สวัสดีพี่น้องชาวพันทิปครับ วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ของผมกับจุดเปลี่ยนชีวิต ที่เกี่ยวกับการเรียน ความขยัน และจะมาให้กำลังใจกับคนที่ท้อถอย คิดว่าตัวเองเรียนไม่ใว้ อ่านกระทู้นี้อ่านทำให้คุณ มีกำลังใจขึ้นมาบ้าง ไม่มาก ก็น้อย...
เอาล่ะครับเกริ่นกันมาพอสมควรมาฟังเรื่องเล่าของผมกันดีกว่า และเกี่ยวกับเทคนิคการเรียน เทคนิคการจำ การท่อง และการอัปเกรดตัวเอง
เริ่มล่ะน่ะครับ(อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนน่ะ มันอาจจะยาวซักนิด และขึ้นต้นด้วยสิ่งที่อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องเลย แต่ผมอยากจะเล่าตั้งแต่ ม.1)
เริ่มตั้งแต่ตอนเข้าเรียนใหม่ๆ ม.1 ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กที่ บอกได้ว่าไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ชนิดที่ว่าไม่รู้จะอธิบายยังไง ผมเรียนตอนแรกก็ไม่ดีไม่เลว แต่ทำตัวเหลวไหล ตอนนั้นความคิดผมคือ เรียนแค่จบ ม.3 แล้ว ทำงาน ความคิดผมมีแค่นั้นจริง ในห้องเรียนผมก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่ พอกลางๆเทอมก็เริ่มที่จะอยากไปเข้าเรียนในเมือง คือเป็นคนชอบปลาสวยงาม ตอนนั้นคิดจะไปเรียน ประมงตินลสูลานนท์ จังหวัดสงขลา เพื่อแค่เข้าในเมืองเท่านั้น จนในหัวคืออยากจะจบม.3เร็วๆ หลังจากนั้น ก็ทำตัวเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง พอมา ม.1 เทอม 2 ผมได้มีโอกาศไปกรุงเทพ กับการนั่งเครื่องบิน ซึ่งเป็นการที่ผมชอบมากสุด และชอบเครื่องบินต่อมา และทำให้ตั้งใจเรียนมากขึ้น แต่ก็ไม่มากเพราะ นิสัยเดิมคือขี้เกียจ แต่ก็ชอบเครื่องบินมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น จนตอนนั้น ในม.2 เทอม 1 ผมได้ ชอบ และอยากจะทำงานบนเครื่องบิน มากขึ้น คือ สจ๊วส และ กัปตัน ตอนนั้นพอบอกกับคนอื่น คนอื่นๆ ก็หัวเราะผม ตอนนั้นก็ไม่ได้ล้มเลิกความคิด จนมาเจอ ครูคนนึงชื่อครูสุนทร ได้บอกผมว่า ที่ครูได้มาเป็นครูภาษาอังกฤษได้เพราะครูเป็นคนพยายาม ไม่ยอมแพ้ ในสมัยครู ครูไม่มีโอกาศได้เรียนเหมือนพวกเธอหลอก ครูเรียนกับตัวครูเอง กับหนังสือเก่า ของเพื่อนที่มีโอกาศได้เรียน เอามาเรียนเอง ในตอนแรกๆ ครูเรียนภาษาอังกฤษ โดยการท่องคำศัพท์ โดยตัวเองและเมื่อมีโอกาศได้ไปเรียนจากเพื่อนๆของครู ครูก็ได้พยายาม ขยัน และ ฝึกฝนตัวเงอจากเพื่อนสอน ตอนนั้นในความฝันของครูอยากจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และครูสุนทรบอกว่า และครูก็ทำได้ เพียงเพราะคำว่า พยายามและ บวกกับ ความฝันของครู จึงทำให้ครูประสบความสำเร็จ ผมได้ยินดังนั้นจึงมีกำลังใจมากขึ้น ที่จะพยามจะเรียน มันยังไม่สายเกิน จากเด็กหลังห้องกลายมาเป็นเด็กกลางห้อง ซึ่งเรียนถือว่าใช้ได้ละ แต่ยังไม่ถึงกับเก่ง จนพยายามมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น จนม.2 เทอม 2 ผมก็ได้เกรดดีขึ้น และยังพยายามต่อ ผมจะขยันเรียนโดยการ ฝึกฝนภาษาอังกฤษ โดยวิธีการฝึกฝนผมคือ
