*อดใจไม่ไหวจริงๆค่ะ นานๆจะได้เล่นพันทิป
ขออนุญาตแก้ไขกระทู้เดิมว่าด้วยสอบถามเรื่องจะตั้งกระทู้นี้ เป็นเรื่องนี้เลยนะเจ้าค่ะ
เราอยากจะรู้มากๆเลยค่ะ ว่าทำไมต้องมีกฏหมายข้อนี้ด้วยมันทำให้เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างเราใช้สิทธิ์ความเป็นประชาชนประเทศไทย
ได้อย่างไม่เต็มที่...คือถึงแม้อีกปีสองปีจะเข้า 18 แล้วก็ตามที แต่เราก็มีปัญหาเรื่องสิทธินี้มาเนิ่นนาน อาจะเป็นเพราะเราแก่แดดอยากโตเกินวัย
ตั้งแต่ช่วงป.5 หรือเพราะ ฤทธิ์ยาเม็ดที่เราเริ่มกินตั้งแต่อยู่ อนุบาล 1
เรา: ยาน้ำมันขมค่ะ ขอเปลี่ยนเป็นยาเม็ดได้ไหมคะ
คุณหมอจัดยาเม็ดแทนยาน้ำให้ตามคำขอ...ขอย้ำนี่คือเรื่องตอน อนุบาล 1
หลายๆท่านคงหมั่นไส้จะรีบโตไปนะจ้ะหนูจ๋า... ?
แต่ถ้าท่านไม่เป็นเราคงไม่เข้าใจหัวอกเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่มีความคิดยิ่งใหญ่ ที่อยากทำการใหญ่หรอกเจ้าค่ะ
อายุเป็นเพียงตัวเลขใช่หรือไม่ ? เหตุใดต้องมีการกำหนดบทบัญญัติสร้างบรทัดฐานแบ่งกันขนาดนี้
คนโตใช่ว่าจะเข้าใจเรื่องง่ายๆเสมอไป...คนอายุน้อยใช่ว่าจะไม่เข้าใจโลกเสมอไป
แต่เราก็พอเข้าใจว่ากฏหมายนี้สร้างขึ้นมาเพื่อคุ้มครองสิทธิของเด็กและเยาวชน
แต่บางเรื่องก็น่าจะมีการผ่อนปรนกันบ้าง หากว่าเด็กนั้นมีวุฒิภาวะทางจิตใจที่พอๆกับผู้ใหญ่ทั่วไปไม่ต่างกัน
โดยเฉพาะ เรื่องการเงิน การรักษาพยาบาล การทำงาน
การรักษาพยาบาล
เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือ ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ห้าม เข้าการรักษาที่คลิกนิกหรือโรงพยาบาลด้วยตนเอง ต้องมีผู้ปกครองหรือ ผู้ใหญ่มาด้วยและเซ็นรับรองทุกครั้ง
คำถามคือ กฏหมายแบบนี้มีความจำเป็นหรือไม่ ในการใช้ชีวิตของเด็กที่ไม่บรรลุนิติภาวะ???
คำตอบ (จากความเห็นตัวเอง) คือไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องกระทำการเช่นนี้ ยกเว้นเรื่องสำคัญมากๆ เช่น การผ่าตัด ฯลฯ
หากเด็กคนนึงอยู่คนเดียวพ่อแม่ ผู้ปกครองไม่มีใครว่างเกิดอาการป่วยหนักๆ และต้องเข้าการรักษาโดยด่วน
แต่ต้องรอให้ผู้ปกครองมาเซ็นรับรองให้ ถึงจะเข้ารักษาได้ คุณคิดว่าเด็กคนนั้นจะเป็นเช่นไร ?
หากวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาไม่ทันการณ์ท่วงที
หรือในกรณีแค่ป่วยด้วยโรคที่ธรรมดา แต่ไม่มีผู้ปกครองว่างพาไปหมอที่คลินิก เด็กก็ไม่สามารถเข้าการรักษาได้ใช่หรือไม่?
ขอบอกเลยนะจุดๆนี้ เรื่องนี้เป็นปัญหาของชีวิตเรามาก เนื่องจากที่บ้านพ่อแม่อยู่คนละที่ และไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ญาติที่ว่างๆ
ก็มีเพียงคุณย่าที่อายุ 80 ปี ถามว่า ระหว่าง ย่า กับ เรา ใครรู้เรื่องมากกว่ากัน ???
