[CR] สองป้าตามล่าฝัน Day1 Animal Kingdom

ความเดิมตอนที่แล้ว ลืมเนื่องจากกระทู้
สองป้าตามล่าฝัน 7คืน8วัน @ Disney World Orlando, Florida http://pantip.com/topic/33354587

หลังจากที่ไปเสียตังที่ ดิสนี่ดาวทาวน์มาแล้ว กลับมาที่ห้องพักก็ทำการวางแพนการไปแต่ล่ะพาร์คของเรา ตรรกะการตัดสินใจว่าจะไปไหนก่อน มาจากสภาพอากาศในแต่ละวัน และจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ทั้งหมดทั้งมวล ก็มั่วเอาล้วนๆ เพราะสภาพอากาศตอนที่ไปถึงยังเย็นๆอยู่ มีฝนตกบ้างประปราย คือต้องเช็คสภาพอากาศจากแอปในมือถือกันเกือบทุกชม. เดี๋ยวลมแรง เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวฝนตก ก็เลยเอาสภาพอากศเป็นหลักไม่ได้ เลยมาดูที่จำนวนนักท่องเที่ยวแทน คิดเอาเองว่าวันเสาอาทิตย์คนคงจะเยอะกว่าวันธรรมดา เราไม่ควรไปพาร์คที่มันป๊อปปูล่าอย่าง เมจิกคิงดอมวันเสาร์อาทิตย์ เลยคิดว่าจะไปก่อนเลยดีกว่า วันพฤหัสคนคงไม่เยอะ แต่(แต่อีกล่ะ) มันจะมีโชว์ตรงประดูทางเข้าตอน8โมงครึ่ง นั่นหมายความว่าต้องออกจากที่พักก่อน8โมง และนั่งหมายความว่า ต้องตื่น7โมง และตอนที่นั่งถกเถียงกันอยู่นั้นเกือบจะตี2 คือไม่ตื่นแหง๋มๆ เปลี่ยนแผนดีกว่า เพิ่งเดินทางมาถึงเหนื่อยๆด้วย วันแรกไปพาร์คใกล้ที่พักที่สุดก่อนละกัน ไม่ต้องรีบตื่น ได้ยินมาว่าพาร์คนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก ออกแนวซาฟารีเวิล์ดมากกว่า เอาว่ะ วันแรกไปดูสัตว์ที่ อนิมอล คิงดอม กานน

ตื่นเช้ามาก็ซัดอาหารเช้าที่ขนกันมาจากบ้านเรียบร้อย พร้อมลุย ไปรอรถที่สถานีมีป้ายบอกง่ายดาย นั่งรถไปประมาณ15นาทีมั้ง ไปถึงเวลาพาร์คเปิดพอดี9โมงเช้า  ก่อนลงคนขับจะบอกว่าขากลับให้ขึ้นรถที่ป้ายเลขอะไร แต่ถ้าลืมก็มีบอกตรงสถานี พร้อมกับเจ้าหน้าที่อยู่ประจำคอยให้ความช่วยเหลือ ชอบพนักงานที่นี่ทุกคนค่ะ เทรนมาดีมากๆ ยิ้มแย้มแจ่มใสทุกคนจริงๆ พยามมองหาคนที่หน้าแบบไม่สบอารมณ์ ไม่เจอเลยจริงๆ กลับมาเข้าเรื่องต่อ ก่อนถึงทางเข้า จะมีด่านตรวจกระเป๋าสำภาระ ก็ไม่ได้ตรวจอะไรมากค่ะ แต่เปิดๆจับๆดู แต่ถ้าคนที่ไม่ได้เอากระเป๋าไป ก็มีช่องให้เดินตัวปลิวไปที่สแกนเลย พอผ่านจุดตรวจมาแล้ว ก็จะมีจุดขายตั๋วสำหรับคนที่ยังไม่มีตั๋วค่ะ สองป้ามีเมจิกแบนด์พร้อม ไปสแกนกันเลย ตื่นเต้นๆกับการใช้เจ้าเมจิกแบนด์นี้มาก คือชีวิตดี๊ดีอ่ะ

