ก่อนอื่นเลยน่ะคราฟแนะนำตัวก่อน ชื่อ คิม(นามสมมติ) เรียนอยู่ชั้นปีสาม วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัด ขอนแก่น คราฟ คือผมเป็น แบบชายรักชายคราฟ พอดีว่าคบกันมาสักระยะ ประมาณก็ราวๆๆ 5 เดือนได้ ครั้งแรกเจอกันตอนแข่งกีฬาสีภายใน คนนั้นเขา บีบ (นามสมมติ)เรียนจบ ศบ.จีนน่คราฟ ทำงานเป็นครูสอน ที่ต่างจังหวัดไกลมาก เขามีน้องเป็นแฝดเรียนที่เดียวกันกับผมคราฟ เขาเลยมาเยี่ยมน้อง และมีโอกาสได้เจอผม เขาแอบชอบผมคราฟ ผมเล่นกีฬาวอลเลย์บอล ตอนนั่นเขามาเชียร์ และเขาก็แอบถ่ายรูปผมไว้ แล้วเขาไม่นึกว่จะได้เจอกันกับผมอีก และได้คบกัน
ดูดเหมือนว่าจะ น่าทึ่งมากเลยทีเดียวน่คราฟ มันชั่ง AMAZING จริงๆๆ เนื่องจากส่วนตัวผมแล้ว เป็นคนชอบมองฝาแฝด หรือที่เรียกว่าหลงไหล ในความ เหมือนกันทั้งสองคนนั่นเอง ตอนแรกที่เจอเขาผมไม่รู้ว่า น้องเขาที่เรียนที่เดียวกันกับผมมีฝาแฝดคราฟ แล้วหลังจากแข่งกีฬาเสร็จนะคราฟผมก็มานั่งเล่นที่ใต้ร่มไม้กับเพื่อนๆ สามคน และขณะเดียวกัน เขาก็เดินมาพร้อมกันกับน้องและกลุ่มเพื่อนของเขา ซึ่ง ผมก็มองและสงสัย เลยพูดกะเพื่อนๆๆ ที่นั่งด้วยกันว่า ลองถามให้หน่อยสิ ว่า เขาเป็นแฝดกันหรา เพื่อนไม่รีรอคราฟ ถามทันทีเมื่อเขาเดินมาใกล้ แบบปะชิดเลยน่คราฟ แล้วเขาก็ตอบ ว่า ใช่คราฟ แต่ เขาก่บอกว่า เรียนจากอะไรจบ แล้วทำงานที่ไหน ตอนนั่นผมยังไม่ได้คิดอะไร ก็บอกไปแล้ว ว่า แค่ PASSONATE IN TWIN หลงไหลความเหมือนเฉยๆๆ....แล้วก่ผ่านไป หลายวัน เขากลับไปทำงาน ที่ต่างจังหวัด ไกลพอสมควร
หลังจากนั่นเขาก็พยายามหาเฟสผมจนเจอ แล้ว แค่Follow เฉยๆๆ แต่เขาไม่กล้าที่จะแอดมาเพราะ กลัวว่าผมจะ หยิ่ง ไม่รับ แอด ซึ่งขณะเดียวกันเขาก็แอด FACEBOOK ของเพื่อนผมไป เหมือน รู้จักทั้งเราและเพื่อนของเราด้วยประ มาณนั่น พอผมเห็นแจ้ง เตือนว่าคนนั่น Follow และมากดไลค์รัวๆๆๆ ผมก็เลยแอดไปแบบ มองว่า ออ แฝดคนนั่นที่เราทักวันแข่งกีฬา หลังจากแอดไปเขาก็ทักทายมาเป็นภาษา จีนคราฟ ลืมบอกไปว่าตอนแรกที่ถามว่าเป็นแฝดกันหรือเปล่า เพื่อนเราถาม แล้วเราเลยทักทายเขาว่า หนี่ห่าว
โม้มาเยอะพอสมควรนะคราฟ หลังจากนั่น เราเริ่มคุยกันผ่าเฟสบุ๊คนะคราฟ ที่สำคัญตอนนั่น เหมือนเราคุยกันสามคน คือเรา เพื่อนผู้หญิงที่สนิท และก็ บีมคนที่แอบชอบเรา เรารู้สึกได้ ตอนนั่นเราไม่ได้ชอบเขา แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเรา จะชอบเขาเพราะ ว่า หน้าเขาจะออกเหมือนคนจีนนิดๆๆ ตัวไม่สูงมากเท่าไหร่ คือเขาป็น ผช มากมากกว่า ผช จน เพื่อน ผญ ชอบเพราะยังไม่รู้ว่าเขาเป็นจริงหรือไม่ หรือบางทีเพื่อนเราเหมือนจะชงให้เรา แต่เราก่ยังไม่มั่นใจ แล้ว ก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆๆๆ ถ้าเราไม่ตอบเฟส บีม เขาก่จะไปถามทางเพื่อนเราว่าเราทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ตอบ และตอนนั่นเพื่อน ผญ ที่สนิทเราก็เปิดใจพร้อมที่จะคุย กับ บีม ทุกอย่างแล้วมาบอกเรา ทั้งหมดที่คุยกับ บีม