ปกติเราเข้าออกคลินิกด้วยตัวเองทุกครั้ง แต่มาวันนี้โดนว่าพร้อมเซ็นรับรองว่าต้องให้ผู้ปกครองมาด้วยทุกครั้ง
แล้วอีกอย่างคุณหมอบอกว่าสื่อสารไม่รู้เรื่อง ต้องคุยกับผู้ปกครอง
เรื่องนี้ขอคัดค้านสุดฤทธิ์เนื่องจากล่าสุดที่ขอร้องอ้อนวอนคุณพ่อให้ไปช่วยเรื่องทำบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่สำนักงานเขต
เนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนเองได้ เจ้าหน้าที่พูดแล้วพูดอีกคุณพ่อท่านก็ยังๆงงๆ ไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบ
แต่เราเข้าใจตั้งแต่คำแรกแล้ว พูดแล้วๆพูดอีก อธิบายมากมาย เราต้องเป็นล่ามแปลภาษาไทยเป็นภาษาไทยให้พ่อฟังอีกที
พ่อถึงจะเข้าใจ...
ขนาดตอนนั้นที่ป่วยหนักมากพ่อบอกให้นั่งแท๊กซี่ไปหาหมอที่รพ.พระมงกุฎด้วยตัวเอง แต่ผลคือ ต้องมีผู้ปกครองเซ็นรับรองด้วยค่ะ
เลยต้องเรียกพ่อมาให้ได้ พ่อมาถึงก็บ่นแทบแย่ เรื่องนี้เกิดตอนอยู่ ม.2
เอาละมาเข้าถึงเรื่องที่ว่าการทำธุรกรรมใดๆก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับเรื่องการเงินนั้น เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง
ต้องพึ่งผู้ปกครองในการทำธุรกรรมใดๆก็แล้วแต่ ยกเว้น เปิดบัญชี ฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน
ประเด็นมันอยู๋ตรงที่ .... เราต้องการจะเล่นหุ้น
รู้ว่ามันยากและต้องใช้เงินทุนเยอะ แต่เราก็อยากลองดูเลยศึกษาแนวทางการเล่นหุ้นไว้ก่อน
เพราะยังไม่มีต้นทุนในการลงทุนในหุ้น หรือ กองทุน หรือการลงทุนในรูปแบบทำนองนี้
ปัญหาคือเราไม่สามารถจะเปิดบัญชีหุ้นได้ เพราะบุคคลที่จะทำได้ต้องอายุ 20 ปีขึ้นไป
เราบอกให้พ่อเปิดบัญชีเป็นชื่อพ่อแล้วให้เราใช้ พ่อก็บอกให้เอาเงินให้พ่อ 500 แล้วเดี๋ยวจะเปิดให้
แล้วหากพ่อไม่ได้ใช้เงินไปเปิดบัญชีให้เราละ ? แล้วถ้าเงินเราเข้า-ออก บัญชีชื่อพ่อ จะเป็นเยี่ยงไร
จะโดนพ่อตัวเองโกงหรือไม่....เรื่องนี้เรารู้จักนิสัยของพ่อตัวเองดี เลยเกรงใจคุณพ่อ
ที่สำคัญคือเรื่องงาน หากทำงานอายุไม่ถึง 18 ปี ก็ผิดกฏหมายอีก
มีงานอยู่เยอะเหมือนกันที่เราสามารถทำได้ คือเขาค่อนข้างจะยืดหยุ่นเรื่องกฏหมายนี้
แต่บางที่ก็ไม่ใช่เคร่งครัดมาก มันเลยเป็นการตัดโอกาสในการทำงานหาเงินเยอะๆของเราไปโดยปริยาย
ที่ทำได้ก็มีเพียงจำพวกงานพาร์ทไทม์ที่ได้เงินเพียงน้อยนิด
ทั้งๆที่เราต้องหาเงินใช้เองหมด ซื้อของอะไรก็เงินตัวเอง จ่ายค่าเทอมเอง ขนาดที่อยู่ยังได้รับจากการทำงานที่นี่
ที่เราตั้งกระทู้เพราะความสงสัยใคร่รู้และรู้สึกตะขิดตะขวงใจเป็นอย่างมากจริงๆ
ทั่วโลกนี้มีประเทศไหนที่ไม่มีกฏหมายข้อนี้บ้างไหมคะ???
ประเทศไหนที่มีการผ่อนปรนเรื่องการใช้กฏหมายข้อนี้ ???
และประเทศที่เข้มงวดกับกฏหมายข้อนี้มากๆคือประเทศไหนคะ ???
