เรื่องเล่าจากเด็กติดเล่น ติดเกม...

พอดีผมได้ไปเห็นกระทู้ http://pantip.com/topic/33387410 ซึ่งเป็นเรื่องเล่าของเด็กที่เกรดแย่จนกลายเป็นเกรดดีได้
ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนคงจะมี Moment นี้ไม่ครั้งใดก็ครั้งหนึ่งเป็นแน่ครับ
แต่สิ่งที่ผมเอะใจคือคำที่พ่อแม่บอกว่า ให้เลิกเล่นเกม แล้วตั้งใจเรียนซะครับ
โดยส่วนตัวผมมองว่านั่นก็ไม่ผิดครับ แต่ผมอยากให้ทุกท่านที่เข้ามากระทู้นี้ได้ลองอ่านชีวิตผมดูมั่งครับ

---------------------------------------------------

ต้องออกตัวก่อนเลยครับว่าผมเป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่งอย่างแรง
ในบ้านผมจะมีพี่สาวอีกสามคนครับ ทุกคนเรียนเก่งกันหมด
ในสมัยก่อนหากใครยังจำได้ จะมีระบบ pass ชั้นเรียนสำหรับนักเรียนที่เรียนดีครับ
แต่สำหรับสมัยอนุบาลแค่เรียนปกติก็ย้ายได้โดยส่วนใหญ่
พี่ผมทุกคนเริ่มเรียนขึ้นอนุบาลสองกันหมดเลยครับ ยกเว้นผมที่โง่อยู่คนเดียว

หากถามว่าโง่ระดับไหน ก็ขอบอกเลยครับว่า ผมโง่ขนาดถ้าผมสอบได้คะแนนแย่กว่านี้อีกนิดเดียวคือซ้ำชั้นอะครับ
ถ้าเทียบลำดับที่ในห้องแล้ว ถ้าจำไม่ผิดผมจะอยู่ที่ประมาณ 34 ใน 37 อะครับ พูดง่ายๆเกือบบ๊วยห้องนั่นแหล่ะ
การบ้านไม่ทำ งานไม่ส่ง ตอนอนุบาลหากใครจำได้จะมีนอนกลางวันครับ
คนอื่นก็นอนกัน แต่ส่วนใหญ่ผมจะไม่ได้นอนครับ เพราะต้องมานั่งทำการบ้านที่คนอื่นเขาส่งกันไปแล้ว 555
ตอนเรียนก็โดนตีประจำไม่ต้องสืบ

พูดถึงเรื่องเกมกันมั่งครับ พ่อผมทำงานเป็นพนักงานบริษัทครับ
ก็จะมีบางครั้งที่ไปหาดใหญ่ทำงาน ผมก็จะฝากพ่อซื้อเกม Famicom มาประจำครับ (สมัยนั้นยังไม่มี Playstation)
แน่นอนครับ ผมก็ติดงอมแงมตามประสาเด็ก ที่ผมสงสัยจนถึงตอนนี้ก็คือ
ผมทำอีท่าไหนถึงเครื่องเจ๊งบ่อยมาก คือพ่อผมไปทุกครั้งต้องฝากซื้อทุกครั้งอะครับ 555
(บ้านผมไม่ได้รวยนะ ฐานะปานกลาง ตอนนั้นจำได้เลยว่ารถที่ที่บ้านใช้คือรถบริษัทอยู่เลย)

ผมก็กลับบ้านเล่นเกมยังงี้ทุกวันครับ จนเกรดออกแม่ก็จะด่าผมทุกที บางทีมีตีด้วยนะ
เป็นอย่างนี้ทุกเทอมจนจบ อนุบาลสามครับ แล้วก็เริ่มเข้าสู่วัยประถม
คือตอน ป.1 ผมก็เริ่มมาคิดครับว่า "ทำไมตรูต้องให้แม่มาดุตรูทุกเทอมด้วยวะ"
นั่นแหล่ะครับคือจุดเปลี่ยนชีวิตผม
(อย่าคิดว่าเด็กตอนนั้นมันคิดไม่เป็นนะครับ ถ้ามีใครคิดว่าผมโม้ก็ไม่ว่ากันครับ แต่สำหรับผมมันคือชีวิตผมจริงๆ)

ผมก็มาคิดครับว่า เนื่องจากผมชอบเล่นเกม ชอบเล่นกับเด็กข้างๆบ้านในซอย (คือในซอยเด็กเยอะมาก ก็จะเล่นกันประจำ)
แต่เรียนก็ต้องเรียนทำไงดีหล่ะ ?
ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กผมก็คิดแค่ว่า
"ก็ตั้งใจเรียนดิ !!!!"
จบครับ คำๆเดียว

