สืบเนื่องมาจากที่ผม กำลังนั่งดูรายการย้อนหลัง
"Opal Law เฟิร์ม"
Opal Law เฟิร์ม : 2 มีนาคม 2558
1 ในคดีที่รายการนำมาเสนอคือ เรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องการฟ้องหย่า สามี
เนื่องจากสามีของเธอ กำลังคบกับผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่
โดยส่วนตัวเธอบอกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สามีของเธอก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง
ทั้งหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว และทั้งหน้าที่ของความเป็นสามี (เรื่องบนเตียง)
อยู่มาวันหนึ่ง เธอได้รู้ว่า สามีของเธอ กำลังคบกับผู้ชายคนหนึ่งและทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน
เธอยื่นคำขาดให้สามีเธอต้องเลือก ระหว่างตัวเธอเอง กับผู้ชายคนนั้น
สามีของเธอบอกว่า "เค้าเลือกไม่ได้" เธอจึงตัดสินใจขอ
"หย่า"
แต่สามีของเธอไม่ยอมหย่า และบอกว่า "ขอเวลาหน่อย"
ในรายการก็จะมี Law Friend ให้คำแนะนำเบื้องต้น
และก็จะมีทนายมาให้คำแนะนำในเรื่องของข้อกฎหมายเบื้องต้น ต่างๆ นานา
ทั้งหมดทั้งมวลที่เกริ่นมาข้างต้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหัวข้อกระทู้นี้หรอกนะครับ
เพียงแต่ หลังจากที่ผมดูรายการช่วงนี้แล้ว ทำให้ผมนึกสงสัย
(ซึ่งเป็นข้อสงสัยผมมานานหลายสิบปีแล้ว ไม่เคยได้ถามใคร)
หลายปีที่ผ่านมาประเทศเราได้รู้จัก และพยายามที่จะทำความเข้าใจ และเปิดใจ ยอมรับกับเพศทางเลือกมากขึ้น
จำได้ว่าสมัยผมยังเด็ก จะได้ยินคำที่เกี่ยวกับเพศทางเลือกแค่ "ตุ๊ด กะเทย และก็ ทอม" แค่นั้น
แต่ปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นมาหลายหลายมากมาย หนึ่งในนั้นคือคำว่า
"เกย์"
ผมเลยไม่ค่อยแน่ใจว่าผมเข้าใจถูกต้องแล้วหรือเปล่า ว่า ผู้ชายที่มีรสนิยมทางเพศกับผู้ชายด้วยกัน
เราจะเรียกบุคคลกลุ่มนี้ รวมได้ทั้งหมดว่า
"เกย์"
ผมมักจะได้ยิน ได้ดู ได้อ่านความคิดเห็น ทั้งจากชายจริง หญิงแท้ หรือเพศทางเลือกอื่นๆ
เวลาที่มีกรณีที่ผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าบังเอิญว่ามีภรรยาแล้ว แอบไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่น
แทบจะทั้งหมดที่ได้ยิน ได้อ่านมา ทั้งหมดจะบอกว่า จริงๆ แล้วเป็นเกย์อยู่แล้ว แต่แค่แต่งานเพื่อเป็นฉากบังหน้า
แต่งเพราะครอบครัวบังคับ แต่งเพราะ บลาๆๆๆ.........
