

ได้ยิน พวกคนพุทธ ในห้องศาสนา เคยมาพูดเข้าหู เรา ประมาณว่า
พวกที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ( เช่น เอธิสต์ คริสต์ อิสวลาม ฯลฯ ) เป็น พวก เดียรถีย์
และ ใครที่ไม่เชื่อว่า การกลับชาติมาเกิดมีจริง จัดเป็น มิจฉาทิฏฐิ
ไอ้ เดียรถีย์อย่างเรา ก็เลยเกิด ปัญหาคาใจ ขึ้นมาว่า
1.ตกลง ไอ้คำว่า เดียรถีย์ กับ คำว่า มิจฉาทิฏฐิ เนี่ย
พวกคนพุทธ ใช้เป็น คำชม หรือ คำด่า กันแน่คร๊ะ ?
เพราะ เห็น ที่ห้องศาสนา พวกคนพุทธบางคนเรียก บุคคลสำคัญของโลก
ผู้ที่ได้รับการยกย่อง จากยูเนสโก อย่าง ท่านพุทธทาส
ประมาณ ว่า เป็นเดียรถีย์ผู้มีมิจฉาทิฏฐิ


2.แล้ว ไอ้การเป็น เดียรถีย์ มิจฉาทิฏฐิ นี่ จัดเป็นสิ่งที่ดี /ไม่ดี
และ สมควรเป็น หรือ มีไว้ในครอบครอง หรือไม่คร๊ะ ?


3.ถ้า เรา เป็นเดียรถีย์ ไม่มีศาสนา
และ มีมิจฉาทิฏิฐิ (ไม่เชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด)
แสดงว่า เราเป็นคนดี /ไม่ดี ในสายตาของ พวกคนพุทธ หรอคร๊ะ
แล้ว คนพวกนี้ เค้าใช้อะไรเป็นงื่อนไข
ที่ไช้ในการ พิจารณา /วิเคราะห์/สังเคราะห์ หรอคร๊ะ ว่า
ไอ้ความเชื่อแบบไหนเป็น มิจฉาทิฏฐิ
ไอ้ความเชื่อแบบไหนเป็น สัมมาทิฏฐิ ?
หรือ แค่ศาสดาของเค้า สอนมางี้ ก็เชื่อตาม ๆ กัน ?
งั้นแสดงว่า ไอ้ที่ บอกว่า ศาสนาของพวกเค้า เป็น ศาสนาแห่งปัญญา
มันก็แค่ การโปรโมททางการตลาด เพื่อเพิ่ม มูลค่าทางการตลาด ให้ศาสดนา ของตัวเอง เท่านั้น อ่ะดิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพราะ ถ้า เป็น ศาสนาแห่งปัญญาจริง เหมือนราคาคุย
ก็น่าจะ สามารถ ใช้ สติปัญญาของ ตนเอง มาโยนิโส ตอบได้ อย่างมีหลักการ
ว่า ใช้ พวกเค้า ใช้ คุณสมบัติ1-2-3-4 อะไรบ้าง มาเป็น เงื่อนไข ในการตัดสิน
ว่า ความเชื่อแบบไหน เป็น สัมมา /แบบไหนเป็น มิจฉา ?
ไม่ใช่ว่า สมณะโคดมสอนมางี้ ก็ต้องเชื่องี้ ตามที่ สมณะโคดมบอก
สมณะโคดมบอกว่า การเชื่อเรื่อง กลับชาติมาเกิด เป็น สัมมา ฯ ก็เชื่อตามนั้นยันเต เลย
งี้ ถ้า สมณะโคดมของพวกเค้า บอกว่า
การเชื่อเรื่อง ให้ลูกชาย ไป ขึ้นครู มีเซ็กส์ครั้งแรก กับ แม่ตัวเอง
( ตาม วัฒนธรรมของ ชาวเอสกิโมโบราณ ) เป็น สัมมาทิฏฐิ
พวกเค้า ก็ พร้อมจะ เชื่อ ศาสดาตัวเอง และ ปฏิบัติตาม งั้น หรอคร๊ะ ?