หลังจากนั่น คุยกันมากขึ้นบีม เริ่มเลิกคุยกะเพื่อน ผญ และหันมาคุยดะเรามากขึ้นคราฟ จน ได้เบอร์โทรคุยกัน จนกระทั่ง เพื่อน ผญ เจอตอนเราคุยกัน เหมือนว่าเขาไม่พอใจ หรืออิจฉานั่นเอง แต่เราก็มองขำๆๆ แล้วแซวไปว่า เราคุยกัน ดึกมากเมื่อคืน แล้วเขาก็ ตอบมาชั่งชิ ฉันไม่สนหรอกแล้ว สบัดหน้าหนี เหมือนไม้พอใจอ่ สักพักเรากะเพื่อน ผญ ก่ เริ่มคุยเรื่องนี่กันน้อยลง
แล้วเราก่เริ่มคุยกันมากขึ้นคราฟ นัดเจอกัน บีม อยากเจอผมมากคราฟ เขาพยายาม มาพบผม โดยครั้งแรกเรานัดเจอกันตรงกับงานไหมพอดีแต่ไม่ได้นอนด้วยกันคราฟ พอ พบปะพูดคุยกัน
และครั้งที่สองเขามานอนด้วยเลยคราฟ แน่นอนว่า นอนด้วยกันก็ต้องมีอะไรกันแน่นอนคราฟ
และก็ เรื่อยๆๆ เขาพยายามมาหาผมเรื่อยๆๆ ทั้งที่เขาไม่ว่าง เดินทาง 8 ชั่วโมง ถือว่าไกลมากนะคราฟ ทุกครั้งที่มา นะคราฟ เราต้องมีอะไรกัน และบ่อยครั้งมากขึ้น 5 ครั้งต่อวันได้ เราก็ ไปดูหนังบ้าง ทานข้าวด้วยกันบ้างคราฟ เขายังบอกอีกว่า จะมาหาเราเดือนละสองถึงสามครั้ง
จนมีอยู่ช่วงหนึงคราฟ ผมรู้สึกว่าผมเรียนหนักมาก งานเยอะ เบื่อ และตอนนั่นเขาก็ โทรมาหาผมบ่อยมากคราฟ จนผมรู้สึกว่ารำคาญก็ว่าได้ และก็ไม่มีไรจะคุยคราฟ คือเหมือนโทรมา เชค ว่าเราอยู่ไหน ทำอะไร แต่เรา รู้สึก ว่ามันเยอะไป อะคราฟ จนทำห้เกิดความรำคาญ เมื่อเปนแบบนี้นะคราฟเราก็เลย ไม่รับสายเขา จึงทำให้ เขา อยากมาหาผม ทั้งๆๆ ที่เขาก็มีงานและผมก็บอกก่าผม งานเยอะไม่มีเวลาดูแล แต่เขาก็ดื้อด้น จะมาให้ได้ เพราะเขาบอกว่าผมเปลี่ยน ไป เพราะ แต่ก่อนเราคุนกันทางเฟส ไม่เคยโทร หลังๆๆ เขาโทรมาหาผมตลอกเลยคราฟ ปกติเราจะคุยกัน 22.00 เพระาเขาโทรฟรีหลังเวลานี้
หลังจากนั่นสันที่เขามาหาผม เราก็เลยมานอนคุยกัน คราฟ พออยู่ด้วยกันนานๆๆ เรารู้สึกว่าเขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลยคราฟ สั่น ทำอะไรไม่ถูก เหมือนกั่งๆๆเกรงๆๆ เราอยู่ หยิบจับอะไรก็ ตก หลุดมือ ซึ่งเป็นบ่อยครั้งมากคราฟ เขาไม่พกบัตรประจำตัวเวบาเดินทาง ไม่มีกระเป๋าตัง แต่เจามีตังนะคราฟ แต่ผมหมายถึง ภาพรวมโดยทั่วไปว่าเราควรจะมีกระเป๋าตัง เพราะ เราวัยทำงานแล้ว อะไรประมาณนี้ และที่สำคัญคราฟ เขาไม่ชอบแต่งตัว คือแต่งตัวไม่เป็น เวลาไปด้วยกัน เราเริ่มรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ เลย เหมือนมันไม่เข้ากัน อ่คราฟ แต่ผมพูดทั้งหมดเลยคราฟ บอกเขาทุกอย่างที่ผม รู้สึกว่ามันไม่ใช่ แล้วเขาก็รับฟัง และผมก็เห็นความพยายามของเขา ผก็เหมือนให้โอกาสเขาได้ลอง ปรับตัวเข้าหากันอีกครั้ง แต่ผมก็ถาม่คราฟว่า เราไม่ดีตรงไหน เขาก็ลอกผมว่า ผม ดีหมด .....