ทั้งหมดนี่หลายครอบครัวในสังคมไทยเรา ทำให้เห็นอยู่กันบ่อยๆ หรือเปล่าครับ กรณีแต่งงานเพื่อบังหน้า
มันเลยการเป็นการปลูกฝัง และยืนยันแนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า
"ผู้ชายที่แต่งงานแล้ว มีสัมพันธ์ทางเพศกับชายอื่น จริงๆ ผู้ชายคนนั้นเป็นเกย์อยู่แล้ว แค่แต่งงานบังหน้า"
แม้แต่คนที่เป็นคนที่เป็นเพศทางเลือกเอง หลายๆ คนก็ยังพูดแบบนี้ในกรณีดังกล่าว
ซึ่งโดยส่วนตัวผมกลับไม่เห็นด้วยทั้งหมด
(แต่ก็ไม่เคยได้พูดกับใครในเรื่องความไม่เห็นด้วยนี้)
เพราะลึกๆ ของผมยังมีความสงสัย และไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึ่งว่า
ปัจจุบันเราได้รับอยู่ของการมีอยู่ของความหลากหลายทางเพศในสังคมไทยเรา
และก็เปิดใจยอมรับกันมาขึ้น ไม่ว่า เพศทางเลือกของผู้ที่กำเนิดมามีเพศสภาพเป็นชาย
หรือว่า เพศทางเลือกของผู้ที่กำเนิดมาเพศสภาพเป็นหญิงก็ตาม
ซึ่งก็เข้าใจได้ครับ ว่าทั้งหมดทั้งมวล ก็เป็นเพียงรสนิยมทางเพศของแต่ละบุคคล
แต่มีคำหนึ่งที่ผมแทบจะไม่ได้ยินหรือได้อ่าน หรือได้รับรู้เรื่องราวของคนไทยกลุ่มนี้เลย
นั่นคือกลุ่มของ
"ไบเซ็กชวล" (Bisexual) ในภาษาไทย ใช้คำว่า
"รักร่วมสองเพศ"
ทั้งๆ ที่ "ไบเซกซวล" ก็เป็นหนึ่งในความหลายหลายทางเพศนั้น
หลายๆ ครั้งที่ได้อ่านบทความหรือกระทู้ ที่ปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับเพศสภาพ
กรณีที่ผู้ชายคนหนึ่ง กำลังสับสนว่าจะชอบผู้ชาย หรือ ผู้หญิงกันแน่ อะไรพวกนี้
หลายคนที่ตอบคำถามนั้น มักจะมีคำตอบให้แค่ 2 ทางเลือกคือ ถ้าไม่ผู้ชายแท้ ก็ เกย์ ชัวร์ๆ
หรือใครยังจำได้ดี
"ภู" ตัวละครตัวหนึ่งในละครซีรี่ส์ยอดฮิต
"Hormones วัยว้าวุ่น" เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
ผมไม่รู้ว่าเพื่อนๆ มองเรื่องราวของ "ภู" แล้วคิดกันอย่างไรกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คิดว่า ภู เป็นเกย์ ชัวร์
ในฉากหนึ่ง "ภู" สับสนกับตัวเองมาก นั่งอยู่ข้างสระว่ายน้ำ บ่นปรับทุกข์กับแม่ของตัวเอง
ผมจำบทสนทนาได้ไม่แม่นหรอกนะครับ แต่เท่าที่จับใจความได้ เหมือนภูจะพูดประมาณว่า
"ภูเป็นอะไรกับแน่ บางทีก็ชอบผู้หญิง บางทีก็ชอบผู้ชาย ภูเป็นไส้เดือนหรือเป็นตัวอะไรกันแน่" ประมาณนี้
ผมจำไม่ได้ว่าแม่ของภู ได้ตอบอะไรลูกชายหรือไม่ หรือถ้าตอบ เธอได้ตอบลูกของเธอไปอย่างไร
- ถ้าสมมุติว่า "ภู" หรือ ผู้ชายคนอื่นๆ ก็ตาม ที่มีภาวะความสับสนทางเพศแบบนี้ อยากรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่
จะตอบคำถามลูกอย่างไร?
- ถ้าสุดท้าย "ภู" หรือ ผู้ชายคนอื่นๆ มีความสับสนดังกล่าว ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เลือกทางไหนเลย ว่าเป็นชายแท้หรือเป็นเกย์
แต่ตัดสินใจว่าตัวเองคือ "ไบเซกชวล"
คุณพ่อคุณแม่มีความคิดเห็นอย่างไร แล้วจะจัดการกับเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร?
