สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่าเขียนรีวิวเป็นครั้งแรก เผื่ออ่านแล้วดูงงๆ หรือเรียบเรียงไม่ดีนะคะ
ทริปนี้เริ่มต้นมาจากได้ Voucher ที่พักฟรีที่พราวภูฟ้า เชียงใหม่ค่ะ เลยเซิสหาข้อมูลว่าอยากไปไหนบ้าง ออกมาเป็น 3 ที่ หลักๆตามหัวข้อค่ะ
Day 1...พระธาตุดอยสุเทพ, ภูพิงค์, พราวภูฟ้า
ออกเดินทางตั้งแต่ตี 5.55 ค่ะ ไม่ใช่อะไรที่จองเช้าขนาดนี้เพราะจองตั๋วราคาโปรค่ะ คนละ 975 เองค่ะ ^^
ถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 7 โมงนิดๆค่ะ เราจองเช่ามอเตอร์ไซค์ไว้ 2 วันเพื่อขับเที่ยวตามแพลนที่วางไว้
แนะนำร้าน Bikky เลยค่ะ ราคาไม่แพง ต่อรองได้ เจ้าของใจดีลดให้ด้วยค่ะ 2 วันก็ 450 รวมค่าส่งรถที่สนามบิน 50 บาท เป็น 500 บ. ค่ะ
หลังจากได้รถก็มุ่งไปกราบไหว้พระธาตุประจำปีมะโรง ซึ่งเป็นปีเกิดของแฟนเรา เอาฤกษ์ เอาชัยก่อนที่พระสิงห์วรมหาวิหาร
อยู่บริเวณคูเมืองห่างจากสนามบินประมาณ 4 กม. ค่ะ ที่วัดนี้เป็นที่ประดิษฐาณ พระพุทธสิหิงค์ด้วยค่ะ
จากนั้นก็แว๊นกันต่อค่ะ ขึ้นไปกราบไหว้พระธาตุดอยสุเทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เชียงใหม่มาทีไรต้องมาไหว้นะคะเพื่อเป็นสิริมงคล
ห่างจากคูเมือง ประมาณ 15 กม.
และต่อด้วยเดินชมดอกไม้สวยๆที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ห่างจากดอยสุเทพประมาณ 5 กม. เท่านั้นค่ะ ค่าเข้าคนละ 20 บาท
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เพราะงั้นจากภูพิงค์เราจึงลงมาแวะเติมพลังด้วยข้าวซอยเสมอใจเจ้าดัง ก่อนเดินทางสู่แม่ริมห่างจากตัวเมืองเกือบ 30 โล
เอาล่ะ ถึงที่พักของเราแล้ว พราวภูฟ้า เรียกว่าเห็นแล้วหายเหนื่อย แว๊นตากแดด ตัวดำกันมา ถือว่าคุ้มจริงๆค่ะ ที่สำคัญคือฟรีค่ะ ^^
ตรงนี้เป็นโซนร้านอาหารของรีสอร์ทค่ะ มีมุมให้จิบกาแฟเบาๆ นอนชมวิวภูเขาด้วยนะคะ ฟินมาก
หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศรอบๆแล้วก้อพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ พรุ่งนี้ลุยต่อ
Day2...ม่อนแจ่ม ร้านกาแฟริมน้ำปิง นิมมาน
ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อไปสูดอากาศดีๆที่ม่อนแจ่มค่ะ จากที่พักของเราไปประมาณเกือบ 10 กม. ตอนแว๊นมานี่หนาวมากๆเลยค่ะ
ไม่ได้เอาแจคเกตหนามากันเลย เพราะคิดว่าคงไม่หนาวแล้ว