-ท่องคำศัพท์ การท่องคือ การพยายามที่จะจำคำคำหนึ่ง โดยมีเทคนิค ของผมคือ ท่องวันละ 5-6คำ และเวลาท่องจะเขียน ไปด้วย คำละ10รอบ โดยอย่าท่องเยอะเกินมันจะจำไม่ได้น่ะครับ อาทิตนึงอาจจะทบทวนสัดครั้ง2ครั้งเพื่อ ความจำที่ด้ขึ้น
-ทำdictionaryของตัวเอง เพื่อบันทึกความรู้ของตัวเอง
-อ่านข้อความ หรือทำ ชีวิตประจำวันเราให้เป็นภาษาอังกฤษ เช่น Facebook หรือ Computer ของคุณให้เป็นภาษาอังกฤษ จะได้คุ้นชินกับภาษาอังกฤษ
-อีกอันนึงคือ ทำตัวของตัวเองให้รักภาษาอังกฤษ แล้วความกระตือรือร้นที่จะเรียนมันจะมาเอง
เอาละผมบอกเทคนิคไปแล้ว มาฟังเรื่องเล่ากันต่อ
ต่อมา ม3 เทอม 1 ผมก็ได้ย้ายไปอยู่ห้อง 1 เพราะว่าเกรดดีขึ้น เรียนดีขึ้น และขยับมาอยู๋ต้นๆ ของห้อง ในเด็กผู้ชาย เกรดเฉลี่ยมผมได้ 3.25 ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับผมจาก 2.67 แต่ขอบอกก่อนน่ะครับ ตั้งแต่ ม1-ม3 ผมไม่ไเคยติด 0 ร มผ มส แม้แต่ตัวเดียว เอาละ และทีนี้ พอถึง ม3 เทอม 2 ก้ต้องหาที่เรียนใช่มั้ยครับ จากเมื่อก่อน ผมจะเรียนสายอาชีพ ความคิดตอนนี้คือ ผมจะต้องเรียนสายสามัญ (ศิลป์ อังกฤษ-จีน) และความท้าทายมีมากกว่านั้นคือจะต้องสอบเข้า รร.วรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลาให้ได้ ซึ่งมันไม่ใช่ง่ายเพราะโรงเรียนนี้เป็น โรงเรียนระดับจังหวัดเลย ก็พยายามอีกๆๆๆๆ อ่านๆๆๆ ถึงวันวันมัครสอบก็ไปสมัคร พอสอบก้ไม่มีปัญหา แต่คิดว่าไม่ได้แน่นอน และเตรียมใจใว้แล้ว เพราะห้องเรียนโครงการจีน รับนักเรียนแค่ 50คนเท่านั้น แต่พอวันประกาศผลมันก้มีชื่อผมด้วย ซึ่งเป็นไรที่คิดไม่ถึง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ผมภูมิใจ ผมก็ดีใจ แล้วก้ได้เรียนที่ โรงเรียนวรนารีเฉลิมตามที่บอกใว้ จากวันนั้น ถึงวันนี้ มันแตกต่างกันมาก จากเด็กไม่ได้เรื่องในตอนนั้น ถึงตอนนี้ ขอแค่คุณพยายาม ขยัน ตั้งความฝันของตัวเองและไปให้ถึง อย่าขี้เกียจเท่านั้นแหละ หนทางประสบความสำเร็จ ที่ผมมาได้เพราะ ผมอยากเป็นนักบิน นักบินต้องเก่ง ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่บัดนั้น ผมก็มีความฝันตลอดมา และผมจะพยายามต่อไป และอยากจะให้เพื่อนๆ ที่คิดว่า ตัวเองทำไม่ได้ ขอแค่พยายามต่อไปคุณก็ประสบผลสำเร็จ เพื่ออนาคตของตัวเราเอง เล่ามาตั้งนาน ผมชื่อ เคน ครับ อายุ15