- ส่วนตัว ถ้าตัวเองเป็นพ่อคนซักคน แล้วมีลูกมาปรึกษาเรื่องนี้ ถ้าโดยคร่าวๆ ผมจะบอกลูกว่า
จะเป็นอะไรก็เป็น ของให้เป็นคนดีก็พอ แต่ถ้าลูกเลือกที่จะใช้คำว่า ไบเซกชวล จริงๆ ถึงช่วงวัยหนึ่งที่ลูกพร้อมจะมีใครจริงๆ สักคน
ลูกต้องตัดสินใจให้ชัดเจนเด็ดขาดที่สุด ว่าลูกจะเลือกทางไหน เพราะสิ่งที่ลูกเลือก
มันจะกำหนดบทบาทชีวิตของลูกและคนรอบข้างไปตลาดกาล
เพราะฉะนั้น ถ้าถึงเวลานั้น ลูกยังไม่สามารถที่จะเลือกบทบาทชีวิตให้กับตัวเองได้ ลูกอย่าเลือกใครเข้ามาในชีวิตลูกเด็ดขาด
เพราะสุดท้ายลูกและคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตลูกไม่ว่าจะหญิงหรือชาย จะไม่มีใครมีความสุขเลยแม้แต่คนเดียว รวมถึงตัวลูกเองด้วย
ถึงยังไง พ่อกับแม่ ก็ยังรักและพร้อมดูแลลูกเสมอ ลูกยังมีพ่อ มีแม่ มีเพื่อน มีงาน มีชีวิตที่ดีต่อไปได้
ตั้งใจเรียน ขยันทำงาน เก็บเงินเพื่อไว้ดูแลตัวเองในอนาคต เผื่อว่าวันหนึ่งลูกไม่สามารถเลือกใครได้จริงๆ
ลูกจะสามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่ยากลำบาก ระหว่างนี้ หากิจกรรมอะไรทำ จะได้ไม่เครียด ไม่ฟุ้งซ่าน
หรือถ้าเกิดว่า มีเหตุให้ต้องมีสัมพันธ์กับใครก็ตาม อย่าลืมป้องกันตัวเอง เด็ดขาด"
ถ้าผมตอบแบบนี้ คุณๆ
มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ? หรือควรจะตอบคำถามลูกอย่างไรดี?
- ถ้าผู้ชายหรือผูหญิงที่เป็น ไบเซกชวล ตัดสินใจที่เลือกจะบอกเรื่องนี้กับเพื่อนๆ หรือเปิดเผยต่อสาธารณชน
ในสังคมไทย
ผู้ชายทั่วไปจะมีความคิดเห็น เกี่ยวกับคนที่เป็นไบเซกชวลยังไง แล้วถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปจะมีความคิดเห็นอย่างไร?
- กรณีที่ชายหรือหญิง ที่เป็นไบเซกชวล ตัดสินใจที่จะมีครอบครัวแบบชายจริงหญิงแท้แล้ว
ควรจะบอกเรื่องนี้กับคู่สมรถหรือไม่?
- ในกรณีที่ชายหรือหญิงที่เป็นไบเซกชวล ไม่ได้บอกับคู่สมรถ แล้วถ้าคู่สมรสเกิดรับรู้ หรือจับได้ว่าเค้าหรือเธอ มีรสนิยมกับเพศเดียวกัน
กรณีแรก ถ้าดีหน่อยอาจจะแค่ไปรู้หรือไปเห็นว่าเค้าหรือเธอ เก็บซ่อนหรือบำบัดตัวเอง โดยมีตัวช่วยเกี่ยวกับเพศเดียวกัน
กรณีที่สอง รับรู้ว่าเค้าหรือเธอ แอบไปมีสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน
ในฐานะที่เป็นคู่สมรถ จะรู้สึกอย่างไร และจะจัดการกับเรื่องนี้ในแต่ละกรณี อย่างไร?
- ในกรณีที่คู่สมรส รับไม่ได้กับพฤติกรรมของ สามี/ภรรยา ตัวเอง ที่มีพฤติกรรมรักหรือชอบเพศเดียวกัน
คุณจะหาทางออกอย่างไร?
- ในกรณีที่ สามี/ภรรยา ของเรา นอกใจเราโดยการไปมีสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน ในฐานะคู่สมรส
กรณีผู้ชาย ที่ภรรยาแอบนอกใจไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นด้วยกัน แล้ว
สามีต้องการฟ้องหย่า ทำได้หรือไม่?
เช่นเดียวกับ (เหมือนกับเรื่องราวที่ผมยกตัวอย่างในย่อหน้าแรกของกระทู้)
ภรรยาสามารถฟ้องหย่าได้หรือไม่?
- อันนี้อาจดูไม่เหมาะสมนะครับ ช่วยกรองเนื้อหาให้ผมด้วยนะครับ ถ้าไม่เหมาะสมแจ้งลบได้นะครับ
ไบเซกชวล เป็นรสนิยมทางเพศ ที่ไม่ได้กำหนดบทบาททางเพศระหว่างมีเซ็กส์ ผมเข้าใจถูกไหมครับ?
