[Kpop] Sm วางแผนสร้าง EXO ตั้งแต่ก่อน SNSD,F(x),SHINee เดบิวต์ เพราะวางแผนลงทุนกับ EXOมากที่สุดแต่แรกเลยรึเปล่า?

เห็น Sm วางแผนกับ EXO ตั้งแต่ก่อนเดบิวต์หลายๆวง ซึ่งถือว่าเป็นการวางแผนที่นานมาก

ไม่ได้หมายถึงจะลงทุนกับแต่ละคนที่จะมาเป็น EXO นะคะ แต่หมายถึงชื่อของ 'EXO' เป็นวง
ส่วนจะจับใครเข้าโปรเจคเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

หมายความว่า Sm อาจคิดล่วงหน้ามาแล้วรึเปล่าคะว่าจะลงทุนกับ EXO มากที่สุด
ไม่ได้เพิ่งมาเปลี่ยนแผนการตลาดเอาตอนนี้
เพราะบางวงก็เหมือนค่ายจะไม่ได้ดันเท่าที่ควร
หรือ Sm จะคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าถึงคราวเคป๊อปหมดยุคเลยคิดแผนการตลาดแบบใหม่นี้ไว้ตั้งนานแล้ว?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
อ่านคำถามครั้งแรกนี่หลายคนคงนึกถามได้ชวนดราม่ามากเลย   5555  เป็นคำถามที่น่าสนใจนะ แต่อาจต้องจับประเด็นกับช่วงเวลาใหม่นิดหน่อย


จริงๆ โปรเจ็คต์ไปจีนนี่ sm เริ่มตั้งแต่สมัยคังทา แวนเนสแล้วมั้ง หรืออาจจะตั้งแต่สมัยก่อนหน้าด้วยซ้ำไป แม้แต่ดงบังเองก็มีออกอัลบั้มเป็นภาษาจีน
คงมองว่าศักยภาพของตลาดที่นี่ดี แต่ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ยังไม่รองรับ แล้วก็ปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ  
แต่ยังไรก็ตามจีนก็ถือเป็นไฟลท์บังคับที่เกือบทุกวงต้องลองไปชิมลาง เพราะส่วนใหญ่มักจะขายได้ถึงจะไม่ใช่วงกว้างก็ตาม
และคนจีนมีความชอบเสพผลงานจากต่างชาติอยู่แล้ว  ค่อนข้างรับอะไรง่าย  แต่โรยัลตี้ก็ไม่ได้สูงเท่าญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของธุรกิจที่ต้องมีตลาดรองรับหลายทาง    แล้วคนจีนมีเยอะ  กระจายไปหลายประเทศด้วย  รสนิยมการเสพความบันเทิงก็ไม่ได้ต่างกันมาก เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน จีนใหญ่
อาจมีไต้หวันที่รับญี่ปุ่นมามากกว่าหน่อย เวลาบอกว่าทัวรเอเชียทีนี่ จีนก็ปาเข้าไปหลายมณฑลแล้วว

จริงๆ เท่าที่สังเกต  sm สนใจตลาดจีนมานานพอสมควร เพราะตีตลาดญี่ปุ่นยากกว่า

แต่พอ tvxq ดังก็มาโฟกัสตลาดนี้มากขึ้น เพราะช่องทางเริ่มเปิด แต่นี่แห่กันเข้าไปเยอะ จนเริ่มจะตันแล้ว สำหรับตลาดญี่ปุ่น
สิ่งที่ tvxq และหลายๆวง ช่วยกันสร้างคือ พื้นที่สำหรับคนชอบเคป็อป เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้คนญี่ปุ่น



แต่ตลาดจีนเนี่ย ไม่เน้นสายไอดอล คู่แข่งทางการตลาดน้อยกว่าอยู่แล้ว  แล้วด้วยที่ประชากรเยอะมาก  เมื่อเทียบกับญี่ปุ่น นี่โอกาสโตแบบต่อเนื่องมันมีมากกว่า




แต่ถ้าเป็นญี่ปุ่น ก่อน tvxq จะเข้าไปคือชาตินิยมหนักกว่า และมีศิลปินเจ้าถิ่นที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง

โดยปกติไม่ว่าจะบริษัทไหน ก็ต้องคิดทางแผนงานคร่าวๆ อย่างน้อย 3-5 ปี แค่คิดแต่ยังไม่ลงในรายละเอียด ขนาดอัลบั้มของศิลปินคนหนึ่ง ยังมีแพลนล่วงหน้าหรืออัดไว้ก่อนอย่างน้อยสองปีก็เคย  ในแง่เดโม่


กลับมาเรื่อง exo ก็เป็นไปได้ที่  sm อาจคิดล่วงหน้าไว้นาน   แต่ช้ากว่าวงรุ่นพี่แน่นอน  พวกวงที่ว่ามาก็ไม่ได้คิดแค่ปีสองปีนะ บางวงนี่มีโปรเจ็คต์มาพร้อมๆ กับฝึกเด็กเลย เหลือแค่จะเอาเด็กคนนี้ร่วมวงหรือไม่เท่านั้น

