้ใหญ่ดูหรือไม่?

ไม่รู้คนเขียนเขียนออกมาได้ไง? ไม่รู้สำนักพิมพ์จะพิมพ์ขายทำไม? แล้วก็ไม่รู้ผมจะซื้อมาอ่านทำไม?

เห็นมั้ย แค่ไม่กี่หน้าได้ตั้งหลายคำถาม!

ฉากนี้ยังไม่จบ เมื่อลูกสาวกลับมาบ้านก็พบชะตากรรมเดียวกับผู้เป็นแม่ สิ่งที่เหลืออยู่ให้ตำรวจพบคือเศษเนื้อและกองเลือด ถึงตอนนี้คนอ่านรู้แล้วว่าพวกต่างดาวกินคนเป็นอาหาร และมันกระจายอยู่เต็มเมือง

มีหนอนสองตัวไปไม่ถึงสมอง ตัวแรกไปถึงแค่คาง ทำให้มันควบคุมได้เฉพาะคาง ผลคือชายคนนั้นมีคางที่มีปากและฟันในตัวของมันเอง เขาจึงสามารถคุยกับคางของตนเอง ดูทุเรศสุดๆ ทีเดียวแหละครับ

สำหรับพระเอกของเรา นักเรียนมัธยมปลายชื่อว่าชินอิจิ หนอนไชเข้าแขนและไปได้เพียงแค่ข้อศอกก็ฟักตัวออกมาเสียก่อน ชินอิจิจึงมีมือที่มีปาก ฟัน ตา และมือเล็กๆ ของตนเอง เขาตั้งชื่อให้มันว่า "มิกกี้" มิกกี้สามารถพูดกับชินอิจิ อ่านหนังสือหาความรู้ และนอนหลับพักผ่อน มันสามารถอยู่อย่างสงบกับชินอิจิในรูปของมือปกติ แต่มันก็สามารถยืดยาวออกพร้อมกับกลายสภาพเป็นอาวุธแหลมคมเพื่อใช้ต่อสู้ได้ด้วย

สำหรับชายที่มีปรสิตที่คาง เขาดูสบายดีไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับคางพูดได้

แต่สำหรับชินอิจิ เขาใช้เวลานานมากกว่าจะอยู่ร่วมกับมิกกี้ได้ มิหนำซ้ำเมื่อเขาพบว่าปรสิตกระจายตัวกินคนเป็นอาหารกันทั้งเมือง รวมทั้งแม่ของเขาด้วย เขากับมิกกี้จึงร่วมมือกันต่อสู้กับปรสิตที่เหลือ

ฉากปรสิตอาละวาดในโรงเรียนนั้นกองเนื้อกระจุยกระจาย ไส้พุงเกลื่อนกลาด ฉากชินอิจิและมิกกี้ร่วมมือกันต่อสู้กับปรสิตกระซวกกันเลือดสาด เครื่องในปลิวว่อน

แม้ว่าจะไม่มีใครทราบว่าชินอิจิมีมิกกี้ซ่อนอยู่ในมือ แต่แฟนสาวและตำรวจก็อดสงสัยไม่ได้ว่าความตายดูเหมือนจะติดตามชินอิจิไปทุกหนแห่ง

มีตัวละครมากมายเข้ามาในชีวิตของชินอิจิ เขาต้องสูญเสียแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ พ่อแท้ๆ กลับกลายคล้ายคนเสียสติ แฟนสาวไม่เข้าใจที่เขาดูกระด้างและโหดร้ายขึ้น เพื่อนสาวคนใหม่ที่เข้ามาพัวพันก็เอาตัวไม่รอดจากการเป็นอาหารของพวกมัน นักสืบเอกชนที่ตามดูชินอิจิก็ตายยกครัว นับวันชินอิจิยิ่งหดหู่และหมดหวัง

เหตุการณ์ดำเนินต่อไป จำนวนคนที่ถูกปรสิตควบคุมมีมากขึ้น แต่คดีกินคนกลับลดจำนวนลง เพราะพวกมันเริ่มกินคนอย่างพิถีพิถันมากขึ้น ไม่ตะกละตะกลามโฉ่งฉ่างเหมือนตอนแรกๆ นอกจากนี้ปรสิตบางพวกยังเข้าไปอยู่ในคณะเทศมนตรี

แล้ววันหนึ่งปรสิตในร่างหญิงสาวคนหนึ่งก็เริ่มตั้งคำถาม "พวกเราเกิดมาทำไม?"

ไม่มีใครหรือมันตัวใดในกลุ่มปรสิตฝ่ายปกครองที่ตอบคำถามนี้ได้ หญิงสาวจึงหาคำตอบด้วยตนเอง หล่อนไว้ชีวิตชินอิจิกับมิกกี้เพราะเห็นว่าการอยู่ร่วมกันระหว่างชินอิจิกับมิกกี้เป็นเรื่องน่าสนใจมาก อาจช่วยให้พบคำตอบของคำถามที่ว่าได้

จากนั้นไม่นานหล่อนหรือมันก็ตั้งครรภ์! คลอด! เลี้ยงลูก!

