ญาติดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ค่ะคุณขา

เรื่องที่มาเล่านี่คือจะมาเม้ามอยญาติให้ฟังอ่ะนะคะ นี่พึ่งเป็นกระทู้แรกค่า ผิดพลาดยังไงขออภัย

หรือใครเคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับญาติตัวเองแท้ๆ ก็มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ ขอวิธีแก้เผ็ดนิดนึงก็ดีค่า

เริ่มเลยละกันนะคะ จขกท เองเกิดมาในครอบครัวปานกลางคะ มีกินมีใช้ ไม่มีหนี้ ซึ่ง ทุกๆคนในที่นี้ จะมีญาติทั้งสองฝั่งคือ พ่อ และ แม่ ใช่ไหมคะ

ฝั่งพ่อนี่ไม่มีปัญหาเลยค่า ฝั่งแม่ นี่ ปัญหาระดับโคตรเทพ เลยค่ะ คือ เรื่องของเรื่อง แม่ ของจขกทเป็น คนที่3 นะคะ (มีพี่น้องทั้งหมด5คน)

คือ ครอบครัวของเรา นี่ อยู่ กรุงเทพ นะคะ รวมถึง พี่สาวแม่คนโต ค่ะ แต่อยู่คนละบ้านนะคะ แยกกันเป็นแต่ละครอบครัวค่ะ ส่วนญาติๆที่เหลืออยู่ ตจว นะคะ

เรื่องของเรื่องเริ่มที่ตอนเด็กๆ เราชอบไปเล่นบ้านป้าคะ ขอแทนพี่สาวคนโตของแม่ว่าป้าละกันนะคะ ซึ่งป้า เนี่ย มีลูกชาย 2 คน ละตัว ลูกชายก็มี ลูกชายอีก 2 คน
งงไหม เอ่ย? ซึ่งเวลา จขกท ไปเล่นบ้านป้า ก็ไปเล่นกับลูกของลูกชายป้าอีกทีคะ เพราะห่างกันบวกลบไม่น่าจะเกิน 2 ปี นะคะ ซึ่งพอไปเล่นสักพักค่า ป้าก็

แบบออกมาฟ้องแม่ว่า จขกท แบบ ไปยุ่งกับเด็กผู้ชายข้างบ้าน คือ คุณพระ ตอนนั้น ป6 คะ เล่นกันแบบวิ่งเล่นหน้าบ้าน บอลลูนโป้ง ต่ายขาเดียวแบบบ้าบอ
ค มีเตะบอลด้วยซ้ำไปค่ะ ซึ่ง จขกท จะออกห้าวๆทอมๆหน่อยแต่ผมยาวนะคะ

แม่ก็แบบเชื่อค่ะ คุณขา ละก็แบบห้ามไม่ให้ จขกท แบบไปเล่น ในบ้านป้าอีกคะ ซึ่งตอนจขกท ไปเล่นนะคะ ก็ไปช่วยล้างจาน เก็บจาน ให้พวกหลานๆของป้าเวลากินข้าวเสร็จนะคะ ไม่ได้เล่นฟรีๆ แม่ก็ให้เงินป้าค่าข้าวด้วยคะ

ลืมเล่าคะ เหมือนมีตอนนึงที่ จขกท ไปต่อว่าป้าคะ คือไม่ได้ว่า ว่า เรื่องอะไร แต่แบบป้ารีบโทรฟ้องแม่ใหญ่โต ซึ่งแบบ จขกท ฟังจากที่เล่าคือ แบบ xประชากรจีน ประการอินเดีย แบบไม่ต้องหารเลยคะ เล่าแบบเราเห้มากขนาดนั้น แต่รอบนี้โชคดีคะ ที่แม่เราไม่เชือ่100%เลยรอดมา

สักพักคะ พอขึ้น มัธยม จขกท ก็เข้าเรียนที่ โรงเรียนรัฐแห่งนึงใน กทม ไกล้ๆกับ โรงเรียน หลานอิป้า คะ แบบ ป้าก็ชอบ มโนโทรไปฟ้องแม่ ว่า เห็น จขกท เดินอยู่หน้า โรงเรียน แบบ เดินดูด น้ำ เดิน ซื้อขนม (คือ แม่จขกท ค่อนข้างเซ็นซิทีฟกับเรื่องการออกไปนอกโรงเรียนเดี๋ยวมีเล่าตอนท้ายนะคะ) แม่ก็รีบโทรเลยคะ ตอนนั้นก็งง ไรวะ กูเล่นบาสอยู่ในโรงเรียน แม่ก็แบบทำเสียงดุๆ ละแบบ รีบกลับบ้าน