ผ่านทางเข้ามาก็จะเจอบูธเล็กๆ มีเจ้าหน้าที่ยืนแจกแผนที่พาร์คอยู่ค่ะ มีหลายภาษา แต่ไม่มีภาษาไทยง่ะ สองป้าก็รับเวอร์ชั่นอังกฤษมา1 จริงๆในแอป My Disney experience ก็มีแผนที่นะคะ แต่แบบกระดาษง่ายกับป้ามากกว่า ประหยัดแบตมือถือด้วย กางแผนที่ออกมาก็จะไปทางไหนก่อนดีล่ะ เอาว่ะ มั่วมาถึงขนาดนี้ เลือกเอาซ้ายหรือขาว เดินวนไปตามแผนที่เลย

เดินเข้ามาอีกนิดจะเจอซิกเนเจอร์ของพาร์คนี้ Tree of Life สูงใหญัตั้งเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ

สองป้าเลือกเดินวนขวาค่ะ เลี้ยวไปหน่อยก็เจอสะพานข้าไป DINOLAND U.S.A.

โซนนี้เหมือนของเด็กค่ะ เข้าไปก็เจอ Bone Yard ก่อนเลย ทำเป็นเหมือนแค้มป์ของนักโบราณคดี ให้เด็กเข้าไปขุดหาซากโครงกระดูกไดโนเสาร์ ดูแล้วก็น่าสนุกดี แต่สงสัยจะไม่ให้ป้าเข้า ก็เลยต้องเดินจ๋อยๆ ผ่านไปค่ะ

ทีนี้2สองป้ามองไปเห็นเครื่องเล่นใน DINO RAMA!

มุ่งหน้าไปที่เครื่องเล่นแรกของทริปนี้ค่ะ  เริ่มแรกๆ เอาแบบซอฟๆให้ป้าเล็กก่อน แกไม่ชอบเล่นหวาดเสียว ต้องคอยหลอกล่อกันไป ว่าดูสิเด็กตัวแค่นี้ยังเล่นได้เลย ไม่เสียวหรอก 555ได้ผลป้าแกหลวมตัวไป เครื่องเล่นนี้ก็เป็นแค่ที่นั่งหันหน้าเข้าหากันสี่คน แล้วก็ไหลไปตามรางเหมือนรถไปเหาะ หมุนไปเหวี่ยวมา ขึ้นลงนึดหน่อยให้มีเสียวท้องบ้าง พอลงมาป้าแกบอกแบบนี้โอเค พอไหว โอเคงั้นจัดสเต็ปต่อไป

เดินผ่านโซนไดโนเสาร์มาอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่โซนเอเชีย มองไปตรงหน้าเห็นภูเขาเอเวอร์เรส สวยงามพร้อมเสียงกรี๊ดเล็ดรอดออกมา

ป้าใหญ่ก็รุดหน้าเดินไปสำรวจก่อน พอป้าเล็กเดินมาสมทบก็ชี้ให้ป้าเล็กดูว่าอันนี้ไม่น่ากลัวหรอกมันลงมาแค่นิดเดียว ไม่ตีลังกาป้าเล็กไหวอยู่แล้ว แล้วก็รีบจูงมือป้าเล็กเข้าไปต่อคิวก่อนที่ป้าเล็กจะเห็นรถไปลงมาจากภูกเขาแล้วเกิดเปลี่ยนใจ

ทางเข้า BAZAAR เป็นตึกแบบทิเบต

ข้างในตกแต่งสวยงาม มีอะไรให้ดูตลอดทางที่ต่อแถวเข้าไป คือถ้าต้องรอนานๆก็จะได้ไม่เบื่อ ตอนนั้นยังเช้าอยู่คนยังไม่ค่อยเยอะ เลยไม่ได้รอนาน แถวเลื่อนไปอย่างรวดเร็ว แบบไม่มีเวลาให้ป้าเล็กทำใจ






การที่รถไฟจะลงทำเป็นทางรถไฟขาด เหมือนจริงมากเจ๋งดีค่ะ

โดยส่วนตัวแล้วชอบเครื่องเล่นนี้มาก สตอรี่น่าสนใจ สวยและสนุก ถ้าใครไปพาร์คนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด!!!

