นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่ามีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2% เหลือ 1.75% เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงกว่าที่คาดไว้ โดยแรงกระตุ้นจากภาคการคลังต้องใช้เวลา และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำ
"กรรมการ 4 เสียงเห็นว่านโยบายการเงินควรผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจ และพยุงความเชื่อมั่นของภาคเอกชน ส่วนกรรมการอีก 3 เสียงมองอัตราดอกเบี้ย 2% ผ่อนปรนเพียงพอต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควรรักษานโยบายการเงินไว้สำหรับเวลาที่จำเป็นและมีประสิทธิผลมากกว่าปัจจุบัน"
นายเมธี กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/2557 และช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.2558 ยังคงฟื้นตัวค่อนข้างช้า โดยมีแรงส่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนน้อยกว่าคาด ส่วนหนึ่งเนื่องจากความเชื่อมั่นของภาคเอกชนลดลง เศรษฐกิจในระยะต่อไปยังมีแนวโน้มฟื้นตัวในอัตราต่ำกว่าที่ประเมินไว้ การส่งออกสินค้าคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงกับที่คาด แต่มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
เลขานุการ กนง. กล่าวด้วยว่า จากการใช้จ่ายของภาครัฐและภาคเอกชนที่อ่อนแรงกว่าที่คาด ทำให้แรงส่งทั้งปีชะลอตัวลง ซึ่งจากสัญญาณนี้ทำให้ ธปท.เตรียมจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย และการส่งออกของไทยในปี 2558 ใหม่อีกครั้งในวันที่ 20 มี.ค. จากปัจจุบันที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 4% และการส่งออกโตได้ 1%
ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยว่า การลดดอกเบี้ยจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้นจากการลงทุนภาคเอกชนที่ต้นทุนการลงทุนจะลดลง ประชาชนที่มีเงินออมจะมีกำลังการซื้อเพิ่มขึ้น ส่วนผลทางอ้อมจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง หากประเมินจากสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ การลดดอกเบี้ย 0.25% ถือว่าดีแต่ยังไม่น่าจะกระตุ้นอะไรได้มาก เพราะหากจะให้เห็นผลต้องลดประมาณ 0.50%
ธนาคารไทยพาณิชย์แจ้งว่า ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ลง 0.20% ขณะที่ดอกเบี้ยออมทรัพย์ไม่เปลี่ยนแปลง มีผลตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.นี้เป็นต้นไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU5qQTROVFE0Tmc9PQ%3D%3D&subcatid
++++++++++++++++++++++
เห็นตอนเดือนม.ค.บอกส่งออกปี58จะโต4% ตอนนี้เหลือ1%แล้ววว
แบงก์ชาติต้านไม่ไหว หั่นดอก 0.25% เล็งปรับจีดีพี-ส่งออกลงอีก
"กรรมการ 4 เสียงเห็นว่านโยบายการเงินควรผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจ และพยุงความเชื่อมั่นของภาคเอกชน ส่วนกรรมการอีก 3 เสียงมองอัตราดอกเบี้ย 2% ผ่อนปรนเพียงพอต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควรรักษานโยบายการเงินไว้สำหรับเวลาที่จำเป็นและมีประสิทธิผลมากกว่าปัจจุบัน"
นายเมธี กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/2557 และช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.2558 ยังคงฟื้นตัวค่อนข้างช้า โดยมีแรงส่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนน้อยกว่าคาด ส่วนหนึ่งเนื่องจากความเชื่อมั่นของภาคเอกชนลดลง เศรษฐกิจในระยะต่อไปยังมีแนวโน้มฟื้นตัวในอัตราต่ำกว่าที่ประเมินไว้ การส่งออกสินค้าคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงกับที่คาด แต่มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
เลขานุการ กนง. กล่าวด้วยว่า จากการใช้จ่ายของภาครัฐและภาคเอกชนที่อ่อนแรงกว่าที่คาด ทำให้แรงส่งทั้งปีชะลอตัวลง ซึ่งจากสัญญาณนี้ทำให้ ธปท.เตรียมจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย และการส่งออกของไทยในปี 2558 ใหม่อีกครั้งในวันที่ 20 มี.ค. จากปัจจุบันที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 4% และการส่งออกโตได้ 1%
ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยว่า การลดดอกเบี้ยจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้นจากการลงทุนภาคเอกชนที่ต้นทุนการลงทุนจะลดลง ประชาชนที่มีเงินออมจะมีกำลังการซื้อเพิ่มขึ้น ส่วนผลทางอ้อมจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง หากประเมินจากสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ การลดดอกเบี้ย 0.25% ถือว่าดีแต่ยังไม่น่าจะกระตุ้นอะไรได้มาก เพราะหากจะให้เห็นผลต้องลดประมาณ 0.50%
ธนาคารไทยพาณิชย์แจ้งว่า ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ลง 0.20% ขณะที่ดอกเบี้ยออมทรัพย์ไม่เปลี่ยนแปลง มีผลตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.นี้เป็นต้นไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU5qQTROVFE0Tmc9PQ%3D%3D&subcatid
++++++++++++++++++++++
เห็นตอนเดือนม.ค.บอกส่งออกปี58จะโต4% ตอนนี้เหลือ1%แล้ววว