ระหว่างทางไปม่อนแจ่มผ่านไร่สตรอเบอรี่เยอะแยะเลยแต่ไม่ได้แวะ แถมยังเจอดอกซากุระป่าด้วยค่ะ แต่ขาไปกลัวไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้นเลยแวะถ่ายตอนขากลับ
ตอนถ่ายรูปกันอยู่เจอน้องหมาตัวนี้ ไม่รู้ว่าหลงมาจากไหน พยามจะขึ้นมอไซไปกะเรา แต่ว่าด้วยความที่เราก็ไม่รู้จะพาไปไว้ที่ไหนก็เลยต้องปล่อยน้องไว้ตรงนั้น สงสารจุง T_T
พอกลับที่พัก Check Out เรียบร้อยก้อเดินทางกลับตัวเมืองค่ะ ระหว่างทางแวะน้ำตกแม่สาค่ะ ค่าเข้าชมคนละ 20 บ. ค่านำมอไซเข้าอีกคันละ 30 บ. ค่ะ น้ำตกแม่สานี่มี 10 ชั้นค่ะ แต่เราเดินไปถึงแค่ชั้น 7 ก็เหนื่อยแล้วเลย นั่งพักแปบนึง ก็กลับออกมาเลย
พอถึงนิมมานรีบหาที่พักเลยค่ะ เน้นราคาไม่แพงมาก เพราะวันนี้ตั้งจัยขับรถเล่นรอบๆเมืองแล้วก็ Hang Out ยามค่ำคืนกันด้วย
มีรุ่นพี่แนะนำที่นี่ค่ะ Chiangmai Flora อยู่ ซ.นิมมาน 17 ราคา 700 ต่อคืน มีแอร์+น้ำอุ่น+อาหารเช้า ราคาเบาๆแบบนี้เราก็จัดเลยค่ะ
เก็บของเรียบร้อย ก็เริ่มหาร้านกาแฟนั่งชิลๆยามบ่าย ได้รุ่นพี่คนเดิมแนะนำร้าน Nakara Jardin ค่ะ
บรรยากาศดีมาก อยู่ริมแม่น้ำปิงเลยรสชาติก็ใช้ได้ ราคาไม่แพง บริการดีค่ะ
** อ่อลืมบอกไปค่ะ ถ้าจะไปตามสถานที่ๆเรารีวิว GPS ช่วยคุณได้ค่ะ เพราะทริปนี้เราก็ใช้ GPS นำทางตลอดเลยค่ะ
พอแดดร่ม ลมตก ก็ออกจากร้านกาแฟและแว๊นไปรอบๆเมือง จนเริ่มหิว เลยหิ้วท้องไปฝากม้อเย็นที่ดลาดโต้รุ่งช้างเผือกค่ะ
ที่นี่เป็นแหล่งรวมความอร่อยหลายเมนูเลยนะคะ ราคาก็กันเองอีกด้วย เรียกว่าถูกและดีมีในโลกค่าาา
เริ่มด้วยสุกี้เจ้าเด็ด ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวโคคา ราคา 40 บ.เท่านั้น (ต้องบอกว่าไปร้านนี้ถ้าสั่งสุกี้แห้งนะคะ จะได้กลิ่นหอมๆของกระทะ)
และน้ำจิ้มเค้านี่เด็ดจริงๆค่ะ พอดีว่าไปเชียงใหม่คราวก่อนเคยมากินแล้วติดใจเลยมาซ้ำค่ะ ไม่พอค่ะใกล้ๆกันจะมีลูกชิ้นหมูปิ้งลูกเล็กๆ สั่งมากินกรุบกริบด้วยก็เลิศค่า ตบด้วยบัวลอยไข่หวาน+น้ำส้มปั่นเจ้าเดียวกะบัวลอยมื้อนี้คนละ 100 บาทไทย อิ่มแปร้เลยค่ะ
ทั้ง 3 อย่างนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลย เพราะหิวจัด 55 เอาล่ะหลังอิ่มท้องเราก้อเริ่มท่องราตรีกันเบาๆ ขับวนไปมารอบนิมมานมีร้านน่านั่งเยอะมาก แต่..คืนวันศุกร์อย่างงี้ คนเต็มแทบจะทุกร้านเลย เราเลยไปจบที่ร้านนี้ค่ะ วิเศษ 168 ไม่รู้ความหมายของชื่อร้านเหมือนกันแต่คนเยอะดี
มีทั้งโซนด้านในห้องแอร์และโซน Outdoor เราเลือกนั่งด้านนอกค่ะ ชิวดี ราคาไม่แพงด้วย คืนนี้ชิลเบาๆแล้วก็กลับที่พักเพราะพรุ่งนี้ลุยเชียงดาวค่ะ
