บทนำ
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย สิ่งแรกที่มองเห็นคือเพดานสีเหลืองอ่อน
แสงแดดลอดเข้ามาทางขอบผ้าม่านกระทบดวงตาที่ฉ่ำมาสคารา
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศตกลงบนใบหน้าที่ยังไม่ได้ล้างคราบเครื่องสำอาง
ฉันดึงผ้านวมผืนหนาที่ปกคลุมร่างกายเปลือยเปล่าให้สูงขึ้นมาจนเหนือดวงตาคู่สวยซึ่งยังไม่พร้อมจะสู้แสงในเวลานี้
ฉันพลิกตัวไปทางซ้าย และพบว่ามีเพียงความว่างเปล่าที่รอคอยอยู่ตรงนั้น
แวบแรกที่รู้ว่ามือน้อยๆ สัมผัสได้เพียงอากาศบนผ้าปูที่นอนผืนนุ่มคือใจที่สั่นระริก น้ำตาหยดหนึ่งจุกแน่นอยู่ที่หน้าอก
แต่นาทีถัดมาจากนั้น รอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏมาแทนที่
เตียงนอนกว้างใหญ่ ผ้าห่มผืนหนาและอบอุ่น จะมีสิ่งใดในโลกดีไปกว่านี้อีก
ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไรแล้ว แม้จะอ่อนเพลีย แต่ฉันก็ไม่อาจข่มตาให้หลับต่อได้
แสงแดดแรงเกินไปคล้ายจะไม่ยอมให้คนขี้เซาได้พักผ่อนต่อ
หลังกลิ้งตัวไปมาบนที่นอนอยู่หลายที ฉันจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง
ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ไวน์เลิศรส อาหารรสชาติเยี่ยม วิวแสนสวยจากร้านอาหารชั้นดาดฟ้าของโรงแรมที่สูงตระหง่านใจกลางกรุง
และใครอีกคนหนึ่ง ที่ฉันจำได้แค่เค้าหน้ารางๆ ของเขาเท่านั้น
เรากิน ดื่ม หลับนอน และแยกจากกันในตอนเช้า หรือบางทีอาจจะตอนดึก
นี่คือสิ่งที่เราทำร่วมกัน
อ้อมกอดและความห่วงหาอาทรจอมปลอมที่เราเสแสร้งให้กันก่อนจะจบด้วยบทรักเร่าร้อนบนเตียงในห้องนอนสุดหรูของโรงแรม
ฉันยังคงจำบทเรียนที่ได้รับจากผู้ชายคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนได้อย่างแม่นยำ ผู้สอนวิชารักชั่วข้ามคืนนี้ให้แก่ฉัน
หลังจบคืนแรกของการเรียน ฉันใช้เวลากว่าค่อนวันในการร้องไห้ ใช้เวลาก่อนเข้านอนและในทุกๆ เช้าหลั่งน้ำตาอีกเป็นเวลาร่วมเดือน
ในที่สุดฉันก็ได้เข้าใจว่า อ้อมกอดที่แสนอุ่น จุมพิตที่แสนหวาน น้ำเสียงแห่งความรัก ความห่วงหาอาทร มีอยู่เสมอ เมื่อเราทำเหมือนว่า
มันมีอยู่จริง และเราสามารถหามันจากใครก็ได้ ที่เราจะบอกตัวเองว่าเขาเป็นแบบที่เราอยากให้เป็น
เท่านั้นแหละ ความสุขที่ฉันต้องการ
## ปลายทางสีเทา [บทนำ]
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย สิ่งแรกที่มองเห็นคือเพดานสีเหลืองอ่อน
แสงแดดลอดเข้ามาทางขอบผ้าม่านกระทบดวงตาที่ฉ่ำมาสคารา
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศตกลงบนใบหน้าที่ยังไม่ได้ล้างคราบเครื่องสำอาง
ฉันดึงผ้านวมผืนหนาที่ปกคลุมร่างกายเปลือยเปล่าให้สูงขึ้นมาจนเหนือดวงตาคู่สวยซึ่งยังไม่พร้อมจะสู้แสงในเวลานี้
ฉันพลิกตัวไปทางซ้าย และพบว่ามีเพียงความว่างเปล่าที่รอคอยอยู่ตรงนั้น
แวบแรกที่รู้ว่ามือน้อยๆ สัมผัสได้เพียงอากาศบนผ้าปูที่นอนผืนนุ่มคือใจที่สั่นระริก น้ำตาหยดหนึ่งจุกแน่นอยู่ที่หน้าอก
แต่นาทีถัดมาจากนั้น รอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏมาแทนที่
เตียงนอนกว้างใหญ่ ผ้าห่มผืนหนาและอบอุ่น จะมีสิ่งใดในโลกดีไปกว่านี้อีก
ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไรแล้ว แม้จะอ่อนเพลีย แต่ฉันก็ไม่อาจข่มตาให้หลับต่อได้
แสงแดดแรงเกินไปคล้ายจะไม่ยอมให้คนขี้เซาได้พักผ่อนต่อ
หลังกลิ้งตัวไปมาบนที่นอนอยู่หลายที ฉันจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง
ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ไวน์เลิศรส อาหารรสชาติเยี่ยม วิวแสนสวยจากร้านอาหารชั้นดาดฟ้าของโรงแรมที่สูงตระหง่านใจกลางกรุง
และใครอีกคนหนึ่ง ที่ฉันจำได้แค่เค้าหน้ารางๆ ของเขาเท่านั้น
เรากิน ดื่ม หลับนอน และแยกจากกันในตอนเช้า หรือบางทีอาจจะตอนดึก
นี่คือสิ่งที่เราทำร่วมกัน
อ้อมกอดและความห่วงหาอาทรจอมปลอมที่เราเสแสร้งให้กันก่อนจะจบด้วยบทรักเร่าร้อนบนเตียงในห้องนอนสุดหรูของโรงแรม
ฉันยังคงจำบทเรียนที่ได้รับจากผู้ชายคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนได้อย่างแม่นยำ ผู้สอนวิชารักชั่วข้ามคืนนี้ให้แก่ฉัน
หลังจบคืนแรกของการเรียน ฉันใช้เวลากว่าค่อนวันในการร้องไห้ ใช้เวลาก่อนเข้านอนและในทุกๆ เช้าหลั่งน้ำตาอีกเป็นเวลาร่วมเดือน
ในที่สุดฉันก็ได้เข้าใจว่า อ้อมกอดที่แสนอุ่น จุมพิตที่แสนหวาน น้ำเสียงแห่งความรัก ความห่วงหาอาทร มีอยู่เสมอ เมื่อเราทำเหมือนว่า
มันมีอยู่จริง และเราสามารถหามันจากใครก็ได้ ที่เราจะบอกตัวเองว่าเขาเป็นแบบที่เราอยากให้เป็น
เท่านั้นแหละ ความสุขที่ฉันต้องการ