...มีผู้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ศ.ระพี สาคริก ณ สถานทูตเยอรมัน อีกมุมหนึ่ง อ่านกันแฟร์ๆ By แร้งนรก !...

ความคิดเห็นที่ 30

มีหลากหลายความคิดเห็น จึงขออนุญาตแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม

ถ้าจะบอกว่าเอกสารไม่ครบก็ไม่น่าจะใช่ซะทีเดียว หากเจ้าหน้าที่สถานทูตพิจารณาเอกสารอย่างละเอียดและมีเหตุผล เพราะสิ่งที่เจ้าหน้าขอเพิ่มมีดังนี้
1. หนังรับรองการทำงานและรับรองเงินเดือน - คุณลองพิจารณาดูว่าคนอายุกว่า 90ปี ยังคงจะเป็นพนักงานรับเงินรายเดือนอยู่หรือไม่ จะมีบริษัทไหนจ้างคนอายุ90ปีทำงานเหรอ ซึ่งปัจจุบัน อาจารย์ระพีท่านเกษียณแล้ว แต่ทุกวันนี้ท่านทำงานเพื่อสังคมเพื่อส่วนรวมด้วยจิตกุศลทั้งสิ้น ดังนั้นในความเป็นจริง จึงไม่สามารถใช้หนังสือรับรองการทำงานประกอบการยื่นวีซ่าตรั้งนี้ได้  แต่อย่างไรก้ดี บริษัทที่เป็นสปอนเซอร์ได้ทำหนังสือรับรองว่าได้เชิญอาจารย์ระพี ร่วมเดินทางไปกับคณะในครั้งนี้ด้วย ท่านไปในฐานะอะไร เพื่อวัตถุประสงค์อะไรมีระบุไว้หมด และยังระบุไว้ด้วยว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทางครั้งนี้ รวมทั้งรับผิดชอบหากมีกรณีความเสียหายเกิดขึ้น

2. ประกันการเดินทาง - เนื่องจากอาจารย์อายุกว่า90ปี จึงไม่สามารถซื้อประกันเดินทางได้ เพราะไม่มีบริษัทไหนขายให้ เพราะมันอยู่นอกเหนือเงื่อนไขที่บริษัทประกันทุกบริษัทระบุไว้ว่าผู้เดินทางจะต้องมีอายุไม่เกิน 75-80ปี ดังนั้นเอกสารตัวนี้จึงไม่สามารถนำมาให้ได้จริงๆ แต่อย่างไรก้ตามในหนังสือรับรองที่สปอนเซอร์ระบุไว้ที่ว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างแม้แต่กรณีที่มีความเสียหายเกิดขึ้น พร้อมทั้งได้แนบหลักฐานการเงินของบริษัทมาไว้

3. ใบตรวจร่างการหรือใบรับรองแพทย์ - จริงๆเอกสารตัวนี้ไม่ได้มีระบุไว้ในเงื่อนไขที่จะต้องใช้ด้วยซ้ำ หากเช็คดูในเว็ปไซค์ของสถานทูตเยอรมัน ซึ่งถือว่าไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะต้องใช้ และเจ้าหน้าที่สถานทูตก้เพิ่งจะมาถามหา ณ ตอนที่ยื่นวีซ่า และที่อาจารย์แวะไปที่โรงพยาบาลก่อนเพื่อที่จะนำเอกสารฉบับนี้มาเผื่อไว้เท่านั้น และเมื่อไปถึงโรงพยาบาล BNH เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็แจ้งว่าถ้าเป็นสถานทูตเยอรมัน จะต้องตรวจโดยคุณหมอท่านหนึ่งที่สถานทูตระบุไว้เท่านั้น (ข้อมูลนี้ทางอาจารย์และเลขาไม่ได้ทราบจากสถานทูต เพราะไม่มีระบุไว้ในแหล่งข้อมูลการขอวีซ่าของสถานทูตเยอรมัน แต่ทราบจากโรงพยาบาล และไม่แน่ใจว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องของสถานทูตหรือไม่ว่าสถานทูตกำหนดหมอคนนี้คนเดียว) แต่คุณหมอท่านที่สถานทูตเยอรมันยอมรับ ไม่เข้าทำงานวันนั้นพอดี อาจารย์จึงไม่ได้ตรวจ แต่ถ้าหากว่าทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเป็นคุณหมอท่านใดก็ได้ อาจารย์ก้คงจะได้ตรวจร่างกายแล้ว (ถึงตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครที่ไม่สามารถทำประกันเดินทางได้ก้คงต้องทำเรื่องมายื่นใหม่อยู่ดี หมายความว่าจะต้องจองคิวใหม่และทำเรื่องยื่นใหม่ เพราะในแหล่งข้อมูลการยื่นขอวีซ่าของสถานทูตเยอรมันไม่มีระบุไว้แต่แรก ส่วนใหญ่คงจะมาทราบ ณ วันที่ยิ่นวีซ่านั่นเอง)

เอกสารทั้ง 3 ตัวที่เจ้าหน้าที่สถานทูตขอมานั้น ถ้าหากเค้าพิจารณาและใช้เหตุผลก่อน อาจจะแค่เพิ่มใบตรวจร่างกายอย่างเดียว และเหนือสิ่งอื่นใดการใช้วาจาสื่อสารและมารยาทที่สุภาพชนเค้าพึงจะปฏิบัติต่อกันก้ควรจะมีด้วย ถ้าหากต้องการอะไรเพิ่มเติมควรที่จะแจ้งกันดีๆแบบสุภาพชน  ความจริงอาจารย์ระพีท่านทราบอยู่แล้วว่าท่านอาจจะต้องมายื่นใหม่อีกรอบ ท่านก้พร้อมและยินดีที่จะมาอีก ท่านมาทำเรื่องด้วยตัวเองทุกครั้ง จองคิวแบบปกติที่คนทั่วไปเค้าทำกัน นั่งรอคิวเหมือนคนอื่นๆ ไม่เคยมีการใช้เส้นสายใดๆทั้งสิ้น

การยื่นขอวีซ่าครั้งนี้ท่านไม่ได้โดนปฏิเสธวีซ่า เพียงแต่สถานทูตไม่ได้รับเอกสารท่านเข้าไปพิจารณา แต่ท่านก้ไม่ได้โกรธเคืองเจ้าหน้าที่ท่านั้นที่ไม่รับยื่นวีซ่าเพราะท่านทราบตั้งแต่แรกว่าอาจจะต้องมาอีก เพียงแต่ท่านเห็นว่าเขาใช้วาจาและมารยาทในการสื่อสารนั้นไม่เหมาะสม. พูดดีๆก็ได้นี่

ตอบกลับ
0 0  

สมาชิกหมายเลข 2190573  
1 ชั่วโมงที่แล้ว

จากกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/33400763
.....................................................

อีกมุมหนึ่ง ให้อ่านกันแฟร์ๆ
เชื่อไม่เชื่อ แล้วแต่วิจารณญาณ !!!
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่