และวันนี้ก้ขอจบแค่นี้ครับ ขอบคุณครับ
อาจจะเล่าไม่ได้ดี หรือ ผิดไปบ้าง ต้องขออภัยน่ะครับ
จุดเปลี่ยนของชีวิต ความฝัน ขยัน ช่วยคุณได้(เสริมกำลังใจ)
เอาล่ะครับเกริ่นกันมาพอสมควรมาฟังเรื่องเล่าของผมกันดีกว่า และเกี่ยวกับเทคนิคการเรียน เทคนิคการจำ การท่อง และการอัปเกรดตัวเอง
เริ่มล่ะน่ะครับ(อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนน่ะ มันอาจจะยาวซักนิด และขึ้นต้นด้วยสิ่งที่อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องเลย แต่ผมอยากจะเล่าตั้งแต่ ม.1)
เริ่มตั้งแต่ตอนเข้าเรียนใหม่ๆ ม.1 ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กที่ บอกได้ว่าไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ชนิดที่ว่าไม่รู้จะอธิบายยังไง ผมเรียนตอนแรกก็ไม่ดีไม่เลว แต่ทำตัวเหลวไหล ตอนนั้นความคิดผมคือ เรียนแค่จบ ม.3 แล้ว ทำงาน ความคิดผมมีแค่นั้นจริง ในห้องเรียนผมก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่ พอกลางๆเทอมก็เริ่มที่จะอยากไปเข้าเรียนในเมือง คือเป็นคนชอบปลาสวยงาม ตอนนั้นคิดจะไปเรียน ประมงตินลสูลานนท์ จังหวัดสงขลา เพื่อแค่เข้าในเมืองเท่านั้น จนในหัวคืออยากจะจบม.3เร็วๆ หลังจากนั้น ก็ทำตัวเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง พอมา ม.1 เทอม 2 ผมได้มีโอกาศไปกรุงเทพ กับการนั่งเครื่องบิน ซึ่งเป็นการที่ผมชอบมากสุด และชอบเครื่องบินต่อมา และทำให้ตั้งใจเรียนมากขึ้น แต่ก็ไม่มากเพราะ นิสัยเดิมคือขี้เกียจ แต่ก็ชอบเครื่องบินมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น จนตอนนั้น ในม.2 เทอม 1 ผมได้ ชอบ และอยากจะทำงานบนเครื่องบิน มากขึ้น คือ สจ๊วส และ กัปตัน ตอนนั้นพอบอกกับคนอื่น คนอื่นๆ ก็หัวเราะผม ตอนนั้นก็ไม่ได้ล้มเลิกความคิด จนมาเจอ ครูคนนึงชื่อครูสุนทร ได้บอกผมว่า ที่ครูได้มาเป็นครูภาษาอังกฤษได้เพราะครูเป็นคนพยายาม ไม่ยอมแพ้ ในสมัยครู ครูไม่มีโอกาศได้เรียนเหมือนพวกเธอหลอก ครูเรียนกับตัวครูเอง กับหนังสือเก่า ของเพื่อนที่มีโอกาศได้เรียน เอามาเรียนเอง ในตอนแรกๆ ครูเรียนภาษาอังกฤษ โดยการท่องคำศัพท์ โดยตัวเองและเมื่อมีโอกาศได้ไปเรียนจากเพื่อนๆของครู ครูก็ได้พยายาม ขยัน และ ฝึกฝนตัวเงอจากเพื่อนสอน ตอนนั้นในความฝันของครูอยากจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และครูสุนทรบอกว่า และครูก็ทำได้ เพียงเพราะคำว่า พยายามและ บวกกับ ความฝันของครู จึงทำให้ครูประสบความสำเร็จ ผมได้ยินดังนั้นจึงมีกำลังใจมากขึ้น ที่จะพยามจะเรียน มันยังไม่สายเกิน จากเด็กหลังห้องกลายมาเป็นเด็กกลางห้อง ซึ่งเรียนถือว่าใช้ได้ละ แต่ยังไม่ถึงกับเก่ง จนพยายามมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น จนม.2 เทอม 2 ผมก็ได้เกรดดีขึ้น และยังพยายามต่อ ผมจะขยันเรียนโดยการ ฝึกฝนภาษาอังกฤษ โดยวิธีการฝึกฝนผมคือ
