ผมโชคดี (อีกครั้ง) ที่ได้รับโอกาสจาก BEC Tero Scenario ให้ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานละครเวทีเรื่องนี้ครับ (ก่อนหน้านี้ก็ได้ร่วมทำ Cats, Mamma Mia, และ The Phantom of the Opera)
ได้อ่านกระทู้มากมายที่พูดถึง Beauty and the Beast (ต่อจากนี้ขออนุญาตเรียก BATB ครับ) มีทั้งกระทู้ที่ชื่นชอบ และตำหนิ ก็ว่ากันไปครับ นานาจิตตัง
ผมตั้งใจแค่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ที่น่าจะทำให้ผู้ที่ชื่นชอบ ได้ "หลงรัก" ละครเรื่องนี้มากขึ้น
ส่วนผู้ที่ตำหนิ ก็อาจจะ "เปลี่ยนใจ" มาชื่นชอบได้บ้าง สักนิดก็ยังดีครับ
ขออนุญาตเขียนเป็นข้อๆ นะครับ จะได้คุยกันง่ายๆ
1. Production นี้ Base on US นะครับ หมายถึง บริษัทที่สร้างสรรงานนี้ขึ้นมา เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ใน US และทีมงาน+นักแสดงส่วนใหญ่เป็น American
2. ถึงจะ Base on US แต่ก็มีนักแสดงหญิงคนนึงเป็น Malaysian นะครับ (สาวชุดแดงที่คอยตาม Gaston นั่นละครับ)
3. Production นี้ ใช้เวลา Load in (ขนของเข้าโรงละคร) และ Set up (ติดตั้งของทั้งหมด) ใช้เวลาราวๆ 3 วันครับ
4. แต่ใช้เวลา Tear Down (รื้อถอน) และ Load out (ขนของออก) รวมแล้ว เพียงแค่ 12 ชั่วโมงเท่านั้นเองครับ (แสดงรอบสุดท้ายยังไม่ทันจบ ก็เริ่มเก็บของแล้วครับ ถ้าใครไปดูการแสดงรอบ 19:30 ของวันที่ 15 มีนาคม ระหว่างพักครึ่งได้ยินเสียงเคาะดังๆ นั่นละครับกำลังรื้อถอนเลย)
5. จบจากประเทศไทย พวกเขาทั้งหมดจะไปทัวร์ Singapore กันต่อครับ และจะอยู่แสดงที่นั่น 7 สัปดาห์ (นานมาก ใครไปเที่ยว แวะไปดูได้ครับ)
6. การแสดงละครเพลงสลับพูดแบบนี้ คิวการแสดงส่วนใหญ่จะมาจากจังหวะของเพลงนะครับ ทั้งการออกเวทีของนักแสดง คิวแสง เสียง ฉาก FX ต่างๆ ขึ้นอยู่กับจังหวะดนตรีทั้งนั้น เพราะฉะนั้นคนกำหนดจังหวะการแสดงตัวจริงเลยคือ Conductor ครับ โดย Conductor ก็จะมีเครื่องกำหนดจังหวะที่เรียกว่า Metronome คอยควบคุมไม่ให้ Conductor ให้จังหวะเร็วหรือช้าเกินไปอีกทีหนึ่ง (เครื่องจักรย่อมเที่ยงตรงกว่าคนนะครับ)
7. แต่ก็มีบางคิวครับ ที่นักแสดงสามารถเป็นคนกำหนดจังหวะได้เอง เพื่อความลงตัวของละคร
ตัวอย่างเช่นตอนที่ Beast พูดขอร้องคำว่า Please ยาวๆ เพื่อให้ Belle ไปทานมื้อค่ำด้วยกัน
การแสดงแต่ละรอบนั้น ผู้ชมมีระดับอารมณ์ขันที่ต่างกันครับ บางรอบก็หัวเราะกันพอประมาณ 2-3 วินาที บางรอบสะใจมาก ทั้งหัวเราะทั้งปรบมือใช้เวลาร่วม 6-7 วินาที