ขอขอบคุณทุกความเห็นค่ะ
ทำไมโลกนี้ต้องมีกฏหมายเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือ อายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามทำอะไรตามอำเภอใจต้องมีผู้ปกครองด้วยค่ะ
ขออนุญาตแก้ไขกระทู้เดิมว่าด้วยสอบถามเรื่องจะตั้งกระทู้นี้ เป็นเรื่องนี้เลยนะเจ้าค่ะ
เราอยากจะรู้มากๆเลยค่ะ ว่าทำไมต้องมีกฏหมายข้อนี้ด้วยมันทำให้เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างเราใช้สิทธิ์ความเป็นประชาชนประเทศไทย
ได้อย่างไม่เต็มที่...คือถึงแม้อีกปีสองปีจะเข้า 18 แล้วก็ตามที แต่เราก็มีปัญหาเรื่องสิทธินี้มาเนิ่นนาน อาจะเป็นเพราะเราแก่แดดอยากโตเกินวัย
ตั้งแต่ช่วงป.5 หรือเพราะ ฤทธิ์ยาเม็ดที่เราเริ่มกินตั้งแต่อยู่ อนุบาล 1
เรา: ยาน้ำมันขมค่ะ ขอเปลี่ยนเป็นยาเม็ดได้ไหมคะ
คุณหมอจัดยาเม็ดแทนยาน้ำให้ตามคำขอ...ขอย้ำนี่คือเรื่องตอน อนุบาล 1
หลายๆท่านคงหมั่นไส้จะรีบโตไปนะจ้ะหนูจ๋า... ?
แต่ถ้าท่านไม่เป็นเราคงไม่เข้าใจหัวอกเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่มีความคิดยิ่งใหญ่ ที่อยากทำการใหญ่หรอกเจ้าค่ะ
อายุเป็นเพียงตัวเลขใช่หรือไม่ ? เหตุใดต้องมีการกำหนดบทบัญญัติสร้างบรทัดฐานแบ่งกันขนาดนี้
คนโตใช่ว่าจะเข้าใจเรื่องง่ายๆเสมอไป...คนอายุน้อยใช่ว่าจะไม่เข้าใจโลกเสมอไป
แต่เราก็พอเข้าใจว่ากฏหมายนี้สร้างขึ้นมาเพื่อคุ้มครองสิทธิของเด็กและเยาวชน
แต่บางเรื่องก็น่าจะมีการผ่อนปรนกันบ้าง หากว่าเด็กนั้นมีวุฒิภาวะทางจิตใจที่พอๆกับผู้ใหญ่ทั่วไปไม่ต่างกัน
โดยเฉพาะ เรื่องการเงิน การรักษาพยาบาล การทำงาน
การรักษาพยาบาล เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือ ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ห้าม เข้าการรักษาที่คลิกนิกหรือโรงพยาบาลด้วยตนเอง ต้องมีผู้ปกครองหรือ ผู้ใหญ่มาด้วยและเซ็นรับรองทุกครั้ง
คำถามคือ กฏหมายแบบนี้มีความจำเป็นหรือไม่ ในการใช้ชีวิตของเด็กที่ไม่บรรลุนิติภาวะ???
คำตอบ (จากความเห็นตัวเอง) คือไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องกระทำการเช่นนี้ ยกเว้นเรื่องสำคัญมากๆ เช่น การผ่าตัด ฯลฯ
หากเด็กคนนึงอยู่คนเดียวพ่อแม่ ผู้ปกครองไม่มีใครว่างเกิดอาการป่วยหนักๆ และต้องเข้าการรักษาโดยด่วน
แต่ต้องรอให้ผู้ปกครองมาเซ็นรับรองให้ ถึงจะเข้ารักษาได้ คุณคิดว่าเด็กคนนั้นจะเป็นเช่นไร ?
หากวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาไม่ทันการณ์ท่วงที
หรือในกรณีแค่ป่วยด้วยโรคที่ธรรมดา แต่ไม่มีผู้ปกครองว่างพาไปหมอที่คลินิก เด็กก็ไม่สามารถเข้าการรักษาได้ใช่หรือไม่?
ขอบอกเลยนะจุดๆนี้ เรื่องนี้เป็นปัญหาของชีวิตเรามาก เนื่องจากที่บ้านพ่อแม่อยู่คนละที่ และไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ญาติที่ว่างๆ
ก็มีเพียงคุณย่าที่อายุ 80 ปี ถามว่า ระหว่าง ย่า กับ เรา ใครรู้เรื่องมากกว่ากัน ???