วDay 3...บ้านระเบียงดาว ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน
ตื่น 6 โมงเช้าอีกเช่นเคย มาเที่ยวเนี่ยตื่นเช้าทุกวัน ตอนทำงานไม่ค่อยจะตื่นหรอกค่ะ ฮี่ๆๆ หลังทานมื้อเช้าที่โรงแรมแล้วก็ขับมอไซค์ไปคืนที่ร้าน Bikky สาขาห้วยแก้วค่ะ แล้วก็นั่งสองแถวต่อไปที่ขนส่งช้างเผือกเพื่อขึ้นรถโดยสารเชียงใหม่-ท่าตอน รอบ 08.30 น.ไปลงเชียงดาวค่ะ
บอกพนักงานบนรถว่าลงหน้า Lotus Express นะคะ ไม่งั้นจะเดินไกลมาก ค่ารถก็คนละ 40 บาทเท่านั้นค่ะ 1 ชม. ครึ่ง เราก็ถึงที่หมาย รีบ
โทร.หาเจ้าของที่พักบ้านระเบียงดาวเลยค่ะ โชคดีมากๆตอนนั้นเวลาประมาณ 10 โมงนิดๆค่ะ ที่เจ้าของเค้าลงมาซื้อของพอดีค่ะ ไม่งั้นเราต้องเหมารถสองแถวไปคัน 700 บาทแน่ะ อันนี้เราแอบถามคนขับสองแถวที่จอดอยู่ไม่ไกลจาก Lotus ดูค่ะ ถ้าไปกัน 2 คน นี่แพงใช่เล่นนะคะ แต่พอขึ้นรถกระบะคุณลุงเจ้าของมาถึงบ้านระเบียงดาวจึงได้เก็ตว่า อ๋อออ ทำไมเค้าถึงคิด 700 ฮ่าๆ ทางมันโค้ง ชันแบบแทบอ๊วกเลยทีเดียว อีกอย่างลุงขับซิ่ง แต่ชำนาญทางมากค่ะ อ่อก่อนจะขึ้นมาบ้านระเบียงดาวเนี่ย ระหว่างรอลุงเจ้าของช้อปปิ้ง ลุงแกแนะนำข้าวขาหมูพรเพ็ญเจ้าเด็ดค่ะ เคยอ่านรีวิวก่อนไปเหมือนกันนะคะ แต่ตอนนั้นยังอิ่มเลยซื้อใส่กล่องกลับไปกินที่พักค่ะ ขอบอกว่าเด็ดจิงๆ
ถึงแล้วววบ้านระเบียงดาว ที่เค้าว่ากันว่าที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน อย่าถามหาสันยานเน็ตนะคะ สันยานมือถือยังไม่มีเลยค่ะของเราใช้ true ของแฟนใช้ dtac ขึ้น no service เลย แต่เห็นว่า AIS มีสัณยานนะคะ ถ้าโทร.ไปจองที่พักต้องโทร.หลายๆรอบหน่อยค่ะ ติดยากเหมือนกัน 555+
ตรงนั้นเป็นหลังที่เราพักค่ะ ถ้าใครเคยอ่านรีวิวมาบ้างน่าจะพอทราบว่าที่นี่เค้าคิดหัวละ 500 บาทเท่านั้น มีอาหารเย็นและอาหารเช้าให้ค่ะ
ห้องพักของเราจริงๆนอนได้ 4-5 คน นี่ขนาดไปช่วงที่ไม่ใช่ high seoson นะคะ ยังเต็มทุกหลังเลย
หลังจากเก็บของเสร็จ ก้อเริ่มหามุมถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย ต้องบอกก่อนนะคะว่าเราไปช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ตอนกลางวันค่อนข้างร้อน ห้องพักที่ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม เราก้อนอนเล่นริมระเบียง พอมีลมอยู่บ้าง แต่ตอนเช้านี่หนาวเลยค่ะ ประมาณ 16-17 องศา เห็นลุงแกบอกถ้ามาหน้าหนาวนี่ 6-7 องศาเลยทีเดียวค่ะ ส่วนกลางคืนก็ประมาณ 20 นิดๆ ถ้าอยู่ในห้องก็กำลังเย็นสบายเลยค่ะ แต่ตอนนั่งชิลข้างนอกนี่ก็หนาวใช้ได้เลย
