เคยได้ยินชื่อเรื่องนี้มาพักนึง แต่เพิ่งจะมีเวลาดู ก็.. รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมีอะไรซ่อนอยู่ สำหรับคนที่ไม่เคยดู The. Metrix หรือศึกษาปรัชาญาศาสนาพุทธ อาจจะตื่นเต้นกับเนื้อหาบางอย่าง แต่ส่วนตัวเคยดูหนังมาเยอะแล้ว พักหลังนานๆได้ดูหนังที ก็ขอบอกว่าเรื่องนี้ เนื้อหารู้สึกว่ามีอะไรซ่อนอยู่แต่คนเขียนบทกับการpresent. เนื้อหาออกมาทำได้ไม่ดี ไม่สามารถดึงให้คนดูอยากคิดหรือเชื่อตามได้ คนที่ไม่เข้าใจเรื่องราวปรัชญาพวกนี้อยู่แล้วอาจเบื่อไปเลย สำหรับจขกท มองข้ามเรื่อง. Production ไปลองเอาเนื้อหาล้วนๆมาประมวลผล พบว่ามีความน่าสนใจอยู่คือการพูดเรื่อง " เวลา ". ตามทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มันมีพูดถึงเช่นของไอสไตน์ มีการพูดเรื่องเวลาคืออีกมิติหนึ่ง ซึ่งศาสนาพุทธไม่ได้พูดถึง เพราะมองว่าเวลาคือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ไม่มีมนุษย์คนไหนข้ามกฎของธรรมชาติไปได้ ไตรลักษณ์ ก็คือผลของเวลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ตามทฤษฎี เราอาจเดินทางข้ามเวลาได้ แต่ในความเป็นจริงเราทำไม่ได้ เราไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดนั้น เพราะยังอยู่ในข้อจำกัดของร่างกายมนุษย์ พูดง่ายๆคือกว่าจะข้ามเวลาได้ เราตายก่อนแน่นอน

จขกท จึงมองว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวข้องแค่ปรัชญาแต่ยังไม่ค่อยเกี่ยวกับพุทธศาสนา มีเรื่องนึงที่เก็บมาคิด พูดไปแล้วอาจขัดเคืองคนห้องพุทธศาสนาคือ เรื่องไม่มีสสารใดหายไปจากจักรวาล. เมื่อมันเสื่อมสลายรูปเดิมไปตามเวลาก็จะเปลี่ยนเป็นรูปแบบใหม่ ความจริงส่วนตัวเชื่อว่าจักรวาลที่เราเห็นนี้ เกิด Big Bang มาหลายๆครั้งแล้วตามการเปลี่ยนแปลงของเวลา วัฏจักรคือ ระเบิด เป็นก๊าซ แล้ว รวมตัวเป็น Custer เป็น system  ย่อยๆ ต่างๆที่เราเรียก แกแลกซี่ system ก็เช่นระบบสุริยะ ไปจนถึงดวงดาวดวงหนึ่ง แล้วดาวฤกษ์กลายเป็นหลุมดำ ดูดพลังงานโดนรอบมากเข้าๆ จักรวาลเข้าช่วงหดตัวจนพลังงานถูกดูดหมด บีบอัดเป็นมวลมหาศาล แล้วเกิด Big Bang ซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ นี่คือสิ่งที่เห็นด้วยกับหนังว่าพลังงานในจักรวาลไม่เคยหายไปไหน โยงมาคิดถึงเรื่องการนิพพาน ในพุทธศาสนา ถ้ามองตามนี้ แสดงว่า นิพพานไม่ใช่การหายสาบสูญไปเฉยๆของพลังงาน? แต่อาจเปลี่ยนสภาพไปเป็นอากาศธาตุ? แล้วมีโอกาศเปลี่ยนสภาพวนกลับมาเป็นสิ่งมีชีวิตได้? แต่นิพพานในพุทธศาสนาคือการหายสาบสูญไปตลอดกาลไม่กลับมาอีก ? ....ถกกันขำๆเรื่องอจินไตยนะ ไม่ซีเรียส

ปล. แทควิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนา ไม่ต้องการให้เกิดสงครามนะคะ ขอแค่เข้ามาคุยในประเด็นที่สนใจ