ซึ่งล่าสุดเราไปเที่ยวเที่ยวที่ กรุงเทพคราฟ ไปAsiatique ไปครั้งนั่นผมเหนื่อยมากคราฟ เดินจนขาลาก คือเขายังไม่มั่นใจในตัวเขาอยู่ดี เขาสั่นตบอดคราฟ เขาไม่มั่นใจเวบาอยู่กลับผม เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ผมมองเห็นความรู้สึกนั่น แล้วผมก็บอกเขาว่า ทำไมไม่มั่นใจในตัวเอง สั่นทำไมกลัวอะไร เขาก็ตอบผมมาว่า ไม่รู้ เขากลัวว่าผม จะไม่ok กับการตัดานใจของเขา เจาบอกว่ากลัวเรา ไมทำตามความคิดของ้ขา เลยเลยไม่พูดไม่แสดง ความคิดเห็นอะไรกลับเรา ตอนนั่นมันทำให้ดรารู้สึกอึดอัดมาก เพราะ ความไม่เป็นตัวตน ของเขานั่นเอง ก่อนกลับกรุงเทพคราฟ เรา ก็นั่งคุยกัน แถว อนุเสาวรีลาดพร้าวคราฟ อยู่ดีดีเขาก็ร้องให้ คือ เราก็ ไม่เข้าใจหนอกน่ แต่เราก็ร้องตามเพราะเรารู้ว่าเขารักเราตริงๆๆ คราฟ แต่ เราก็บอกความรู้สึกแล้วว่า เราอึดอัดน่ที่นายไม่เป็นตัวของตัวเอง ..........#ทำไงดีคราฟ
รัก หรือ เล่น....??
ดูดเหมือนว่าจะ น่าทึ่งมากเลยทีเดียวน่คราฟ มันชั่ง AMAZING จริงๆๆ เนื่องจากส่วนตัวผมแล้ว เป็นคนชอบมองฝาแฝด หรือที่เรียกว่าหลงไหล ในความ เหมือนกันทั้งสองคนนั่นเอง ตอนแรกที่เจอเขาผมไม่รู้ว่า น้องเขาที่เรียนที่เดียวกันกับผมมีฝาแฝดคราฟ แล้วหลังจากแข่งกีฬาเสร็จนะคราฟผมก็มานั่งเล่นที่ใต้ร่มไม้กับเพื่อนๆ สามคน และขณะเดียวกัน เขาก็เดินมาพร้อมกันกับน้องและกลุ่มเพื่อนของเขา ซึ่ง ผมก็มองและสงสัย เลยพูดกะเพื่อนๆๆ ที่นั่งด้วยกันว่า ลองถามให้หน่อยสิ ว่า เขาเป็นแฝดกันหรา เพื่อนไม่รีรอคราฟ ถามทันทีเมื่อเขาเดินมาใกล้ แบบปะชิดเลยน่คราฟ แล้วเขาก็ตอบ ว่า ใช่คราฟ แต่ เขาก่บอกว่า เรียนจากอะไรจบ แล้วทำงานที่ไหน ตอนนั่นผมยังไม่ได้คิดอะไร ก็บอกไปแล้ว ว่า แค่ PASSONATE IN TWIN หลงไหลความเหมือนเฉยๆๆ....แล้วก่ผ่านไป หลายวัน เขากลับไปทำงาน ที่ต่างจังหวัด ไกลพอสมควร
หลังจากนั่นเขาก็พยายามหาเฟสผมจนเจอ แล้ว แค่Follow เฉยๆๆ แต่เขาไม่กล้าที่จะแอดมาเพราะ กลัวว่าผมจะ หยิ่ง ไม่รับ แอด ซึ่งขณะเดียวกันเขาก็แอด FACEBOOK ของเพื่อนผมไป เหมือน รู้จักทั้งเราและเพื่อนของเราด้วยประ มาณนั่น พอผมเห็นแจ้ง เตือนว่าคนนั่น Follow และมากดไลค์รัวๆๆๆ ผมก็เลยแอดไปแบบ มองว่า ออ แฝดคนนั่นที่เราทักวันแข่งกีฬา หลังจากแอดไปเขาก็ทักทายมาเป็นภาษา จีนคราฟ ลืมบอกไปว่าตอนแรกที่ถามว่าเป็นแฝดกันหรือเปล่า เพื่อนเราถาม แล้วเราเลยทักทายเขาว่า หนี่ห่าว