(เพราะเหมือนจะได้ยินว่า ผู้ชายบางคนที่มีภรรยา ปกติก็ทำหน้าที่สามี แต่พอไปมีสัมพันธ์กับชายอื่น กลายเป็นภรรยาซะงั้น
หรืออย่างที่เคยอ่านข่าว กรณีที่ภรรยาพาสามีไปพบแพทย์ เพื่อเอาวัตถุแปลกปลอมออกจากทวารหนัก ....ฯลฯ)
ขอยกตัวอย่าง 2 กรณีนี้ ไม่ได้หมายความว่า 2 กรณีนี้คือ บุคคลที่เป็น ไบเซกชวลนะครับ
(เค้าอาจจะเป็นเกย์อยู่มาก่อนแล้ว เหมือนที่ใครๆ เค้าพูดกัน ก็เป็นได้)
- กรณีของคนที่เป็นจิตแพทย์ ในประเทศไทย มีคนเข้าไปปรึกษากรณี ไบเซกชวลบ้างไหมครับ แล้วจิตแพทย์จะให้คำแนะนำอย่างไร?
- คนไทยส่วนใหญ่มักมองว่า ชายที่มีความสัมพันธ์กับหญิง หากเกิดไปมีความสัมพันธ์กับชายได้ นั่นแปลว่าผู้ชายคนนั้นเป็น "เกย์" ใช่ไหมครับ?
ทั้งหมดทั้งมวลที่สงสัยหรือไม่เข้าใจ จริงๆ ผมไม่ได้อะไรมากหรอกครับ เพียงแค่จะพยายามเข้าใจเกี่ยวกับเพศทางเลือก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังจากที่เคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับนักศึกษากะเทยคนหนึ่งที่เปลี่ยนตัวเองเป็นเกย์ (หลายคนคงเดยเห็นภาพ)
รวมถึงเคยดูเรื่องราวเกี่ยวกับเพศที่ 3 คนหนึ่ง (ไม่รู้ว่าเป็น ThaiPBS หรือ ช่องทีวีดาวเทียมอันไหนซักช่องนี่แหละ)
เป็นเรื่องราวของ บุคคลที่ถูกคนอื่นเรียกว่า ตุ๊ด หรือ กะเทย รุ่นใหญ่ท่านหนึ่ง
เค้าพูดถึงความหลากหลายทางเพศในสมัยปัจจุบัน ว่าเป็นที่น่าอิจฉาสำหรับเค้ามาก
ในสมัยเด็กเค้ารู้ความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่แรก ว่ารสนิยมทางเพศของเค้าไม่ปกติ เค้ารู้ตัวว่ามีความรู้สึก ความต้องการกับเพศเดียวกัน
แน่นอน สังคมยุคก่อนไม่สามารถเปิดเผยเรื่องแบบนี้ได้ และก็คงเหมือนกับคนอื่นๆ ที่มีรสนิยมแบบนี้ ก็จะไม่แสดงออกมา
ด้วยบุคลิกที่เป็นเด็กที่อยู่ในกรอบ เรียบร้อย มักจะถูกโรงเรียนเรียกให้ไปทำกิจกรรม ซึ่งตัวเค้าเองยอมรับว่าไม่ชอบ
ไม่ว่าจะเป็น รำไทยเอย เต้นกีฬาสีเอย เค้ายอมรับว่าเป็นคนชอบทำกิจกรรม แต่เค้าจะรู้สึกไม่พอใจทุกครั้ง ที่มีใครมาว่าเค้าเป็นตุ๊ด
แต่เค้าก็พูดอะไรมากไม่ได้ และเมื่อจะพยายามที่จะสื่อสารกับสังคมว่าตัวเองเป็นอะไร สังคมก็จะบอกว่า เธอเป็นตุ๊ด เธอก็ต้องอย่างนั้น อย่างนี้
กลายเป็นว่าตัวเข้าโดนสังคมหลอมให้เค้าเข้ากลุ่มสังคมตุ๊ดไปโดยปริยาย เห็นเพื่อนตุ๊ด วี๊ดว้าย กระตู้วู้ แต่งหน้าทาปาก
ซึ่งเค้าบอกว่า ถึงเค้าจะอยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ แต่เค้าไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้เลย แต่งหน้า ทาปาก วี๊ดว้าย เค้าไม่ชอบ ไม่อยากทำ
จนปัจจุบัน เค้ากลายเป็นคนรุ่นใหญ่ในหมู่บ้าน แต่เค้าไม่เคยลบคำว่า ตุ๊ด ออกไปจากตัวเขาและคนในสังคมบ้านเขายอมได้เลย
เค้ายังรู้สึกดีใจที่คนสมัยนี้ มีคำว่า เกย์ ขึ้นมา หลายคนอาจจะบอกว่า จะตุ๊ด จะกะเทย จะเกย์ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ
มีคนเคยว่าเค้าว่า จะมาหลากคำให้มันเยอะทำไม ทำมาพูดว่า รู้สึกดีกับเกย์ แต่รู้สึกไม่ดีกับคำว่า ตุ๊ด จะเรียกอะไรมันก็กะเทยเหมือนกันแหละว๊า