เมื่อแน่ใจว่าทำอย่างไรก็มิอาจเข้าใจชีวิต หล่อนจึงนัดพบชินอิจิในสวนสาธารณะ การเผชิญหน้าของคนทั้งสองโดยมีฉากหลังเป็นแฟนสาวของชินอิจิ นักสืบเอกชน และตำรวจทั้งกองที่รายล้อมเข้ามานับได้ว่าเป็นไคลแม็กซ์ที่ผู้เขียนน่าจะขมวดปมจบเรื่องได้อย่างน่าประทับใจ ปรสิตในร่างหญิงสาวเดินเข้าหาความตายเพียงเพื่อต้องการหาคำตอบให้ตนเอง

แต่เรื่องไม่จบ เหตุการณ์ยืดเยื้อต่อไป เมื่อตำรวจได้ตัวฆาตกรฆ่าหั่นศพที่อ้างว่าสามารถใช้สัมผัสพิเศษตามหาพวกปรสิตได้ หัวหน้าตำรวจหนุ่มไฟแรงมาใหม่ต้องการใช้มันช่วยชี้ตัวปรสิตที่แฝงกายอยู่ในที่ทำการคณะเทศมนตรี เหตุการณ์ตอนนี้ตั้งคำถามกับผู้อ่านทันทีอีกสองข้อ

"ระหว่างพวกปรสิตกับเจ้าฆาตกรบ้าเลือด ใครน่ากลัวกว่ากัน?"

"ระหว่างการล้อมปราบพวกปรสิตนั้น ใครกันแน่ที่ชั่วร้าย?"


ในสถานการณ์ล้อมปราบนี้เอง ที่มิกกี้ได้เตือนสติชินอิจิให้ไตร่ตรองอีกครั้งถึงความหมายของชีวิต การเกิด และการตาย

เหตุการณ์ทวีความรุนแรงเมื่อหัวหน้าตำรวจคอขาดกระเด็น ปรสิตส่วนหนึ่งยังคงหลบหนีหายไปได้ กว่าจะจบฉากนี้ ผู้อ่านก็ได้รับคำถามใหม่อีก

"ใครเป็นคนสุดท้ายของห่วงโซ่อาหาร?"

น่าสนใจนะครับ ใครหรือว่ามันตัวไหนจะเป็นคนหรือตัวสุดท้ายของห่วงโซ่อาหาร

โลกที่มนุษย์ทำท่าจะเป็นคนสุดท้ายของห่วงโซ่อาหารนี้สมควรเป็นอยู่อย่างที่เคยเป็นหรือไม่ มนุษย์จะฆ่ากันเองจนเกลี้ยง หรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิเศษจะช่วยทำลายมนุษย์ให้

แม้ว่าผู้เขียนเรื่องนี้จะไม่ได้ให้คำตอบที่ล้ำลึก นอกจากจะไม่มีอะไรล้ำลึกแล้ว การบอกเป็นนัยๆ ว่าปรสิตมีความเกี่ยวข้องกับสารพิษจากขยะยังเป็นทางออกที่ตื้นเขินมาก แต่คำถามที่เขาทิ้งไว้เป็นระยะๆ กลับน่าสนใจมากกว่า

ฉากสุดท้ายจริงๆ โฟกัสไปที่ไอ้บ้าจอมฆ่าหั่นศพลงมือเชือดแฟนสาวของชินอิจิ ชินอิจิในสภาพที่ไม่มีมิกกี้อีกต่อไปแล้วต้องใช้ความสามารถของตนเองเข้าช่วยเหลือ

เป็นการถามอีกครั้งว่า "ใครกันแน่ที่เป็นศัตรูแท้จริงของมนุษย์"

แล้วนำชินอิจิไปเผชิญกับคำถาม "พวกเราเกิดมาทำไม" อีกทีก่อนจบเรื่อง

ไม่เลวนะครับสำหรับการ์ตูนเกรดบีที่วาดแสนจะไม่พิถีพิถัน สวยก็ไม่สวย สู้กันก็มั่วมาก เลือดก็สาด คอก็ขาด มิหนำซ้ำไม่มีอะไรเป็นวิทยาศาสตร์เอาเสียเลย

พิจารณาหน้าตาของพวกปรสิต ก็จะรู้สึกว่าทั้งไม่มีเหตุผล ทั้งน่าเกลียดอะไรอย่างนั้น มีตา มีปาก มีมือเล็กๆ งอกออกมาจากร่างกายเดิมของคน แถมยืดได้ หดได้ อ่อนได้ แข็งได้ คมได้ ทู่ได้ตามใจชอบ แต่เมื่ออ่านจบถึงได้รู้ว่าดูเหมือนจะเป็นการบอกใบ้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าพวกปรสิตคือใครกันแน่

น่าแปลกใจว่าดังได้ไง เหมือนกับที่หนังสยองขวัญสองเรื่องที่เอ่ยมาตอนต้นนั่นแหละครับ Invasion of the Body Snatcher และ Night of the Living Dead หนังทุเรศนัยน์ตาทั้งคู่ แต่คลาสสิคได้ไง

เป็นคำถามสุดท้ายที่เด็กๆ นักอ่านการ์ตูนควรพยายามหาคำตอบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่