เรื่องต่อไปคือ วันนั้น จขกท ต้องไปทำธุระ แบบด่วนจี๋กับพ่อกับแม่ แบบไปรถเมล์คะ กระเป๋าเกะกะไงคะ ทีนี้ กว่าจะไปถึงบ้านไกล แม่เลยบอกฝากบ้านป้าก่อนไหมจะได้ไม่ต้องเสียเวลา จขกท ก็อ่ะ ไว้ใจคะ ฝาก พอกลับจากธุระ แม่ก็ทำหน้าเปลี่ยนไป หน้าตึงใส่เฉยคะ อีเราก็งงถามคำตอบคำ ทำเสียงเย็นชา ว่า รอพี่ลูกป้ามาพร้อมกระเป๋านักเรียน สรุปว่า ลูกป้าค่า ค้นกระเป๋านักเรียนเราคะ ยิ้มยยยยมากทีนี้ (จมรักในวัยคอซองโคตรฮิตในหมู่นร.ญล้วน) แม่ก็แบบด่าเราค่ะ ขยำ จม เราทิ้ง จำได้ว่าโดนตี ละก็แบบสั่งให้เราเลิกเรียนแล้วกลับบ้านเลยคะ คือ สามโมงครึ่งต้องถึงบ้าน แบบเลิกสามโมงไรงี้

ค่ะพอเราโตมา เราก็ไม่ค่อยสุงสิงกับบ้านป้าเท่าไหร่นะคะ คือเรารู้ว่าป้า ก็ไม่ค่อยชอบเรา เพราะเราเป็นคนไม่ยอมอะคะ บ้างครั้งเราก็งงแม่ นะคะ เหมือนบางทีก็มาเตือนเรื่อง ป้า บางที ก็พูดให้เราเข้าใจ ป้า แต่แม่เป็นคนรักพี่รักน้องมากคะ ละชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับหลานป้า คะ เช่นทำไมลูกไม่ดีแบบพี่เค้า ,ดูพี่เค้าเป็นตัวอย่างสิ

คือแบบจริงๆแล้วจะมีใครรู้ไหม ว่าหลายป้า นี่เค้าก็สายดาร์กเหมือนกันนะคะ แบบตีชาวบ้าน แบบทำเป็นเท่ แบบเฟี้ยวฟ้าว ซึ่งอยู่ต่อหน้าพ่อแม่นางจะเรียบร้อยเป็นเด็กดีในโอวาท คือ ถุ้ยละคะ จริงๆ

ค่ะ พออายุอานามเราบรรลุนิติภาวะมา 3 ปี เราอยู่หอคะ ไกล้จะจบแล้ว วันนึงฟ้าครึ้มใจ เราอยากไปหาญาติๆเราที่ ตจว คะ คือเราไม่ได้ไปหานานมากกกกกกกกก ประมาณ 3-4 ปีได้คะ เราเลยขับรถไปคะ ไปถึงยังไม่มีอะไร เราก็ไปไหว้ ทักทาย เจอกัน ตามประสาญาติพี่น้อง ที่ไม่รู้รักกันจริงหรือป่าว

พอกลับมาหอก็ไม่มีอะไรคะ สักพักแม่ก็โซเชี่ยวมาถามเราคะ ว่าเราไปบ้านญาติ ร๋อ ทำไมไม่บอกแม่ไรงี้ ตอนแรกเราก็ยังไม่รับคะ ก็โกหกไปว่าไม่ได้ไป สุดท้ายก็บอกคะ ว่าไปจริงๆ (เหตุผลทำไมต้องโกหกจะเล่าให้ฟังนะคะ) คนที่บอก แม่เราคือ ป้าคะ แม่ก็มาสายดราม่าคะ หาว่าเค้าไม่ดีอย่างงั้นอย่างี้ คนอื่นรู้หมดทำไมเค้าไม่รู้อยู่คนเดียว พาลมาโกรธเราคะ เราก็อธิบายเค้านะคะ ว่าเราไปแบบฉุกละหุก ไม่ได้เตรียมแพลนไป ละเราก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดี เราไปหาญาติแบบเราผิดอะไร?