Belle ก็จะดึงจังหวะรอให้เสียงผู้ชมเงียบลง แล้วจึงค่อยตอบว่า "No, Thank you" เพื่อให้ผู้ชมได้ยินชัดๆ และฮากันอีกรอบ แบบนี้เป็นต้น
8. ดูละครกันเพลินๆ แต่รู้ไหมครับว่า แสงบนเวทีนั้น มีการเปลี่ยนแปลงตามคิวรวมถึง 300 กว่าครั้งเลยทีเดียว
9. ในขณะที่คิวการเปลี่ยนฉาก หรือการเปลี่ยนม่าน ก็มีมากถึงกว่า 50 ครั้งแน่ะ
10. ตัวละครหลักทุกตัวจะมี Understudy หรือ นักแสดงแทนอยู่ ตัวละ 2 คนครับ โดย 2 คนนี้ปกติเขาก็จะแสดงเป็น Ensemble อยู่บนเวทีอยู่แล้ว ในบทชาวบ้านบ้าง ของใช้ในปราสาทบ้าง
11. แล้วเมื่อถึงเวลาที่นักแสดงหลักป่วย หรือต้องการพัก แล้ว Understudy มาเล่นแทน บทใน Ensemble ก็จะว่างลง ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของนักแสดงที่เรียกว่า Swing เข้ามาเล่นแทนครับ โดนคนที่เป็น Swing จะต้องแสดงแทน Ensemble ได้หลายตำแหน่งหน่อย เท่ากับว่า บทไม่เด่น แต่เล่นได้หมด (บางที Swing เป็น ผญ แต่ต้องไปเล่นแทนในบท ผช ก็มีนะครับ)
12. แต่ตลอดโชว์ 24 รอบที่แสดงในไทย ตัวละครหลักอย่าง Beast, Belle และ Gaston ได้พักไปแค่คนละ 1 รอบเท่านั้นเองครับ
13. ส่วนตัวละครรองแต่บทเด่นอย่าง Lumiere, Cogsworth, Mrs.Pott และ Babette แสดงทุกรอบนะครับ ไม่มีเบรค
14. คนที่ใช้ตัวแสดงแทนบ่อยที่สุด คือ Wardrobe หรือ Madame de la Grande Bouche ที่ป่วยครับ 5 รอบสุดท้ายเธอไม่ได้แสดงเลย
15. ตัวละครที่ขโมยซีนอีกตัวนึงอย่าง Chip นั้นใช้เด็กจริงนะครับ ซึ่งมีนักแสดงเด็กชายวัย 8-9 ขวบ 2 คนผลัดกันแสดงคนละรอบ
16. ถึงจะผลัดกันแสดงคนละรอบ แต่หนุ่มน้อยทั้งคู่ต้องมา Stand By ทุกรอบนะครับ ไม่ใช่ว่ารอบนี้ไม่ได้แสดงแล้วจะไปทำอะไรก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยครับ หากมีเหตุฉุกเฉินกับคนที่แสดงอยู่ อีกคนจะได้แสดงแทนได้ทันที
17. พูดถึงทีมงานกันบ้าง งานนี้นอกจากนักแสดงที่เราเห็นกันหน้าม่าน หลังม่านนั้นมีทีมงานชาวต่างชาติอยู่ราว 20 คนครับ
18. และมีนักดนตรีซึ่งเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ราว 10 คนครับ
19. ใน Magazine ของโรงละครที่ผู้ชมได้รับแจกไปนั้น จะมีรายชื่อของทีมงานคนไทยส่วนใหญ่อยู่ แต่ยังมีทีมงานไทยอีกส่วนหนึ่งแต่ไม่มีชื่ออยู่ในหนังสือ ราว 20 คน ซึ่งล้วนเป็นส่วนสำคัญในการแสดงทุกตำแหน่งครับ เช่น Set ฉาก, ดึงม่าน, เปลี่ยน Sub-Title, ฉายไฟ Follow Spot เป็นต้น