สำหรับ exo น่าจะมีการคิดสตอรี่ไลน์ไว้ก่อน  พวกพลัง อิมเมจที่เน้นขายรูปลักษณ์โดยเฉพาะเพื่อสร้างความน่าสนใจที่มากกว่าจุดขายแค่เพลงหรือท่าเต้น  หรือแม้แต่การคัดเลือกสมาชิกซึ่งก็หาตามมาภายหลัง

ถ้าเทียบกับวงต่างๆ ในค่ายแล้ว แต่ละวงมีจุดเด่นในการทุ่มงบที่ต่างกันออกไปมากกว่า
กรุณาอย่ามาม่านะ

Tvxq  เป็นวงที่เน้นสกรีนคน และทุ่มทรัพยากรไปด้านคัดเลือกเพลง  ท่าเต้นมากกว่าอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับงานเพลง
ถึงจะชื้อเทพเจ้าแห่งโลกตะวันออก แต่ไม้ได้มีพลังพิเศษแบบ exo เพราะไม่เน้นขายอิมเมจกับสตอรี่ขนาดนั้น แล้วตลาดญี่ปุ่นก็ไม่เน้นเรื่องราวขนาดนี้ด้วย   แต่ไปเน้นทำเพลง ดนตรียังไงให้ถูกจริตคนญี่ปุ่นมากสุด  จุดอ่อนของวงคือ รับงานเดี่ยวเป็นจริงจังยากเพราะปัจจุบันเหลือสองคน


Sj เป็นวงที่เป็นโปรเจ็คต์ชั่วคราวอย่างที่หลายคนรู้จัก  ก็มีความเป็นไปได้ที่การลงทุนอาจไม่เท่าวงอื่น  แต่ความสำเร็จของ sj นี่ไม่ด้อยกว่าวงที่ลงทุนมากๆ เลยนะ แล้วก็เน้นสร้างคุณค่าของศิลปินในรายบุคคลมากกว่าวงอื่น ดูแล้วอาจต้องพึ่งตัวเองมากกว่าวงไหน แต่มันเป็นจุดแข็งของวงและสร้างโรยัลตี้ในหมู่แฟนคลับกับ sj ที่จะไม่มีวันทิ้งกันง่ายๆ  ค่ายมักสนับสนุนโปรเจ็คต์เดี่ยวของแต่ละคน


Snsd เป็นวงหญิงล้วนที่จุดประสงค์หลัก ทำตลาดในประเทศมากกว่านอกประเทศ  แต่ไปทุ่มงบพวกพร็อป แฟชั่นหน้าผม
หรือรายละเอียด ปลีกย่อยตั้งแต่หัวจรดเท้าของศิลปินมากกว่า เพลง ท่าเต้นก็ขายความเป็นไอดอล กึ่งศิลปิน  เน้นรับงานหลากหลายอย่าง ทุ่มงบเพื่อสร้างมูลค่าของ snsd ในฐานะวงให้นานเท่าที่จะทำได้ เพราะผู้หญิงมีอายุการใช้งานจำกัดกว่า แต่ถ้าเทียบกับวงหญิงหลายวง sm ก็มีความพยายามผลักดัน snsd ไปสู่ระดับอินเตอร์
แต่ก็ไม่เต็มที่นัก สุดท้ายก็อยู่แถวเอเชียมากกว่า เป็นวงที่มองว่าค่ายทุ่มเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ปี 2009-2011

ชายนี่ เป็นวงขนาดห้าคน  มีจุดมุ่งหมายตีตลาดญี่ปุ่น ซึ่งสืบทอดรอย tvxq  มากสุดคือไปทางศิลปิน เน้นร้องเต้น  แต่ค่ายเน้นลุคทางด้าน visual  เพิ่มด้วยให้มีความทันสมัยมากขึ้น  และออกงานหลากหลาย นี่ค่ายก็ดันขนาดกลางๆ นะ


F(x) มองยังไงก็คิดว่า ค่ายเน้นงานเดี่ยวแต่ละคนมากกว่าจะทำวงเป็นจริงเป็นจัง
ซึ่งงานเดี่ยวแต่ละคนก็ดังไม่น้อยหน้าใคร
ปัญหาของวงคือ ความไม่มั่นคงของสมาชิกบางคนในวง

