ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะคะว่า ไม่แน่ใจจริงๆว่ากระทู้นี้จะต้องอยู่ในหมวดหรือห้องใดดี จึงเลือก
มาแท็กที่ปัญหาชีวิตสะเลย หากผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยค่ะ
เรื่องของเราเป็นเรื่องเกี่ยวกับความผิดหวัง จากเพื่อนที่คบกันตั้งแต่สมัยเรียน ที่มาถึงวันนี้ เธอกลายเป็นนักแสดงที่เคยดังมากในช่วงหนึ่ง ซึ่งทำเอาชีวิตของเธอจากที่เคยยากจนที่บ้านอยู่ชุมชนแออัดกลายเป็นคนที่มีกินมีใช้ครอบครัวสุขสบายได้ ถึงขั้นว่ารวยมาก++++ แม้ปัจจุบันเธอจะห่างหายจากวงการไปก็ตาม
เรื่องที่เกิดขึ้นคือ ในช่วงที่เรียนด้วยกัน ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรม นำเพื่อนมาร่วมโชว์ในงานพิเศษต่างๆของโรงเรียนอยู่ตลอด เราเห็นเพื่อนคนหนี่งซึ่งนสายตาคนอื่น จะมองว่าหล่อนตัวดำ ผมหยิก ไม่มีสูตรสำเร็จใดๆที่คนไทยมองว่าคนนี้สวยเลย แต่เรากลับมองว่า เธอนั้นดูเฉี่ยวแปลกและโดดเด่นมากๆ เราบอกกับเพื่อนทุกคนในกลุ่มว่าวันนึงจะทำให้เอคนนี้ดังให้ได้ มีแต่คนด่าว่าไม่มีทาง ไม่มีใครเห็นด้วยจนวันนึงเราได้ยินสปอตวิทยุรับสมัครประกวดนางแบบ เราจัดแจงโทรไปสอบถามรายละเอียดการสมัคร จนกระทั่งการถ่ายรูปเพื่อเป็นโปรไฟล์ในการสมัคร เราให้เพื่อนมาที่บ้ืาน ช่วยกันแต่งหน้าทำผม และลงมือเป็นช่างภาพถ่ายรูปให้เพื่อนเองกับมือ *วันนั้นเธฮพูดกับเราว่า แกถ้าในอนาคตชั้นดังชั้นจะไม่ลืมแก แกไปเป็นผู้จัดการให้ชั้นนะด้วยความที่เด็กกันทั้งคู่เราแค่ได้ยินว่าเพื่อนจะไม่ลืมเราก็ดีใจแล้ว* จนเธอนำไปยื่นสมัครในการประกวดครั้งนั้นเธอเข้ารอบ10คนสุดท้าย แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เธอมีโมเดลลิ่งมาติดต่อเพื่อหางานให้ ตอนไปแคสติ้งงานต่างๆเราก็จะไปเป็นเพื่อนคอยบอกแนะนำว่าต้องพูดเดินอะไรยังไง(คือส่วนตัวชอบงานด้านวงการบันเทิงจึงพอรู้บ้างในตอนนั้น) ในช่วงแรกที่ยังไม่ดังเธอจะไปประกวดตามรายการที่โชว์ความสามารถต่างๆ เราไม่เคยพลาดที่จะไปให้กำลังใจที่สตูดิโอหลายครั้ง จนเธอดัง คุณคิดดูคนที่เราเคยให้เเวลาให้กำลังใจ ถึงวันนึงลืมกัน เราผิดไม๊ที่จะเสียใจที่เค้าลืม และตลอดเวลาหลังจากที่เธอดังแล้ว เธอจะคอยโทรหาเราทุกครั้งที่มีปัญหา โดนเพื่อนนักแสดงดูถูกโทรมาร้องไห้ เครียดเรื่องบทโทรมา ทะเลาะกับแฟนโทรมาแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่มีความสุขหรือจะโทรหาเราเพียงเพราะนึกถึงกัน ตลอดเวลาเธอมีผลงานอะไรเราก็จะช่วยเขียนเชียร์ คือทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแฟนคลับเลยก็ว่าได้ เธอไปร่วมรายการที่มีการโหวตเราก็ช่วยเชียร์ช่วยโหวต คือทำทุกอย่างในฐานะติ่ง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เธอเห็นนเราสำคัญได้เลย
