แบ่งปันเรื่องราวที่เจ็บปวดสุดๆในชีวิตของนักศึกษามหาลัยครับ

สวัสดีทุกท่านนะครับ
อันนี้เป็นกระทู้แรกของผมในพันทิพแห่งนี้ อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เจ็บปวดช่วงหนึ่งของชีวิตให้เพื่อนๆได้รับรู้
ซึ่งผมเชื่อว่าอาจจะเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆคนที่กำลังรู้สึกแย่ ให้มีกำลังใจต่อไปนะครับ
ขอแนะนำครอบครัวของผมก่อนมี 4 คนครับ พ่อ แม่ ผม และน้องสาว

ขอแนะนำตัวก่อน เรียกว่า พี ละกันนะครับ
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นตอนสมัยผมเรียนมหาลัยครับ แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
สมัยเป็นเฟรชชี่ก็คงจะเหมือนหลายๆคน ที่พบเจอเพื่อนใหม่ เจอห้องเรียนใหม่ๆ อาจารย์ใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด
และแน่นอนมันเป็นชีวิตที่สนุกสนานมากๆเลยทีเดียวหล่ะครับ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆคนคงเป็นอย่างนั้น
และเรื่องราวของผมในชีวิตเฟรชชี่ก็ผ่านไปด้วยดี

และเรื่องราวแย่ๆ ก็เกิดขึ้นในปีที่สองของชีวิตมหาลัยของผมแรกเริ่มเดิมทีก่อน พ่อผมเป็นคนกินเหล้าหนักมากนะครับ
ถ้าไม่กินนิเป็นอีกคนหนึ่ง แต่เมื่อใดที่พ่อกินมันเข้าไปแล้วพ่อจะเป็นอีกคนหนึ่ง อารมณ์รุนแรงมาก
หลายครั้งที่แม่จะต้องเป็นผู้รับอารมณ์ของพ่อ บางทีก็สงสารแม่นะครับ ส่วนผมเรียน ม.1-ม.6 ซึ่งไม่ได้พักที่บ้านอ่ะคับ
แต่ก็พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ชีวิตปี 2 ของผม ยามบ่ายมีสายโทรศัพท์ของน้าอีกคนที่รู้จักโทรเข้ามาบอกว่า
พ่อถูกตำรวจจับนะ มียาบ้าในครอบครองอ่ะ วินาทีนั้นคืออึ้งครับ กลับหอเลยครับ ไม่เรียน ร้องไห้ เสียใจมาก ทำไรไม่ถูก
ร้องไห้จนหลับไปอ่ะคับ ตื่นมาได้สติ โทรหาแม่ โทรหาญาติ ถามถึงความคืบหน้าจะดำเนินการยังไงต่อไป
ช่วงนั้นมันรู้สึกแย่นะครับ แย่มาก ตอนนี้ที่บ้านเหลือแม่กับน้องสาว ซึ่งเรียน ม.5 แล้วแม่ก็คงเครียดจากทุกอย่างที่ผ่านมาอ่ะคับ
กลายเป็นว่า แม่กลับติดเหล้าเข้าไปอีก (ขอย้อนกลับไปนะครับ ปกติ แม่ก็กินเหล้าครับแต่ไม่เยอะเท่าพ่อ) ติดหนักมากๆ
ยิ่งตอนพาแม่ไปเยี่ยมพ่อที่คุกในตัวเมือง แม่ติดเหล้าจนมีอาการหลอนอ่ะคับ เห็นผี เห็นคนจะมาทำร้าย
ช่วงนั้นผมเหนื่อยมาก จิตใจแย่ไปหมด สุดท้ายก็ต้องส่งแม่ไปบำบัดที่โรงพยาบาลที่สวนปรุงอ่ะครับ
บำบัดโดยตรง  ช่วงนั้นเหลือเพียงน้องที่อยู่บ้าน ป้าที่เป็นญาติ อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันจึงมาอยู่ด้วย
ชีวิตช่วงนั้นของผมแย่จริงๆครับ แย่มาก มืดมนไปหมด ผมทำกรรมอะไรไว้ ทำไมชีวิตถึงเป็นแบบนี้
และช่วงนี้ผมก็ทำงานระหว่างเรียนด้วยครับ เหนื่อยมากจริงๆ ช่วงที่พ่อยังอยู่ในคุก แม่อยู่โรงพยาบาลมันแย่จริงๆครับ แย่มากๆ
จนสุดท้ายมีญาติๆมาช่วยจัดการเรื่องพ่อให้ ว่าจะประกันหรือไม่ โดยผมตัดสินใจว่าไม่ประกันครับ ให้พ่อได้อยู่ตรงนั้นสงบจิตใจ
หลายเดือนเหมือนกันอ่ะคับ กว่าพ่อจะออกจากคุก
ส่วนแม่ผมจะดูแล ไปเยี่ยมท่านบ่อยๆที่โรงบาล ซื้อขนม ข้าวที่ท่านอยากกินไปให้ท่าน นึกไปด้วย น้ำตาเริ่มมา....
บางครั้งอีกวันจะสอบยังไปหาแม่เลยครับ แม่อยากกินไรไหมจะซื้อมาให้ เงินที่ผมได้จากการทำงานอะคับ
นึกแล้วก็ภูมิใจไม่หาย......
จนหลายเดือนต่อมา แม่ออกจากโรงพยาบาล ผมยังขับมอไซไปส่งแม่ขึ้นรถกลับบ้าน ยังต้องโดดเรียนเลยครับ
จนใกล้จะจบปี 2 พ่อผมกลับไปอยู่บ้าน แม่ก็ได้กลับบ้านละ (บ้านผมห่างจากตัวเมือง 100 กว่าโลอ่ะคับ)
จบชีวิตที่แย่ๆ ของปี 2 มานั่งนึกตอนนี้ ผมผ่านมันมาได้ยังไง....