20. ตัวของฉากที่เห็นว่าเข็นกันเลื่อนไปเลื่อนมาบนเวที (ที่บางคนมองว่ามันเชยและดูไม่ตื่นตาตื่นใจนั้น) จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ ลองคิดภาพตามนะครับ ตัวฉากที่ทำจากไม้ มีน้ำหนักเป็น 100 กิโลกรัม แต่กลับเข็นและหมุนได้ง่ายๆ ด้วยคนเพียงแค่ 1 หรือ 2 คน แถมบางทีก็หยุดอยู่กับที่นิ่งๆได้ แม้นักแสดงจะขึ้นไปยืน เดิน หรือ วิ่ง นั่นเป็นเรื่องของเทคนิคที่ไม่ใช่แค่ "ฉากติดล้อเลื่อน" แน่นอน
21. Prop แต่ละชิ้นก็ถูกสร้างขึ้นอย่างปราณีตครับ ถ้าอันไหนมันดูไม่ดี ทีมงานก็จะมีการซ่อมแซมกันอยู่เสมอ
22. ทีมงานทั้งต่างชาติและไทย จะช่วยกัน Preset และ เช็คความเรียบร้อยอย่างละเอียด ก่อนการแสดง "รอบต่อรอบ" เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างพร้อมสำหรับการแสดง
23. ชุด เสื้อผ้า รวมถึงวิกผม ก็ได้รับการดูแล ซ่อมแซม และเตรียมพร้อมแบบ "รอบต่อรอบ" เช่นกันครับ
24. ตัวละครหลักทุกตัว จะถูกติดไมค์ไว้คนละ 2 ชุดนะครับ หากตัวหนึ่งเสียหาย ก็ยังมีอีกตัวหนึ่งสำรองไว้เสมอ
ประมาณนี้ละครับ ผมหวังว่าข้อมูลพวกนี้น่าจะทำให้เกิดมุมมองดีๆได้ ถ้าชอบก็ร่วมกันแบ่งปันได้ครับ ขอบคุณครับ
ปล. ผมไม่ขอให้ข้อมูลที่จะเป็นการ Spoil การแสดงนะครับ เพราะยังไงๆ เรื่องนี้ก็เป็น Disney Magic เรื่องนึงเก็บมันไว้เป็น Magic ในใจคุณต่อไปดีกว่า
มาแบ่งปันประสบการณ์จากหลังม่าน Disney Beauty And The Beast ครับ
ได้อ่านกระทู้มากมายที่พูดถึง Beauty and the Beast (ต่อจากนี้ขออนุญาตเรียก BATB ครับ) มีทั้งกระทู้ที่ชื่นชอบ และตำหนิ ก็ว่ากันไปครับ นานาจิตตัง
ผมตั้งใจแค่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ที่น่าจะทำให้ผู้ที่ชื่นชอบ ได้ "หลงรัก" ละครเรื่องนี้มากขึ้น
ส่วนผู้ที่ตำหนิ ก็อาจจะ "เปลี่ยนใจ" มาชื่นชอบได้บ้าง สักนิดก็ยังดีครับ
ขออนุญาตเขียนเป็นข้อๆ นะครับ จะได้คุยกันง่ายๆ
1. Production นี้ Base on US นะครับ หมายถึง บริษัทที่สร้างสรรงานนี้ขึ้นมา เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ใน US และทีมงาน+นักแสดงส่วนใหญ่เป็น American
2. ถึงจะ Base on US แต่ก็มีนักแสดงหญิงคนนึงเป็น Malaysian นะครับ (สาวชุดแดงที่คอยตาม Gaston นั่นละครับ)
3. Production นี้ ใช้เวลา Load in (ขนของเข้าโรงละคร) และ Set up (ติดตั้งของทั้งหมด) ใช้เวลาราวๆ 3 วันครับ