แม้กระทั่งจะไปแคสงานเธอไม่มีเงินซื้อชุดใหม่เราก็เอาชุดเราให้เค้ายืม ให้กำลังใจต่างๆนาๆ จนคนในครอบครัวพ่อแม่พี่น้องเค้า ยังบอกว่าถ้าได้ดีอย่าลืมเพื่อนคนนี้นะ
หลังจากที่แจ้งเกิดในวงการ ซึ่งตอนนั้นเมื่อเกือบ13ปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอดังมากๆ มีรายได้เข้ามาเรียกได้ว่าเปลี่ยนชีวิตจากนรกไปสวรรค์เลย ซึ่งเราทำได้แค่ปลื้มใจโทรคุยรับฟังอยู่เนืองๆ ในช่วงแรกเราเข้าใจว่างานเค้าคงยุ่งให้เวลาเค้ากอบโกยก่อน จนวันนึงในช่วงที่เค้ามีชื่อเสียง
แล้วเราโทรไปหาเค้าเพื่อที่จะขอยืมรองเท้าเพื่อใส่ไปงาน คำตอบที่ได้ทำเราอึ้งมากๆ เค้าบอกว่า *แกรองเท้าชั้นซื้อมาแพงมากเอาไปให้ใครใส่เล่นไม่ได้หรอก บราๆๆๆ ทำเอาเราน้ำตาตกในไปเลย แต่ก็พูดได้แค่ว่า ไม่เป็นไรแก และในช่วงนั้นเค้าจะมีคิวไปออกรายการทีวี หรือสัมถาษณ์นั่นนี่เกี่ยวกับประวัต้และที่มาของการเข้าวงการ เราหวังมากไปเองรึเปล่า แต่อย่างน้อยคำที่เขาเคยบอกว่า วันที่ดังจะไม่ลืมเรา แต่ในการให้สัมภาษณ์มีเพียงครั้งเดียวคือการใก้สัมถาษษณ์ทางวิทยุที่พูดชื่อเราว่าเป็นหนึ่งในแรงผลักดัน ซึ่งมาถึงวันนี้ เข้าใจไปเองว่าตอนนั้นเธออาจจะถูกคนดูแลบรีฟคำตอบไว้แล้ว ให้ตอบแบบนี้ หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่มันก็ทำให้เรารุสึกแย่
ตั้งแต่วันที่เขาดังสุดขีดมีประมาน 4 ครั้งได้ที่เค้ามาเจอเรา ชวนเราไปอัดรายการด้วย ได้สัมผัสการใช้ชีวิตแบบดารากับเพื่อนที่เป็นความถาคถูมิใจของเราแต่ทุกครั้งมันกลับเป็นเหมือนแค่การที่เค้าทำเพราะต้องทำ ในนึงเหมือนเค้ารู้สึกว่าเราเป็นคนที่ทวงบุญคุณกับเค้าด้วยฯ้ำแต่เราไม่เคยคิดทวงบุญคุณเลย เราแค่ต้องการให้เค้าเห็นความสำคัญกับเราก็เท่านั้น แม้กระทั้ง พ่อแม่คนที่บ้านเค้าเจอเรายังมาบอกว่าขอบคุณนะที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้เค้ามีวันนี้ได้ ถ้าไม่มีเราคงมาไม่ได้ถึงวันนี้ และเค้าเชื่อมั่นว่าลูกเค้าจะไม่มีวันลืมและทิ้งเราอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงระยะหลังๆที่เค้าห่างหายจากหน้าจอ และอาจทำงานเบื้องหลังบ้างเราซึ่งเรียนจบด้านนิเทศศาสตร์ เคยเสนอเค้าว่า แกถ้าแกมีงานหรือช่องทางใดๆ ช่วยแนะนไฝากงานให้ฉันหน่อยนะ แต่คำตอบที่ได้คือ ชั้นไม่มีพาวเวอร์พอ และแกเองก็ไม่มีประสบการณ์จะให้ชั้นไปหางานให้แกไม่ได้หรอก เราว่าคำตอบของเค้ามันแย่มากนะ เค้ารู้ดีตั้งแต่เด็กเราทำอะไรได้บ้างในสายงานนี้ตั้งแต่ไม่ได้เรียนนิเทศด้วยซ้ำแต่กลับมาบอกว่าเราไม่มีประสบการณ์ความสามารถ รู้สึกแย่มากจริงๆค่ะ ที่เพื่อนที่เราเคยเชื่อในัตัวเค้า ให้กำลังใจเค้าวันนี้จะมาบอกว่า เรายังดีไม่พอ ที่จะทำงานกับเค้า