มื้อเย็นของเราค่ะ มีผัดผัก + น้ำพริกลีซอ + ไข่เจียว เป็นอาหารบ้านๆง่ายแต่รสชาตินี่ใช้ได้เลยนะคะ
ปิดท้ายมื้อเย็นด้วยดริ๊งเบาๆ ที่เราซื้อมาจากเซเว่น ก่อนขึ้นมาค่ะ ที่นี่ก้อมีขายนะคะ แต่ไม่เยอะ ลุงแกบอกซื้อขึ้นไปเลย ข้างบนขายแพงกว่า
(เอ๊อ แกก้อดีนะ ไม่กะเอากำไรกะเรา ถ้าเป็นเราคงบอก ไปซื้อข้างบนก้อได้ 555 )
เอาล่ะ เช้านี่ตื่นมาเพราะเสียงไก่ขันจริงๆค่ะ 6 โมงเช้า ออกมารอดูพระอาทิตย์ขึ้น ระหว่างรอก้อมี ชาร้อน และ กาแฟ+โอวัลติน บริการนะคะ
พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่มาทักทายค่ะ
ชอบมุมนี้ค่ะ อันนี้แอบถ่ายน้องที่ขึ้นกระบะลุงมาด้วยกันทั้งขาไป ขากลับ แต่ไม่คุยกันเลยซักคำ 55
ก่อนกลับยังหันไปแชะอีกภาพ
พอกลับจากเชียงดาวมาถึงนิมมานก้อไปนั่งคาเฟ่อีก 2 ที่ เพราะรอกลับไฟลต์เย็นละก้อได้แวะไปทานอาหารพื้นเมืองที่
ร้านเฮือนเพ็ญด้วยค่ะ ขอบอกว่าลำแต๊ๆจ้าว
[CR] ตะลุยแม่ริม-นิมมาน-บ้านระเบียงดาว 4 วัน 3 คืน
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่าเขียนรีวิวเป็นครั้งแรก เผื่ออ่านแล้วดูงงๆ หรือเรียบเรียงไม่ดีนะคะ
ทริปนี้เริ่มต้นมาจากได้ Voucher ที่พักฟรีที่พราวภูฟ้า เชียงใหม่ค่ะ เลยเซิสหาข้อมูลว่าอยากไปไหนบ้าง ออกมาเป็น 3 ที่ หลักๆตามหัวข้อค่ะ
Day 1...พระธาตุดอยสุเทพ, ภูพิงค์, พราวภูฟ้า
ออกเดินทางตั้งแต่ตี 5.55 ค่ะ ไม่ใช่อะไรที่จองเช้าขนาดนี้เพราะจองตั๋วราคาโปรค่ะ คนละ 975 เองค่ะ ^^
ถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 7 โมงนิดๆค่ะ เราจองเช่ามอเตอร์ไซค์ไว้ 2 วันเพื่อขับเที่ยวตามแพลนที่วางไว้
แนะนำร้าน Bikky เลยค่ะ ราคาไม่แพง ต่อรองได้ เจ้าของใจดีลดให้ด้วยค่ะ 2 วันก็ 450 รวมค่าส่งรถที่สนามบิน 50 บาท เป็น 500 บ. ค่ะ
หลังจากได้รถก็มุ่งไปกราบไหว้พระธาตุประจำปีมะโรง ซึ่งเป็นปีเกิดของแฟนเรา เอาฤกษ์ เอาชัยก่อนที่พระสิงห์วรมหาวิหาร
อยู่บริเวณคูเมืองห่างจากสนามบินประมาณ 4 กม. ค่ะ ที่วัดนี้เป็นที่ประดิษฐาณ พระพุทธสิหิงค์ด้วยค่ะ
จากนั้นก็แว๊นกันต่อค่ะ ขึ้นไปกราบไหว้พระธาตุดอยสุเทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เชียงใหม่มาทีไรต้องมาไหว้นะคะเพื่อเป็นสิริมงคล
ห่างจากคูเมือง ประมาณ 15 กม.