ระหว่างทางค่ะ






ยังอยู่กันที่โซนเอเชียค่ะ ต่อไปคือเครื่องเล่น Kali River Rapids เหมือนแกรนแคนยอน บ้านเราอ่ะค่ะ นั่งวงกลมๆ ลอยน้ำไป มีแอ่ง มีคลื่นให้เปียกกัน สองป้าก็รู้ว่าวันนี้จะมีเครื่องเล่นที่เปียก ก็ใส่รองเท้าที่พร้อมเปียกน้ำกันมา แต่ระหว่างเดินเข้าไปก็สวนทางกับคนที่เปียกชุ่มกันมาทั้งตัว เลยปรึกษากันว่า เราความจะมีเสื้อกันฝนนะ เลยกลับหลังหันไปซื้อเสื้อกันฝนที่ร้านค้าด้านหน้าค่ะ

เป็นเสื้อกันฝนของดิสนี่ มีลายการ์ตูนอยู่ข้างหลัง ราคา $9 แต่เก็บไว้ใช้ซ้ำได้ค่ะ ไม่เสียของ เลยจัดมาคนละตัว แต่ก็เห็นหลายคนเตรียมเสื้อกันฝนแบบใช้แล้วทิ้งมาจากบ้านกันด้วยนะคะ โอเค เสื้อพร้อม ก็ลุยกันเลย
อันนี้จะเห็นตรงทางเข้าจะมี2ช่องทาง สำหรับ Fast Pass กับ Standby ช่องสแตนบายจะมาเวลาในการรอคิวบอกค่ะ แต่เราสามาเช็คจากแอป My Disney experience ได้เช่นกัน ตอนนี้สองป้ายังไม่มีFP+ เลยต้องไปช่องสแตนบายค่ะ รอคิวประมาณ15นาที ถือว่าเร็วมากค่ะ ไว้จะมาเล่าเรื่องการใช้FP+ ในอนาคตนะคะ ว่าสองป้าไปใช้ได้ยังไง

เหมือนเดิมค่ะ ทางเข้าคิวด้านในสวยงามไม่แพ้กัน






สองป้าใส่เสื้อกันฝนปิด มิดชิดพร้อม มั่นใจไม่เปียกชัวร์ ลงไปนั่งมีที่เก็บของกันน้ำอยู่ตรงกลางค่ะ นั่งกันไปก็สรุกดีค่ะ เด็กๆ ที่ร่วมทริปก็สนุกสนานอยากเปียกกันมาก ตอนใกล้จะจบทริป มาแอ่งใหญ่มาก น้ำสาดเข้ามาด้านหลังป้าใหญ่เต็มๆ แบบว่าเปียกไปยังกางเกงในเลย เสื้อกันฝาที่ใส่อยู่ช่วยได้คือผมไม่เปียก เหอๆ แฉะหมดเลย ถ้าไม่แคร์เรื่องเปียกก็สนุกดีค่ะ สลัดๆ สบัดๆ กันเสร็จก็เดินทางกันต่อแบบแฉะๆ เดินผ่านร้านอาหารและปฎิมากรรม สวยงามอีกมากมาย





มาถึงโซนแอฟริกาค่ะ บรรยากาศเหมือนตลาด มีร้าน มีคนเยอะเลยทีนี้ มีโชว์ดนตรีของชนเผ่าอยู่ตรงกลางตลาด คนหยุดดูกันมากมาย บางคนก็เดินไปเต้นไป เพราะจังหวะมันเร้าใจจริงๆค่ะ





สองป้ามาหยุดที่  Kilimanjaro Safaris นี่แหละที่นั่งรถเข้าป่าแบบซาฟารีเวิล์ดบ้านเรา รอคิวไม่นานรถก็มาค่ะ เป็นรถบรรทุกเปิดแบบโอเพ่นแอร์มีคนขับเป็นไกด์คอยบอกเล่าเรื่องราวตางๆให้ฟังตลอดทาง ที่ไม่เหมือนกับบ้านเราก็สภาพแวดล้อม ต้นไม้อะไรพวกนี้ ดูเป็นแบบแอฟริกาจริงๆค่ะ สัตว์ถูกปล่อยให้อยู่อย่างธรรมชาติ โชคดีก็จะได้เห็นใกล้ๆเลย รถของสองป้าโชคดีให้เห็นแรดเดินอยู่ติดกับรถเลยค่ะ ตื่นเต้นๆ เพราะสองป้าชอบแรด!!! การเดินทางก็นานพอสมควรเพราะข้างในค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ไม่น่าเบื่อค่ะ เพลินดีค่ะ





















ในโซนนี้ มีแคมป์สูงๆให้เราไปให้อาหารสัตว์ด้วยนะคะ แต่สองป้าข้ามจุดนั้นไปค่ะ
***มีต่อค่ะ***