ที่เรานำเรื่องนี้มาตั้งกระทู้ ไ่ได้จะต้องการเรียกร้องใดๆ แม้กระทั่งเรื่องเงินซึ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะตั้งแต่เค้ากลายเป็นนางซินในชีวิตจริง เราไม่เคยได้รับเงินทอง ของมีค่า ของขวัญใดๆจากเพื่อนคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งที่อยากได้รับคือแค่อยากบอกให้รู้ว่า ชื่อเสียงสามารถเปลี่ยนใจคนได้จริงๆ เหตุการณ์นี้ให้คิดง่ายๆ ก็เหมือน ผัวเมียที่เคยรักกันมีลูกด้วยกัน แต่วันนึงอีกฝ่ายหมดรัก จะไปเรียกร้องสิ่งที่เคยรับปากว่าจะดีนั่นนี่ให้ค้าทำดีกับเราคงไม่มีทาง จริงๆยังมีเรื่องราวอีกหลายครั้งที่เกิดขึ้น แตก็กลัวว่าจะกลายเป็นนิยายซะก่อน แต่ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง ไม่ได้ใช้แสตนอินแต่อย่างใด ทุกวันนี้เธอคนนั้นก็จัดว่าเป็นนักแสดงรุ่นกลางที่มีงานบ้างเล็กๆน้อยๆแต่โชคดีที่เธอมีคู่รักที่รวยขั้นว่า10ชาติก็กินไม่หมด ก็ดีใจกับเธอด้วย ถ้าเธอเข้ามาอ่านและรู้ว่าเราพูดถึงเธอ สิ่งที่จะบอกคือ *เราไม่โกรธแกนะ แต่เราแค่เสียใจที่เราทำให้แกรักเราเหมือนที่เรารักแกไม่ได้ แต่เราก็ดีใจที่แกมีวันนี้ จากคนที่ไม่มีแม้แต่ชุดไปแคสงานมาถึงจุดนี้ ดีใจกับแกว่ะ*
**** ถามว่าเราเคยพูดกับเค้า ถามถึงคำสัญญากับเจ้าตัวโดยตรงไม๊ เราเคยพูดตั้งแต่ช่วงที่เค้าดั้งแต่ช่วงแรกๆที่เค้าพึ่งดัง แต่เค้าก็ไม่มีการกระทำตอบกลับใดๆมีเพพียงคำพูดที่ว่าเออกูไม่ลืมแน่ แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่าคำพูด เหล่านั้นเลย ****
แล้วเพื่อนๆพี่ๆ มีใครมีเพื่อนที่ดังหรือรวยแล้วเปลี่ยนบ้างไม๊คะ !? .....
ใครเคยมีเพื่อนที่ดังหรือรวยแล้วลืมกัน บ้างไม๊คะ
มาแท็กที่ปัญหาชีวิตสะเลย หากผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยค่ะ
เรื่องของเราเป็นเรื่องเกี่ยวกับความผิดหวัง จากเพื่อนที่คบกันตั้งแต่สมัยเรียน ที่มาถึงวันนี้ เธอกลายเป็นนักแสดงที่เคยดังมากในช่วงหนึ่ง ซึ่งทำเอาชีวิตของเธอจากที่เคยยากจนที่บ้านอยู่ชุมชนแออัดกลายเป็นคนที่มีกินมีใช้ครอบครัวสุขสบายได้ ถึงขั้นว่ารวยมาก++++ แม้ปัจจุบันเธอจะห่างหายจากวงการไปก็ตาม
เรื่องที่เกิดขึ้นคือ ในช่วงที่เรียนด้วยกัน ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรม นำเพื่อนมาร่วมโชว์ในงานพิเศษต่างๆของโรงเรียนอยู่ตลอด เราเห็นเพื่อนคนหนี่งซึ่งนสายตาคนอื่น จะมองว่าหล่อนตัวดำ ผมหยิก ไม่มีสูตรสำเร็จใดๆที่คนไทยมองว่าคนนี้สวยเลย แต่เรากลับมองว่า เธอนั้นดูเฉี่ยวแปลกและโดดเด่นมากๆ เราบอกกับเพื่อนทุกคนในกลุ่มว่าวันนึงจะทำให้เอคนนี้ดังให้ได้ มีแต่คนด่าว่าไม่มีทาง ไม่มีใครเห็นด้วยจนวันนึงเราได้ยินสปอตวิทยุรับสมัครประกวดนางแบบ เราจัดแจงโทรไปสอบถามรายละเอียดการสมัคร จนกระทั่งการถ่ายรูปเพื่อเป็นโปรไฟล์ในการสมัคร เราให้เพื่อนมาที่บ้ืาน ช่วยกันแต่งหน้าทำผม และลงมือเป็นช่างภาพถ่ายรูปให้เพื่อนเองกับมือ *วันนั้นเธฮพูดกับเราว่า แกถ้าในอนาคตชั้นดังชั้นจะไม่ลืมแก