และต่อด้วยเดินชมดอกไม้สวยๆที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ห่างจากดอยสุเทพประมาณ 5 กม. เท่านั้นค่ะ ค่าเข้าคนละ 20 บาท
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เพราะงั้นจากภูพิงค์เราจึงลงมาแวะเติมพลังด้วยข้าวซอยเสมอใจเจ้าดัง ก่อนเดินทางสู่แม่ริมห่างจากตัวเมืองเกือบ 30 โล
เอาล่ะ ถึงที่พักของเราแล้ว พราวภูฟ้า เรียกว่าเห็นแล้วหายเหนื่อย แว๊นตากแดด ตัวดำกันมา ถือว่าคุ้มจริงๆค่ะ ที่สำคัญคือฟรีค่ะ ^^
ตรงนี้เป็นโซนร้านอาหารของรีสอร์ทค่ะ มีมุมให้จิบกาแฟเบาๆ นอนชมวิวภูเขาด้วยนะคะ ฟินมาก
หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศรอบๆแล้วก้อพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ พรุ่งนี้ลุยต่อ
Day2...ม่อนแจ่ม ร้านกาแฟริมน้ำปิง นิมมาน
ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อไปสูดอากาศดีๆที่ม่อนแจ่มค่ะ จากที่พักของเราไปประมาณเกือบ 10 กม. ตอนแว๊นมานี่หนาวมากๆเลยค่ะ
ไม่ได้เอาแจคเกตหนามากันเลย เพราะคิดว่าคงไม่หนาวแล้ว
ระหว่างทางไปม่อนแจ่มผ่านไร่สตรอเบอรี่เยอะแยะเลยแต่ไม่ได้แวะ แถมยังเจอดอกซากุระป่าด้วยค่ะ แต่ขาไปกลัวไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้นเลยแวะถ่ายตอนขากลับ
ตอนถ่ายรูปกันอยู่เจอน้องหมาตัวนี้ ไม่รู้ว่าหลงมาจากไหน พยามจะขึ้นมอไซไปกะเรา แต่ว่าด้วยความที่เราก็ไม่รู้จะพาไปไว้ที่ไหนก็เลยต้องปล่อยน้องไว้ตรงนั้น สงสารจุง T_T
พอกลับที่พัก Check Out เรียบร้อยก้อเดินทางกลับตัวเมืองค่ะ ระหว่างทางแวะน้ำตกแม่สาค่ะ ค่าเข้าชมคนละ 20 บ. ค่านำมอไซเข้าอีกคันละ 30 บ. ค่ะ น้ำตกแม่สานี่มี 10 ชั้นค่ะ แต่เราเดินไปถึงแค่ชั้น 7 ก็เหนื่อยแล้วเลย นั่งพักแปบนึง ก็กลับออกมาเลย
พอถึงนิมมานรีบหาที่พักเลยค่ะ เน้นราคาไม่แพงมาก เพราะวันนี้ตั้งจัยขับรถเล่นรอบๆเมืองแล้วก็ Hang Out ยามค่ำคืนกันด้วย
มีรุ่นพี่แนะนำที่นี่ค่ะ Chiangmai Flora อยู่ ซ.นิมมาน 17 ราคา 700 ต่อคืน มีแอร์+น้ำอุ่น+อาหารเช้า ราคาเบาๆแบบนี้เราก็จัดเลยค่ะ
เก็บของเรียบร้อย ก็เริ่มหาร้านกาแฟนั่งชิลๆยามบ่าย ได้รุ่นพี่คนเดิมแนะนำร้าน Nakara Jardin ค่ะ
บรรยากาศดีมาก อยู่ริมแม่น้ำปิงเลยรสชาติก็ใช้ได้ ราคาไม่แพง บริการดีค่ะ
