แบบนี้เรียกว่าเป็น 'สีลพัตตปรามาส' รึเปล่าครับ??

คุณแม่ผมเป็นนักปฏิบัติธรรมท่านหนึ่ง  ท่านชอบสวดมนต์นั่งสมาธิทุกเช้า ไปช่วยงานที่วัดบ่อยๆ  แต่ด้วยนิสัยเจ้าระเบียบของท่าน
ท่านมักจะติเตียนผมบ่อยๆ  จนกลายเป็นว่าท่านเอาเรื่องผม(และพ่อ)ไปทุกข์ซะงั้นที่ทำอะไร 'ไม่ได้ดังใจ' ท่าน
ซึ่งบางเรื่องผมก็ฟังและยอมทำตาม ให้ท่านสบายใจ    แต่บางเรื่องผมคิดว่ามันก็ไม่จำเป็น  อย่างเช่น
- อย่าเอาพระพุทธรูปตั้งในห้องนอน
- เวลาสวดมนต์ นั่งสมาธิ  ให้มาสวดที่ห้องพระ   (สวดที่อื่นไม่ดี)
- เสื้อกางเกงอย่าเอามาซักปนกัน  มันจะทำให้ไม่มีราศี
- ต้องแต่งตัวให้ "ดูดี"ไว้ก่อน เสื้อผ้าต้องรีดให้เรียบ   จะได้มี "ราศี"   ( อันนี้เถียงกันประจำ ผมเป็นคนชอบแต่งตัวสบายๆไง)
- ห้องนอนต้องจัดให้เรียบร้อย  เทวดาจะได้ชื่นชอบหรืออะไรประมาณนี้  (ผมอายุ 30 แล้ว  แม่ยังแอบเข้ามาดูห้องผมบ่อยๆ = =" )
........และอื่นๆ

ผมกลัวว่า ด้วยนิสัยจุกจิกของคุณแม่ จะเป็น "สีลพัตตปรามาส" ขัดขวางการปฏิบัติธรรมของท่านมั้ยครับ?  รบกวนช่วยชี้แนะด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
จขกท. อยากได้คำตอบ เพื่อเอาไปเถียงกับคุณแม่ต่อใช่มั๊ยครับ...คุณเองก็มีทิฎฐิมานะอัตตาอยู่น๊ะ

ถ้าแม่คุณ บอกให้คุณทำในสิ่งที่เหมาะสม ถ้าคุณเห็นว่าปฎิบัติไม่ยาก ก็น่าจะทำตามท่านน๊ะไม่ได้มีผลเสียหาย
อะไร ยังงัยท่านก็ย่อมหวังดีต่อลูก เป็นธรรมดา ถ้ามองมุมนี้เป็นคุณจะยิ่งสำนึกในเมตตาของคุณแม่ วันใดที่
แม่คุณไม่อยู่แล้วมานั่งนึกถึง ก็คงสายเกินไป...

สิลัพตปรามาส หรือ การถือศิลพรตแบบงมงาย อันนี้ต้องดูศิลแต่ล๊ะข้อ ว่าคุณแม่ท่านรักษาศิลแบบจับผิดโดย
ไม่เข้าใจศิลแต่ล๊ะข้อหรือไม่ เช่นเหยียบสัตว์ตาย ถ้าไม่เจตนาก็ไม่บาป แต่บางคนไม่เข้าใจก็มัวแต่ทุกข์กลัว
เพราะเผลอไปเหียบมดตาย  คราวนี้ก็ระวังระแวงไปหมด กลัวจะเหยียบมด แมลง แบบนี้แหละรักษาศิลไม่เป็น
ใจก็ไม่สงบมีแต่ความกังวล  ถ้ามีความเข้าใจเรื่องศิลที่ดีพอ และรักษาศิลเพื่อขัดเกลา กิเลสตัวเองเรียกว่าศิล
รักษาใจให้เป็นปรกติ ใจก็สงบ สะอาด ไม่ฟุ้งซ่าน  อันนี้ก็เป็นเหตุให้ใจสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิได้...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่