จริงอยู่ที่รสนิยมทางเพศมันเหมือนกัน คือชอบเพศเดียวกัน แต่บทบาททางสังคมมันต่างกันโดยสิ้นเชิง
เค้าจึงรู้สึกแปลกใจทุกครั้ง ที่มีเพศที่สามบางคน พูดถึง กะเทย หรือ ตุ๊ด ที่เปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนการแต่งตัวไปเป็นเกย์
ว่าหาผู้ชายไม่ได้ละสิ ถึงต้องเปลี่ยนมาเป็นเกย์จะได้หาผู้ชาย เค้าเลยให้ข้อคิดมาว่า ในบางสังคมที่มีทางเลือกให้เดินไม่มากนัก
ก็ต้องเดินไปตามทางที่กระแสสังคมว่าไว้ เหมือนอย่างที่เค้าเคยเป็น ตามใดเมื่อโอกาสที่จะเลือกทางเลือกแบบที่ต้องการ ก็คงทำ
เหมือนตัวเขา ถ้ามีโอกาส อยากจะลบคำว่า ตุ๊ด กะเทย ออกไปจากชีวิตอยากให้เรียกเค้าว่าเกย์ มากกว่า
ทุกวันนี้คนในหมู่บ้านก็เรียกเค้า ตุ๊ดบ้าง กะเทยบ้าง ก็ได้แต่ทำใจ เค้าอยากจะเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะ ทำใจ อายุมากแล้ว
(ดูจากเทปรายการ เค้าก็เหมือนผู้ชายปกตินะครับ อาจจะมีมือไม้บ้าง แต่ก็ไม่ได้แต่งหน้าทาปากอะไร)
เลยไม่อยากให้รีบตัดสินว่าใครเป็นอะไร เพียงเพราะเรื่องเพศ ขอแค่เค้าไม่ทำให้เราเดือดร้อนเป็นพอ โลกนี้ก็น่าอยู่ขึ้นเยอะละครับ
ยินดีต้อนรับทุกความคิดเห็น จากทุกๆ เพศนะครับ จะได้เป็นกรณีศึกษาครับ
สังคมไทย ปลูกฝังความคิดเกี่ยวกับ "เกย์" แบบนี้ถูกต้องแล้วจริงๆ หรือครับ
Opal Law เฟิร์ม : 2 มีนาคม 2558
1 ในคดีที่รายการนำมาเสนอคือ เรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องการฟ้องหย่า สามี
เนื่องจากสามีของเธอ กำลังคบกับผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่
โดยส่วนตัวเธอบอกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สามีของเธอก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง
ทั้งหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว และทั้งหน้าที่ของความเป็นสามี (เรื่องบนเตียง)
อยู่มาวันหนึ่ง เธอได้รู้ว่า สามีของเธอ กำลังคบกับผู้ชายคนหนึ่งและทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน
เธอยื่นคำขาดให้สามีเธอต้องเลือก ระหว่างตัวเธอเอง กับผู้ชายคนนั้น
สามีของเธอบอกว่า "เค้าเลือกไม่ได้" เธอจึงตัดสินใจขอ "หย่า"
แต่สามีของเธอไม่ยอมหย่า และบอกว่า "ขอเวลาหน่อย"
ในรายการก็จะมี Law Friend ให้คำแนะนำเบื้องต้น
และก็จะมีทนายมาให้คำแนะนำในเรื่องของข้อกฎหมายเบื้องต้น ต่างๆ นานา
ทั้งหมดทั้งมวลที่เกริ่นมาข้างต้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหัวข้อกระทู้นี้หรอกนะครับ
เพียงแต่ หลังจากที่ผมดูรายการช่วงนี้แล้ว ทำให้ผมนึกสงสัย (ซึ่งเป็นข้อสงสัยผมมานานหลายสิบปีแล้ว ไม่เคยได้ถามใคร)
หลายปีที่ผ่านมาประเทศเราได้รู้จัก และพยายามที่จะทำความเข้าใจ และเปิดใจ ยอมรับกับเพศทางเลือกมากขึ้น
จำได้ว่าสมัยผมยังเด็ก จะได้ยินคำที่เกี่ยวกับเพศทางเลือกแค่ "ตุ๊ด กะเทย และก็ ทอม" แค่นั้น
แต่ปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นมาหลายหลายมากมาย หนึ่งในนั้นคือคำว่า "เกย์"
ผมเลยไม่ค่อยแน่ใจว่าผมเข้าใจถูกต้องแล้วหรือเปล่า ว่า ผู้ชายที่มีรสนิยมทางเพศกับผู้ชายด้วยกัน