***แบบคือ เราต้องอธิบายก่อนะคะว่า แม่ จขกท คืออ่อนแอ อ่ะคะ รับอะไรไม่ค่อยได้ คือบางครั้ง จขกท ไม่ได้อยากโกหกอะไรเลยนะคะ ตั้งแต่เด็กจนจะวัยเบญจเพศเนี่ย จขกท ไม่เคยได้มีโอกาสพูดความจริงกับแม่เลยคะ โกหกเพื่อให้ท่านสบายใจ ไม่ใช่ข้ออ้างด้วยนะคะ คือแม่เรา ไม่เคยให้เราไปเที่ยวกับเพื่อน
ถ้าบอกตรงๆนะคะ คือเค้าชอบว่าลูกคนอื่น ดูข่าว คือแบบ วัวหายแล้วล้อมคอก เค้าเลยล้อมเราไว้ในคอกอ่ะนะ กลัวหาย คือ ตั้งแต่เด็กมา ถ้าไม่ใช่ วันที่ไปโรงเรียน จขกท ก็จะไม่ได้ออกจากบ้านเลยนะคะ หรือถ้าออก เช่นไปซื้อเสื้อผ้าเพื่อใช้สำหรับงานแสดงละคร ก็ สามโมงเย็น ก็โทรตามละคะ กลับมาสี่โมงครึ่งโดนฟาดนะคะ พอโตขึ้นได้อยู่หอ แบบเพื่อนยังถามเลยคะ ว่าทำไมถึงได้อยู่ เห็นจากความไม่ปล่อยของแม่อ่ะนะคะ แม่ จขกท จะเป็นประเภทที่คิดไปไกลอ่ะคะ เช่น ตอนนั้นไปจ่ายค่าเรียน ขับรถไปละไม่ได้เอามือถือไปเอาไว้ในรถคะ เพราะคิดว่าเสียตังแปปเดียวน่าจะเสร็จ เหมือนระบบล่มละต้องรอตารางเรียนเลย มันเลยช้า จากรถก็เดินไกลมากคะ เลยไม่ได้เดินมาหยิบมือถือ แบบแม่แทบจะโทรหา จส100 นะคะ 555555 คือแบบบางครั้งเราก็อยากบอกแม่ อยากเล่าเรื่องราวในชีวิตให้ฟัง อยากรายงานว่าวันนี้ไปสังสรรค์กับเพื่อนไรงี้ แต่ทำไม่ได้อ่ะคะ แม่บอกว่าถ้าไปยุ่งจะไม่คุยด้วยตลอดชีวิตไรงี้  

** คือแม่อยากรู้เรื่องราวในชีวิตจขกท แต่ จากประสบการณ์ที่อยู่กับแม่มา คือ แม่ไม่โอเค แน่ๆอ่ะคะ ถ้าบอกไป คือมันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ แม่ จขกท ว่าไม่ธรรมดา   เช่นเรื่องมีแฟน แม่ห้ามนะคะ ไม่ให้มี จขกท ก็ไม่มี  แบบแค่หนังฝรั่งที่มีจูบกัน แม่ยังไม่ไห้ดูเลยคะ คือแบบว่า แม่ไม่เปิดรับอะไรพวกนี้ แน่ๆ คือ จขกท ก็วัยรุ่นธรรมดา ค่ะ มีเรียน มีเที่ยว มีปาร์ตี้ แต่ทุกอย่างอยู่ในกรอบกำหนด และที่สำคัญ ยังบริสุทธิ์ค่ะ แต่สิ่งที่แม่คาดหวังแค่ แบบ เรียน-กลับหอ ค่ะ

งั้นขอถามค่ะ  
ญาติแบบนี้ เราควรมีวิธีแก้อย่างไรดีคะ คือความคิดของ จขกท คือ คนที่คิดไม่ดีกับครอบครัวเรา เราก็ไม่อยากยุ่งใช่ไหมคะ แต่ทำไมแม่ยังไม่ยุ่งกับป้าอยู่ได้ หรือเพราะว่า คำว่าพี่น้อง?

แล้วพ่อแม่ควรจะรู้ทุกเรื่องในชีวิตเราเลยหรือป่าวค่ะ จริงๆแล้ว ทุกคนควรมี privacy ในตัวเองไหมคะ ในอดีต พ่อแม่เราทำอะไร เรายังไม่สนใจ ไม่ขุดคุ้ยเลยคะ แต่ทำไม พ่อถึงต้องรู้ทุกๆเรื่องในชีวิตเราคะ พอรู้แล้วก็มาดราม่าใส่ มาทะเลาะ

คือ เราเป็นคนไม่มีพี่น้องแท้ๆค่ะ เวลามีเพื่อนจะสนิทกับเพื่อนมาก เพราะไม่มีคนคอยให้คำปรึกษาคะ

ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ ขอระบายนิดนึงละกัน ง่วงมากตาจะปิด พิมผิดๆถูกๆ ขออภัยด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่