** อ่อลืมบอกไปค่ะ ถ้าจะไปตามสถานที่ๆเรารีวิว GPS ช่วยคุณได้ค่ะ เพราะทริปนี้เราก็ใช้ GPS นำทางตลอดเลยค่ะ
พอแดดร่ม ลมตก ก็ออกจากร้านกาแฟและแว๊นไปรอบๆเมือง จนเริ่มหิว เลยหิ้วท้องไปฝากม้อเย็นที่ดลาดโต้รุ่งช้างเผือกค่ะ
ที่นี่เป็นแหล่งรวมความอร่อยหลายเมนูเลยนะคะ ราคาก็กันเองอีกด้วย เรียกว่าถูกและดีมีในโลกค่าาา
เริ่มด้วยสุกี้เจ้าเด็ด ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวโคคา ราคา 40 บ.เท่านั้น (ต้องบอกว่าไปร้านนี้ถ้าสั่งสุกี้แห้งนะคะ จะได้กลิ่นหอมๆของกระทะ)
และน้ำจิ้มเค้านี่เด็ดจริงๆค่ะ พอดีว่าไปเชียงใหม่คราวก่อนเคยมากินแล้วติดใจเลยมาซ้ำค่ะ ไม่พอค่ะใกล้ๆกันจะมีลูกชิ้นหมูปิ้งลูกเล็กๆ สั่งมากินกรุบกริบด้วยก็เลิศค่า ตบด้วยบัวลอยไข่หวาน+น้ำส้มปั่นเจ้าเดียวกะบัวลอยมื้อนี้คนละ 100 บาทไทย อิ่มแปร้เลยค่ะ
ทั้ง 3 อย่างนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลย เพราะหิวจัด 55 เอาล่ะหลังอิ่มท้องเราก้อเริ่มท่องราตรีกันเบาๆ ขับวนไปมารอบนิมมานมีร้านน่านั่งเยอะมาก แต่..คืนวันศุกร์อย่างงี้ คนเต็มแทบจะทุกร้านเลย เราเลยไปจบที่ร้านนี้ค่ะ วิเศษ 168 ไม่รู้ความหมายของชื่อร้านเหมือนกันแต่คนเยอะดี
มีทั้งโซนด้านในห้องแอร์และโซน Outdoor เราเลือกนั่งด้านนอกค่ะ ชิวดี ราคาไม่แพงด้วย คืนนี้ชิลเบาๆแล้วก็กลับที่พักเพราะพรุ่งนี้ลุยเชียงดาวค่ะ
วDay 3...บ้านระเบียงดาว ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน
ตื่น 6 โมงเช้าอีกเช่นเคย มาเที่ยวเนี่ยตื่นเช้าทุกวัน ตอนทำงานไม่ค่อยจะตื่นหรอกค่ะ ฮี่ๆๆ หลังทานมื้อเช้าที่โรงแรมแล้วก็ขับมอไซค์ไปคืนที่ร้าน Bikky สาขาห้วยแก้วค่ะ แล้วก็นั่งสองแถวต่อไปที่ขนส่งช้างเผือกเพื่อขึ้นรถโดยสารเชียงใหม่-ท่าตอน รอบ 08.30 น.ไปลงเชียงดาวค่ะ
บอกพนักงานบนรถว่าลงหน้า Lotus Express นะคะ ไม่งั้นจะเดินไกลมาก ค่ารถก็คนละ 40 บาทเท่านั้นค่ะ 1 ชม. ครึ่ง เราก็ถึงที่หมาย รีบ
โทร.หาเจ้าของที่พักบ้านระเบียงดาวเลยค่ะ โชคดีมากๆตอนนั้นเวลาประมาณ 10 โมงนิดๆค่ะ ที่เจ้าของเค้าลงมาซื้อของพอดีค่ะ ไม่งั้นเราต้องเหมารถสองแถวไปคัน 700 บาทแน่ะ อันนี้เราแอบถามคนขับสองแถวที่จอดอยู่ไม่ไกลจาก Lotus ดูค่ะ ถ้าไปกัน 2 คน นี่แพงใช่เล่นนะคะ แต่พอขึ้นรถกระบะคุณลุงเจ้าของมาถึงบ้านระเบียงดาวจึงได้เก็ตว่า อ๋อออ ทำไมเค้าถึงคิด 700 ฮ่าๆ ทางมันโค้ง ชันแบบแทบอ๊วกเลยทีเดียว อีกอย่างลุงขับซิ่ง แต่ชำนาญทางมากค่ะ อ่อก่อนจะขึ้นมาบ้านระเบียงดาวเนี่ย ระหว่างรอลุงเจ้าของช้อปปิ้ง ลุงแกแนะนำข้าวขาหมูพรเพ็ญเจ้าเด็ดค่ะ เคยอ่านรีวิวก่อนไปเหมือนกันนะคะ แต่ตอนนั้นยังอิ่มเลยซื้อใส่กล่องกลับไปกินที่พักค่ะ ขอบอกว่าเด็ดจิงๆ
