สภาลูกเมียสปช.สูตรใหม่ ตั้งญาติไขว้ แลกโควตา"ผู้ช่วย-กุนซือ" ศรีสุวรรณปูด-เตรียมแฉ
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกล่าวว่า นอกเหนือจาก สปช.นำญาติพี่น้อง สามี ภรรยาเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยดำเนินงาน และผู้ชำนาญการประจำตัว ตามที่ส่งรายชื่อถึง ป.ป.ช.นั้น รายชื่อดังกล่าว ตรวจสอบจากนามสกุลที่เหมือนกัน ที่แสดงว่าเกี่ยวโยงเป็นญาติพี่น้องกัน แต่ยังสืบทราบมาว่า สปช.บางคนที่เป็นพรรคพวกกันรู้ถึงการตรวจสอบเช่นนี้ จึงใช้วิธีการแลกเปลี่ยนญาติพี่น้องให้ไปทำหน้าที่กัน ป้องกันการตรวจสอบ เช่น สปช. 2 คน รู้จักกัน คนนี้เอาญาติของของอีกคนมา และอีกคนเอาญาติของคนนี้ไป เรียกว่าแลกเปลี่ยน ไขว้ญาติกัน
"วิธีการแบบนี้ นึกว่าคนอื่นจะไม่รู้ แต่ผมเริ่มสืบรู้มาแล้วว่ากรณีแบบนี้มีแน่ๆ ตอนนี้ยังรู้ไม่มากว่ามีกี่คน แต่ตรวจสอบไม่ยาก และเชื่อมโยงกันไม่ยาก แม้ว่าทางกฎหมายจะไม่ผิด แต่เป็นเรื่องของจริยธรรมสำคัญของนักการเมืองในยุคปฏิรูป ที่ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างในสังคม ซึ่งคนกลุ่มนี้จะต้องเป็นคนเขียนกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญ หากยังทำพฤติกรรมแบบนี้ จะให้ประชาชนเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า สิ่งที่ตัวเองเขียนขึ้นมาจะไม่มีการสอดไส้ หรือวางหมากในเรื่อง
ผลประโยชน์ทับซ้อนของตัวเองเอาไว้ เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นนักการเมืองในภาวะปกติทำไม่ถือว่าแปลก แต่ถ้าเป็นยุคนี้ถือว่าไม่ปกติ" นายศรีสุวรรณกล่าว
เมื่อถามว่า จะเริ่มตรวจสอบเมื่อใด นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ตรวจสอบอยู่ ต้องเก็บข้อมูลให้ได้มากกว่านี้ก่อน เมื่อพร้อมแล้วจะแถลงข่าวบอกประชาชนทันที
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427251539
สภาสวิงกิ้ง แลกตั้งลูกเมียไขว้ สูตรใหม่หลบครหา
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกล่าวว่า นอกเหนือจาก สปช.นำญาติพี่น้อง สามี ภรรยาเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยดำเนินงาน และผู้ชำนาญการประจำตัว ตามที่ส่งรายชื่อถึง ป.ป.ช.นั้น รายชื่อดังกล่าว ตรวจสอบจากนามสกุลที่เหมือนกัน ที่แสดงว่าเกี่ยวโยงเป็นญาติพี่น้องกัน แต่ยังสืบทราบมาว่า สปช.บางคนที่เป็นพรรคพวกกันรู้ถึงการตรวจสอบเช่นนี้ จึงใช้วิธีการแลกเปลี่ยนญาติพี่น้องให้ไปทำหน้าที่กัน ป้องกันการตรวจสอบ เช่น สปช. 2 คน รู้จักกัน คนนี้เอาญาติของของอีกคนมา และอีกคนเอาญาติของคนนี้ไป เรียกว่าแลกเปลี่ยน ไขว้ญาติกัน
"วิธีการแบบนี้ นึกว่าคนอื่นจะไม่รู้ แต่ผมเริ่มสืบรู้มาแล้วว่ากรณีแบบนี้มีแน่ๆ ตอนนี้ยังรู้ไม่มากว่ามีกี่คน แต่ตรวจสอบไม่ยาก และเชื่อมโยงกันไม่ยาก แม้ว่าทางกฎหมายจะไม่ผิด แต่เป็นเรื่องของจริยธรรมสำคัญของนักการเมืองในยุคปฏิรูป ที่ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างในสังคม ซึ่งคนกลุ่มนี้จะต้องเป็นคนเขียนกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญ หากยังทำพฤติกรรมแบบนี้ จะให้ประชาชนเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า สิ่งที่ตัวเองเขียนขึ้นมาจะไม่มีการสอดไส้ หรือวางหมากในเรื่อง
ผลประโยชน์ทับซ้อนของตัวเองเอาไว้ เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นนักการเมืองในภาวะปกติทำไม่ถือว่าแปลก แต่ถ้าเป็นยุคนี้ถือว่าไม่ปกติ" นายศรีสุวรรณกล่าว
เมื่อถามว่า จะเริ่มตรวจสอบเมื่อใด นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ตรวจสอบอยู่ ต้องเก็บข้อมูลให้ได้มากกว่านี้ก่อน เมื่อพร้อมแล้วจะแถลงข่าวบอกประชาชนทันที
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427251539