เราจะเรียกบุคคลกลุ่มนี้ รวมได้ทั้งหมดว่า "เกย์"
ผมมักจะได้ยิน ได้ดู ได้อ่านความคิดเห็น ทั้งจากชายจริง หญิงแท้ หรือเพศทางเลือกอื่นๆ
เวลาที่มีกรณีที่ผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าบังเอิญว่ามีภรรยาแล้ว แอบไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่น
แทบจะทั้งหมดที่ได้ยิน ได้อ่านมา ทั้งหมดจะบอกว่า จริงๆ แล้วเป็นเกย์อยู่แล้ว แต่แค่แต่งานเพื่อเป็นฉากบังหน้า
แต่งเพราะครอบครัวบังคับ แต่งเพราะ บลาๆๆๆ.........
ทั้งหมดนี่หลายครอบครัวในสังคมไทยเรา ทำให้เห็นอยู่กันบ่อยๆ หรือเปล่าครับ กรณีแต่งงานเพื่อบังหน้า
มันเลยการเป็นการปลูกฝัง และยืนยันแนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า
"ผู้ชายที่แต่งงานแล้ว มีสัมพันธ์ทางเพศกับชายอื่น จริงๆ ผู้ชายคนนั้นเป็นเกย์อยู่แล้ว แค่แต่งงานบังหน้า"
แม้แต่คนที่เป็นคนที่เป็นเพศทางเลือกเอง หลายๆ คนก็ยังพูดแบบนี้ในกรณีดังกล่าว
ซึ่งโดยส่วนตัวผมกลับไม่เห็นด้วยทั้งหมด (แต่ก็ไม่เคยได้พูดกับใครในเรื่องความไม่เห็นด้วยนี้)
เพราะลึกๆ ของผมยังมีความสงสัย และไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึ่งว่า
ปัจจุบันเราได้รับอยู่ของการมีอยู่ของความหลากหลายทางเพศในสังคมไทยเรา
และก็เปิดใจยอมรับกันมาขึ้น ไม่ว่า เพศทางเลือกของผู้ที่กำเนิดมามีเพศสภาพเป็นชาย
หรือว่า เพศทางเลือกของผู้ที่กำเนิดมาเพศสภาพเป็นหญิงก็ตาม
ซึ่งก็เข้าใจได้ครับ ว่าทั้งหมดทั้งมวล ก็เป็นเพียงรสนิยมทางเพศของแต่ละบุคคล
แต่มีคำหนึ่งที่ผมแทบจะไม่ได้ยินหรือได้อ่าน หรือได้รับรู้เรื่องราวของคนไทยกลุ่มนี้เลย
นั่นคือกลุ่มของ "ไบเซ็กชวล" (Bisexual) ในภาษาไทย ใช้คำว่า "รักร่วมสองเพศ"
ทั้งๆ ที่ "ไบเซกซวล" ก็เป็นหนึ่งในความหลายหลายทางเพศนั้น
หลายๆ ครั้งที่ได้อ่านบทความหรือกระทู้ ที่ปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับเพศสภาพ
กรณีที่ผู้ชายคนหนึ่ง กำลังสับสนว่าจะชอบผู้ชาย หรือ ผู้หญิงกันแน่ อะไรพวกนี้
หลายคนที่ตอบคำถามนั้น มักจะมีคำตอบให้แค่ 2 ทางเลือกคือ ถ้าไม่ผู้ชายแท้ ก็ เกย์ ชัวร์ๆ
หรือใครยังจำได้ดี "ภู" ตัวละครตัวหนึ่งในละครซีรี่ส์ยอดฮิต "Hormones วัยว้าวุ่น" เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
ผมไม่รู้ว่าเพื่อนๆ มองเรื่องราวของ "ภู" แล้วคิดกันอย่างไรกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คิดว่า ภู เป็นเกย์ ชัวร์
ในฉากหนึ่ง "ภู" สับสนกับตัวเองมาก นั่งอยู่ข้างสระว่ายน้ำ บ่นปรับทุกข์กับแม่ของตัวเอง
ผมจำบทสนทนาได้ไม่แม่นหรอกนะครับ แต่เท่าที่จับใจความได้ เหมือนภูจะพูดประมาณว่า
"ภูเป็นอะไรกับแน่ บางทีก็ชอบผู้หญิง บางทีก็ชอบผู้ชาย ภูเป็นไส้เดือนหรือเป็นตัวอะไรกันแน่" ประมาณนี้
ผมจำไม่ได้ว่าแม่ของภู ได้ตอบอะไรลูกชายหรือไม่ หรือถ้าตอบ เธอได้ตอบลูกของเธอไปอย่างไร
- ถ้าสมมุติว่า "ภู" หรือ ผู้ชายคนอื่นๆ ก็ตาม ที่มีภาวะความสับสนทางเพศแบบนี้ อยากรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะตอบคำถามลูกอย่างไร?
- ถ้าสุดท้าย "ภู" หรือ ผู้ชายคนอื่นๆ มีความสับสนดังกล่าว ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เลือกทางไหนเลย ว่าเป็นชายแท้หรือเป็นเกย์
แต่ตัดสินใจว่าตัวเองคือ "ไบเซกชวล" คุณพ่อคุณแม่มีความคิดเห็นอย่างไร แล้วจะจัดการกับเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร?
- ส่วนตัว ถ้าตัวเองเป็นพ่อคนซักคน แล้วมีลูกมาปรึกษาเรื่องนี้ ถ้าโดยคร่าวๆ ผมจะบอกลูกว่า
จะเป็นอะไรก็เป็น ของให้เป็นคนดีก็พอ แต่ถ้าลูกเลือกที่จะใช้คำว่า ไบเซกชวล จริงๆ ถึงช่วงวัยหนึ่งที่ลูกพร้อมจะมีใครจริงๆ สักคน
ลูกต้องตัดสินใจให้ชัดเจนเด็ดขาดที่สุด ว่าลูกจะเลือกทางไหน เพราะสิ่งที่ลูกเลือก
มันจะกำหนดบทบาทชีวิตของลูกและคนรอบข้างไปตลาดกาล
เพราะฉะนั้น ถ้าถึงเวลานั้น ลูกยังไม่สามารถที่จะเลือกบทบาทชีวิตให้กับตัวเองได้ ลูกอย่าเลือกใครเข้ามาในชีวิตลูกเด็ดขาด
เพราะสุดท้ายลูกและคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตลูกไม่ว่าจะหญิงหรือชาย จะไม่มีใครมีความสุขเลยแม้แต่คนเดียว รวมถึงตัวลูกเองด้วย
ถึงยังไง พ่อกับแม่ ก็ยังรักและพร้อมดูแลลูกเสมอ ลูกยังมีพ่อ มีแม่ มีเพื่อน มีงาน มีชีวิตที่ดีต่อไปได้
ตั้งใจเรียน ขยันทำงาน เก็บเงินเพื่อไว้ดูแลตัวเองในอนาคต เผื่อว่าวันหนึ่งลูกไม่สามารถเลือกใครได้จริงๆ
ลูกจะสามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่ยากลำบาก ระหว่างนี้ หากิจกรรมอะไรทำ จะได้ไม่เครียด ไม่ฟุ้งซ่าน
หรือถ้าเกิดว่า มีเหตุให้ต้องมีสัมพันธ์กับใครก็ตาม อย่าลืมป้องกันตัวเอง เด็ดขาด"
ถ้าผมตอบแบบนี้ คุณๆ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ? หรือควรจะตอบคำถามลูกอย่างไรดี?
- ถ้าผู้ชายหรือผูหญิงที่เป็น ไบเซกชวล ตัดสินใจที่เลือกจะบอกเรื่องนี้กับเพื่อนๆ หรือเปิดเผยต่อสาธารณชน
ในสังคมไทย ผู้ชายทั่วไปจะมีความคิดเห็น เกี่ยวกับคนที่เป็นไบเซกชวลยังไง แล้วถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปจะมีความคิดเห็นอย่างไร?