โม้มาเยอะพอสมควรนะคราฟ หลังจากนั่น เราเริ่มคุยกันผ่าเฟสบุ๊คนะคราฟ ที่สำคัญตอนนั่น เหมือนเราคุยกันสามคน คือเรา เพื่อนผู้หญิงที่สนิท และก็ บีมคนที่แอบชอบเรา เรารู้สึกได้ ตอนนั่นเราไม่ได้ชอบเขา แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเรา จะชอบเขาเพราะ ว่า หน้าเขาจะออกเหมือนคนจีนนิดๆๆ ตัวไม่สูงมากเท่าไหร่ คือเขาป็น ผช มากมากกว่า ผช จน เพื่อน ผญ ชอบเพราะยังไม่รู้ว่าเขาเป็นจริงหรือไม่ หรือบางทีเพื่อนเราเหมือนจะชงให้เรา แต่เราก่ยังไม่มั่นใจ แล้ว ก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆๆๆ ถ้าเราไม่ตอบเฟส บีม เขาก่จะไปถามทางเพื่อนเราว่าเราทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ตอบ และตอนนั่นเพื่อน ผญ ที่สนิทเราก็เปิดใจพร้อมที่จะคุย กับ บีม ทุกอย่างแล้วมาบอกเรา ทั้งหมดที่คุยกับ บีม
หลังจากนั่น คุยกันมากขึ้นบีม เริ่มเลิกคุยกะเพื่อน ผญ และหันมาคุยดะเรามากขึ้นคราฟ จน ได้เบอร์โทรคุยกัน จนกระทั่ง เพื่อน ผญ เจอตอนเราคุยกัน เหมือนว่าเขาไม่พอใจ หรืออิจฉานั่นเอง แต่เราก็มองขำๆๆ แล้วแซวไปว่า เราคุยกัน ดึกมากเมื่อคืน แล้วเขาก็ ตอบมาชั่งชิ ฉันไม่สนหรอกแล้ว สบัดหน้าหนี เหมือนไม้พอใจอ่ สักพักเรากะเพื่อน ผญ ก่ เริ่มคุยเรื่องนี่กันน้อยลง
แล้วเราก่เริ่มคุยกันมากขึ้นคราฟ นัดเจอกัน บีม อยากเจอผมมากคราฟ เขาพยายาม มาพบผม โดยครั้งแรกเรานัดเจอกันตรงกับงานไหมพอดีแต่ไม่ได้นอนด้วยกันคราฟ พอ พบปะพูดคุยกัน
และครั้งที่สองเขามานอนด้วยเลยคราฟ แน่นอนว่า นอนด้วยกันก็ต้องมีอะไรกันแน่นอนคราฟ
และก็ เรื่อยๆๆ เขาพยายามมาหาผมเรื่อยๆๆ ทั้งที่เขาไม่ว่าง เดินทาง 8 ชั่วโมง ถือว่าไกลมากนะคราฟ ทุกครั้งที่มา นะคราฟ เราต้องมีอะไรกัน และบ่อยครั้งมากขึ้น 5 ครั้งต่อวันได้ เราก็ ไปดูหนังบ้าง ทานข้าวด้วยกันบ้างคราฟ เขายังบอกอีกว่า จะมาหาเราเดือนละสองถึงสามครั้ง