ถึงแล้วววบ้านระเบียงดาว ที่เค้าว่ากันว่าที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน อย่าถามหาสันยานเน็ตนะคะ สันยานมือถือยังไม่มีเลยค่ะของเราใช้ true ของแฟนใช้ dtac ขึ้น no service เลย แต่เห็นว่า AIS มีสัณยานนะคะ ถ้าโทร.ไปจองที่พักต้องโทร.หลายๆรอบหน่อยค่ะ ติดยากเหมือนกัน 555+
ตรงนั้นเป็นหลังที่เราพักค่ะ ถ้าใครเคยอ่านรีวิวมาบ้างน่าจะพอทราบว่าที่นี่เค้าคิดหัวละ 500 บาทเท่านั้น มีอาหารเย็นและอาหารเช้าให้ค่ะ
ห้องพักของเราจริงๆนอนได้ 4-5 คน นี่ขนาดไปช่วงที่ไม่ใช่ high seoson นะคะ ยังเต็มทุกหลังเลย
หลังจากเก็บของเสร็จ ก้อเริ่มหามุมถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย ต้องบอกก่อนนะคะว่าเราไปช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ตอนกลางวันค่อนข้างร้อน ห้องพักที่ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม เราก้อนอนเล่นริมระเบียง พอมีลมอยู่บ้าง แต่ตอนเช้านี่หนาวเลยค่ะ ประมาณ 16-17 องศา เห็นลุงแกบอกถ้ามาหน้าหนาวนี่ 6-7 องศาเลยทีเดียวค่ะ ส่วนกลางคืนก็ประมาณ 20 นิดๆ ถ้าอยู่ในห้องก็กำลังเย็นสบายเลยค่ะ แต่ตอนนั่งชิลข้างนอกนี่ก็หนาวใช้ได้เลย
มื้อเย็นของเราค่ะ มีผัดผัก + น้ำพริกลีซอ + ไข่เจียว เป็นอาหารบ้านๆง่ายแต่รสชาตินี่ใช้ได้เลยนะคะ
ปิดท้ายมื้อเย็นด้วยดริ๊งเบาๆ ที่เราซื้อมาจากเซเว่น ก่อนขึ้นมาค่ะ ที่นี่ก้อมีขายนะคะ แต่ไม่เยอะ ลุงแกบอกซื้อขึ้นไปเลย ข้างบนขายแพงกว่า
(เอ๊อ แกก้อดีนะ ไม่กะเอากำไรกะเรา ถ้าเป็นเราคงบอก ไปซื้อข้างบนก้อได้ 555 )
เอาล่ะ เช้านี่ตื่นมาเพราะเสียงไก่ขันจริงๆค่ะ 6 โมงเช้า ออกมารอดูพระอาทิตย์ขึ้น ระหว่างรอก้อมี ชาร้อน และ กาแฟ+โอวัลติน บริการนะคะ
พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่มาทักทายค่ะ
ชอบมุมนี้ค่ะ อันนี้แอบถ่ายน้องที่ขึ้นกระบะลุงมาด้วยกันทั้งขาไป ขากลับ แต่ไม่คุยกันเลยซักคำ 55
ก่อนกลับยังหันไปแชะอีกภาพ
พอกลับจากเชียงดาวมาถึงนิมมานก้อไปนั่งคาเฟ่อีก 2 ที่ เพราะรอกลับไฟลต์เย็นละก้อได้แวะไปทานอาหารพื้นเมืองที่ร้านเฮือนเพ็ญด้วยค่ะ ขอบอกว่าลำแต๊ๆจ้าว