- กรณีที่ชายหรือหญิง ที่เป็นไบเซกชวล ตัดสินใจที่จะมีครอบครัวแบบชายจริงหญิงแท้แล้ว ควรจะบอกเรื่องนี้กับคู่สมรถหรือไม่?
- ในกรณีที่ชายหรือหญิงที่เป็นไบเซกชวล ไม่ได้บอกับคู่สมรถ แล้วถ้าคู่สมรสเกิดรับรู้ หรือจับได้ว่าเค้าหรือเธอ มีรสนิยมกับเพศเดียวกัน
กรณีแรก ถ้าดีหน่อยอาจจะแค่ไปรู้หรือไปเห็นว่าเค้าหรือเธอ เก็บซ่อนหรือบำบัดตัวเอง โดยมีตัวช่วยเกี่ยวกับเพศเดียวกัน
กรณีที่สอง รับรู้ว่าเค้าหรือเธอ แอบไปมีสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน
ในฐานะที่เป็นคู่สมรถ จะรู้สึกอย่างไร และจะจัดการกับเรื่องนี้ในแต่ละกรณี อย่างไร?
- ในกรณีที่คู่สมรส รับไม่ได้กับพฤติกรรมของ สามี/ภรรยา ตัวเอง ที่มีพฤติกรรมรักหรือชอบเพศเดียวกัน คุณจะหาทางออกอย่างไร?
- ในกรณีที่ สามี/ภรรยา ของเรา นอกใจเราโดยการไปมีสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน ในฐานะคู่สมรส
กรณีผู้ชาย ที่ภรรยาแอบนอกใจไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นด้วยกัน แล้วสามีต้องการฟ้องหย่า ทำได้หรือไม่?
เช่นเดียวกับ (เหมือนกับเรื่องราวที่ผมยกตัวอย่างในย่อหน้าแรกของกระทู้) ภรรยาสามารถฟ้องหย่าได้หรือไม่?
- อันนี้อาจดูไม่เหมาะสมนะครับ ช่วยกรองเนื้อหาให้ผมด้วยนะครับ ถ้าไม่เหมาะสมแจ้งลบได้นะครับ
ไบเซกชวล เป็นรสนิยมทางเพศ ที่ไม่ได้กำหนดบทบาททางเพศระหว่างมีเซ็กส์ ผมเข้าใจถูกไหมครับ?
(เพราะเหมือนจะได้ยินว่า ผู้ชายบางคนที่มีภรรยา ปกติก็ทำหน้าที่สามี แต่พอไปมีสัมพันธ์กับชายอื่น กลายเป็นภรรยาซะงั้น
หรืออย่างที่เคยอ่านข่าว กรณีที่ภรรยาพาสามีไปพบแพทย์ เพื่อเอาวัตถุแปลกปลอมออกจากทวารหนัก ....ฯลฯ)
ขอยกตัวอย่าง 2 กรณีนี้ ไม่ได้หมายความว่า 2 กรณีนี้คือ บุคคลที่เป็น ไบเซกชวลนะครับ
(เค้าอาจจะเป็นเกย์อยู่มาก่อนแล้ว เหมือนที่ใครๆ เค้าพูดกัน ก็เป็นได้)
- กรณีของคนที่เป็นจิตแพทย์ ในประเทศไทย มีคนเข้าไปปรึกษากรณี ไบเซกชวลบ้างไหมครับ แล้วจิตแพทย์จะให้คำแนะนำอย่างไร?
- คนไทยส่วนใหญ่มักมองว่า ชายที่มีความสัมพันธ์กับหญิง หากเกิดไปมีความสัมพันธ์กับชายได้ นั่นแปลว่าผู้ชายคนนั้นเป็น "เกย์" ใช่ไหมครับ?
ทั้งหมดทั้งมวลที่สงสัยหรือไม่เข้าใจ จริงๆ ผมไม่ได้อะไรมากหรอกครับ เพียงแค่จะพยายามเข้าใจเกี่ยวกับเพศทางเลือก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เลยไม่อยากให้รีบตัดสินว่าใครเป็นอะไร เพียงเพราะเรื่องเพศ ขอแค่เค้าไม่ทำให้เราเดือดร้อนเป็นพอ โลกนี้ก็น่าอยู่ขึ้นเยอะละครับ
ยินดีต้อนรับทุกความคิดเห็น จากทุกๆ เพศนะครับ จะได้เป็นกรณีศึกษาครับ