จนมีอยู่ช่วงหนึงคราฟ ผมรู้สึกว่าผมเรียนหนักมาก งานเยอะ เบื่อ และตอนนั่นเขาก็ โทรมาหาผมบ่อยมากคราฟ จนผมรู้สึกว่ารำคาญก็ว่าได้ และก็ไม่มีไรจะคุยคราฟ คือเหมือนโทรมา เชค ว่าเราอยู่ไหน ทำอะไร แต่เรา รู้สึก ว่ามันเยอะไป อะคราฟ จนทำห้เกิดความรำคาญ เมื่อเปนแบบนี้นะคราฟเราก็เลย ไม่รับสายเขา จึงทำให้ เขา อยากมาหาผม ทั้งๆๆ ที่เขาก็มีงานและผมก็บอกก่าผม งานเยอะไม่มีเวลาดูแล แต่เขาก็ดื้อด้น จะมาให้ได้ เพราะเขาบอกว่าผมเปลี่ยน ไป เพราะ แต่ก่อนเราคุนกันทางเฟส ไม่เคยโทร หลังๆๆ เขาโทรมาหาผมตลอกเลยคราฟ ปกติเราจะคุยกัน 22.00 เพระาเขาโทรฟรีหลังเวลานี้
หลังจากนั่นสันที่เขามาหาผม เราก็เลยมานอนคุยกัน คราฟ พออยู่ด้วยกันนานๆๆ เรารู้สึกว่าเขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลยคราฟ สั่น ทำอะไรไม่ถูก เหมือนกั่งๆๆเกรงๆๆ เราอยู่ หยิบจับอะไรก็ ตก หลุดมือ ซึ่งเป็นบ่อยครั้งมากคราฟ เขาไม่พกบัตรประจำตัวเวบาเดินทาง ไม่มีกระเป๋าตัง แต่เจามีตังนะคราฟ แต่ผมหมายถึง ภาพรวมโดยทั่วไปว่าเราควรจะมีกระเป๋าตัง เพราะ เราวัยทำงานแล้ว อะไรประมาณนี้ และที่สำคัญคราฟ เขาไม่ชอบแต่งตัว คือแต่งตัวไม่เป็น เวลาไปด้วยกัน เราเริ่มรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ เลย เหมือนมันไม่เข้ากัน อ่คราฟ แต่ผมพูดทั้งหมดเลยคราฟ บอกเขาทุกอย่างที่ผม รู้สึกว่ามันไม่ใช่ แล้วเขาก็รับฟัง และผมก็เห็นความพยายามของเขา ผก็เหมือนให้โอกาสเขาได้ลอง ปรับตัวเข้าหากันอีกครั้ง แต่ผมก็ถาม่คราฟว่า เราไม่ดีตรงไหน เขาก็ลอกผมว่า ผม ดีหมด .....
ซึ่งล่าสุดเราไปเที่ยวเที่ยวที่ กรุงเทพคราฟ ไปAsiatique ไปครั้งนั่นผมเหนื่อยมากคราฟ เดินจนขาลาก คือเขายังไม่มั่นใจในตัวเขาอยู่ดี เขาสั่นตบอดคราฟ เขาไม่มั่นใจเวบาอยู่กลับผม เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ผมมองเห็นความรู้สึกนั่น แล้วผมก็บอกเขาว่า ทำไมไม่มั่นใจในตัวเอง สั่นทำไมกลัวอะไร เขาก็ตอบผมมาว่า ไม่รู้ เขากลัวว่าผม จะไม่ok กับการตัดานใจของเขา เจาบอกว่ากลัวเรา ไมทำตามความคิดของ้ขา เลยเลยไม่พูดไม่แสดง ความคิดเห็นอะไรกลับเรา ตอนนั่นมันทำให้ดรารู้สึกอึดอัดมาก เพราะ ความไม่เป็นตัวตน ของเขานั่นเอง ก่อนกลับกรุงเทพคราฟ เรา ก็นั่งคุยกัน แถว อนุเสาวรีลาดพร้าวคราฟ อยู่ดีดีเขาก็ร้องให้ คือ เราก็ ไม่เข้าใจหนอกน่ แต่เราก็ร้องตามเพราะเรารู้ว่าเขารักเราตริงๆๆ คราฟ แต่ เราก็บอกความรู้สึกแล้วว่า เราอึดอัดน่ที่นายไม่เป็นตัวของตัวเอง ..........#ทำไงดีคราฟ