ชีวิตปี 3 ในรั้วมหาลัย ปัญหาหลักๆก็ยังเหมือนเดิมอ่ะครับ พ่อกับแม่ของผมก็ยังกินเหล้าเหมือนเดิม
แม่ แม้จะบำบัด กลับไปยังแอบกิน ตอนนี้หนักกว่าเดิมครับ ภาพหลอนไปหมด แอบไปกินยาฆ่าหญ้า
จนสุดท้ายต้องส่งไปล้างท้องด่วนที่โรงพยาบาลในเมืองอ่ะคับ มันแย่ไปหมดนะครับ ชึวิตของผม
นึกว่าอะไรๆจะดีขึ้น แต่ไม่เลย มันยังเหมือนเดิม.....
ผมต้องคอยเทียวไปหาแม่บ่อยๆ ไปเยี่ยมแม่ แม่ยังมีอาการหลอนเหมือนเดิมครับ มันไม่ดีขึ้นเลย
สุดท้ายโรงพยาบาลที่ล้างท้องและดูแลแม่เห็นว่าหายดีแล้วจะส่งกลับบ้าน ผมขอหมอส่งไปรักษาที่
โรงพยาบาลสวนปรุงอีกครั้งเพื่อทำการบำบัด ไปให้หมอที่สวนปรุงตรวจดูอาการอีกครั้ง
จนได้เป็นคนไข้ มันแย่ไปหมดอ่ะคับ เด็กน้อยชีวิตที่น่าจะสดใส กลับต้องเจอเรื่องราว ที่ตัวเค้าเอง
ก็ไม่นึกว่าจะทนได้ขนาดนี้...
หลายเดือนเหมือนกันเลยครับที่แม่อยู่เพื่อบำบัดและเช่นกัน ผมก็เทียวไปหา ไปเยี่ยมเยือนบ่อยๆ
ทำหน้าที่ลูกเท่าที่จะทำได้อ่ะครับ จนใกล้จะจบปี 3 แม่ถึงได้ออกจากโรงพยาบาลอีกครั้ง...
กลับไปอยู่บ้าน.....
และจบปี 3 ก็เป็นช่วงที่ผมต้องฝึกงานและผมคงไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิตว่า....
เช้าของวันที่ 16 เมษายน ระหว่างจะเริ่มฝึกงาน  น้าโทรเข้ามา บอกว่า "แม่ ไม่มีแล้วนะ"  วินาทีนั้นคืออึ้ง
ทุกอย่างบนโลกมันหยุดหมด ผมร้องไห้มาก น้ามารับกลับบ้าน
ซึ่งวันที่แม่เสียด้วยโรคหัวใจ เป็นวันเดียวกับย่าเสีย คือเสียพร้อมกันอ่ะครับ
หมอบอกว่าแม่เป็นโรคหัวใจซึ่งแม่ไม่มีอาการมาก่อนเลย แต่ผมพอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแม่ถึงเสีย....
ซึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลอ่ะครับ.........
แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันแย่นะครับ เสียใจมากจริงๆ หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว
ที่บ้านจึงเหลือน้องสาวกับพ่อ.....ตอนนี้น้องกำลังจะขึ้น ม.6 ซึ่งอีกแค่ 1 ปีก็จะต้องไปเรียนมหาลัยต่างอำเภอ
ต่างจังหวัด เหลือพ่ออยู่บ้านคนเดียว สงสารพ่ออ่ะครับ....
จบชีวิตปี 3 ของผม

เดี๋ยวมาต่อใหม่ครับ ปี4...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่