Exo วงที่มีคนเยอะมาก เน้นอิมเมจ storyline ภาพลักษณ์ มากกว่าร้องเต้น  แน่นอนว่าลงทุนต้องไม่น้อย
เพราะเป็นวงที่ใช้ตีตลาดใหญ่ หรือเอาง่ายๆ ก็กลับมาตีตลาดเดิมที่เคยทำนั่นแหละ แต่ปรับลุค สไตล์ให้มันครีเอตมากขึ้น เพื่อดึงดูด เพราะหวังผลตีตลาดในระยะยาว ไม่ใช่สั้นอีกต่อไป  เดาว่าต่อให้เหลือสิบคนก็น่าจะแบ่งขายเวอร์เกา เวอร์จีน หรือถ้าเป็นไปได้ควรแบ่ง k กับ m นะ
ถ้ายุบรวมกันก็จะไม่มีอะไรที่ต่างจากรุ่นพี่เลย แว่วว่าอัลบัมใหม่ก็มี 10 ปก
เรามองว่าตลาดจีน ยังลงทำตลาดได้อีก มีหลายพื้นที่ที่เข้าไปลงเล่นได้ ยังไม่ตัน ปัญหาปัจจุบันคือเสถียรภาพภายในวงกับนิสัยติดจะเล่นกับรักอิสระของวัยรุ่นยุคใหม่

สรุปคือ เค้าเน้นลงทุนในแต่ละวงในสเกลที่ต่างกันออกไป ขนาดจำนวนสมาชิกมีผล เพราะแน่นอน ค่าใช้จ่ายที่ตามมามีมากกว่า  แล้ววงที่มีสมาชิกเยอะควรจะมีรายรับที่มากกว่าวงที่มีจำนวนสมาชิกน้อย
แต่ดูจากสถิติตอนนี้แล้ว ก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป

เช่น  tvxq เน้นไปที่ทรัพยากรคนในการฝึกศิลปินให้เชี่ยวชาญกับวัตถุดิบในการทำเพลง เขี้ยวกันมาหลายปี

Sj  ก็อาจส่งเสริมให้สมาชิกแสดงศักยภาพของตัวเองมากสุด เพราะเคยเป็นโปรเจ็กตมาก่อน  เอสเจมีอิสระและโอกาสมากที่จะทำยูนิตหรืออะไรก็ตาม ที่มากกว่าดงบังที่บริษัทให้เน้นงานกลุ่ม

ในขนาดที่ exo เน้น อิมเมจ และภาพลักษณ์เป็นสำคัญเห็นได้จากอภิมหาทีเซอร์ และแน่นอนงานกลุ่มต้องมาเป็นอันดับแรก เพราะงั้นเมมเบอร์คนไหนได้อยู่ exo แล้วคิดจะรับงานเดี่ยวจริงจังแต่แรกนี่บอกได้เลยว่าอยู่ผิดวงซะละ

อ้อ คิดว่า sj snsd shinee f(x) มีแผนวงคร่าวๆ มาก่อนโปรเจ็คต์ exo นะ  ดูจากระยะเวลาเดบิวได้ เพราะแต่ละวงมันมีการคิดคอนเซปต ธีมของแต่ละวงล่วงหน้าอยู่แล้ว

ถึง exo จะเป็นโปรเจ็คต์ที่คิดไว้ แต่ตราบใดที่ไม่ได้ลงมือปฎิบัติอย่างการเลือกคนซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญสุดในการทำวงเนี่ย ถือว่ามาทีหลังนะ
เรียกง่ายๆ เป็นโปรเจ็คต์ที่ยังไม่มีรูปร่าง นอกจากไอเดียลอยๆ  เพราะถ้าสมาชิกยังไม่วางตัว มันทำอะไรหรือเห็นภาพไม่ชัดเจนหรอก  ไหนจะต้องเอาคาเรกเตอร์ ดิน น้ำ ลมไฟ มากำหนดให้เข้ากับสมาชิกที่ยังไม่มีตัวตนตอนนั้นของแต่ละคนอีก

ในขนาดที่วงรุ่นพี่มีคนมาเข้ากับคอนเซปต์วง ระบุก่อนแล้ว เปลี่ยนจากไอเดียเป็นสมาชิกของวงชัดเจน ความคิดที่ไร้การปฎิบัติไม่สำคัญเท่าสิ่งที่ลงมือ

ไม่ได้หมายความว่าโปรเจ็คต์ที่ตีตลาดใหญ่จะต้องใช้เวลาคิดนานที่สุด หรือต้องประสบความสำเร็จมากสุด หรือลงทุนมากสุดเสมอไป

จะว่าไปการลงทุนกับคน มันใช้เงินและเสียเวลาไม่น้อยกว่า  ลงทุนกับสิ่งของหรือวัตถุ นะเพราะมันไม่ได้ลงทุนแค่ครั้งเดียวแล้วจบหรือทำเป็นไตรภาค  

แต่มันต้องทำซ้ำๆ  พัฒนาศักยภาพของคนต่อเนื่องในทุกชิ้นงานที่ออกมา เราเป็นคนนึงที่ชอบเอ็มวีกล่องนะ เพราะเอ็มวีพวกนี้จุดโฟกัสมันจะไปอยู่ที่คนหรือท่าเต้นว่าเมมเบอร์มีความสามารถเพียงพอรึเปล่าที่จะเอาผู้ชมอยู่ ทั้งเสียงและท่าเต้น ทั้งที่อยู่ในกล่องเหลี่ยมๆ แบบนี้ ถึงบางทีก็อยากให้มีอารมณ์ออกไปนอกกล่องนานๆ ครั้งก็เถอะ




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่