4. แต่ใช้เวลา Tear Down (รื้อถอน) และ Load out (ขนของออก) รวมแล้ว เพียงแค่ 12 ชั่วโมงเท่านั้นเองครับ (แสดงรอบสุดท้ายยังไม่ทันจบ ก็เริ่มเก็บของแล้วครับ ถ้าใครไปดูการแสดงรอบ 19:30 ของวันที่ 15 มีนาคม ระหว่างพักครึ่งได้ยินเสียงเคาะดังๆ นั่นละครับกำลังรื้อถอนเลย)
5. จบจากประเทศไทย พวกเขาทั้งหมดจะไปทัวร์ Singapore กันต่อครับ และจะอยู่แสดงที่นั่น 7 สัปดาห์ (นานมาก ใครไปเที่ยว แวะไปดูได้ครับ)
6. การแสดงละครเพลงสลับพูดแบบนี้ คิวการแสดงส่วนใหญ่จะมาจากจังหวะของเพลงนะครับ ทั้งการออกเวทีของนักแสดง คิวแสง เสียง ฉาก FX ต่างๆ ขึ้นอยู่กับจังหวะดนตรีทั้งนั้น เพราะฉะนั้นคนกำหนดจังหวะการแสดงตัวจริงเลยคือ Conductor ครับ โดย Conductor ก็จะมีเครื่องกำหนดจังหวะที่เรียกว่า Metronome คอยควบคุมไม่ให้ Conductor ให้จังหวะเร็วหรือช้าเกินไปอีกทีหนึ่ง (เครื่องจักรย่อมเที่ยงตรงกว่าคนนะครับ)
7. แต่ก็มีบางคิวครับ ที่นักแสดงสามารถเป็นคนกำหนดจังหวะได้เอง เพื่อความลงตัวของละคร
ตัวอย่างเช่นตอนที่ Beast พูดขอร้องคำว่า Please ยาวๆ เพื่อให้ Belle ไปทานมื้อค่ำด้วยกัน
การแสดงแต่ละรอบนั้น ผู้ชมมีระดับอารมณ์ขันที่ต่างกันครับ บางรอบก็หัวเราะกันพอประมาณ 2-3 วินาที บางรอบสะใจมาก ทั้งหัวเราะทั้งปรบมือใช้เวลาร่วม 6-7 วินาที
Belle ก็จะดึงจังหวะรอให้เสียงผู้ชมเงียบลง แล้วจึงค่อยตอบว่า "No, Thank you" เพื่อให้ผู้ชมได้ยินชัดๆ และฮากันอีกรอบ แบบนี้เป็นต้น
8. ดูละครกันเพลินๆ แต่รู้ไหมครับว่า แสงบนเวทีนั้น มีการเปลี่ยนแปลงตามคิวรวมถึง 300 กว่าครั้งเลยทีเดียว
9. ในขณะที่คิวการเปลี่ยนฉาก หรือการเปลี่ยนม่าน ก็มีมากถึงกว่า 50 ครั้งแน่ะ
10. ตัวละครหลักทุกตัวจะมี Understudy หรือ นักแสดงแทนอยู่ ตัวละ 2 คนครับ โดย 2 คนนี้ปกติเขาก็จะแสดงเป็น Ensemble อยู่บนเวทีอยู่แล้ว ในบทชาวบ้านบ้าง ของใช้ในปราสาทบ้าง
11. แล้วเมื่อถึงเวลาที่นักแสดงหลักป่วย หรือต้องการพัก แล้ว Understudy มาเล่นแทน บทใน Ensemble ก็จะว่างลง ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของนักแสดงที่เรียกว่า Swing เข้ามาเล่นแทนครับ โดนคนที่เป็น Swing จะต้องแสดงแทน Ensemble ได้หลายตำแหน่งหน่อย เท่ากับว่า บทไม่เด่น แต่เล่นได้หมด (บางที Swing เป็น ผญ แต่ต้องไปเล่นแทนในบท ผช ก็มีนะครับ)
12. แต่ตลอดโชว์ 24 รอบที่แสดงในไทย ตัวละครหลักอย่าง Beast, Belle และ Gaston ได้พักไปแค่คนละ 1 รอบเท่านั้นเองครับ
13. ส่วนตัวละครรองแต่บทเด่นอย่าง Lumiere, Cogsworth, Mrs.Pott และ Babette แสดงทุกรอบนะครับ ไม่มีเบรค