-ท่องคำศัพท์ การท่องคือ การพยายามที่จะจำคำคำหนึ่ง โดยมีเทคนิค ของผมคือ ท่องวันละ 5-6คำ และเวลาท่องจะเขียน ไปด้วย คำละ10รอบ โดยอย่าท่องเยอะเกินมันจะจำไม่ได้น่ะครับ อาทิตนึงอาจจะทบทวนสัดครั้ง2ครั้งเพื่อ ความจำที่ด้ขึ้น
-ทำdictionaryของตัวเอง เพื่อบันทึกความรู้ของตัวเอง
-อ่านข้อความ หรือทำ ชีวิตประจำวันเราให้เป็นภาษาอังกฤษ เช่น Facebook หรือ Computer ของคุณให้เป็นภาษาอังกฤษ จะได้คุ้นชินกับภาษาอังกฤษ
-อีกอันนึงคือ ทำตัวของตัวเองให้รักภาษาอังกฤษ แล้วความกระตือรือร้นที่จะเรียนมันจะมาเอง
เอาละผมบอกเทคนิคไปแล้ว มาฟังเรื่องเล่ากันต่อ
ต่อมา ม3 เทอม 1 ผมก็ได้ย้ายไปอยู่ห้อง 1 เพราะว่าเกรดดีขึ้น เรียนดีขึ้น และขยับมาอยู๋ต้นๆ ของห้อง ในเด็กผู้ชาย เกรดเฉลี่ยมผมได้ 3.25 ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับผมจาก 2.67 แต่ขอบอกก่อนน่ะครับ ตั้งแต่ ม1-ม3 ผมไม่ไเคยติด 0 ร มผ มส แม้แต่ตัวเดียว เอาละ และทีนี้ พอถึง ม3 เทอม 2 ก้ต้องหาที่เรียนใช่มั้ยครับ จากเมื่อก่อน ผมจะเรียนสายอาชีพ ความคิดตอนนี้คือ ผมจะต้องเรียนสายสามัญ (ศิลป์ อังกฤษ-จีน) และความท้าทายมีมากกว่านั้นคือจะต้องสอบเข้า รร.วรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลาให้ได้ ซึ่งมันไม่ใช่ง่ายเพราะโรงเรียนนี้เป็น โรงเรียนระดับจังหวัดเลย ก็พยายามอีกๆๆๆๆ อ่านๆๆๆ ถึงวันวันมัครสอบก็ไปสมัคร พอสอบก้ไม่มีปัญหา แต่คิดว่าไม่ได้แน่นอน และเตรียมใจใว้แล้ว เพราะห้องเรียนโครงการจีน รับนักเรียนแค่ 50คนเท่านั้น แต่พอวันประกาศผลมันก้มีชื่อผมด้วย ซึ่งเป็นไรที่คิดไม่ถึง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ผมภูมิใจ ผมก็ดีใจ แล้วก้ได้เรียนที่ โรงเรียนวรนารีเฉลิมตามที่บอกใว้ จากวันนั้น ถึงวันนี้ มันแตกต่างกันมาก จากเด็กไม่ได้เรื่องในตอนนั้น ถึงตอนนี้ ขอแค่คุณพยายาม ขยัน ตั้งความฝันของตัวเองและไปให้ถึง อย่าขี้เกียจเท่านั้นแหละ หนทางประสบความสำเร็จ ที่ผมมาได้เพราะ ผมอยากเป็นนักบิน นักบินต้องเก่ง ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่บัดนั้น ผมก็มีความฝันตลอดมา และผมจะพยายามต่อไป และอยากจะให้เพื่อนๆ ที่คิดว่า ตัวเองทำไม่ได้ ขอแค่พยายามต่อไปคุณก็ประสบผลสำเร็จ เพื่ออนาคตของตัวเราเอง เล่ามาตั้งนาน ผมชื่อ เคน ครับ อายุ15
และวันนี้ก้ขอจบแค่นี้ครับ ขอบคุณครับ
อาจจะเล่าไม่ได้ดี หรือ ผิดไปบ้าง ต้องขออภัยน่ะครับ