แกไปเป็นผู้จัดการให้ชั้นนะด้วยความที่เด็กกันทั้งคู่เราแค่ได้ยินว่าเพื่อนจะไม่ลืมเราก็ดีใจแล้ว* จนเธอนำไปยื่นสมัครในการประกวดครั้งนั้นเธอเข้ารอบ10คนสุดท้าย แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เธอมีโมเดลลิ่งมาติดต่อเพื่อหางานให้ ตอนไปแคสติ้งงานต่างๆเราก็จะไปเป็นเพื่อนคอยบอกแนะนำว่าต้องพูดเดินอะไรยังไง(คือส่วนตัวชอบงานด้านวงการบันเทิงจึงพอรู้บ้างในตอนนั้น) ในช่วงแรกที่ยังไม่ดังเธอจะไปประกวดตามรายการที่โชว์ความสามารถต่างๆ เราไม่เคยพลาดที่จะไปให้กำลังใจที่สตูดิโอหลายครั้ง จนเธอดัง คุณคิดดูคนที่เราเคยให้เเวลาให้กำลังใจ ถึงวันนึงลืมกัน เราผิดไม๊ที่จะเสียใจที่เค้าลืม และตลอดเวลาหลังจากที่เธอดังแล้ว เธอจะคอยโทรหาเราทุกครั้งที่มีปัญหา โดนเพื่อนนักแสดงดูถูกโทรมาร้องไห้ เครียดเรื่องบทโทรมา ทะเลาะกับแฟนโทรมาแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่มีความสุขหรือจะโทรหาเราเพียงเพราะนึกถึงกัน ตลอดเวลาเธอมีผลงานอะไรเราก็จะช่วยเขียนเชียร์ คือทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแฟนคลับเลยก็ว่าได้ เธอไปร่วมรายการที่มีการโหวตเราก็ช่วยเชียร์ช่วยโหวต คือทำทุกอย่างในฐานะติ่ง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เธอเห็นนเราสำคัญได้เลย
แม้กระทั่งจะไปแคสงานเธอไม่มีเงินซื้อชุดใหม่เราก็เอาชุดเราให้เค้ายืม ให้กำลังใจต่างๆนาๆ จนคนในครอบครัวพ่อแม่พี่น้องเค้า ยังบอกว่าถ้าได้ดีอย่าลืมเพื่อนคนนี้นะ
หลังจากที่แจ้งเกิดในวงการ ซึ่งตอนนั้นเมื่อเกือบ13ปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอดังมากๆ มีรายได้เข้ามาเรียกได้ว่าเปลี่ยนชีวิตจากนรกไปสวรรค์เลย ซึ่งเราทำได้แค่ปลื้มใจโทรคุยรับฟังอยู่เนืองๆ ในช่วงแรกเราเข้าใจว่างานเค้าคงยุ่งให้เวลาเค้ากอบโกยก่อน จนวันนึงในช่วงที่เค้ามีชื่อเสียง
แล้วเราโทรไปหาเค้าเพื่อที่จะขอยืมรองเท้าเพื่อใส่ไปงาน คำตอบที่ได้ทำเราอึ้งมากๆ เค้าบอกว่า *แกรองเท้าชั้นซื้อมาแพงมากเอาไปให้ใครใส่เล่นไม่ได้หรอก บราๆๆๆ ทำเอาเราน้ำตาตกในไปเลย แต่ก็พูดได้แค่ว่า ไม่เป็นไรแก และในช่วงนั้นเค้าจะมีคิวไปออกรายการทีวี หรือสัมถาษณ์นั่นนี่เกี่ยวกับประวัต้และที่มาของการเข้าวงการ เราหวังมากไปเองรึเปล่า แต่อย่างน้อยคำที่เขาเคยบอกว่า วันที่ดังจะไม่ลืมเรา แต่ในการให้สัมภาษณ์มีเพียงครั้งเดียวคือการใก้สัมถาษษณ์ทางวิทยุที่พูดชื่อเราว่าเป็นหนึ่งในแรงผลักดัน ซึ่งมาถึงวันนี้ เข้าใจไปเองว่าตอนนั้นเธออาจจะถูกคนดูแลบรีฟคำตอบไว้แล้ว ให้ตอบแบบนี้ หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่มันก็ทำให้เรารุสึกแย่