วิธีตั้งใจเรียนของผมก็ง่ายมากครับ อยู่ในห้องก็ฟังครูสอน แค่นั้นจริงๆ
การบ้านก็รีบทำให้เสร็จแล้วไปเล่น ถ้ามีเวลาตอนอยู่โรงเรียน ก็ทำให้เสร็จทั้งๆที่อยู่ที่โรงเรียนนั่นแหล่ะครับ
กินข้าวกลางวันเสร็จ (แม่จะทำใส่ปิ่นโตตอนเช้าแล้วแบกมา รร. ทุกวัน) ก็ทำครับให้ได้มากที่สุด
เสร็จก็ดี ไม่เสร็จก็ต่อที่บ้าน พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยคราวนี้ก็ไม่มีใครมาว่าแล้วครับ เล่นอย่างเดียว 555

แล้วผมก็ถือคตินี้มาตลอด การบ้านเสร็จค่อยเล่นครับ
ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าดีทีเดียวครับ ตอน ป.1 เทอม 1 ลำดับที่ออกมาก็อยู่เลข ยี่สิบกว่าๆ จาก สามสิบกว่า
แล้วก็ดีขึ้นเรื่อย จนมาอยู่ที่สองของห้องตอน ป.3 ครับ
ระหว่างนั้น ผมก็เล่นกับเด็กข้างบ้าน เล่นเกมต่อปกติ

ถ้าใครสงสัยว่าผมเล่นหนักขนาดไหน ก็ตอน ป.2 ผมใส่แว่นแล้วอะครับคิดดู
(จำได้ว่าตอนนั้นเล่น Rockman x4 ในคอมจนถึงบอสใหญ่แต่ฆ่าไม่ตายซะที 555)

แล้วต่อจากนั้นผมก็เรียนดีขึ้นมาเรื่อยๆ เข้าเตรียมใหญ่ได้ตอน ม.ปลาย
เอ็นติดมหาลัยที่อยากเข้าในสาขาวิศวะคอม จนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง
ตอนนี้ก็ออกมาทำงานแล้วครับ แต่กำลังมีแผนว่าจะเรียนต่อ
ระยะเวลาหลายปีในวัยเรียนผมก็เล่นเกมมาเรื่อยๆ (สายตาก็สั้นขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน 555)

------------------------------------------------------------------------------

ชีวิตผมก็ประมาณนี้ครับ มาจนถึงตรงนี้ได้ ต้องยอมรับส่วนหนึ่งว่าเพราะเป็นคนชอบเล่นเกม เล่นกับคนอื่นเยอะ
เพราะงั้นการที่ผู้ใหญ่หลายๆคนบอกว่าเกมเป็นสื่อทำให้เด็กเกิดความรุนแรง ทำให้เด็กมีปัญหา
หากติดแล้วจะทำให้ไม่มีอนาคต ผมขอเถียงใจขาดเลยครับ
เพราะถ้าไม่มีสื่อเหล่านี้ ผมก็คงไม่มีอย่างทุกวันนี้

ทุกอย่างมันขึ้นกับเราจัดการครับ หากเรามองในมุมที่ต่าง และรู้จักการแบ่งเวลา
สิ่งต่างๆย่อมมีด้านที่ดีในตัวของมัน ขึ้นกับคุณจะจัดการได้มากน้อยแค่ไหน
ผู้ใหญ่ก็เป็นส่วนสำคัญครับ ต้องเข้าใจว่าเด็กยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ
สู้คุณคอยดูแลเขาอยู่ใกล้ๆ ไม่ให้เล่นเกินความจำเป็นก็พอ

ฝากถึงเด็กที่ตอนนี้กำลังติดเกมงอมแงมจนไม่ทำการบ้านนะครับ
ผมเข้าใจเพราะผมเองก็เป็น (ปัจจุบันก็ยังติดอยู่)
ทำงานของตัวเองให้เสร็จก่อน เตรียมงานที่ต้องทำให้พร้อม
พอทุกอย่างเสร็จแล้ว จะไม่มีใครมาว่าเราได้หรอกครับหากเราจะเล่น (ก็มันเสร็จแล้วจริงๆอะ)
ตอนสอบก็รู้จักแบ่งเวลาครับ อ่านหนังสือจนเข้าใจ แล้วไปเล่นก็ไม่มีใครว่า
(ตอนมหาลัยสอบ Math2 ผมยังเล่น Devil May Cry 4 ก่อนไปสอบไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยเอาจริงๆ สุดท้ายก็ได้ A มาในวิชานั้น)

สุดท้ายฝากเป็นข้อคิดแล้วกันครับ ถึงสื่อ ถึงพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน อยากให้ลองคิดครับว่า
"เป็นเพราะเกมทำร้ายเด็กๆ หรือเป็นเพราะการจัดสรรเวลาของเด็กๆที่ทำร้ายตัวเองครับ ?"

--------------------------------------------------------------------
หากแท็กห้องไหนผิด ขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่