14. คนที่ใช้ตัวแสดงแทนบ่อยที่สุด คือ Wardrobe หรือ Madame de la Grande Bouche ที่ป่วยครับ 5 รอบสุดท้ายเธอไม่ได้แสดงเลย
15. ตัวละครที่ขโมยซีนอีกตัวนึงอย่าง Chip นั้นใช้เด็กจริงนะครับ ซึ่งมีนักแสดงเด็กชายวัย 8-9 ขวบ 2 คนผลัดกันแสดงคนละรอบ
16. ถึงจะผลัดกันแสดงคนละรอบ แต่หนุ่มน้อยทั้งคู่ต้องมา Stand By ทุกรอบนะครับ ไม่ใช่ว่ารอบนี้ไม่ได้แสดงแล้วจะไปทำอะไรก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยครับ หากมีเหตุฉุกเฉินกับคนที่แสดงอยู่ อีกคนจะได้แสดงแทนได้ทันที
17. พูดถึงทีมงานกันบ้าง งานนี้นอกจากนักแสดงที่เราเห็นกันหน้าม่าน หลังม่านนั้นมีทีมงานชาวต่างชาติอยู่ราว 20 คนครับ
18. และมีนักดนตรีซึ่งเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ราว 10 คนครับ
19. ใน Magazine ของโรงละครที่ผู้ชมได้รับแจกไปนั้น จะมีรายชื่อของทีมงานคนไทยส่วนใหญ่อยู่ แต่ยังมีทีมงานไทยอีกส่วนหนึ่งแต่ไม่มีชื่ออยู่ในหนังสือ ราว 20 คน ซึ่งล้วนเป็นส่วนสำคัญในการแสดงทุกตำแหน่งครับ เช่น Set ฉาก, ดึงม่าน, เปลี่ยน Sub-Title, ฉายไฟ Follow Spot เป็นต้น
20. ตัวของฉากที่เห็นว่าเข็นกันเลื่อนไปเลื่อนมาบนเวที (ที่บางคนมองว่ามันเชยและดูไม่ตื่นตาตื่นใจนั้น) จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ ลองคิดภาพตามนะครับ ตัวฉากที่ทำจากไม้ มีน้ำหนักเป็น 100 กิโลกรัม แต่กลับเข็นและหมุนได้ง่ายๆ ด้วยคนเพียงแค่ 1 หรือ 2 คน แถมบางทีก็หยุดอยู่กับที่นิ่งๆได้ แม้นักแสดงจะขึ้นไปยืน เดิน หรือ วิ่ง นั่นเป็นเรื่องของเทคนิคที่ไม่ใช่แค่ "ฉากติดล้อเลื่อน" แน่นอน
21. Prop แต่ละชิ้นก็ถูกสร้างขึ้นอย่างปราณีตครับ ถ้าอันไหนมันดูไม่ดี ทีมงานก็จะมีการซ่อมแซมกันอยู่เสมอ
22. ทีมงานทั้งต่างชาติและไทย จะช่วยกัน Preset และ เช็คความเรียบร้อยอย่างละเอียด ก่อนการแสดง "รอบต่อรอบ" เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างพร้อมสำหรับการแสดง
23. ชุด เสื้อผ้า รวมถึงวิกผม ก็ได้รับการดูแล ซ่อมแซม และเตรียมพร้อมแบบ "รอบต่อรอบ" เช่นกันครับ
24. ตัวละครหลักทุกตัว จะถูกติดไมค์ไว้คนละ 2 ชุดนะครับ หากตัวหนึ่งเสียหาย ก็ยังมีอีกตัวหนึ่งสำรองไว้เสมอ
ประมาณนี้ละครับ ผมหวังว่าข้อมูลพวกนี้น่าจะทำให้เกิดมุมมองดีๆได้ ถ้าชอบก็ร่วมกันแบ่งปันได้ครับ ขอบคุณครับ
ปล. ผมไม่ขอให้ข้อมูลที่จะเป็นการ Spoil การแสดงนะครับ เพราะยังไงๆ เรื่องนี้ก็เป็น Disney Magic เรื่องนึงเก็บมันไว้เป็น Magic ในใจคุณต่อไปดีกว่า