ตั้งแต่วันที่เขาดังสุดขีดมีประมาน 4 ครั้งได้ที่เค้ามาเจอเรา ชวนเราไปอัดรายการด้วย ได้สัมผัสการใช้ชีวิตแบบดารากับเพื่อนที่เป็นความถาคถูมิใจของเราแต่ทุกครั้งมันกลับเป็นเหมือนแค่การที่เค้าทำเพราะต้องทำ ในนึงเหมือนเค้ารู้สึกว่าเราเป็นคนที่ทวงบุญคุณกับเค้าด้วยฯ้ำแต่เราไม่เคยคิดทวงบุญคุณเลย เราแค่ต้องการให้เค้าเห็นความสำคัญกับเราก็เท่านั้น แม้กระทั้ง พ่อแม่คนที่บ้านเค้าเจอเรายังมาบอกว่าขอบคุณนะที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้เค้ามีวันนี้ได้ ถ้าไม่มีเราคงมาไม่ได้ถึงวันนี้ และเค้าเชื่อมั่นว่าลูกเค้าจะไม่มีวันลืมและทิ้งเราอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงระยะหลังๆที่เค้าห่างหายจากหน้าจอ และอาจทำงานเบื้องหลังบ้างเราซึ่งเรียนจบด้านนิเทศศาสตร์ เคยเสนอเค้าว่า แกถ้าแกมีงานหรือช่องทางใดๆ ช่วยแนะนไฝากงานให้ฉันหน่อยนะ แต่คำตอบที่ได้คือ ชั้นไม่มีพาวเวอร์พอ และแกเองก็ไม่มีประสบการณ์จะให้ชั้นไปหางานให้แกไม่ได้หรอก เราว่าคำตอบของเค้ามันแย่มากนะ เค้ารู้ดีตั้งแต่เด็กเราทำอะไรได้บ้างในสายงานนี้ตั้งแต่ไม่ได้เรียนนิเทศด้วยซ้ำแต่กลับมาบอกว่าเราไม่มีประสบการณ์ความสามารถ รู้สึกแย่มากจริงๆค่ะ ที่เพื่อนที่เราเคยเชื่อในัตัวเค้า ให้กำลังใจเค้าวันนี้จะมาบอกว่า เรายังดีไม่พอ ที่จะทำงานกับเค้า
ที่เรานำเรื่องนี้มาตั้งกระทู้ ไ่ได้จะต้องการเรียกร้องใดๆ แม้กระทั่งเรื่องเงินซึ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะตั้งแต่เค้ากลายเป็นนางซินในชีวิตจริง เราไม่เคยได้รับเงินทอง ของมีค่า ของขวัญใดๆจากเพื่อนคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งที่อยากได้รับคือแค่อยากบอกให้รู้ว่า ชื่อเสียงสามารถเปลี่ยนใจคนได้จริงๆ เหตุการณ์นี้ให้คิดง่ายๆ ก็เหมือน ผัวเมียที่เคยรักกันมีลูกด้วยกัน แต่วันนึงอีกฝ่ายหมดรัก จะไปเรียกร้องสิ่งที่เคยรับปากว่าจะดีนั่นนี่ให้ค้าทำดีกับเราคงไม่มีทาง จริงๆยังมีเรื่องราวอีกหลายครั้งที่เกิดขึ้น แตก็กลัวว่าจะกลายเป็นนิยายซะก่อน แต่ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง ไม่ได้ใช้แสตนอินแต่อย่างใด ทุกวันนี้เธอคนนั้นก็จัดว่าเป็นนักแสดงรุ่นกลางที่มีงานบ้างเล็กๆน้อยๆแต่โชคดีที่เธอมีคู่รักที่รวยขั้นว่า10ชาติก็กินไม่หมด ก็ดีใจกับเธอด้วย ถ้าเธอเข้ามาอ่านและรู้ว่าเราพูดถึงเธอ สิ่งที่จะบอกคือ *เราไม่โกรธแกนะ แต่เราแค่เสียใจที่เราทำให้แกรักเราเหมือนที่เรารักแกไม่ได้ แต่เราก็ดีใจที่แกมีวันนี้ จากคนที่ไม่มีแม้แต่ชุดไปแคสงานมาถึงจุดนี้ ดีใจกับแกว่ะ*
**** ถามว่าเราเคยพูดกับเค้า ถามถึงคำสัญญากับเจ้าตัวโดยตรงไม๊ เราเคยพูดตั้งแต่ช่วงที่เค้าดั้งแต่ช่วงแรกๆที่เค้าพึ่งดัง แต่เค้าก็ไม่มีการกระทำตอบกลับใดๆมีเพพียงคำพูดที่ว่าเออกูไม่ลืมแน่ แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่าคำพูด เหล่านั้นเลย ****
แล้วเพื่อนๆพี่ๆ มีใครมีเพื่อนที่ดังหรือรวยแล้วเปลี่ยนบ้างไม๊คะ !? .....