ปกติเราเข้าออกคลินิกด้วยตัวเองทุกครั้ง แต่มาวันนี้โดนว่าพร้อมเซ็นรับรองว่าต้องให้ผู้ปกครองมาด้วยทุกครั้ง
แล้วอีกอย่างคุณหมอบอกว่าสื่อสารไม่รู้เรื่อง ต้องคุยกับผู้ปกครอง
เรื่องนี้ขอคัดค้านสุดฤทธิ์เนื่องจากล่าสุดที่ขอร้องอ้อนวอนคุณพ่อให้ไปช่วยเรื่องทำบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่สำนักงานเขต
เนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนเองได้ เจ้าหน้าที่พูดแล้วพูดอีกคุณพ่อท่านก็ยังๆงงๆ ไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบ
แต่เราเข้าใจตั้งแต่คำแรกแล้ว พูดแล้วๆพูดอีก อธิบายมากมาย เราต้องเป็นล่ามแปลภาษาไทยเป็นภาษาไทยให้พ่อฟังอีกที
พ่อถึงจะเข้าใจ...
ขนาดตอนนั้นที่ป่วยหนักมากพ่อบอกให้นั่งแท๊กซี่ไปหาหมอที่รพ.พระมงกุฎด้วยตัวเอง แต่ผลคือ ต้องมีผู้ปกครองเซ็นรับรองด้วยค่ะ
เลยต้องเรียกพ่อมาให้ได้ พ่อมาถึงก็บ่นแทบแย่ เรื่องนี้เกิดตอนอยู่ ม.2
เอาละมาเข้าถึงเรื่องที่ว่าการทำธุรกรรมใดๆก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับเรื่องการเงินนั้น เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง
ต้องพึ่งผู้ปกครองในการทำธุรกรรมใดๆก็แล้วแต่ ยกเว้น เปิดบัญชี ฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน
ประเด็นมันอยู๋ตรงที่ .... เราต้องการจะเล่นหุ้น
รู้ว่ามันยากและต้องใช้เงินทุนเยอะ แต่เราก็อยากลองดูเลยศึกษาแนวทางการเล่นหุ้นไว้ก่อน
เพราะยังไม่มีต้นทุนในการลงทุนในหุ้น หรือ กองทุน หรือการลงทุนในรูปแบบทำนองนี้
ปัญหาคือเราไม่สามารถจะเปิดบัญชีหุ้นได้ เพราะบุคคลที่จะทำได้ต้องอายุ 20 ปีขึ้นไป
เราบอกให้พ่อเปิดบัญชีเป็นชื่อพ่อแล้วให้เราใช้ พ่อก็บอกให้เอาเงินให้พ่อ 500 แล้วเดี๋ยวจะเปิดให้
แล้วหากพ่อไม่ได้ใช้เงินไปเปิดบัญชีให้เราละ ? แล้วถ้าเงินเราเข้า-ออก บัญชีชื่อพ่อ จะเป็นเยี่ยงไร
จะโดนพ่อตัวเองโกงหรือไม่....เรื่องนี้เรารู้จักนิสัยของพ่อตัวเองดี เลยเกรงใจคุณพ่อ
ที่สำคัญคือเรื่องงาน หากทำงานอายุไม่ถึง 18 ปี ก็ผิดกฏหมายอีก
มีงานอยู่เยอะเหมือนกันที่เราสามารถทำได้ คือเขาค่อนข้างจะยืดหยุ่นเรื่องกฏหมายนี้
แต่บางที่ก็ไม่ใช่เคร่งครัดมาก มันเลยเป็นการตัดโอกาสในการทำงานหาเงินเยอะๆของเราไปโดยปริยาย
ที่ทำได้ก็มีเพียงจำพวกงานพาร์ทไทม์ที่ได้เงินเพียงน้อยนิด
ทั้งๆที่เราต้องหาเงินใช้เองหมด ซื้อของอะไรก็เงินตัวเอง จ่ายค่าเทอมเอง ขนาดที่อยู่ยังได้รับจากการทำงานที่นี่
ที่เราตั้งกระทู้เพราะความสงสัยใคร่รู้และรู้สึกตะขิดตะขวงใจเป็นอย่างมากจริงๆ
ทั่วโลกนี้มีประเทศไหนที่ไม่มีกฏหมายข้อนี้บ้างไหมคะ???
ประเทศไหนที่มีการผ่อนปรนเรื่องการใช้กฏหมายข้อนี้ ???
และประเทศที่เข้มงวดกับกฏหมายข้อนี้มากๆคือประเทศไหนคะ ???
ขอขอบคุณทุกความเห็นค่ะ