อะไรคือเงื่อนไขที่ไช้ในการ พิจารณา /วิเคราะห์/สังเคราะห์ หรอคร๊ะ ว่า
ไอ้ความเชื่อแบบไหนเป็น มิจฉาทิฏฐิ - ไอ้ความเชื่อแบบไหนเป็น สัมมาทิฏฐิ ?
รบกวนขอ ความรู้ เป็น ธรรมทาน ด้วยค่ะ
เรา จะได้ เอาไป พิณา ว่า ไอ้ที่ สมณะโคดม สอนว่า
การเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด มันเป็น สัมมา นั้น
เป็นเพราะ มัน มี คุณสมบัติ เข้าเงื่อนไขข้อไหนบ้าง 1-2-3-4
ส่วนการไม่เชื่อ เรื่องการ กลับชาติมาเกิด มันเป็น มิจฉา
เป็นเพราะ มัน มี คุณสมบัติ เข้าเงื่อนไขข้อไหนบ้าง 1-2-3-4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพราะ ตอนนี้ เรารู้สึกว่า ไอ้คำสอนเรื่อง สัมมา/มิจฉา ทิฏฐิ ทำนองนี้ นั้น
มันดูเป็น คำสอนที่ หลักลอย ขาดความ น่าเชื่อถือ มาก ๆ เลยอ่ะ
เนื่องจาก ศาสดาของพวกเค้า สอนเป็นข้อมูลฝังชิป ในสมองให้เชื่อตามกันเฉย ๆ
แต่ พอถามถึง เงื่อนไขคุณสมบัติของสิ่งที่เป็น สัมมา /มิจฉา คำตอบที่ได้ ก็ไปย้อนแย้งกับคำสอนเอง
แถม ไอ้คำสอนทำนองนี้ ฟังแล้วก็ ทะแม้ง ๆ
เหมือน ๆ จะ เพิ่มมูลค่าทางการตลาด ( แบบหุ้นปั่น )
แล้ว แอบโปรโมทว่า ความเชื่อ ของ ศาสนาตัวเองว่าดีกว่าคนอื่น
แถมยัง เหยียบหัวชาวบ้าน หาว่า ความเชื่อต่าง เป็น มิจฉา ซะงั้น
อ่านคำสอนพวกนี้ ของ สมณะโคดมทึไร
ทำให้ รู้สึกว่า คน ๆ นี้ มี วาระซ่อนเร้นแอบแฝง
มากับ คำสอนที่มีลักษณะ เหมือน ๆกับ โฆษณาชวนเชื่อ ทุกทีเลยอ่ะ -*-
ทั้ง ๆ จะว่าไป ไอ้ความเชื่อ เรื่องกลับชาติมาเกิด เนี่ย
ก็เป็น fact คล้าย ๆ กับ ความเชื่อ เรื่องโลกแบน ล่ะมั้ง
ไม่ว่าจะเชื่อ ว่า โลกแบน หรือ ไม่เชื่อว่า โลกแบน
มันก็เป็น แค่ความเชื่อ ( หรือเป็น ทฤษฎี ) เท่านั้น
ยังไม่สามารถฟันธง ลงไปในเชิงคุณภาพ ได้
ว่า ควมเชื่อ แบบไหน เป็น สิ่งที่ดี /ไม่ดี เลย


ปัญหาชีวิต ( เชิงปรัชญา/ศาสนา ) : เมื่อ เดียรถีย์ อย่างเรา โดนกล่าวหา ว่า เป็นผู้มี มิจฉาทิฏฐิ ? -*-
ได้ยิน พวกคนพุทธ ในห้องศาสนา เคยมาพูดเข้าหู เรา ประมาณว่า
พวกที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ( เช่น เอธิสต์ คริสต์ อิสวลาม ฯลฯ ) เป็น พวก เดียรถีย์
และ ใครที่ไม่เชื่อว่า การกลับชาติมาเกิดมีจริง จัดเป็น มิจฉาทิฏฐิ
ไอ้ เดียรถีย์อย่างเรา ก็เลยเกิด ปัญหาคาใจ ขึ้นมาว่า
1.ตกลง ไอ้คำว่า เดียรถีย์ กับ คำว่า มิจฉาทิฏฐิ เนี่ย
พวกคนพุทธ ใช้เป็น คำชม หรือ คำด่า กันแน่คร๊ะ ?
เพราะ เห็น ที่ห้องศาสนา พวกคนพุทธบางคนเรียก บุคคลสำคัญของโลก
ผู้ที่ได้รับการยกย่อง จากยูเนสโก อย่าง ท่านพุทธทาส
ประมาณ ว่า เป็นเดียรถีย์ผู้มีมิจฉาทิฏฐิ
2.แล้ว ไอ้การเป็น เดียรถีย์ มิจฉาทิฏฐิ นี่ จัดเป็นสิ่งที่ดี /ไม่ดี
และ สมควรเป็น หรือ มีไว้ในครอบครอง หรือไม่คร๊ะ ?
3.ถ้า เรา เป็นเดียรถีย์ ไม่มีศาสนา
และ มีมิจฉาทิฏิฐิ (ไม่เชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด)
แสดงว่า เราเป็นคนดี /ไม่ดี ในสายตาของ พวกคนพุทธ หรอคร๊ะ
แล้ว คนพวกนี้ เค้าใช้อะไรเป็นงื่อนไข
ที่ไช้ในการ พิจารณา /วิเคราะห์/สังเคราะห์ หรอคร๊ะ ว่า
ไอ้ความเชื่อแบบไหนเป็น มิจฉาทิฏฐิ
ไอ้ความเชื่อแบบไหนเป็น สัมมาทิฏฐิ ?
หรือ แค่ศาสดาของเค้า สอนมางี้ ก็เชื่อตาม ๆ กัน ?
งั้นแสดงว่า ไอ้ที่ บอกว่า ศาสนาของพวกเค้า เป็น ศาสนาแห่งปัญญา
มันก็แค่ การโปรโมททางการตลาด เพื่อเพิ่ม มูลค่าทางการตลาด ให้ศาสดนา ของตัวเอง เท่านั้น อ่ะดิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อะไรคือเงื่อนไขที่ไช้ในการ พิจารณา /วิเคราะห์/สังเคราะห์ หรอคร๊ะ ว่า
ไอ้ความเชื่อแบบไหนเป็น มิจฉาทิฏฐิ - ไอ้ความเชื่อแบบไหนเป็น สัมมาทิฏฐิ ?
รบกวนขอ ความรู้ เป็น ธรรมทาน ด้วยค่ะ
เรา จะได้ เอาไป พิณา ว่า ไอ้ที่ สมณะโคดม สอนว่า
การเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด มันเป็น สัมมา นั้น
เป็นเพราะ มัน มี คุณสมบัติ เข้าเงื่อนไขข้อไหนบ้าง 1-2-3-4
ส่วนการไม่เชื่อ เรื่องการ กลับชาติมาเกิด มันเป็น มิจฉา
เป็นเพราะ มัน มี คุณสมบัติ เข้าเงื่อนไขข้อไหนบ้าง 1-2-3-4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้